สวัสดีค่ะชาวพันทิป
เราเป็นสมาชิกใหม่นะคะ เรามีเรื่องราวประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาแชร์ให้เพื่อนๆได้รับรู้ จะได้เป็นอุทาหรณ์ไม่ตกเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพแบบเรา เราเชื่อว่าเรื่องราวของเราจะเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงคนอื่นๆอย่างมาก
เรื่องของเราเริ่มขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2003 เรารู้จักชายคนหนึ่งที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เค้าแนะนำตัวว่าเป็นคนญี่ปุ่น ชื่อโตชิ เขามาชวนเราคุย ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร เค้าแกล้งพูดไทยไม่ชัดได้เหมือนคนญี่ปุ่นหัดพูดไทย รูปร่างหน้าตาเขาก็ออกไปทางนั้น มีการขอเบอร์ติดต่อ หลังจากวันนั้นเราก็มีการติดต่อกัน พบปะเจอกันมาเรื่อยๆ เค้าบอกว่าครอบครัวมีธุรกิจรถยนต์ในเมืองไทย คบๆกันมาได้สักพักมีการขอยืมเงิน มีเหตุให้ต้องใช้เงินตลอด
ต้นปี2004 เรารับปริญญา เค้ามาเจอครอบครัวเราในวันนั้นด้วย หลังจากรับปริญญาเค้าตามเรากลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด มีการพูดถึงการหมั้นหมายสู่ขอ แต่หลังจากกลับเข้ากรุงเทพฯ ชายคนนี้ก็หายตัวไป ติดต่อไม่ได้ เราเลยรู้ว่าโดนหลอก เรางงมากและเสียใจมากที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ครอบครัวเสียชื่อเสียง เพราะต่างจังหวัดที่เราอยู่เป็นหมู่บ้าน เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเราชาวบ้านรู้กันทั้งหมู่บ้าน เป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก
เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น
ในปี2006 ผู้ชายคนนี้ได้ติดต่อเรามาอีกครั้ง (เราไม่เคยเปลี่ยนเบอร์มือถือ) เขาบอกว่าเขาเสียใจในสิ่งที่ได้ทำกับเราและครอบครัว เขาอยากขอโทษและขอโอกาสแก้ตัว เขายังรักและคิดถึงเราตลอดเวลา เราไม่เคยมีแฟนหรือคบใครมาก่อน เรายอมรับว่าเรารักผู้ชายคนนี้ และอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงหายตัวไป เราเลยไปเจอเขาอีกครั้งและให้โอกาสเขา เรากลับมาคบกับเขาอีกครั้ง โดยที่ปิดบังเรื่องไม่ให้ครอบครัวเรารู้ ช่วงแรกๆเขาก็ยังหลอกว่าเป็นคนญี่ปุ่น จนสักพักหนึ่งเขาพาเราไปบ้านที่สุพรรณบุรี บอกว่าครอบครัวที่สุพรรณเป็นครอบครัวบุญธรรมของเขา แต่เราไม่เชื่อ เขาเลยยอมรับและยอมให้เราเห็นชื่อตามบัตรประจำตัวประชาชน (ไม่แน่ใจว่าลงชื่อจริงได้ไหม) ชื่อเล่นเบิร์ด และหลังจากนั้นเขาก็พาเราเข้าบ้านที่สุพรรณเรื่อยๆ จนมารู้อีกเรื่องว่าเขาเคยมีครอบครัวมาแล้ว แต่หย่าร้างกัน มีลูกชาย 1 คน เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับอดีตของเขา
