**มือใหม่ กระทู้แรก ผิดผลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ**
แฟนผมได้ดูหนังเรื่อง สามวันสองคืน รัก เลิก เลย แล้วอยากไปบ่างผมเลยตอบตกลง จึงเกิดเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง
เคยได้ยินมาบ่างว่าภูกระดึงเป็นบททดสอบของคู่รักที่ต้องใช้ความอดทนเพื่อที่จะเดินไปให้ถึงจุดหมาย ภูกระดึงถ้ามองจากบนเครื่องบินจะเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นรูปหัวใจ มีคลิปให้ดูอิอิ
https://www.youtube.com/watch?v=rW4q5p8J650 การเดินทางขึ้นไปข้างบนนั้นบอกเลยว่าเหนื่อยสุดๆ 5555 บางคนก็ขึ้นไปถึงจุดหมาย บางคนครึ่งทางก็ถอดใจลงมาก็มี นั้นเป็นบทพิสูจน์ความรักสำหรับผมว่าวันนึงที่เราท้อ เราเหนื่อนมากๆคนที่อยู่ข้างๆเราพาเราไปถึงจุดหมายจะเป็นเธอคนนี้หรือเปล่า อิอิ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ขึ้นตอนแรกจองที่พัก
ตามลิงค์นี้เลยครับ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/reservation.asp ถ้าเข้าไม่ได้ให้หาใน google แล้วพิมว่า จองที่พักอุทยานภูกระดึง
แทปข้างบนจะมีให้เราเลือกว่าจะพักแบบ บ้านเป็นหลัง , เต็น หรือใครที่เอาเต็นไปเองก็ต้องจองจุดกางเต็นก่อน ซึ้งผมเลือกที่จะนอนเต็นเพราะจะได้บรรยากาศ สำหรับการเลือกโซนลองหาดูในเว็ปเพราะที่ผมถ่ายมาอาจไม่ชัดเจน
การเลือกโซนไม่ต้องกังวลเลยครับว่าจะเลือกโซนไหนดี โซนไหนว่างก็เลือกโซนนั้นได้เลยครับ เพราะเมื่อขึ้นไปถึงข้างบนเจ้าหน้าที่จะให้เราเลือกที่พักได้ตามใจชอบ คือไปถึงข้างบนก่อนได้เลือกก่อนเต็นไหนว่างเข้าไปพักได้เลย เลือกเสร็จปริ้นใบชำระเงินนำมาจ่ายที่ธนาคารแล้วเก็บไว้ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่อุทยานภูกระดึง
ขั้นต่อไป จองรถทัวร์
ผมเลือกใช้บริการของบริษัท บขส 999 ตามลิงค์เลยครับ
http://www.busticket.in.th/
เลือกจังหวัดปลายทาง - จังหวัดเลย -
เลือกจุดลงรถ - จุดจอดผานกเค้า - ย้ำ***ผานกเค้า***
ควรจองรอบประมาณ 21:00 - 22:00 เพราะเราจะเดินทางไปถึงผานกเค้าช่วงเช้าพอดีทำให้มีเวลาเดินขึ้นภูเยอะ
แนะนำให้จองแบบ ไป-กลับ เพราะขากลับถึงจะมีให้ซื้อตั๋วตรงร้านเจ๊กิม แต่ต้องเสี่ยงดวงว่ารถจะเต็มจากต้นทางไหมจะมีที่นั่งไหม ดังนั้นแนะนำให้จอง ไป-กลับ
เมื่อทำการจองในอินเตอร์เน็ตแล้วให้นำรหัสไปจ่ายเงินที่เซเว่น แล้วเก็บใบเสร็จดีๆ ถ้าใครจองล่วงหน้านานๆแนะนำให้นำใบเสร็จไปถ่ายเอกสารเก็บไว้เพราะใบเสร็จเซเว่นนานๆตัวหนังสือจะจาง
ของใช้จำเป็น
ไฟฉาย
เสื้อผ้ากันหนาว (ไม่แนะนำกระโปรงหรือกางเกงยีนรัดๆ เพราะจะทำให้เดินทางลำบาก)
รองเท้า (แบบกันลื่น เพราะเส้นทางหินเยอะเดี๋ยวจะลื่นล้ม)
สบู่ แชมพู (แล้วแต่นะครับว่าจะเอาไปหรือไม่เอาไป เพราะมันจะหนาวมากจนไม่ได้ใช้ 555555) แต่ข้างบนมีร้านค้าบริการเครื่องทำน้ำอุ่น
ปลากระป๋อง มาม่า (สำหรับคนที่ไปแบบประหยัดงบจำกัด เพราะกับข้าวข้างบนค่องข้างแพง ปรมาณ60บาท)
ยาทาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ยาประจำตัว
และอื่นๆ
สำหรับโทรศัพท์ จุดที่พักจะมีสัญญาณแค่ของ AIS ค่ายอื่นๆ จะมีสัญญาณตามผาต่างๆ
เตรียมพร้อมกันแล้วเรามาเริ่มเดินทางกันเลย รูปใช้กล้องจากไอโฟน6sอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
มาถึงหมอชิตมองหาจุดจำหน่ายตัว บขส 999 ก่อน
นำใบเสร็จไปยื่นเราก็จะได้ใบนี้มา
ในใบให้ไปชานชาลาที่ 4 เราก็เดินตามป้ายเลย
นั้นไงๆรถจอดกันเต็มเลย

