ต่อเนื่องจากกระทู้แรก แบกเป้เที่ยวแดนจิงโจ้ 6 วัน 2 เมือง Melbourne & Sydney ที่
http://pantip.com/topic/34703077
และ ทริปวันที่สอง เที่ยว Great Ocean Road ที่
http://pantip.com/topic/34766979
เช้านี้เราตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี 4 กว่าๆ นับวันยิ่งตื่นเข้าขึ้นทุกวัน ตื่นเช้าแค่ไหน เราก็ยังยิ้มสู้ได้เสมอ วันนี้เราจะ GO TO SYDNEY กันแล้ว เย้^^
รถ Shuttle ของ Star Bus พาเรามาส่งที่สนามบินเวลา 6.45 รับกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในสนามบิน รู้สึกโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่เราไม่ได้วางแผนประหยัดค่าเดินทางด้วยสายการบิน Low Cost ไม่งั้นเราคงต้องต่อคิวยาวเป็นชั่วโมงแน่ๆ อาจถึงขึ้นตกเครื่องกันได้เลยทีเดียว ^^
เราเดินผ่านแถวคิวยาวๆ เพื่อไปเช็คอินของ Qantas ซึ่งทันสมัยมากด้วยการให้เช็คอินอัตโนมัติด้วยตัวเอง เสร็จแล้วก็ขึ้นเครื่องเตรียมเดินทางกันเลย
ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เวลาประมาณ 9.15 น. เราก็มาถึงสนามบินหลักของ Sydney สนามบินแห่งนี้ชื่อว่า Kingsford Smith
ก่อนจะเดินทางเข้าตัวเมืองซิดนีย์ มาทำความรู้จักเมืองนี้กันซักนิดนึงก่อน
ซิดนีย์ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Harbour City เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุด และมีความเป็นชุมชนเมืองมากที่สุดของประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองหลวงของรัฐ New South Wales มีประชากรประมาณ 4.8 ล้านคน
เมืองซิดนีย์ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในปี คศ.1770 โดยนักเดินเรือชาวอังกฤษ Captain James Cook ซึ่งได้ล่องเรือเข้ามาที่ Botany Bay หลังจากนั้นอีก 18 ปี ถึงจะมีกองทัพเรือเข้ามาถึงเป็นครั้งแรกในปี 1788 โดยความควบคุมของ Governor Arthur Phillip ขณะนั้น Phillip พบว่า Botany Bay ไม่เป็นที่น่าประทับใจ จึงสั่งกองเรือเดินทางขึ้นเหนือ และยกพลขึ้นบกที่ Sydney Cove บนอ่าวซิดนีย์นั่นเอง ขณะนั้นเค้าตั้งชื่ออาณานิคมแห่งใหม่ว่า "New Albion" ซี่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "Sydney" ตามชื่อของ Thomas Townshend, 1st Viscount Sydney ซึ่งดำรงตำแหน่ง British Home Secretary ในขณะนั้น
เมืองซิดนีย์ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยตัวอ่าวซิดนีย์ โดยแบ่งเป็นซิดนีย์ทางด้านเหนือและด้านใต้ ทั้งสองฝั่งเชื่อมกันด้วยสะพาน Harbour Bridge และอุโมงค์ใต้น้ำ ทางด้านเหนือเป็นพื้นที่เขตธุรกิจและที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวและน่าสนใจส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านใต้