การกลับมาคบกันครั้งนี้ของเรากับเขา เขามาอยู่กับเราที่ห้องพักในกรุงเทพฯ ชีวิตรักไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เขาชอบขโมยของเราไปขาย ช่วงนั้นเรากำลังศึกษาต่อในระดับป.โท เราทนไม่ไหวเลยต้องแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากนั้นเรากับเบิร์ดก็คบๆเลิกๆ เรื่อยมา
ไฮไลต์มันอยู่ช่วงนี้
ปี 2008 เราจับได้ว่าเขาไปมีผู้หญิงอีกคน ชื่อพี่ทิพย์ (ชื่อเล่น) เป็นคนลพบุรี เราแอบบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของพี่คนนี้ไว้ และเราได้แอบโทรหาและได้รู้มาว่าพี่ทิพย์ โดนแฟนเราหลอกลวงต้มตุ๋นว่าเป็นชาวญี่ปุ่น สูญเงินไปเป็นจำนวน 7 แสนกว่าบาท ตอนที่เราได้รู้เรื่อง เราช็อคและเสียใจมาก เรากับพี่ทิพย์ติดต่อกันในช่วงระยะสั้นๆ ได้รู้มาว่าเบิร์ดได้สร้างเรื่องราวมาหลอกพี่ทิพย์กับรอบครัวแบบเดียวกับที่มาหลอกเรา คือหลอกว่าเป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อโยชิ ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์และกำลังมีปัญหา หลังจากที่รู้เรื่องเราเห็นใจพี่ทิพย์มาก เท่าที่ได้คุยกับพี่ทิพย์ พี่เค้าเสียเงินจำนวนมากและเพราะที่บ้านเค้ามีหน้ามีตาในหมู่บ้านเค้ากลัวเสียชื่อเสียงเลยไม่กล้าเอาเรื่อง และที่สำคัญเค้ารักเบิร์ดมาก เค้าบอกเราว่าเค้ายอมเป็นรองเรา แต่เรายอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ช่วงนั้นเราเลยบอกเลิกกับเบิร์ด และไม่ได้ติดต่อพี่ทิพย์อีก มารู้ตอนหลังว่าเค้าได้พาพี่ทิพย์เข้าบ้านที่สุพรรณแล้ว ครอบครัวเบิร์ดก็ปลื้ม เพราะผู้หญิงรวย ช่วงนี้เบิร์ดได้หายไปจากชีวิตเราอีกครั้ง และเราก็ยุ่งๆกับการเรียน
ในปี 2009 เบิร์ดโดนจับในข้อหาลักทรัพย์ที่เราเคยแจ้งความไว้ ติดคุกประมาณปีกว่าๆ หลังจากเบิร์ดโดนจับเรายังได้รู้มาว่ายังมีน้องผู้หญิงอีกคนที่เบิร์ดกำลังหลอกอยู่ ชื่อตั๊ก คนนี้เราได้โทรไปหาและบอกเรื่องเบิร์ด โชคดีที่น้องเค้ายังไม่เสียไรมาก เพราะกำลังอยู่ในช่วงแรกๆของการคบหา
วิบากกรรมของเรายังไม่จบ
ในปี 2011 หลังจากเรียนจบ เราได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด กลางปีเบิร์ดติดต่อมาหาเราอีกครั้ง โทรมาขอโทษ ขอโอกาสอีกครั้ง เรายอมรับว่าตัวเองโง่และไม่เข็ดกับผู้ชายคนนี้สักที เราให้โอกาสเขาอีกครั้ง ครานี้เขาตามมาอยู่กับเราที่บ้านที่ต่างจังหวัด เขาขับรถเก๋งมาหาเราที่บ้าน เขาไปๆมาๆหาเราได้ประมาณ 3-4 เดือน เราก็จับได้อีกครั้งว่า เขาไปหลอกลวงผู้หญิงอีกแล้ว ครั้งนี้เขาได้รถมาขับ เราแอบเช็คโทรฯของเบิร์ดและเห็นข้อความที่ผู้หญิงคนนี้ส่งมา เราเลยโทรไปหาผู้หญิงคนนี้ พี่เค้าชื่อปลา เป็นคนอ่างทอง เราถามถึงความสัมพันธ์ พี่ปลาบอกว่าเป็นเมียโจ ครานี้เบิร์ดใช้ชื่อว่าโจ เราอึ้งอีกตามเคย เราได้ไปหาพี่ปลาถึงที่ทำงานที่กรุงเทพฯ ไปบอกเรื่องเบิร์ด แต่ก็อีกตามเคย พี่เค้าไม่เชื่อที่เราพูด เค้ายังมั่นใจว่าเบิร์ดเป็นชาวญี่ปุ่น และยังบอกกับเราว่าพี่เค้าน่ะแรง คือเตือนไม่ให้เราไปยุ่งกะคนของเขา ตอนนี้เบิร์ดก็หายไปจากชีวิตเราอีก เราไม่รู้ว่าพี่ปลาโดนเบิร์ดหลอกเสียเงินหรือทรัพย์สินไปมากมายเท่าไหร่