ไม่ต้องตกใจถ้าหมายเลขที่รถในใบที่เค้าเขียนไม่ตรงกับรถ เพราะบางทีอาจเป็นรถที่เค้าเอามาเสริม ให้ดูเลขช่องที่เขียนยในใบว่ารถอยู่ช่องไหน ไม่ชัวให้ถามพนักงานคนขับแถวนั้นได้เลย ที่ผมได้ก็ไม่ตรงเหมือนกัน หน้ารถมีใบติดไว้เลยเห็นพอดี ก่อนขึ้นรถก็อย่าลืมบอกพนักงานว่าลงผานกเค้า

ขึ้นรถมาได้สักพักรถก็แวะรับผู้โดยสารที่รังสิต แล้วเดินทางมาถึงสระบุรีรถจะจอดแวะจุดพักรถให้เราเดินซื้อของกินเผื่อใครหิวประมาณ20นาที รถก็ออกมุ่งตรงไปที่จุดหมายแล้วเราก็นอนหลับกันยาวๆเลยครับ
ใกล้ถึงแล้วๆๆๆๆ แต่คนบางคนยังไม่อยากตื่น 555

ลงจากรถมาถึงประมาณตี4กว่าๆหนาวม๊ากกกกรถคันอื่นๆก็จอดส่งผู้โดยสาร

แล้วเราก็เดินข้ามฝั่งมาทางร้านเจ๊กิมจะหาข้าวกินให้อุ่นๆอิ่มๆสักหน่อย ร้านคนเยอะมากกกกก ร้านเต็มไม่มีที่นั่งเลย


มองซ้ายมองขวา เห็นร้านกาแฟเดินมา20ก้าวถึง

สั่งเครื่องดื่มอุ่นๆมาดับหนาวสักนิด


หันมาเห็นปรอมวักอุณหภูมิ 15องศา คิดในใจข้างล่างหนาวขนาดนี้ขึ้นไปข้างบนคงจะไม่แข็งตายเลยหรอ 555

วิวหน้าร้านเห็นผานกเค้าเลย

นั่งกินกาแฟกันเสร็จ 6โมงก็ล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวไปขึ้นรถสองแถวข้างร้านเจ๊กิม คนละ30บาท 10คนรถออก อากาศตอนนั้งรถหนาวววววมากหน้าชาหมดเลย แต่บรรยากาศดีมาก

นั่งรถมา10นาทีก็ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เย่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

มาถึงเราก็ต่อแถวยื่นใบที่เราจองที่พักเพื่อยืนยันว่าเรามาแล้ว เสียค่าเข้าอุทยานคนละ40บาท

เสร็จแล้วเราก็เดินต่อมาซื้อป้ายติดกระเป๋าเขียนชื่อพร้อมเบอร์โทรสำหรับการบริการลูกหาบ กิโลกรัมละ30บาท แนะนำให้ใช้บริการเพราะแค่ผมถือกระเป๋าเงินกับน้ำ1ขวดเดินขึ้นไปก็จะแย่แล้ว 555