ซึ่งประกอบไปด้วยอ่าวซิดนีย์ The Rocks และ Circular Quay ทางด้านเหนือ สถานีรถไฟหลัก Central Station ทางด้านใต้ อ่าว Darling Harbour ทางด้านตะวันตก และสวนสาธารณะสำคัญหลายแห่งทางด้านตะวันออก

การเดินทางในเมืองซิดนีย์สะดวกสบายด้วยรถไฟหลายสาย

ที่สะดวกไม่แพ้กัน และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาจจะมากกว่ารถไฟด้วยซ้ำ คือเส้นทางเดินเรือ Ferry ซึ่งสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆหลายแห่งได้โดยตรง

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆนอกเหนือจากที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้ดังนี้
กลุ่มที่ 1 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมโดยรอบ Sydney Harbour ได้แก่ Opera House, Harbour Bridge, The Rocks, McMahon’s Point, Mrs.Macquaries Chair, Taronga Zoo ฯลฯ
กลุ่มที่ 2 กลุ่มสถานที่ในตัวเมือง สำหรับคนรักความเป็นเมือง ชมสถาปัตยกรรมหลากหลายสมัย ควบคู่ไปกับการ Shopping อาทิเช่น
- อาคารสมัยเก่า Sydney Town Hall ควบคู่ไปกับ Sydney Tower อาคารสมัยใหม่ที่สูงที่สุดในออสเตรเลีย
- ย่าน China Town และ Thai Town
- ย่าน Shopping บริเวณถนน Market St. และ Elizabeth St. ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างดัง David Jones หรือย่านถนน Pitt St. ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Myer Mall นอกจากนั้นยังมีห้างชื่อดัง Queen Victoria Building
กลุ่มที่ 3 สถานที่เที่ยวชมธรรมชาติย่านชานเมืองและนอกเมือง เช่น หาด Bondi ชื่อดัง และ อุทยานแห่งชาติ Blue Mountain
นอกจากนี้ ซิดนีย์ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆอีกมากมาย อาทิเช่น การเข้าชม Maritime Museum และ Aquarium ย่าน Darling Harbour หรือการเดินบนโครงสร้างสะพาน Harbour Bridge การชมพลุ Count Down วันขึ้นปีใหม่ การนั่งเรือไปชมปลาวาฬตัวเป็นๆ และการทานอาหารทะเลรสเยี่ยมในร้านอาหารริมอ่าว เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า ซิดนีย์มีกิจกรรมที่น่าสนุกและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจำนวนมาก พอได้ทราบข้อมูลคร่าวๆกันแล้ว ก็เข้าเมืองไปเที่ยวกันดีกว่า
เราเดินทางเข้าเมืองโดยใช้รถไฟสายสีเขียวมุ่งหน้าไป City Circle โดยไปลงที่สถานี Central Station ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟแทบทุกสาย รวมถึงรถ Light Rail ด้วยเราซื้อตั๋วรถไฟที่สนามบินเลย โดยได้ตั๋วมา 2 ใบ เป็นตั๋วกระดาษมีแถบแม่เหล็กใบนึงเป็นตั๋วใช้เข้าออกประตูของสนามบิน อีกใบเป็นตั๋วโดยสารที่ใช้ขึ้นได้ทั้งรถไฟ Light Rail และรถเมลล์ ซึ่งเราจะใช้ตลอดทุกวันที่อยู่ในซิดนีย์
เราขึ้นรถไฟเวลา 10.25 น. รถไฟที่นี่นั่งสบาย แอร์เย็น มีที่พอวางกระเป๋าใบใหญ่ได้ และที่แปลกคือมี 2 ชั้น !!!