กลางปี 2014 เบิร์ดกลับเข้ามาในชีวิตเราอีกครั้ง มาขอขมาพ่อแม่เรา มาช่วยเราทำงานที่บ้าน เค้าพาลูกชายมาอยู่ด้วย ที่บ้านเราเป็นเกษตรกร เขาช่วยงานที่บ้านทุกอย่าง เขาทำให้เรารัก และเชื่อใจเขาอีกครั้ง ครอบครัวเราก็เชื่อใจเค้า จนถึงต้นปี 2015 เบิร์ดพาครอบครัวเขามาที่บ้านเรา มาพูดคุยตกลงเรื่องการหมั้นหมายสู่ขอ มันยิ่งทำให้เราและครอบครัวเชื่อใจและคิดว่าเค้าคงจะหยุดอยู่ที่เราจริงๆ ทางผู้ใหญ่ตกลงกันว่าจะมีการตบแต่งช่วงปลายปี แต่ในช่วงกลางๆปีเรามีปัญหาภายในครอบครัว เราเลยย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ ปล่อยให้เบิร์ดอยู่บ้านดูแลเรื่องต่างๆ ในบ้านแทนเรา เราไว้ใจเค้ามาก ออกรถกระบะให้เค้าใช้ ที่บ้านเรามีเครื่องไฟ เครื่องเสียงไว้เปิดตามงานพิธีต่างๆในหมู่บ้าน เบิร์ดก็ดูแลในส่วนนี้ เราไม่ได้คุยกับคนที่บ้านเราเลย ทุกเรื่องผ่านเบิร์ดหมด แต่สุดท้ายเราไว้ใจคนผิด ต้นปี 2016 เรากลับมาบ้าน ได้รู้มาว่าเบิร์ดได้ขโมยของที่บ้านเราไปขายหลายรายการ และหายตัวไป ติดต่อไม่ได้
ตอนที่ได้รู้เรื่องของเบิร์ด เรางงมาก ไม่อยากเชื่อเลย จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยเพราะตลอดเวลาเรากะเบิร์ดติดต่อกันตลอด โทรคุยกันทุกวัน เค้าไม่แสดงพิรุธอะไรเลย เวลาไปหาเราที่กรุงเทพฯก็ทำตัวปกติ
เรามารู้เมื่อเร็วๆนี้จากเด็กที่ทำงานกับเบิร์ดว่า เขาไปมีผู้หญิงที่เพชรบุรี ชื่อแอน เด็กบอกว่าเขาแนะนำตัวเองกับครอบครัวแอนว่าเป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อโย
เราได้แต่ภาวนาขอให้แอนและครอบครัวไม่ต้องเสียอะไรมากมายให้กับคนเลวๆแบบนี้
เราเชื่อและมั่นใจมากว่าเบิร์ดมีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว คือต้มตุ๋นหลอกลวงว่าเป็นคนญี่ปุ่น และหลอกจีบผู้หญิงให้รัก เมื่อจีบติดและผู้หญิงไว้ใจก็จะปอกลอกเอาเงินหรือทรัพย์สิน และเราเชื่อว่าเค้าจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เค้าคงจะทำไปเรื่อยๆเพราะไม่เคยมีใครทำไรเค้าได้
เราเสียใจมากที่พาคนเลวๆแบบนี้เข้าบ้าน ทำให้พ่อแม่เสียใจ ตัวเองและครอบครัวเสียชื่อเสียง เราโง่เองที่ไปรักและเชื่อใจคนเลวๆแบบนี้ ไม่รู้จักเข็ดหลาบกับคนแบบนี้สักที
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือแจ้งความข้อหาลักทรัพย์เท่านั้น แต่ขั้นตอนของกฎหมายใช้เวลานาน กว่าหมายจับจะออก เราไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานไหม เพราะเท่าที่เราตามเรื่องตอนนี้ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
เรามีรูปและชื่อจริงของเบิร์ด แต่เราไม่รู้ว่าทางเพจจะอนุญาตให้เราลงไหม
