สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องจะมาระบาย หรือ จะรีวิว เรื่องๆ หนึ่งให้ฟัง เกี่ยวกับการบริการแย่ๆ ของ บริษัทๆ หนึ่ง

คือตู้เย็นที่บ้านเกิดขัดข้อง ช่องทำน้ำแข็งด้านล่างไม่ทำงาน น้ำแข็งละลาย แต่ความเย็นยังปกติ จึงทำให้ต้องหาร้านซ่อม (เราใช้ตู้เย็น พานาโซนิค รุ่น 2 ประตู ประตูทำน้ำแข็งจะอยู่ด้านล่าง ขนาด 10 คิว)  เราไปเจอสติกเกอร์โฆษณาร้านซ่อมแอร์ ซ่อมตู้เย็น ต่างๆ มากมาย ก็เลยเลือกมาหนึ่งที่ คือ บ. มีชัย จำกัด


จากนั้นก็โทรนัดช่างให้เข้ามาดูอาการ  พอช่างเข้ามาดูอาการก็บอกประมาณว่า (เอาที่จำได้นะคะ) ตัวทำความเย็น, ตัวกรอง มันเสีย ซ่อมที่บ้านไม่ได้เพราะต้องสั่งอะไหล่เข้ามา จึงต้องยกไปซ่อมที่ร้าน ประมาณ 2-3 วันได้ วันที่มารับซ่อมคือวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา กำหนดที่ได้รับคือ วันที่ 7 ก.พ. พอถึงวันกำหนด โทรไปสอบถามว่าจะมากี่โมง ทางช่างบอกประมาณ 4 โมง เย็น เราก้อโอเค แต่จริงๆ มา 5 โมงกว่า เราก้อไม่ว่าไร ขอแค่มาส่งพอ หลังจากติดตั้งเสร็จเรียบร้อย คิดค่าบริการทั้งหมด 2,500฿ ได้แจ้งขอใบเสร็จรับเงินไว้


ดิฉันก็ขนของต่างๆ เข้าตู้เย็น แล้วก็รอเวลา ตอนแรกดิฉันคิดว่าความเย็นจะกระจายจากทั่วตู้ เพราะเห็นว่าด้านบนไม่มีความเย็นเลย แต่จิงๆ ความเย็นจะมาจากด้านล่าง ซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ก่อนหน้าที่จะเสียตู้เย็นจะทำงานเงียบมาก แต่พอหลังจากซ่อมเสร็จ เทอทำงานเสียงดังมาก ซึ่งเราพยายามคิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง ก้อทนใช้ไปอย่างนั้น ส่วนช่องแช่แข็งนั้น ทำงานโอเค ปลาที่แช่มีน้ำแข็งเกาะ ถือว่าโอเคถ้าไม่รวมเรื่องเสียง แล้วถามช่างว่า รับประกันกี่เดือน ช่างบอก 3 เดือน ดิฉันเลยสบายใจหน่อย

และแล้ววันที่ต้องโทรเรียกซ่อมอีกครั้งคือวันที่ 19 ที่ผ่านมา คือช่องแช่แข็งไม่ทำงาน เพราะไอศกรีมที่ซื้อไว้คืนก่อนละลาย ดิฉันจึงโทรเรียกช่างตอนสายๆ ประมาณ 10 โมงเช้าของวันนั้น แต่มารับจิงๆ คือ 6 โมงเย็น (คืออะไร? แต่เอาเถอะ ดิฉันอย่างนั้น) ดิฉันก้อเล่าอาการให้ฟังว่าเป็นยังไงบ้าง และถามว่ากี่วันได้ (ลืมบอกว่าช่างชื่อ เอก) ช่างบอกเหมือนเดิม 2 วันได้ เดี๋ยวเร่งให้  คือต้องยกตู้เย็นไปอีกรอบ (ที่ผ่านมาดิฉันต้องซื้อกล่องโฟมใส่น้ำแข็งแล้วเอาของที่จำเป็นแช่ไป พยายามโละของให้น้อยที่สุด) ดิฉันก็โอเค แต่ก่อนหน้านั้นก็โทรไปคอมเพลนถึงเรื่องการทำงาน ว่าทำไมยังเป็นแบบเดิม ทำงานกันยังไง ตู้เย็นมันเป็นสิ่งจำเป็น ไม่มีใครอยากจะให้มายกไป 2-3 รอบ พนักงานมีการบอกว่าอาจเป็นที่อะไหล่ที่ทางบริษัท รับมามันเสีย บลาๆๆๆ ฟังแล้วได้แต่ปลง ทำไงได้นี่คะ เราต้องพึ่งมัน....

