[Cheese in The Trap] ดูสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วเสียดายจริงๆ คนเขียนทำเสียของมาก

เฮ้ออออ ถอนหายใจยาว...........................
เสียดายของจริงๆ ดูมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนที่ 8 เห็นศักยภาพมากๆ ว่าทำได้ดีเกือบทุกอย่าง
ทั้งการแคสต์ ทั้งภาพ ทั้ง OST การกระจายบท การวางแนวทางตัวละคร การวางโครงเรื่อง บุคลิกและความคิดอ่านของตัวละครในเรื่อง
ดูดีไปหมด แถมดำเนินเรื่องน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ไม่น้ำเน่า และเสมือนจำลองคนจริงๆในชีวิตจริงที่จับต้องได้


สำหรับเราแก่นของเรื่องนี้ไม่ใช่นางเอก แต่มันคือบทพระเอก Yoo Jung
ถ้าเรื่องนี้ไม่มีบทนี้ มันก็จะกลายเป็น Rom-Com ชีวิตมหาลัยวัยหวานธรรมดาทั่วๆไป แต่เพราะคาแร็คเตอร์ของพระเอก
มันถึงสร้างความแตกต่างและความไม่เหมือนใครกลายเป็นจุดดึงดูดของเรื่อง สำหรับเราคาแร็คเตอร์พระเอกเรื่องนี้คือหนึ่ง
ในไม่กี่บทพระเอกของซีรี่ย์เกาหลีที่เราคิดว่าลึกและน่าสนใจที่สุด แปลก เลว ร้าย แต่มีเสน่ห์ที่สุด ทำให้เราเสียดายมากที่
ตั้งแต่ EP8 เป็นต้นมา คนเขียนบทเลือกที่จะดันยูจองไปไว้ในแบ็คกราวน์ แล้วไปพัฒนาบทอินโฮแทน


จริงๆแล้วเรื่องนี้ตัวดำเนินเรื่องหลักก็คือ ยูจอง ซอล กับอินโฮ เพราะฉะนั้นจะพัฒนาบทอินโฮก็ไม่ใช่ว่าจะแปลกอะไร
เพราะก็คือบทหลักอยู่แล้ว  แต่ที่ผิดหวังก็คือคนเขียนบทเล่นพัฒนามันตั้งแต่ EP9 ยัน EP14 โดยที่บทหลักอีกสองคน
ไม่ได้รับการพัฒนาอะไรเลย โดยเฉพาะบทยูจอง ที่ควรจะต้องให้ความสำคัญในการลงลึกมากๆ เพราะซับซ้อนมากกว่าบท
ซอลและอินโฮ ทั้งในเรื่อง เบื้องลึกในวัยเด็ก/เหตุผลในการกระทำต่างๆที่ร้ายกาจ/ความสัมพันธ์ที่แตกร้าวกับอินโฮ/
ความสัมพันธ์กับพ่อ/กระบวนการตกผลึกของสมอง/ความสัมพันธ์และการยอมรับกันอย่างไม่มีเงื่อนไขระหว่างยูจองกับซอล


สำหรับบทอินโฮ สิ่งที่ต้องพัฒนามันมีแค่ แก้ปมเรื่องอดีตระหว่างยูจองกับอินโฮ/เรื่องมือ/เรื่องเปียโน/ความโดดเดี่ยวทางความรู้สึก/
แอบรักซอล ซึ่งปมเหล่านี้ไม่ควรต้องใช้ถึงเกือบ 6 ตอนในการอธิบาย โดยปมอื่นๆของบทอื่นถูกทอดทิ้งระหว่างทาง


สิ่งที่ผิดหวังหนักเข้าไปอีกก็คือ คนเขียนบทเลือกที่จะเปลี่ยนฉากสำคัญๆของยูจอง ให้กลายเป็นฉากของอินโฮแทน
ซึ่งคนอ่านเว็บตูนมาดูแล้วมันเสียความรู้สึกมาก ทั้งฉากทำแผลให้ซอลหลังจากตบกับมินซู ทั้งฉากที่ช่วยซอลจากซางชอลซอนเบ
ซึ่งในเว็บตูนมันเป็นฉากสำคัญมาก ทั้งการที่จองช่วยจนมือตัวเองบาดเจ็บ และการที่ซอลได้เห็นจองทำร้ายคนจะๆซึ่งๆหน้า
มันเป็นหนึ่งในฉากที่ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่กลับเอามาทำแบบนี้ เซ็งแรง