เตือนภัยหญิง มิจฉาชีพ
เราเป็นสมาชิกใหม่นะคะ เรามีเรื่องราวประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาแชร์ให้เพื่อนๆได้รับรู้ จะได้เป็นอุทาหรณ์ไม่ตกเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพแบบเรา เราเชื่อว่าเรื่องราวของเราจะเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงคนอื่นๆอย่างมาก
เรื่องของเราเริ่มขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2003 เรารู้จักชายคนหนึ่งที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เค้าแนะนำตัวว่าเป็นคนญี่ปุ่น ชื่อโตชิ เขามาชวนเราคุย ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร เค้าแกล้งพูดไทยไม่ชัดได้เหมือนคนญี่ปุ่นหัดพูดไทย รูปร่างหน้าตาเขาก็ออกไปทางนั้น มีการขอเบอร์ติดต่อ หลังจากวันนั้นเราก็มีการติดต่อกัน พบปะเจอกันมาเรื่อยๆ เค้าบอกว่าครอบครัวมีธุรกิจรถยนต์ในเมืองไทย คบๆกันมาได้สักพักมีการขอยืมเงิน มีเหตุให้ต้องใช้เงินตลอด
ต้นปี2004 เรารับปริญญา เค้ามาเจอครอบครัวเราในวันนั้นด้วย หลังจากรับปริญญาเค้าตามเรากลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด มีการพูดถึงการหมั้นหมายสู่ขอ แต่หลังจากกลับเข้ากรุงเทพฯ ชายคนนี้ก็หายตัวไป ติดต่อไม่ได้ เราเลยรู้ว่าโดนหลอก เรางงมากและเสียใจมากที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ครอบครัวเสียชื่อเสียง เพราะต่างจังหวัดที่เราอยู่เป็นหมู่บ้าน เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเราชาวบ้านรู้กันทั้งหมู่บ้าน เป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก
เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น
ในปี2006 ผู้ชายคนนี้ได้ติดต่อเรามาอีกครั้ง (เราไม่เคยเปลี่ยนเบอร์มือถือ) เขาบอกว่าเขาเสียใจในสิ่งที่ได้ทำกับเราและครอบครัว เขาอยากขอโทษและขอโอกาสแก้ตัว เขายังรักและคิดถึงเราตลอดเวลา เราไม่เคยมีแฟนหรือคบใครมาก่อน เรายอมรับว่าเรารักผู้ชายคนนี้ และอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงหายตัวไป เราเลยไปเจอเขาอีกครั้งและให้โอกาสเขา เรากลับมาคบกับเขาอีกครั้ง โดยที่ปิดบังเรื่องไม่ให้ครอบครัวเรารู้ ช่วงแรกๆเขาก็ยังหลอกว่าเป็นคนญี่ปุ่น จนสักพักหนึ่งเขาพาเราไปบ้านที่สุพรรณบุรี บอกว่าครอบครัวที่สุพรรณเป็นครอบครัวบุญธรรมของเขา แต่เราไม่เชื่อ เขาเลยยอมรับและยอมให้เราเห็นชื่อตามบัตรประจำตัวประชาชน (ไม่แน่ใจว่าลงชื่อจริงได้ไหม) ชื่อเล่นเบิร์ด และหลังจากนั้นเขาก็พาเราเข้าบ้านที่สุพรรณเรื่อยๆ จนมารู้อีกเรื่องว่าเขาเคยมีครอบครัวมาแล้ว แต่หย่าร้างกัน มีลูกชาย 1 คน เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับอดีตของเขา
การกลับมาคบกันครั้งนี้ของเรากับเขา เขามาอยู่กับเราที่ห้องพักในกรุงเทพฯ ชีวิตรักไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เขาชอบขโมยของเราไปขาย ช่วงนั้นเรากำลังศึกษาต่อในระดับป.โท เราทนไม่ไหวเลยต้องแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากนั้นเรากับเบิร์ดก็คบๆเลิกๆ เรื่อยมา
ไฮไลต์มันอยู่ช่วงนี้
ปี 2008 เราจับได้ว่าเขาไปมีผู้หญิงอีกคน ชื่อพี่ทิพย์ (ชื่อเล่น) เป็นคนลพบุรี เราแอบบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของพี่คนนี้ไว้ และเราได้แอบโทรหาและได้รู้มาว่าพี่ทิพย์ โดนแฟนเราหลอกลวงต้มตุ๋นว่าเป็นชาวญี่ปุ่น สูญเงินไปเป็นจำนวน 7 แสนกว่าบาท ตอนที่เราได้รู้เรื่อง เราช็อคและเสียใจมาก เรากับพี่ทิพย์ติดต่อกันในช่วงระยะสั้นๆ ได้รู้มาว่าเบิร์ดได้สร้างเรื่องราวมาหลอกพี่ทิพย์กับรอบครัวแบบเดียวกับที่มาหลอกเรา คือหลอกว่าเป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อโยชิ ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์และกำลังมีปัญหา หลังจากที่รู้เรื่องเราเห็นใจพี่ทิพย์มาก เท่าที่ได้คุยกับพี่ทิพย์ พี่เค้าเสียเงินจำนวนมากและเพราะที่บ้านเค้ามีหน้ามีตาในหมู่บ้านเค้ากลัวเสียชื่อเสียงเลยไม่กล้าเอาเรื่อง และที่สำคัญเค้ารักเบิร์ดมาก เค้าบอกเราว่าเค้ายอมเป็นรองเรา แต่เรายอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ช่วงนั้นเราเลยบอกเลิกกับเบิร์ด และไม่ได้ติดต่อพี่ทิพย์อีก มารู้ตอนหลังว่าเค้าได้พาพี่ทิพย์เข้าบ้านที่สุพรรณแล้ว ครอบครัวเบิร์ดก็ปลื้ม เพราะผู้หญิงรวย ช่วงนี้เบิร์ดได้หายไปจากชีวิตเราอีกครั้ง และเราก็ยุ่งๆกับการเรียน
ในปี 2009 เบิร์ดโดนจับในข้อหาลักทรัพย์ที่เราเคยแจ้งความไว้ ติดคุกประมาณปีกว่าๆ หลังจากเบิร์ดโดนจับเรายังได้รู้มาว่ายังมีน้องผู้หญิงอีกคนที่เบิร์ดกำลังหลอกอยู่ ชื่อตั๊ก คนนี้เราได้โทรไปหาและบอกเรื่องเบิร์ด โชคดีที่น้องเค้ายังไม่เสียไรมาก เพราะกำลังอยู่ในช่วงแรกๆของการคบหา
วิบากกรรมของเรายังไม่จบ
ในปี 2011 หลังจากเรียนจบ เราได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด กลางปีเบิร์ดติดต่อมาหาเราอีกครั้ง โทรมาขอโทษ ขอโอกาสอีกครั้ง เรายอมรับว่าตัวเองโง่และไม่เข็ดกับผู้ชายคนนี้สักที เราให้โอกาสเขาอีกครั้ง ครานี้เขาตามมาอยู่กับเราที่บ้านที่ต่างจังหวัด เขาขับรถเก๋งมาหาเราที่บ้าน เขาไปๆมาๆหาเราได้ประมาณ 3-4 เดือน เราก็จับได้อีกครั้งว่า เขาไปหลอกลวงผู้หญิงอีกแล้ว ครั้งนี้เขาได้รถมาขับ เราแอบเช็คโทรฯของเบิร์ดและเห็นข้อความที่ผู้หญิงคนนี้ส่งมา เราเลยโทรไปหาผู้หญิงคนนี้ พี่เค้าชื่อปลา เป็นคนอ่างทอง เราถามถึงความสัมพันธ์ พี่ปลาบอกว่าเป็นเมียโจ ครานี้เบิร์ดใช้ชื่อว่าโจ เราอึ้งอีกตามเคย เราได้ไปหาพี่ปลาถึงที่ทำงานที่กรุงเทพฯ ไปบอกเรื่องเบิร์ด แต่ก็อีกตามเคย พี่เค้าไม่เชื่อที่เราพูด เค้ายังมั่นใจว่าเบิร์ดเป็นชาวญี่ปุ่น และยังบอกกับเราว่าพี่เค้าน่ะแรง คือเตือนไม่ให้เราไปยุ่งกะคนของเขา ตอนนี้เบิร์ดก็หายไปจากชีวิตเราอีก เราไม่รู้ว่าพี่ปลาโดนเบิร์ดหลอกเสียเงินหรือทรัพย์สินไปมากมายเท่าไหร่