พอถึงวันที่เราคิดว่าตู้เย็นน่าจะเสร็จแล้ว คือทางช่างบอก 2 วันได้ จิงๆ เป็นวันอาทิตย์ที่จะต้องได้ แต่เราเห็นว่ารออีกวันแล้วกันเพราะไหนๆ พรุ่งนี้ (วันที่ 22 ก.พ.) เราก็หยุด แต่ช่วงบ่าย 3 เรามีธุระ เลยคิดว่าให้เค้ามาส่งตอนเช้า แล้วเราค่อยออกไปช่วงบ่ายก้อได้ เราโทรไปสอบถามประมาณ 11 โมง ว่าเสร็จหรือยัง พนง. ผู้หญิงรับสาย บอกว่าเสร็จแล้ว เดี๋ยวให้ช่างไปส่ง เราเลยขอให้เค้ามาส่งไปเกินบ่าย 2 โมง ขอให้มาตรงเวลาด้วย เพราะที่นี่ผิดเวลาตลอด หลังจากนั้นเราก้อรอๆ จนถึงเวลาก้อยังไม่มาตามนัด จนประมาณ บ่าย 2 ครึ่ง ทาง พนง. โทรมาแจ้งว่า รถเสีย ขอเลื่อนไปส่งเป็นตอน 4 โมง เราก้อเฮ้ย ไหงเปนแบบนี้เนี่ย เราบอกเรามีธุระ (เราอยุ่กับแฟนแค่ 2 คน) ให้มาเร็วเลย ก่อน 4 โมงได้ไหม เค้าก้อรับว่าได้ๆ (รับส่งๆ ไปงั้น) วางเสร็จก้อบ่นๆ กับแฟน OMG! อะไรเนี่ย! ให้รออีกแล้ว รถคันอื่นไม่มีเลยหรือไง บริการ ห่วยแตกมาก บลาๆๆๆ (จิงๆ บ่นมากกว่านี้ จนนึกคำบ่นไม่ได้แล้ว) เราเลยตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัวเผื่อเค้ามาส่งเสร็จเราจะได้ออกไปเลย...เวลาผ่านไป 4โมง...4โมงครึ่ง ก้อยังไม่มา เราเบื่อที่จะโทรแล้ว เลยรอต่อไป จนประมาณ 4 โมง 45 ทางช่างโทรมาเข้าเครื่องแฟน บอกว่า กำลังจะออก จะถึงประมาณ 5 โมงกว่าๆ (ตอนแรกรู้มาจากช่างว่าร้านอยู่แถวอุดมสุข แต่ไม่บอกว่าซอยที่เท่าไหร่) เรานี่พอรู้เวลาอารมณ์พุ่งปรี๊ดดดเลย ให้เรารออีกแล้ว รอแล้วรออีก รอมันเข้าไป ไม่ต้องไปไหนกันละ (ธุระของเราอาจจะไม่ได้สำคัญกับเรื่องเงินทอง แต่สำคัญกับความรู้สึก คือเรากับแฟนจะไปหาแม่ของแฟน และนัดกับพี่ชายของทางแฟนด้วย โดยแฟนบอกกับแม่ว่าจะไปหาช่วงบ่ายแก่ๆ ไปทำอะไรกินกัน และจะไปเวียนเทียนด้วยกัน อยากจะใช้เวลาอยู่นานๆ ในวันเสาร์ – อาทิตย์ที่ผ่านมา แฟนเราต้องทำงานเลยไม่ได้ไปหา) ที่นี้เราเลยโทรไปหาที่บริษัทเลย ผู้หญิงรับสาย แล้วประโยคสนทนาก็เกิดขึ้น

เรา – สวัสดีค่ะ บ. มีชัย ใช่ไหมคะ
พนง. – ใช่ค่ะ
เรา – ไม่ทราบว่าตู้เย็นของบ้านเลขที่... ซอย... มาส่งหรือยังคะ
พนง. – ทางช่างไม่ได้โทรบอกพี่ผู้ชายหรือว่ากำลังไปส่ง ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือคะ
เรา – อยู่ค่ะ แต่แค่อยากรู้ว่า ทำไมถึงมาส่งช้า คุณบริหารเวลากันยังไง แมเนจเวลากันแบบไหน ปล่อยให้ลูกค้ารอแล้วรออีก เลื่อนส่งตั้งแต่บ่าย 2 จนบ่าย 4 แล้วจนล่าสุด ทางเรามีธุระไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่รอตู้เย็น บลาๆๆ
พนง. – แล้วคุณจะอยู่รอไหมล่ะคะ หรือถ้าไม่รอ จะได้ให้ช่างไปส่งพรุ่งนี้แทน
เรา – ก็ต้องอยู่สิคะ พรุ่งนี้ไม่สะดวกต้องทำงานแล้ว
จากนั้นเราก้อบ่นไปอีก ว่าทำงานกันแบบไหน โน้นนั่นนี่ คืออารมณ์เราไปไกลแล้ว คุยกันไม่นาน พนง. มันวางสายใส่เราเลย เราโมโหมาก ทำแบบนี้ได้ไง เลยโทรกลับไปหากอีก ทีนี้ผู้ชายรับ