ใช้เวลาเพียง 15 นาที เราก็มาถึงสถานี Central Station รถขบวนนี้ไม่ได้หยุดที่สถานีนี้ ยังวิ่งต่อเข้าไปยัง City Circle และไปหยุดที่สถานี Town Hall เราจึงต้องรีบลง รถเข้าจอดที่ชานชาลาสุดท้าย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะหมายเลข 23 ต้องเดินไกลมากกว่าจะเข้าตัวสถานี
เราถามทางคนแถวนั้นว่าจะไป Darling Harbor ก็ได้รับคำตอบว่าให้ไปขึ้น Light Rail ด้านนอก เดินไปแบบงงๆ ว่าทำไมให้ขึ้นรถไฟที่ข้างนอกสถานี พอมาเห็นก็เข้าใจแล้วว่า Light Rail ก็คือรถรางที่วิ่งอยู่บนถนนนั่นเอง ถึงว่าให้ไปขึ้นรถที่นอกสถานี
ประมาณ 15-20 นาที Light Rail ก็พาเรามาถึง Darling Harbour ซึ่งเราจองที่พักไว้ที่นี่ พอเช็คอินเข้ามาในห้อง เปิดม่านมองวิวนอกหน้าต่างทำให้หายเหนื่อยจากการเดินทางได้ในทันที
ตรงหน้าเป็นอ่าว Darling Harbour ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและแหล่งทานอาหารทะเลของคนซิดนีย์ที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายจาก Sydney Harbour มองข้ามอ่าวไปจะเห็นแนวอาคารสมัยใหม่เป็นแหล่งธุรกิจ โรงแรม ศูนย์การค้า ฯลฯ หอคอยสูงๆที่เห็นคือ Sydney Tower เป็นร้านอาหารและจุดชมวิวของเมือง สะพานด้านหน้าที่เห็นเป็นสะพานคนเดินที่ตัดข้ามอ่าวเชื่อมมาจากถนน Market St. ซึ่งจะช่วยชีวิตเราได้มากในคืนของการ Count Down แหล่งท่องเที่ยวต่างๆรวมถึง Opera House ด้วย จะอยู่อีกฝั่งของอ่าว Darling Harbour หลังกลุ่มตึกนี้แหละ ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลย
เราฝากท้องที่ Harbourside Shopping Center ซึ่งอยู่คั่นกลางระหว่างโรงแรมกับอ่าว Darling Harbour หลังเติมพลังเราก็ออกมาเดินที่ทางเดินเรียบอ่าว เพื่อจะไปขึ้นเรือ Ferry
กลุ่มอาคารสมัยใหม่สะท้อนความทันสมัยของเมืองนี้เป็นอย่างดี
เดินต่อมาอีกหน่อย จะเจอพิพิทธภัณฑ์ทางทะเล หรือ Australian National Maritime Museum ซึ่งมีเรือหลากหลายรูปแบบให้ชมกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรือรบ
เรือยอร์ช
เรือจำลองของกัปตันคุก
เรือรบสมัยก่อน
แม้กระทั่งเรือดับเพลิงก็ยังมี
ภายในอาคารรวมทั้งเรือหลายๆลำให้จ่ายเงินเพื่อเข้าไปชมภายในได้ แต่แค่เพียงเดินชมภายนอกก็ดูกันเพลินแล้ว
และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเรือจริงๆซะที เราเดินมาขึ้นเรือ ferry ที่ท่าเรือ Pyrmont Bay โดยขึ้นเรือสาย F6 เพื่อที่จะไปยังท่าเรือหลักคือ Circular Quay Ferry Terminus
การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในซิดนีย์ส่วนใหญ่จะไปถึงได้ง่ายด้วยเรือ ferry สายต่างๆ ซึ่งการใช้เรืออาจจะสะดวกกว่ารถไฟในบางครั้งด้วยซ้ำ การเดินทางด้วยเรือก็ไม่ยาก เรือทุกสายจะเข้ามาเทียบที่ท่าหลักคือ Circular Quay เราเพียงเลือกเรือที่ไปยังจุดที่ต้องการจะไป ไปรอที่ท่าที่เรือลำนั้นเทียบ เรือแต่ละลำจะมีเวลาออกบอกไว้อย่างชัดเจน สำหรับขากลับก็ไปรอที่ท่าเรือเดียวกับขามา และรอตามเวลาที่แจ้งไว้ที่ท่านั้นๆ เรือแต่ละรอบจะห่างกันประมาณ 15-30 นาที เพราะฉะนั้นต้องกะเวลาที่จะกลับมาขึ้นเรือให้ดี ไม่งั้นจะต้องรอกันพักใหญ่
เรือแล่นไปสัก 15 นาทีก็พาเรามาถึง Milsons Point ซึ่งเป็นท่าเรือที่อยู่ติดสะพาน Harbour Bridge เป็นจุดแรกที่ให้เราได้เห็น Opera House ตัวเป็นๆ
จาก Milsons Point เรือพาเราแล่นรอดใต้สะพาน Harbour Bridge เข้าไปหา Opera House ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนได้สัมผัสความสวยงามใกล้ๆด้านข้าง และเรือก็พาเรามาขึ้นฝั่งที่ Circular Quay