เขียนป้ายชื่อติดกระเป๋าเสร็จแล้วก็ต่อแถวรอลูกหาบชั่งน้ำหนักกระเป๋าเป็นอันเสร็จ สิ่งที่ต้องมีก่อนขึ้น น้ำ1ขวด แล้วอย่าลืมเปลี่ยนชุดลำหรับลุยกันนะครับก่อนขึ้นอย่าลืมไว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกันด้วยนะครับ เดินทางขึ้นเขาได้เลยยยย

9กิโลแฟนผมบอกจิ๊บๆ 555555

อย่าลืมจดเบอร์ไว้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน

100เมตรแรกชิลๆ

แวะพักเป็นบางช่วง

800แรกมีคนงอแงถอดใจไม่อยากไปเพราะเหนื่อย ผมเลยปลอบสักพักว่าไหนๆก็มาขึ้นให้สุดเถอะเค้าเคยได้ยินว่าคนที่ขึ้นภูกระดึงน้ำหนักลง5กิโลเลยนะ แฟนผมเลยมีแรงเดินต่อเพราะคำว่าน้ำหนักลด 5กิโล

ในที่สุดเราก็มาถึงซำแฮกดีใจมาก 55555 ถ้าผ่านอันนี้ไปได้ต่อไปสบายแล้วครับ มั่งนะ แวะถ่ายรูปกับสักนิด


พักกินน้ำกันข้าวที่ซำแฮกนี่แหละร้านค้ามีให้เลือกมากมาย

แล้วเราก็เดินทางกันต่อ

พักเป็นระยะๆ

คู่รักมานั่งพักกันเห็นแล้วหว๊านๆ

ถึงจุดชมวิว

ถึงซำแคร่แล้ว ควรนั่งพักกินข้าวเติมพลังตรงจุดนี้เพราะทางต่อจากนี้โหดมากๆ

กินเสร็จแล้วเดินทางต่อเลยครับผ่ายจุดนี้ไปเราจะถึงหลังแป ซึ้งถือเป็นที่สุดท้ายในการเดินขึ้นเขา

