กระทู้นี้เป็น Review เที่ยวเกาหลีใต้(ครั้งแรก) เดินทางช่วงปี 2014
เกือบ 2 ปี มาแล้ว ข้อมูลชื่อ สถานที่ อาหาร ฯลฯ อาจคลาดเคลื่อน(เนื่องจากนานมากแล้ว)
หรือผิดพลาดไปบ้าง ก็ขออภัยมาด้วยนะครับ เดี๋ยวจะทยอยแก้ไขรายละเอียดต่อไปครับ
เกริ่นนำนิดนึงนะครับ
ช่วงวันที่ 1-5 เม.ย. 2014 ผมได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานด้านผังเมือง ที่ กรุงโซล เกาหลีใต้ ระยะเวลา 5 วัน 3 คืน
ในการจัดการเรื่องราวการศึกษาดูงานทั้งหมด ผู้จัดฯ ได้ใช้บริการรูปแบบของบริษัททัวร์ โดยจะเป็นผู้ Operated ให้
ทั้ง ตั๋วเครื่องบิน รถ โรงแรม สถานที่ศึกษาดูงาน อาหาร และกิจกรรมต่างๆ รวมถึงโปรแกรมเสริมที่พ่วงท้ายการดูงาน
ผมจำชื่อบริษัทฯ ไม่ได้ รู้แต่ว่าตอนมาประชุม นอกจากเรื่องรายละเอียดในสถานที่ในการศึกษาดูงานแล้ว ทางบริษัทฯ
ยังได้ Present และแจ้งไว้อย่างน่าตื่นเต้น ว่าจะได้พักย่านชิคๆ ของโซล กลางคืนสามารถไปเดินชิลๆ นั่งเล่น ฟังเพลง
ซื้อของฝาก หาของกิน ช๊อปปิ้ง ได้ด้วยครับ แต่สุดท้ายได้พักที่ไหน มาคอยติดตามกันครับ งานนี้มีหักมุม(ดื้อๆ) ครับ
วันที่ 1
นัดหมาย เวลา 20.00 น. ท่าอากาศยาน "สุวรรณภูมิ" (เคยมาใช้บริการเมื่อปี 2007 ช่วงสนามบินเพิ่งเปิดใหม่ๆ ได้มีโอกาส
บินไปศึกษาดูงานด้านผังเมือง ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ณ ตอนนั้น อะไรก็สวยงามดูดี สะอาดตาไปทั้งหมดครับ แต่ตอนนี้
หลายๆ สิ่ง ควรจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ เอาเป็นว่าไม่พูดถึงดีกว่าครับ) แต่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการยังหนาแน่นเช่นเคยครับ
ไป ตปท. รอบนี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก สาเหตุหลายข้อครับ
1. จะได้มีโอกาสนั่งเจ้าป้าการบินไทย(Inter) เป็นครั้งแรก WoW! เคยอ่านรีวิว แต่พอจะได้นั่งจริงๆ เลยแอบตื่นเต้น
กลัวจะเป็นบ้านนอกเข้ากรุง ทำตัว เงอะๆ งะๆ (ก็คนมันตื่นเต้น) ปี 2007 ได้นั่ง Srilankan Airlines บริการใช้ได้ครับ
แต่แอร์จะตัวบึ๊กบั๊กไปไหนฮ่ะ ขอน่ารักๆ สวยๆ หุ่นดีๆ หน่อยก็ไม่ได้ หุๆๆ ตอนนั้นเลยรู้สึกเฉยๆ ครับ)
2. จะได้เหยียบแผ่นดินเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก ตม. จะเรียกเข้าห้องเย็นมั๊ย ยิ่ง เงอะๆ งะๆ อยู่ (ตามข้อ 1. ครับ 555)
3. จะได้เจอสาวเกาหลี ( พอดีผมเป็นติ่งนักร้องเกาหลี I.U. ^_^ )
ข้อมูลไฟลต์บิน เบื้องต้นนะครับ
- สายการบิน Thai Airways
- TG 656
- Boeing 777-200
- อากาศยาน นาม " สุพรรณบุรี " (เก่าหน่อย แต่โอเคมากครับ)
- ช่วงเวลา 23.30(ไทย) - 07.00 (เกาหลี) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงครับ)
- บนเคบิน พอเครื่องได้ระดับ เสริฟเครื่องดื่ม+ของว่าง จากนั้นปิดไฟ ก่อน Landing 1.5 ชั่วโมง เริ่มเสริฟอาหารเช้า ผมเลือกเมนูปลาครับ
- บริการดีสมชื่อการบินไทยครับ(ครั้งนี้ที่ประทับใจมากที่สุด เห็นจะเป็นสายการบินที่เลือกใช้นี่หล่ะครับ)
.............................................................................................................................................................
วันที่ 2
เครื่องบิน B777 สุดล้ำ พาเราบินข้ามระยะทาง 3,500 กม. โดยใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง 30 นาที เท่านั้น (เพราะมีลมส่งท้าย)
ณ ท่าอากาศยาน "อินชอน" ... คุณ "สุพรรณบุรี" ก็พาคณะของผม Landing และ Touch Down รันเวย์ นุ่มนวลและปลอดภัย
เป็นธรรมดาของสายการบินที่ไม่ใช่เจ้าถิ่น ที่จะต้องมาจอดเทียบงวง ณ Terminal 2 แล้วผู้โดยสารขาเข้าจึงลงไปนั่งรถไฟใต้ดิน
เพื่อไปที่ด่าน ตม. ณ Terminal 1 ครับ ระหว่างเดินเราก็แอบส่องอากาศยานอื่น ที่มาอวดโฉมกับเราในยามเช้า เห็นไกลๆ โน่น..
Terminal 1 ฝันไว้ว่า สักวันฉันจะบินมาลงที่นั่นให้ได้ ไม่ KE ก็ต้องเป็น OZ (ปลายปี 2014 ได้นั่ง OZ ลง Teminal 1 จริงๆ ครับ)
ถ้า Review นี้ พอจะไปวัดไปวาได้ เดี๋ยวคลอดรีวิว "ไปเกาหลีครั้งที่ 2 By OZ" และ "พาครอบครัวเที่ยวเกาะเจจู By ZE" อีก 2 ครับ
จังหวัดแรกที่เราแวะ(ก่อนได้ดูงานจริงๆ จังๆ) ก็คือ จังหวัดวอลมิ หรือ วอลมิโด ครับ สถานที่แรกคือ หมู่บ้านคนจีน หรือ China Town
ที่มีพิพิธภัณฑ์ให้ได้เยี่ยมชม วิถีชีวิต และสารพัดมาม่า ที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ จาจางเหมี่ยว แต่ไปเช้าเกินไป ไม่มีใครเปิดร้านให้ได้ชิมครับ
มาที่นี่ เพื่อ...แน่นอนครับเป็นการรอเวลาให้ถึงอาหารเที่ยงครับ (ตามวิถีของการเที่ยวรูปแบบบริษัททัวร์) ผมสัมผัสได้ว่ามันเป็นเช่นนั้น
เอ้า....ไม่ว่ากัน ไหนก็มาแล้ว ใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ให้คุ้มก็แล้วกันนะครับ
หมดเวลาเรียนรู้วัฒนธรรมจีน ได้เวลาทานอาหารอาหารกลางวันแล้วครับ เมนูวันนี้ ชาบู ชาบู
พร้อมเครื่องเคียงสไตล์เกาหลี ร้านที่ไปทานอาหารกลางวัน อยู่ติดทะเลวอลมิครับ หน้าร้านเป็นลานกว้าง
และเป็นทางรถไฟ โมโนเรล (สวนสนุก) ที่วิ่งวนรอบเกาะวอลมิโดครับ
เครื่องเคียงที่ประทับใจที่สุด สุดติ่งในบรรดากิมจิ ที่ทานตลอดทริป คงเป็นถ้วยนี้ครับ "กิมจิปลาหมึก"
กินอิ่มแล้วก็เดินย่อยอาหาร รอเวลาที่จะไปขึ้น "หอคอยวอลมิ" เพื่อชมวิวเมืองนี้จากมุมสูงครับ
ย่านนี้ถ้าเป็นช่วงค่ำจะคึกคักมากครับ เพราะมีทั้งร้านอาหาร และสวนสนุก หลากหลายให้เดินเที่ยวกัน
ของกินที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี พวกสตรอเบอรี่ หนวดหมึกยักษ์ย่าง ข้าวโพดยักษ์ ฯลฯ มีขายที่นี่
ราคาไม่แพงครับ สามารถเลือกชิมกันได้ตามใจชอบครับ
ดอกซากุระเกาหลี ที่ปรารถนาจะได้ชมกัน ก็ มีให้เห็นบ้างแล้วในช่วงเวลานี้ครับ
ได้เวลาเดินขึ้นเขา ที่เป็นที่ตั้งหอคอยวอลมิ กันแล้วครับ ระยะทางเบาะๆ แค่ 1.2 กม. เองครับ
อีก 1 ความประทับใจ ในสถานที่เกือบทุกแห่งของเกาหลีใต้ ก็คือ ร้านกาแฟ ครับ ชิล ชิค รสชาดดี ครับ
นั่งจิบกาแฟ "คาราเมล มัคคิอาโต" บนหอคอย ชมวิว เมืองท่าเรือ แห่งนี้ มันก็ฟินอยู่นะ ผมว่า
ที่เห็นชิงช้าสวรรค์ ไกลๆ โน่น ก็ คือ ย่านร้านอาหารที่ ไปนั่งทานมาเมื่อตอนกลางวันครับ
สะพานแขวน(คู่) ที่มีชื่อเสียง ที่เป็นสัญลักษณ์ที่น่าประทับใจต่อนักท่องเที่ยว ที่เดินทางออกจากสนามบินอินชอน ครับ
อีกโปรแกรม ช่วงท้าย ในวันที่ 2 แปลกใหม่ไม่เหมือนใครแน่นอนครับ "โรงเรียนสอนทำช็อคโกแล็ต"
เริ่มลงมือทำเองครับ ช่วงนั้น MH370 เพิ่งหายไปใหม่ๆ ไว้อาลัยกันสักนิดครับ
ทำเสร็จ ให้ Ice Pack ห่อให้เย็นๆ เอาไว้กลับไปทานที่โรงแรมด้วยครับ
อาจารย์สาวๆ ชาวเกาหลี ออกมาส่งขึ้นรถครับ
ปิดท้ายวันนี้ ด้วยอาหารมื้อเย็น จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าอร่อยครับ คือทางไกด์ พี่แกก็จะเตรียมเครื่องปรุง
พวกพันท้าย ฯลฯ จากไทยไปด้วยครับเผื่อใครทานอาหารเกาหลีไม่ได้ แต่ผมว่าทานอาหารรสชาดแบบ Original
จะได้บรรยากาศเกาหลีแบบเนื้อแท้ครับ อาหารเค้าอร่อยโดยไม่ต้องเติมอะไรเลยครับ ออกจืด แต่กลมกล่อมมาก
กิมจิและเครื่องเคียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านนะครับ เพราะเค้าจะมีสูตรของตัวเองครับ
จบวันที่ 2 เข้าโรงแรม (ที่จะได้นอนที่เกาหลีเป็นคืนแรกครั้งแรก) ที่ได้คุยไว้นักหนา ว่าเป็นย่าน โน้น ย่านนี้ ชิลๆ ชิคๆ บลาๆ
ผลสุดท้าย ได้พักโรงแรมที่อยู่ห่างจากโซลเกือบ 85 กม. โดยไกด์ให้เหตุผลว่า เพื่อให้สะดวกในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ที่กำหนดไว้ ... จะหาโซจู โซลแมก ไฮต์ หรือ คาสึ มากระแทกคอ ก็ต้องเดินไปซื้อที่ห้าง ไป-กลับ 1 กม.(ไม่เห็นเหมือนที่แจ้งไว้)
ห้องพักเก่า อาหารเช้าจัดว่าธรรมดาไปนิด (เทียบกับตอนที่ไป ซอรัคฟลอล่า แตกต่างเยอะมากครับ) แต่จะให้ไปร้องเรียนกับใคร
มาไกลขนาดนี้ อย่างเก่งก็ตอบแบบสอบถามว่าไม่ดี ก็เท่านั้นเองครับ แต่ไม่มีผลกับทีมผม (F4) สักเท่าไหร่ เพราะก็ยอมเดินกันนะ
ไป-กลับ 1 กม. ครับ เพื่อไปซื้อหา สิ่งที่ต้องการ มาจัด Mini Party หลีกหนีความเซ็งครับ ^_^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โรงแรม ชื่อนี้ครับ Royal Tourist Hotel
(Hyeonhwa-ri, Anjung-eup,Pyeongtaek-si, Gyeonggi-do,เกาหลีใต้)
https://media.datahc.com/HI127247197.jpg
อยู่ไกลจากโซล มากขนาดนี้
เดินไปซื้อของ รวม 1 กม. ก็เหมือนได้ออกกำลังกายด้วยครับ
จบวันที่ 2 ของการเดินทาง ซึ่งเป็นวันแรกในเกาหลีใต้ ครับ (มีทั้งหมด 5 วัน)
[CR] การไปศึกษาดูงาน (ผลพวง คือ ได้ไปเที่ยว) เกาหลีครั้งแรก (รีวิวฝึกหัด)
เกือบ 2 ปี มาแล้ว ข้อมูลชื่อ สถานที่ อาหาร ฯลฯ อาจคลาดเคลื่อน(เนื่องจากนานมากแล้ว)
หรือผิดพลาดไปบ้าง ก็ขออภัยมาด้วยนะครับ เดี๋ยวจะทยอยแก้ไขรายละเอียดต่อไปครับ
เกริ่นนำนิดนึงนะครับ
ช่วงวันที่ 1-5 เม.ย. 2014 ผมได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานด้านผังเมือง ที่ กรุงโซล เกาหลีใต้ ระยะเวลา 5 วัน 3 คืน
ในการจัดการเรื่องราวการศึกษาดูงานทั้งหมด ผู้จัดฯ ได้ใช้บริการรูปแบบของบริษัททัวร์ โดยจะเป็นผู้ Operated ให้
ทั้ง ตั๋วเครื่องบิน รถ โรงแรม สถานที่ศึกษาดูงาน อาหาร และกิจกรรมต่างๆ รวมถึงโปรแกรมเสริมที่พ่วงท้ายการดูงาน
ผมจำชื่อบริษัทฯ ไม่ได้ รู้แต่ว่าตอนมาประชุม นอกจากเรื่องรายละเอียดในสถานที่ในการศึกษาดูงานแล้ว ทางบริษัทฯ
ยังได้ Present และแจ้งไว้อย่างน่าตื่นเต้น ว่าจะได้พักย่านชิคๆ ของโซล กลางคืนสามารถไปเดินชิลๆ นั่งเล่น ฟังเพลง
ซื้อของฝาก หาของกิน ช๊อปปิ้ง ได้ด้วยครับ แต่สุดท้ายได้พักที่ไหน มาคอยติดตามกันครับ งานนี้มีหักมุม(ดื้อๆ) ครับ
วันที่ 1
นัดหมาย เวลา 20.00 น. ท่าอากาศยาน "สุวรรณภูมิ" (เคยมาใช้บริการเมื่อปี 2007 ช่วงสนามบินเพิ่งเปิดใหม่ๆ ได้มีโอกาส
บินไปศึกษาดูงานด้านผังเมือง ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ณ ตอนนั้น อะไรก็สวยงามดูดี สะอาดตาไปทั้งหมดครับ แต่ตอนนี้
หลายๆ สิ่ง ควรจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ เอาเป็นว่าไม่พูดถึงดีกว่าครับ) แต่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการยังหนาแน่นเช่นเคยครับ
ไป ตปท. รอบนี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก สาเหตุหลายข้อครับ
1. จะได้มีโอกาสนั่งเจ้าป้าการบินไทย(Inter) เป็นครั้งแรก WoW! เคยอ่านรีวิว แต่พอจะได้นั่งจริงๆ เลยแอบตื่นเต้น
กลัวจะเป็นบ้านนอกเข้ากรุง ทำตัว เงอะๆ งะๆ (ก็คนมันตื่นเต้น) ปี 2007 ได้นั่ง Srilankan Airlines บริการใช้ได้ครับ
แต่แอร์จะตัวบึ๊กบั๊กไปไหนฮ่ะ ขอน่ารักๆ สวยๆ หุ่นดีๆ หน่อยก็ไม่ได้ หุๆๆ ตอนนั้นเลยรู้สึกเฉยๆ ครับ)
2. จะได้เหยียบแผ่นดินเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก ตม. จะเรียกเข้าห้องเย็นมั๊ย ยิ่ง เงอะๆ งะๆ อยู่ (ตามข้อ 1. ครับ 555)
3. จะได้เจอสาวเกาหลี ( พอดีผมเป็นติ่งนักร้องเกาหลี I.U. ^_^ )
ข้อมูลไฟลต์บิน เบื้องต้นนะครับ
- สายการบิน Thai Airways
- TG 656
- Boeing 777-200
- อากาศยาน นาม " สุพรรณบุรี " (เก่าหน่อย แต่โอเคมากครับ)
- ช่วงเวลา 23.30(ไทย) - 07.00 (เกาหลี) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงครับ)
- บนเคบิน พอเครื่องได้ระดับ เสริฟเครื่องดื่ม+ของว่าง จากนั้นปิดไฟ ก่อน Landing 1.5 ชั่วโมง เริ่มเสริฟอาหารเช้า ผมเลือกเมนูปลาครับ
- บริการดีสมชื่อการบินไทยครับ(ครั้งนี้ที่ประทับใจมากที่สุด เห็นจะเป็นสายการบินที่เลือกใช้นี่หล่ะครับ)
.............................................................................................................................................................
วันที่ 2
เครื่องบิน B777 สุดล้ำ พาเราบินข้ามระยะทาง 3,500 กม. โดยใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง 30 นาที เท่านั้น (เพราะมีลมส่งท้าย)
ณ ท่าอากาศยาน "อินชอน" ... คุณ "สุพรรณบุรี" ก็พาคณะของผม Landing และ Touch Down รันเวย์ นุ่มนวลและปลอดภัย
เป็นธรรมดาของสายการบินที่ไม่ใช่เจ้าถิ่น ที่จะต้องมาจอดเทียบงวง ณ Terminal 2 แล้วผู้โดยสารขาเข้าจึงลงไปนั่งรถไฟใต้ดิน
เพื่อไปที่ด่าน ตม. ณ Terminal 1 ครับ ระหว่างเดินเราก็แอบส่องอากาศยานอื่น ที่มาอวดโฉมกับเราในยามเช้า เห็นไกลๆ โน่น..
Terminal 1 ฝันไว้ว่า สักวันฉันจะบินมาลงที่นั่นให้ได้ ไม่ KE ก็ต้องเป็น OZ (ปลายปี 2014 ได้นั่ง OZ ลง Teminal 1 จริงๆ ครับ)
ถ้า Review นี้ พอจะไปวัดไปวาได้ เดี๋ยวคลอดรีวิว "ไปเกาหลีครั้งที่ 2 By OZ" และ "พาครอบครัวเที่ยวเกาะเจจู By ZE" อีก 2 ครับ
จังหวัดแรกที่เราแวะ(ก่อนได้ดูงานจริงๆ จังๆ) ก็คือ จังหวัดวอลมิ หรือ วอลมิโด ครับ สถานที่แรกคือ หมู่บ้านคนจีน หรือ China Town
ที่มีพิพิธภัณฑ์ให้ได้เยี่ยมชม วิถีชีวิต และสารพัดมาม่า ที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ จาจางเหมี่ยว แต่ไปเช้าเกินไป ไม่มีใครเปิดร้านให้ได้ชิมครับ
มาที่นี่ เพื่อ...แน่นอนครับเป็นการรอเวลาให้ถึงอาหารเที่ยงครับ (ตามวิถีของการเที่ยวรูปแบบบริษัททัวร์) ผมสัมผัสได้ว่ามันเป็นเช่นนั้น
เอ้า....ไม่ว่ากัน ไหนก็มาแล้ว ใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ให้คุ้มก็แล้วกันนะครับ
หมดเวลาเรียนรู้วัฒนธรรมจีน ได้เวลาทานอาหารอาหารกลางวันแล้วครับ เมนูวันนี้ ชาบู ชาบู
พร้อมเครื่องเคียงสไตล์เกาหลี ร้านที่ไปทานอาหารกลางวัน อยู่ติดทะเลวอลมิครับ หน้าร้านเป็นลานกว้าง
และเป็นทางรถไฟ โมโนเรล (สวนสนุก) ที่วิ่งวนรอบเกาะวอลมิโดครับ
เครื่องเคียงที่ประทับใจที่สุด สุดติ่งในบรรดากิมจิ ที่ทานตลอดทริป คงเป็นถ้วยนี้ครับ "กิมจิปลาหมึก"
กินอิ่มแล้วก็เดินย่อยอาหาร รอเวลาที่จะไปขึ้น "หอคอยวอลมิ" เพื่อชมวิวเมืองนี้จากมุมสูงครับ
ย่านนี้ถ้าเป็นช่วงค่ำจะคึกคักมากครับ เพราะมีทั้งร้านอาหาร และสวนสนุก หลากหลายให้เดินเที่ยวกัน
ของกินที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี พวกสตรอเบอรี่ หนวดหมึกยักษ์ย่าง ข้าวโพดยักษ์ ฯลฯ มีขายที่นี่
ราคาไม่แพงครับ สามารถเลือกชิมกันได้ตามใจชอบครับ
ดอกซากุระเกาหลี ที่ปรารถนาจะได้ชมกัน ก็ มีให้เห็นบ้างแล้วในช่วงเวลานี้ครับ
ได้เวลาเดินขึ้นเขา ที่เป็นที่ตั้งหอคอยวอลมิ กันแล้วครับ ระยะทางเบาะๆ แค่ 1.2 กม. เองครับ
อีก 1 ความประทับใจ ในสถานที่เกือบทุกแห่งของเกาหลีใต้ ก็คือ ร้านกาแฟ ครับ ชิล ชิค รสชาดดี ครับ
นั่งจิบกาแฟ "คาราเมล มัคคิอาโต" บนหอคอย ชมวิว เมืองท่าเรือ แห่งนี้ มันก็ฟินอยู่นะ ผมว่า
ที่เห็นชิงช้าสวรรค์ ไกลๆ โน่น ก็ คือ ย่านร้านอาหารที่ ไปนั่งทานมาเมื่อตอนกลางวันครับ
สะพานแขวน(คู่) ที่มีชื่อเสียง ที่เป็นสัญลักษณ์ที่น่าประทับใจต่อนักท่องเที่ยว ที่เดินทางออกจากสนามบินอินชอน ครับ
อีกโปรแกรม ช่วงท้าย ในวันที่ 2 แปลกใหม่ไม่เหมือนใครแน่นอนครับ "โรงเรียนสอนทำช็อคโกแล็ต"
เริ่มลงมือทำเองครับ ช่วงนั้น MH370 เพิ่งหายไปใหม่ๆ ไว้อาลัยกันสักนิดครับ
ทำเสร็จ ให้ Ice Pack ห่อให้เย็นๆ เอาไว้กลับไปทานที่โรงแรมด้วยครับ
อาจารย์สาวๆ ชาวเกาหลี ออกมาส่งขึ้นรถครับ
ปิดท้ายวันนี้ ด้วยอาหารมื้อเย็น จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าอร่อยครับ คือทางไกด์ พี่แกก็จะเตรียมเครื่องปรุง
พวกพันท้าย ฯลฯ จากไทยไปด้วยครับเผื่อใครทานอาหารเกาหลีไม่ได้ แต่ผมว่าทานอาหารรสชาดแบบ Original
จะได้บรรยากาศเกาหลีแบบเนื้อแท้ครับ อาหารเค้าอร่อยโดยไม่ต้องเติมอะไรเลยครับ ออกจืด แต่กลมกล่อมมาก
กิมจิและเครื่องเคียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านนะครับ เพราะเค้าจะมีสูตรของตัวเองครับ
จบวันที่ 2 เข้าโรงแรม (ที่จะได้นอนที่เกาหลีเป็นคืนแรกครั้งแรก) ที่ได้คุยไว้นักหนา ว่าเป็นย่าน โน้น ย่านนี้ ชิลๆ ชิคๆ บลาๆ
ผลสุดท้าย ได้พักโรงแรมที่อยู่ห่างจากโซลเกือบ 85 กม. โดยไกด์ให้เหตุผลว่า เพื่อให้สะดวกในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ที่กำหนดไว้ ... จะหาโซจู โซลแมก ไฮต์ หรือ คาสึ มากระแทกคอ ก็ต้องเดินไปซื้อที่ห้าง ไป-กลับ 1 กม.(ไม่เห็นเหมือนที่แจ้งไว้)
ห้องพักเก่า อาหารเช้าจัดว่าธรรมดาไปนิด (เทียบกับตอนที่ไป ซอรัคฟลอล่า แตกต่างเยอะมากครับ) แต่จะให้ไปร้องเรียนกับใคร
มาไกลขนาดนี้ อย่างเก่งก็ตอบแบบสอบถามว่าไม่ดี ก็เท่านั้นเองครับ แต่ไม่มีผลกับทีมผม (F4) สักเท่าไหร่ เพราะก็ยอมเดินกันนะ
ไป-กลับ 1 กม. ครับ เพื่อไปซื้อหา สิ่งที่ต้องการ มาจัด Mini Party หลีกหนีความเซ็งครับ ^_^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยู่ไกลจากโซล มากขนาดนี้
เดินไปซื้อของ รวม 1 กม. ก็เหมือนได้ออกกำลังกายด้วยครับ
จบวันที่ 2 ของการเดินทาง ซึ่งเป็นวันแรกในเกาหลีใต้ ครับ (มีทั้งหมด 5 วัน)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น