เมื่อมองย้อนหลังไป ด้านซ้ายจะเห็นสะพาน Harbour Bridge และ Milsons Point ที่เราเพิ่งผ่านมา
ด้านขวาจะเห็นด้านหลังของ Opera House ซึ่งเป็นทางเข้าหลักที่เราจะเข้าไปเยี่ยมชมข้างในวันหลัง
เรือ ferry F6 พาเรามาลง Circular Quay ที่ Whatf 5 ระหว่างรอเรือที่จะไป Taronga Zoo (F2) ที่ Wharf 2 ก็เลยเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ
ด้านข้างจะเห็นเรือสำราญขนาดใหญ่จอดอยู่ คือเรือ Voyager of the SEAS เรือคลาส Voyager ซึ่งค่อนข้างใหญ่และใหม่ที่สุดของสายการเดินเรือ RoyalCaribbean รายละเอียดการเดินเรือสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.royalcaribbean.com
รอสักพักเรือ F2 ก็เข้ามา นี่คือหน้าตาของเรือ Ferry ที่จะพาเราไป
เรือพาเราออกไปจาก Circular Quay มุ่งหน้าสู่สวนสัตว์ Taronga Zoo
ระหว่างนั่งเรือก็เก็บภาพบรรยากาศรอบๆไปด้วย ลองเทียบขนาดของเรือ Voyager กับสะพาน Harbour Bridge ดู ^^
ภาพ Opera House มุมมองต่างๆ
ขอทิ้งท้ายภาคแรกของทริปในวันที่สาม ด้วยภาพนี้ครับ เดี๋ยวตอนต่อไปเราไปเที่ยวชมสัตว์น่ารักๆ และหาของกินอร่อยๆกันครับ
ติดตามไปอ่านกันต่อได้ที่นี่ครับ
http://pantip.com/topic/34822793
[CR] ทริปออสเตรเลีย วันที่สาม ตอนแรก ตระเวณทำความคุ้นเคยรอบอ่าวซิดนีย์
และ ทริปวันที่สอง เที่ยว Great Ocean Road ที่ http://pantip.com/topic/34766979
เช้านี้เราตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี 4 กว่าๆ นับวันยิ่งตื่นเข้าขึ้นทุกวัน ตื่นเช้าแค่ไหน เราก็ยังยิ้มสู้ได้เสมอ วันนี้เราจะ GO TO SYDNEY กันแล้ว เย้^^
รถ Shuttle ของ Star Bus พาเรามาส่งที่สนามบินเวลา 6.45 รับกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในสนามบิน รู้สึกโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่เราไม่ได้วางแผนประหยัดค่าเดินทางด้วยสายการบิน Low Cost ไม่งั้นเราคงต้องต่อคิวยาวเป็นชั่วโมงแน่ๆ อาจถึงขึ้นตกเครื่องกันได้เลยทีเดียว ^^
เราเดินผ่านแถวคิวยาวๆ เพื่อไปเช็คอินของ Qantas ซึ่งทันสมัยมากด้วยการให้เช็คอินอัตโนมัติด้วยตัวเอง เสร็จแล้วก็ขึ้นเครื่องเตรียมเดินทางกันเลย
ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เวลาประมาณ 9.15 น. เราก็มาถึงสนามบินหลักของ Sydney สนามบินแห่งนี้ชื่อว่า Kingsford Smith
ก่อนจะเดินทางเข้าตัวเมืองซิดนีย์ มาทำความรู้จักเมืองนี้กันซักนิดนึงก่อน
ซิดนีย์ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Harbour City เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุด และมีความเป็นชุมชนเมืองมากที่สุดของประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองหลวงของรัฐ New South Wales มีประชากรประมาณ 4.8 ล้านคน
เมืองซิดนีย์ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในปี คศ.1770 โดยนักเดินเรือชาวอังกฤษ Captain James Cook ซึ่งได้ล่องเรือเข้ามาที่ Botany Bay หลังจากนั้นอีก 18 ปี ถึงจะมีกองทัพเรือเข้ามาถึงเป็นครั้งแรกในปี 1788 โดยความควบคุมของ Governor Arthur Phillip ขณะนั้น Phillip พบว่า Botany Bay ไม่เป็นที่น่าประทับใจ จึงสั่งกองเรือเดินทางขึ้นเหนือ และยกพลขึ้นบกที่ Sydney Cove บนอ่าวซิดนีย์นั่นเอง ขณะนั้นเค้าตั้งชื่ออาณานิคมแห่งใหม่ว่า "New Albion" ซี่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "Sydney" ตามชื่อของ Thomas Townshend, 1st Viscount Sydney ซึ่งดำรงตำแหน่ง British Home Secretary ในขณะนั้น