กลางปี 2014 เบิร์ดกลับเข้ามาในชีวิตเราอีกครั้ง มาขอขมาพ่อแม่เรา มาช่วยเราทำงานที่บ้าน เค้าพาลูกชายมาอยู่ด้วย ที่บ้านเราเป็นเกษตรกร เขาช่วยงานที่บ้านทุกอย่าง เขาทำให้เรารัก และเชื่อใจเขาอีกครั้ง ครอบครัวเราก็เชื่อใจเค้า จนถึงต้นปี 2015 เบิร์ดพาครอบครัวเขามาที่บ้านเรา มาพูดคุยตกลงเรื่องการหมั้นหมายสู่ขอ มันยิ่งทำให้เราและครอบครัวเชื่อใจและคิดว่าเค้าคงจะหยุดอยู่ที่เราจริงๆ ทางผู้ใหญ่ตกลงกันว่าจะมีการตบแต่งช่วงปลายปี แต่ในช่วงกลางๆปีเรามีปัญหาภายในครอบครัว เราเลยย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ ปล่อยให้เบิร์ดอยู่บ้านดูแลเรื่องต่างๆ ในบ้านแทนเรา เราไว้ใจเค้ามาก ออกรถกระบะให้เค้าใช้ ที่บ้านเรามีเครื่องไฟ เครื่องเสียงไว้เปิดตามงานพิธีต่างๆในหมู่บ้าน เบิร์ดก็ดูแลในส่วนนี้ เราไม่ได้คุยกับคนที่บ้านเราเลย ทุกเรื่องผ่านเบิร์ดหมด แต่สุดท้ายเราไว้ใจคนผิด ต้นปี 2016 เรากลับมาบ้าน ได้รู้มาว่าเบิร์ดได้ขโมยของที่บ้านเราไปขายหลายรายการ และหายตัวไป ติดต่อไม่ได้
ตอนที่ได้รู้เรื่องของเบิร์ด เรางงมาก ไม่อยากเชื่อเลย จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยเพราะตลอดเวลาเรากะเบิร์ดติดต่อกันตลอด โทรคุยกันทุกวัน เค้าไม่แสดงพิรุธอะไรเลย เวลาไปหาเราที่กรุงเทพฯก็ทำตัวปกติ
เรามารู้เมื่อเร็วๆนี้จากเด็กที่ทำงานกับเบิร์ดว่า เขาไปมีผู้หญิงที่เพชรบุรี ชื่อแอน เด็กบอกว่าเขาแนะนำตัวเองกับครอบครัวแอนว่าเป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อโย
เราได้แต่ภาวนาขอให้แอนและครอบครัวไม่ต้องเสียอะไรมากมายให้กับคนเลวๆแบบนี้
เราเชื่อและมั่นใจมากว่าเบิร์ดมีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว คือต้มตุ๋นหลอกลวงว่าเป็นคนญี่ปุ่น และหลอกจีบผู้หญิงให้รัก เมื่อจีบติดและผู้หญิงไว้ใจก็จะปอกลอกเอาเงินหรือทรัพย์สิน และเราเชื่อว่าเค้าจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เค้าคงจะทำไปเรื่อยๆเพราะไม่เคยมีใครทำไรเค้าได้
เราเสียใจมากที่พาคนเลวๆแบบนี้เข้าบ้าน ทำให้พ่อแม่เสียใจ ตัวเองและครอบครัวเสียชื่อเสียง เราโง่เองที่ไปรักและเชื่อใจคนเลวๆแบบนี้ ไม่รู้จักเข็ดหลาบกับคนแบบนี้สักที
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือแจ้งความข้อหาลักทรัพย์เท่านั้น แต่ขั้นตอนของกฎหมายใช้เวลานาน กว่าหมายจับจะออก เราไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานไหม เพราะเท่าที่เราตามเรื่องตอนนี้ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
เรามีรูปและชื่อจริงของเบิร์ด แต่เราไม่รู้ว่าทางเพจจะอนุญาตให้เราลงไหม