เรา – เมื่อกี้ทางคุณวางหูใส่ได้ไง วางหูใส่ลูกค้าได้ไง ทุเรศมาก (อารมณ์ไม่ไหวแล้ว)
ผู้ชาย – ก็คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วจะคุยกันทำไมละครับ
เรา – เหรอ!! ทางคุณนั่นแหล่ะ คุยไม่รู้เรื่อง เราถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงมาส่งตู้เย็นช้า จัดการเวลากันยังไง ปล่อยให้ลูกค้ารอแล้วรออีก
ผู้ชาย – แล้วคุณจะรอไม่ละครับ หรือไม่รอจะได้ไม่ต้องไปส่ง (น้ำเสียงมันเริ่มกวนตีนแล้ว)
เรา – รอสิ มาถึงขนาดนี้แล้วนิ่
ผู้ชาย – อ้าว แล้วจะเอาไรอีกล่ะ  ไปหาคนที่คุยรู้เรื่องมา คุณคุยไม่รู้เรื่องแล้ว
แล้วมันก้อหัวเราะ พร้อมกับวางหูใส่

อีกครั้งที่มันวางหูใส่เรา เราโกรธจนบรรยายไม่ถูก เลยโทรไปอีกรอบ (เราก้อไม่ยอมเลิกรา) คนรับคนเดิมคือ ผู้ชาย

เรา – วางหูใส่อีกแล้ว ไม่มีมารยาท
มัน – ก็คุณคุยไม่รู้เรื่อง จะคุยทำไม
เรา – เมิงนั่นแหล่ะที่คุยไม่รู้เรื่อง ( ณ ตอนนี้ ไม่ขอพูดเพราะแล้ว) เมิงเมากาวหรือเปล่า หรือเมิงไม่ใช่คนไทย ที่ฟังภาษาไทยไม่ออก อ๋อ ขนาดพูดยังพูดไม่ค่อยชัดเลย กุว่านะ คนที่ควรจะหาคนมาคุยคือทางเมิงมากกว่า
มัน – อ่าวอีนี่ เมิงนั่นแหล่ะ จะเอาไรหนักหนา เมิงเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน โธ่อิ...!!
เรา – ทำไม กูเป็นลูกค้าเมิงไง ไม่ได้ใหญ่ไรหรอก แต่เอาเงินให้พวกเมิงไง อ้าวแล้วเมิงไปใครล่ะ
มัน – ผมเป็นช่างซ่อมไง
เรา – อ๋อ ก้อคงเป็นได้แค่ช่างซ่อมไงชีวิตนี้ น่าสงสารเนอะ 555
(ขออภัยนะคะถ้าอ่านแล้วมันอาจกระทบสำหรับอาชีพนี้ที่ใครทำอยู่ เราไม่ได้เหมารวมทุกๆ คน แต่ในเหตุการณ์นี้เราว่าเฉพาะ ผู้ชาย คนนี้เท่านั้น อีกอย่าง เรื่องของอารมณ์เวลาที่โกรธ มักจะมีคำพูดที่ไม่น่าฟังออกมา ทั้ง 2 ฝ่าย ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดนะคะ)
มัน – แล้วไงละ .... (กรุณาเติมเอาเองค่ะ)
เรา – ไม่ไงหรอก คิดเอาเองดิ่ ชีวิตนี้ก็อยู่ได้แค่นี้ไง เป็นแค่ช่างซ่อม พูดภาษาไทยยังไม่รู้เรื่องเลย น่าสงสาร ....
มัน – เมิงนั่นแหล่ะ ที่พูดไม่รู้เรื่อง ... กูบันทึกไว้หมดแล้วว่าเมิงพูดอะไรบ้าง
เรา – ตามสบาย ระวังไว้เหอะ กูจะแจ้ง สคบ. ว่าพวกเมิงบริการห่วยแตกมาก
มัน – แจ้งเลย โถ!! เมิงเป็นใครวะ ... บ้านอยู่ไหน
เรา – จะทำไม เมิงจะทำไม .... ถ้าเมิงทำไร กุก้อจะแจ้งตำรวจให้หมด ....
มัน – กุไม่กลัวเมิงหรอก....
จากนั้นแฟนเราดึงโทรศัพท์ไปจากเรา แล้วพูดจาแบบปกติว่า ตู้เย็นจะมาส่งกี่โมง ผมจะรอ ช่วยเร่งตามให้ด้วยนะ บลาๆๆๆ แล้วก็วางหูกันไป อารมณ์เราสุดขีดมากก ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบาย จนแฟนเราบอกให้ใจเย็นๆ ก็ต้องรอตู้เย็นแหล่ะ ของๆ เรา อีกอย่าง ของยังอยู่กับมัน เดี๋ยวมันจะแกล้งเราได้ รอให้ได้ของก่อนค่อยว่ากัน เราก็ได้แต่รอเวลาที่นัดหมาย จนเวลาประมาณ 5 โมง 25 รถก็มาส่ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ช่างเอกที่เคยมา เป็นพนักงานส่งของบริษัทในเครือหรือไรไม่ทราบ ใส่ชุดฟอร์มบริษัทเหมือนกัน (ตอนช่างเอกมารับ-มาส่ง ไม่เห็นเค้าใส่ชุดฟอร์มใดๆ เลย) ก็เลยแปลกใจ แต่คิดว่าคงเป็นช่างเหมือนกัน เลยถามว่า