เมืองซิดนีย์ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยตัวอ่าวซิดนีย์ โดยแบ่งเป็นซิดนีย์ทางด้านเหนือและด้านใต้ ทั้งสองฝั่งเชื่อมกันด้วยสะพาน Harbour Bridge และอุโมงค์ใต้น้ำ ทางด้านเหนือเป็นพื้นที่เขตธุรกิจและที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวและน่าสนใจส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านใต้
ซึ่งประกอบไปด้วยอ่าวซิดนีย์ The Rocks และ Circular Quay ทางด้านเหนือ สถานีรถไฟหลัก Central Station ทางด้านใต้ อ่าว Darling Harbour ทางด้านตะวันตก และสวนสาธารณะสำคัญหลายแห่งทางด้านตะวันออก
การเดินทางในเมืองซิดนีย์สะดวกสบายด้วยรถไฟหลายสาย
ที่สะดวกไม่แพ้กัน และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาจจะมากกว่ารถไฟด้วยซ้ำ คือเส้นทางเดินเรือ Ferry ซึ่งสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆหลายแห่งได้โดยตรง
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆนอกเหนือจากที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้ดังนี้
กลุ่มที่ 1 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมโดยรอบ Sydney Harbour ได้แก่ Opera House, Harbour Bridge, The Rocks, McMahon’s Point, Mrs.Macquaries Chair, Taronga Zoo ฯลฯ
กลุ่มที่ 2 กลุ่มสถานที่ในตัวเมือง สำหรับคนรักความเป็นเมือง ชมสถาปัตยกรรมหลากหลายสมัย ควบคู่ไปกับการ Shopping อาทิเช่น
- อาคารสมัยเก่า Sydney Town Hall ควบคู่ไปกับ Sydney Tower อาคารสมัยใหม่ที่สูงที่สุดในออสเตรเลีย
- ย่าน China Town และ Thai Town
- ย่าน Shopping บริเวณถนน Market St. และ Elizabeth St. ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างดัง David Jones หรือย่านถนน Pitt St. ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Myer Mall นอกจากนั้นยังมีห้างชื่อดัง Queen Victoria Building
กลุ่มที่ 3 สถานที่เที่ยวชมธรรมชาติย่านชานเมืองและนอกเมือง เช่น หาด Bondi ชื่อดัง และ อุทยานแห่งชาติ Blue Mountain
นอกจากนี้ ซิดนีย์ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆอีกมากมาย อาทิเช่น การเข้าชม Maritime Museum และ Aquarium ย่าน Darling Harbour หรือการเดินบนโครงสร้างสะพาน Harbour Bridge การชมพลุ Count Down วันขึ้นปีใหม่ การนั่งเรือไปชมปลาวาฬตัวเป็นๆ และการทานอาหารทะเลรสเยี่ยมในร้านอาหารริมอ่าว เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า ซิดนีย์มีกิจกรรมที่น่าสนุกและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจำนวนมาก พอได้ทราบข้อมูลคร่าวๆกันแล้ว ก็เข้าเมืองไปเที่ยวกันดีกว่า
เราเดินทางเข้าเมืองโดยใช้รถไฟสายสีเขียวมุ่งหน้าไป City Circle โดยไปลงที่สถานี Central Station ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟแทบทุกสาย รวมถึงรถ Light Rail ด้วยเราซื้อตั๋วรถไฟที่สนามบินเลย โดยได้ตั๋วมา 2 ใบ เป็นตั๋วกระดาษมีแถบแม่เหล็กใบนึงเป็นตั๋วใช้เข้าออกประตูของสนามบิน อีกใบเป็นตั๋วโดยสารที่ใช้ขึ้นได้ทั้งรถไฟ Light Rail และรถเมลล์ ซึ่งเราจะใช้ตลอดทุกวันที่อยู่ในซิดนีย์
เราขึ้นรถไฟเวลา 10.25 น. รถไฟที่นี่นั่งสบาย แอร์เย็น มีที่พอวางกระเป๋าใบใหญ่ได้ และที่แปลกคือมี 2 ชั้น !!!
ใช้เวลาเพียง 15 นาที เราก็มาถึงสถานี Central Station รถขบวนนี้ไม่ได้หยุดที่สถานีนี้ ยังวิ่งต่อเข้าไปยัง City Circle และไปหยุดที่สถานี Town Hall เราจึงต้องรีบลง รถเข้าจอดที่ชานชาลาสุดท้าย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะหมายเลข 23 ต้องเดินไกลมากกว่าจะเข้าตัวสถานี
เราถามทางคนแถวนั้นว่าจะไป Darling Harbor ก็ได้รับคำตอบว่าให้ไปขึ้น Light Rail ด้านนอก เดินไปแบบงงๆ ว่าทำไมให้ขึ้นรถไฟที่ข้างนอกสถานี พอมาเห็นก็เข้าใจแล้วว่า Light Rail ก็คือรถรางที่วิ่งอยู่บนถนนนั่นเอง ถึงว่าให้ไปขึ้นรถที่นอกสถานี
ประมาณ 15-20 นาที Light Rail ก็พาเรามาถึง Darling Harbour ซึ่งเราจองที่พักไว้ที่นี่ พอเช็คอินเข้ามาในห้อง เปิดม่านมองวิวนอกหน้าต่างทำให้หายเหนื่อยจากการเดินทางได้ในทันที
ตรงหน้าเป็นอ่าว Darling Harbour ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและแหล่งทานอาหารทะเลของคนซิดนีย์ที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายจาก Sydney Harbour มองข้ามอ่าวไปจะเห็นแนวอาคารสมัยใหม่เป็นแหล่งธุรกิจ โรงแรม ศูนย์การค้า ฯลฯ หอคอยสูงๆที่เห็นคือ Sydney Tower เป็นร้านอาหารและจุดชมวิวของเมือง สะพานด้านหน้าที่เห็นเป็นสะพานคนเดินที่ตัดข้ามอ่าวเชื่อมมาจากถนน Market St. ซึ่งจะช่วยชีวิตเราได้มากในคืนของการ Count Down แหล่งท่องเที่ยวต่างๆรวมถึง Opera House ด้วย จะอยู่อีกฝั่งของอ่าว Darling Harbour หลังกลุ่มตึกนี้แหละ ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลย
เราฝากท้องที่ Harbourside Shopping Center ซึ่งอยู่คั่นกลางระหว่างโรงแรมกับอ่าว Darling Harbour หลังเติมพลังเราก็ออกมาเดินที่ทางเดินเรียบอ่าว เพื่อจะไปขึ้นเรือ Ferry
กลุ่มอาคารสมัยใหม่สะท้อนความทันสมัยของเมืองนี้เป็นอย่างดี
เดินต่อมาอีกหน่อย จะเจอพิพิทธภัณฑ์ทางทะเล หรือ Australian National Maritime Museum ซึ่งมีเรือหลากหลายรูปแบบให้ชมกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรือรบ
เรือยอร์ช
เรือจำลองของกัปตันคุก
เรือรบสมัยก่อน
แม้กระทั่งเรือดับเพลิงก็ยังมี
ภายในอาคารรวมทั้งเรือหลายๆลำให้จ่ายเงินเพื่อเข้าไปชมภายในได้ แต่แค่เพียงเดินชมภายนอกก็ดูกันเพลินแล้ว
และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเรือจริงๆซะที เราเดินมาขึ้นเรือ ferry ที่ท่าเรือ Pyrmont Bay โดยขึ้นเรือสาย F6 เพื่อที่จะไปยังท่าเรือหลักคือ Circular Quay Ferry Terminus
การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในซิดนีย์ส่วนใหญ่จะไปถึงได้ง่ายด้วยเรือ ferry สายต่างๆ ซึ่งการใช้เรืออาจจะสะดวกกว่ารถไฟในบางครั้งด้วยซ้ำ การเดินทางด้วยเรือก็ไม่ยาก เรือทุกสายจะเข้ามาเทียบที่ท่าหลักคือ Circular Quay เราเพียงเลือกเรือที่ไปยังจุดที่ต้องการจะไป ไปรอที่ท่าที่เรือลำนั้นเทียบ เรือแต่ละลำจะมีเวลาออกบอกไว้อย่างชัดเจน สำหรับขากลับก็ไปรอที่ท่าเรือเดียวกับขามา และรอตามเวลาที่แจ้งไว้ที่ท่านั้นๆ เรือแต่ละรอบจะห่างกันประมาณ 15-30 นาที เพราะฉะนั้นต้องกะเวลาที่จะกลับมาขึ้นเรือให้ดี ไม่งั้นจะต้องรอกันพักใหญ่
เรือแล่นไปสัก 15 นาทีก็พาเรามาถึง Milsons Point ซึ่งเป็นท่าเรือที่อยู่ติดสะพาน Harbour Bridge เป็นจุดแรกที่ให้เราได้เห็น Opera House ตัวเป็นๆ
จาก Milsons Point เรือพาเราแล่นรอดใต้สะพาน Harbour Bridge เข้าไปหา Opera House ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนได้สัมผัสความสวยงามใกล้ๆด้านข้าง และเรือก็พาเรามาขึ้นฝั่งที่ Circular Quay
เมื่อมองย้อนหลังไป ด้านซ้ายจะเห็นสะพาน Harbour Bridge และ Milsons Point ที่เราเพิ่งผ่านมา
ด้านขวาจะเห็นด้านหลังของ Opera House ซึ่งเป็นทางเข้าหลักที่เราจะเข้าไปเยี่ยมชมข้างในวันหลัง
เรือ ferry F6 พาเรามาลง Circular Quay ที่ Whatf 5 ระหว่างรอเรือที่จะไป Taronga Zoo (F2) ที่ Wharf 2 ก็เลยเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ
ด้านข้างจะเห็นเรือสำราญขนาดใหญ่จอดอยู่ คือเรือ Voyager of the SEAS เรือคลาส Voyager ซึ่งค่อนข้างใหญ่และใหม่ที่สุดของสายการเดินเรือ RoyalCaribbean รายละเอียดการเดินเรือสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.royalcaribbean.com
รอสักพักเรือ F2 ก็เข้ามา นี่คือหน้าตาของเรือ Ferry ที่จะพาเราไป
เรือพาเราออกไปจาก Circular Quay มุ่งหน้าสู่สวนสัตว์ Taronga Zoo
ระหว่างนั่งเรือก็เก็บภาพบรรยากาศรอบๆไปด้วย ลองเทียบขนาดของเรือ Voyager กับสะพาน Harbour Bridge ดู ^^
ภาพ Opera House มุมมองต่างๆ
ขอทิ้งท้ายภาคแรกของทริปในวันที่สาม ด้วยภาพนี้ครับ เดี๋ยวตอนต่อไปเราไปเที่ยวชมสัตว์น่ารักๆ และหาของกินอร่อยๆกันครับ
ติดตามไปอ่านกันต่อได้ที่นี่ครับ http://pantip.com/topic/34822793