ฉากของพระเอก หายไปแบบ..วืดดดดด ตอนนึงออกไม่ถึง 10 นาที ทั้งๆที่ยังมีปมให้ต้องคลายอีกเยอะแยะ
ฉากของอินโฮ มารัวๆ ตอนนึงออกไปเกือบ 40 นาที ทั้งๆที่เล่นปมเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา คืองงมาก ถ้าใส่ฉากอินโฮเข้ามาเยอะ
แล้วเรื่องมันเดิน คงไม่มีใครว่าอะไร แต่นี่แต่ละฉากที่เลือกใส่มา มันไม่ได้ช่วยอะไรกับการดำเนินเรื่องเลย
ฉากเล่นเปียโนใส่มาบ่อยจนนึกว่าดูโนดาเมะอยู่ด้วยซ้ำ  ดูมาทั้งเรื่อง ยังไม่ได้รับรู้เรื่องราวผ่านมุมมองของพระเอกเลย
เรามองเห็นการกระทำต่างๆผ่านมุมมองของซอลมาเกือบทั้งเรื่อง  สองสามตอนล่าสุด เล่าเรื่องผ่านมุมมองอินโฮ แล้วยูจองล่ะจ๊ะ
เราจะได้เห็นเหรียญสองด้านจากเรื่องนี้มั้ยในสองตอนสุดท้าย!!

ทั้งนี้ทั้งนั้น สามนักแสดงหลักเล่นดีมาก ทั้ง Park Hae Jin, Kim Go Eun, Seo Kang Jun
เกิดกันถ้วนหน้า ทำให้ตัวการ์ตูน2มิติในกระดาษขึ้นมาโลดแล่นแบบ3มิติในจอทีวีได้อย่างมีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติ
สำหรับคิมโกอึน -     ดีใจที่ละครเรื่องแรกประสบความสำเร็จ และทำให้เธอเป็นที่ยอมรับขนาดนี้ เล่นธรรมชาติมาก
สำหรับพัคเฮจิน -     เซ็งแทนที่เรื่องมันถูกตัดต่อไปในทางนี้ ทั้งที่ถ่ายซีนดีๆไว้เยอะแยะตามที่เห็นในภาพนิ่งต่างๆที่ถูก
                                 ปล่อยออกมาแรกๆ แต่กลับโดนตัดทิ้ง แถมฉากในพรีวิวท้ายเรื่องที่มียูจองสามสี่ตอนที่ผ่านมา
                                 เวลาฉายจริงก็โดนตัดไปอื้อ งงจริงๆ
สำหรับซอคังจุน -     ดีใจที่ได้รับบทดีๆซะที ทำหน้าที่ของตัวเองในเรื่องนี้ได้ดีมาก แต่ก็แอบสงสารที่จะโดนแฟนเว็บตูน
                                 หมั่นไส้เยอะ เพราะการตัดสินใจดำเนินเรื่องแบบนี้ของคนเขียนบท นักแสดงไม่ได้ผิดอะไรแค่ทำไป
                                 ตามหน้าที่ แต่ต้องมาซวยโดนด่า เซ็งแทน


สุดท้ายอยากจะบอกว่า การที่ช่องเลือกพัคเฮจินมารับบทยูจอง โปรโมทโดยใช้รูปเฮจิน อัดเฮจินรัวๆในคลิป BTS
แต่เวลาฉายจริงกลับไม่พัฒนาบทยูจอง แถมซ้ำร้ายยังหั่นแอร์ไทม์บทยูจองออก โดยอัดแอร์ไทม์บทอินโฮที่ไม่มีผลต่อการ
ดำเนินเรื่องเข้าไปรัวๆ มันทำให้คนดูอย่างเราอดไม่ได้จริงๆที่จะคิดว่าพัคเฮจินถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโปรโมท ในการขายลิขสิทธิ์
ในการเปิดตลาดในจีนรึเปล่า ยิ่งคังจุนอาจจะรับเล่นเรื่อง Entourage ของ tvN ยิ่งทำให้สงสัยว่านี่คือการใช้พัคเฮจินเป็นใบเบิกทาง
เพื่อส่งออกเรื่องนี้ไปจีน ในขณะเดียวกันก็ใช้โอกาสนี้โปรโมทคังจุนให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดจีนเพื่อหวังผลในเรื่องต่อไปรึเปล่า
ถ้าใช่นี่....พูดไม่ออกเลยจริงๆ