เรา - ตู้เย็นอาการเป็นไงบ้าง
ผู้ที่จัดส่ง -  ผมไม่ทราบครับ ผมไม่ใช่ช่าง ผมแค่มาส่งเฉยๆ  
เราได้แต่งง แล้วถามไปว่า
เรา - แล้วช่างเอก ไม่ได้มาหรือคะ
ผู้ที่จัดส่ง – ช่างไม่ว่างติดงาน เค้าเลยให้มาส่งแทน
เรา – แล้วพี่เป็นพนักงานบริษัทเดียวกันหรือคะ
ผู้ที่จัดส่ง – ในเครือครับ เค้าให้มาส่งเฉยๆ
เราเลยคิดว่า ขนาดมาส่งยังไม่มาเลย ไม่ใส่ใจลูกค้าเลยว่า ลูกค้าอยากจะทราบไหมว่าอาการตู้เย็นเป็นยังไงบ้าง ให้มาส่งก็มาส่งจิงๆ แล้วเราจะรู้ไหมว่าสรุปมันเป็นยังไง แล้วจะกลับมาเป็นอีกเหมือนเดิมไหม อีกอย่างทางมันจะซ่อมให้เราหรือเปล่า หรือแค่เอาไปวางฆ่าเวลาเฉยๆ ก็ได้แต่รอดูอาการอีกที แฟนเราได้หลอกถามว่าร้านอยู่แถวไหน เค้าบอกว่าอยู่ ซอยอุดมสุข 50 แฟนเราก้อถามว่าอยู่ในซอยหรือริมถนน เค้าบอกว่าอยู่ในซอยไม่ลึกมาก
ขับเข้าไปเลย แล้วเค้าบอกว่ามีเว็บไซด์ หรือมี เฟสบุ๊ค นี่แหล่ะค่ะ แต่เราฟังไม่ถนัด เพราะมัวแต่ดูตู้เย็น หลังจากที่เค้าไปแล้ว เราก้อมาสำรวจความเรียบร้อย พบรอยขีดซึ่งลึกนิดหน่อย รอยนี้ไม่เคยมีก่อนที่จะซ่อมเลย เราจำได้ ถ้ารอยขีดข่วนเล็กๆ เราไม่ซีเรียสเลย แต่อันนี้มันเหมือนโดนของมีคมกรีด ซีงมีความยาวประมาณ 2 ซม. ก็ได้แต่ปลงกับสิ่งที่พวกมันทำ คิดว่าพอกันทีกับการใช้บริการของที่นี้ แล้วเราก้อผิดเองที่เลือกซ่อมกับร้านแบบนี้ เลยอยากฝากเตือนเพื่อนๆ สักนิดค่ะว่า ถ้าเป็นไปได้ให้ซ่อมกับศูนย์บริการฯ ที่เราใช้อยู่จะดีกว่า อย่าใช้กับร้านที่เป็นแบบนี้เลย หรือถ้าใช้ก็ขอให้เจอร้านที่ดีๆ บริการดีๆ ด้วยค่ะ

**** เรื่องนี้เป็นแค่การเล่าถึงการบริการที่ได้เจอมากับตัว หากผิดพลาดประการใด และหากแท็คห้องผิด เราขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ****