การนับจำนวนดาวเคราะห์ล่าสุดเสนอว่ามีดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอยู่ประมาณ 700 quintillion (10
18)ในเอกภพที่สังเกตได้ (observable universe) ส่วนใหญ่แล้วมีความแตกต่างอย่างมากจากโลกของเรา
กว่า 400 ปีที่แล้ว ที่นักวิทยาศาสตร์ในยุคเรอเนสซองซ์ นิโคลัส โคเปอนิคัส ได้ลดความสำคัญของเราลงไปแทบไม่เหลือ โดยแสดงให้เห็นว่าดาวเคราะห์ของเราไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะ ทุกๆครั้งที่เกิดการปฎิวัติทางวิทยาศาสตร์ ตำแหน่งที่มีความพิเศษอื่นๆในเอกภพที่มนุษยชาติยึดถือกันมาก็ถูกลดทอนลงไปอีก ซึ่งเปิดเผยให้เห็นความจริงที่สปีชีส์ของเรานั้นเป็นเพียงฝุ่นผงที่เล็กที่สุดบนดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ การคำนวณครั้งล่าสุดของจำนวนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะเสนอว่า โลกเป็นเพียงหนึ่งในดาวเคราะห์ 700 ล้าน ล้าน ล้าน ดวงในเอกภพที่สังเกตได้ทั้งหมด แต่อายุโดยเฉลี่ยของดาวเคราะห์เหล่านี้ -มากกว่าอายุของโลก- และตำแหน่งโดยปกติของพวกมัน -ในกาแล็กซี่ที่แทบไม่เหมือนกาแล็กซี่ทางช้างเผือกเลย- อาจทำให้หลักการของโคเปอร์นิคัสต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
http://www.scientificamerican.com/article/exoplanet-census-suggests-earth-is-special-after-all/
จริงๆแล้วโลกเป็นดาวเคราะห์ที่มีความพิเศษ
กว่า 400 ปีที่แล้ว ที่นักวิทยาศาสตร์ในยุคเรอเนสซองซ์ นิโคลัส โคเปอนิคัส ได้ลดความสำคัญของเราลงไปแทบไม่เหลือ โดยแสดงให้เห็นว่าดาวเคราะห์ของเราไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะ ทุกๆครั้งที่เกิดการปฎิวัติทางวิทยาศาสตร์ ตำแหน่งที่มีความพิเศษอื่นๆในเอกภพที่มนุษยชาติยึดถือกันมาก็ถูกลดทอนลงไปอีก ซึ่งเปิดเผยให้เห็นความจริงที่สปีชีส์ของเรานั้นเป็นเพียงฝุ่นผงที่เล็กที่สุดบนดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ การคำนวณครั้งล่าสุดของจำนวนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะเสนอว่า โลกเป็นเพียงหนึ่งในดาวเคราะห์ 700 ล้าน ล้าน ล้าน ดวงในเอกภพที่สังเกตได้ทั้งหมด แต่อายุโดยเฉลี่ยของดาวเคราะห์เหล่านี้ -มากกว่าอายุของโลก- และตำแหน่งโดยปกติของพวกมัน -ในกาแล็กซี่ที่แทบไม่เหมือนกาแล็กซี่ทางช้างเผือกเลย- อาจทำให้หลักการของโคเปอร์นิคัสต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
http://www.scientificamerican.com/article/exoplanet-census-suggests-earth-is-special-after-all/