ลุงสุดยอดมาก

ดูน้องร่าเริงมากฟิตสุดๆ เราสู้ไม่ได้เลย555

ใกล้ถึงแล้วๆๆๆๆๆๆๆ

ถึงแล้ววววว แฟนผมดีใจสุดๆ 5555

เส้นทางที่เราต้องเดินทางราบต่ออีก3.5กิโล
เดี๋ยวมาต่อนะครับพักผ่อนสักแปบ
กรุงเทพ-ภูกระดึง Backpacker 18-21 ธค.58 รีวิวการเดินทางแบบละเอียด ไป-กลับ
แฟนผมได้ดูหนังเรื่อง สามวันสองคืน รัก เลิก เลย แล้วอยากไปบ่างผมเลยตอบตกลง จึงเกิดเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง
เคยได้ยินมาบ่างว่าภูกระดึงเป็นบททดสอบของคู่รักที่ต้องใช้ความอดทนเพื่อที่จะเดินไปให้ถึงจุดหมาย ภูกระดึงถ้ามองจากบนเครื่องบินจะเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นรูปหัวใจ มีคลิปให้ดูอิอิ https://www.youtube.com/watch?v=rW4q5p8J650 การเดินทางขึ้นไปข้างบนนั้นบอกเลยว่าเหนื่อยสุดๆ 5555 บางคนก็ขึ้นไปถึงจุดหมาย บางคนครึ่งทางก็ถอดใจลงมาก็มี นั้นเป็นบทพิสูจน์ความรักสำหรับผมว่าวันนึงที่เราท้อ เราเหนื่อนมากๆคนที่อยู่ข้างๆเราพาเราไปถึงจุดหมายจะเป็นเธอคนนี้หรือเปล่า อิอิ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ขึ้นตอนแรกจองที่พัก
ตามลิงค์นี้เลยครับ http://www.dnp.go.th/parkreserve/reservation.asp ถ้าเข้าไม่ได้ให้หาใน google แล้วพิมว่า จองที่พักอุทยานภูกระดึง
แทปข้างบนจะมีให้เราเลือกว่าจะพักแบบ บ้านเป็นหลัง , เต็น หรือใครที่เอาเต็นไปเองก็ต้องจองจุดกางเต็นก่อน ซึ้งผมเลือกที่จะนอนเต็นเพราะจะได้บรรยากาศ สำหรับการเลือกโซนลองหาดูในเว็ปเพราะที่ผมถ่ายมาอาจไม่ชัดเจน
การเลือกโซนไม่ต้องกังวลเลยครับว่าจะเลือกโซนไหนดี โซนไหนว่างก็เลือกโซนนั้นได้เลยครับ เพราะเมื่อขึ้นไปถึงข้างบนเจ้าหน้าที่จะให้เราเลือกที่พักได้ตามใจชอบ คือไปถึงข้างบนก่อนได้เลือกก่อนเต็นไหนว่างเข้าไปพักได้เลย เลือกเสร็จปริ้นใบชำระเงินนำมาจ่ายที่ธนาคารแล้วเก็บไว้ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่อุทยานภูกระดึง
ขั้นต่อไป จองรถทัวร์
ผมเลือกใช้บริการของบริษัท บขส 999 ตามลิงค์เลยครับ http://www.busticket.in.th/
เลือกจังหวัดปลายทาง - จังหวัดเลย -
เลือกจุดลงรถ - จุดจอดผานกเค้า - ย้ำ***ผานกเค้า***
ควรจองรอบประมาณ 21:00 - 22:00 เพราะเราจะเดินทางไปถึงผานกเค้าช่วงเช้าพอดีทำให้มีเวลาเดินขึ้นภูเยอะ
แนะนำให้จองแบบ ไป-กลับ เพราะขากลับถึงจะมีให้ซื้อตั๋วตรงร้านเจ๊กิม แต่ต้องเสี่ยงดวงว่ารถจะเต็มจากต้นทางไหมจะมีที่นั่งไหม ดังนั้นแนะนำให้จอง ไป-กลับ
เมื่อทำการจองในอินเตอร์เน็ตแล้วให้นำรหัสไปจ่ายเงินที่เซเว่น แล้วเก็บใบเสร็จดีๆ ถ้าใครจองล่วงหน้านานๆแนะนำให้นำใบเสร็จไปถ่ายเอกสารเก็บไว้เพราะใบเสร็จเซเว่นนานๆตัวหนังสือจะจาง
ของใช้จำเป็น
ไฟฉาย
เสื้อผ้ากันหนาว (ไม่แนะนำกระโปรงหรือกางเกงยีนรัดๆ เพราะจะทำให้เดินทางลำบาก)
รองเท้า (แบบกันลื่น เพราะเส้นทางหินเยอะเดี๋ยวจะลื่นล้ม)
สบู่ แชมพู (แล้วแต่นะครับว่าจะเอาไปหรือไม่เอาไป เพราะมันจะหนาวมากจนไม่ได้ใช้ 555555) แต่ข้างบนมีร้านค้าบริการเครื่องทำน้ำอุ่น
ปลากระป๋อง มาม่า (สำหรับคนที่ไปแบบประหยัดงบจำกัด เพราะกับข้าวข้างบนค่องข้างแพง ปรมาณ60บาท)
ยาทาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ยาประจำตัว
และอื่นๆ
สำหรับโทรศัพท์ จุดที่พักจะมีสัญญาณแค่ของ AIS ค่ายอื่นๆ จะมีสัญญาณตามผาต่างๆ
เตรียมพร้อมกันแล้วเรามาเริ่มเดินทางกันเลย รูปใช้กล้องจากไอโฟน6sอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
มาถึงหมอชิตมองหาจุดจำหน่ายตัว บขส 999 ก่อน
นำใบเสร็จไปยื่นเราก็จะได้ใบนี้มา
ในใบให้ไปชานชาลาที่ 4 เราก็เดินตามป้ายเลย
นั้นไงๆรถจอดกันเต็มเลย
ไม่ต้องตกใจถ้าหมายเลขที่รถในใบที่เค้าเขียนไม่ตรงกับรถ เพราะบางทีอาจเป็นรถที่เค้าเอามาเสริม ให้ดูเลขช่องที่เขียนยในใบว่ารถอยู่ช่องไหน ไม่ชัวให้ถามพนักงานคนขับแถวนั้นได้เลย ที่ผมได้ก็ไม่ตรงเหมือนกัน หน้ารถมีใบติดไว้เลยเห็นพอดี ก่อนขึ้นรถก็อย่าลืมบอกพนักงานว่าลงผานกเค้า
ขึ้นรถมาได้สักพักรถก็แวะรับผู้โดยสารที่รังสิต แล้วเดินทางมาถึงสระบุรีรถจะจอดแวะจุดพักรถให้เราเดินซื้อของกินเผื่อใครหิวประมาณ20นาที รถก็ออกมุ่งตรงไปที่จุดหมายแล้วเราก็นอนหลับกันยาวๆเลยครับ
ใกล้ถึงแล้วๆๆๆๆ แต่คนบางคนยังไม่อยากตื่น 555
ลงจากรถมาถึงประมาณตี4กว่าๆหนาวม๊ากกกกรถคันอื่นๆก็จอดส่งผู้โดยสาร
แล้วเราก็เดินข้ามฝั่งมาทางร้านเจ๊กิมจะหาข้าวกินให้อุ่นๆอิ่มๆสักหน่อย ร้านคนเยอะมากกกกก ร้านเต็มไม่มีที่นั่งเลย
มองซ้ายมองขวา เห็นร้านกาแฟเดินมา20ก้าวถึง
สั่งเครื่องดื่มอุ่นๆมาดับหนาวสักนิด
หันมาเห็นปรอมวักอุณหภูมิ 15องศา คิดในใจข้างล่างหนาวขนาดนี้ขึ้นไปข้างบนคงจะไม่แข็งตายเลยหรอ 555
วิวหน้าร้านเห็นผานกเค้าเลย
นั่งกินกาแฟกันเสร็จ 6โมงก็ล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวไปขึ้นรถสองแถวข้างร้านเจ๊กิม คนละ30บาท 10คนรถออก อากาศตอนนั้งรถหนาวววววมากหน้าชาหมดเลย แต่บรรยากาศดีมาก
นั่งรถมา10นาทีก็ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เย่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาถึงเราก็ต่อแถวยื่นใบที่เราจองที่พักเพื่อยืนยันว่าเรามาแล้ว เสียค่าเข้าอุทยานคนละ40บาท
เสร็จแล้วเราก็เดินต่อมาซื้อป้ายติดกระเป๋าเขียนชื่อพร้อมเบอร์โทรสำหรับการบริการลูกหาบ กิโลกรัมละ30บาท แนะนำให้ใช้บริการเพราะแค่ผมถือกระเป๋าเงินกับน้ำ1ขวดเดินขึ้นไปก็จะแย่แล้ว 555
เขียนป้ายชื่อติดกระเป๋าเสร็จแล้วก็ต่อแถวรอลูกหาบชั่งน้ำหนักกระเป๋าเป็นอันเสร็จ สิ่งที่ต้องมีก่อนขึ้น น้ำ1ขวด แล้วอย่าลืมเปลี่ยนชุดลำหรับลุยกันนะครับก่อนขึ้นอย่าลืมไว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกันด้วยนะครับ เดินทางขึ้นเขาได้เลยยยย
9กิโลแฟนผมบอกจิ๊บๆ 555555
อย่าลืมจดเบอร์ไว้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
100เมตรแรกชิลๆ
แวะพักเป็นบางช่วง
800แรกมีคนงอแงถอดใจไม่อยากไปเพราะเหนื่อย ผมเลยปลอบสักพักว่าไหนๆก็มาขึ้นให้สุดเถอะเค้าเคยได้ยินว่าคนที่ขึ้นภูกระดึงน้ำหนักลง5กิโลเลยนะ แฟนผมเลยมีแรงเดินต่อเพราะคำว่าน้ำหนักลด 5กิโล
ในที่สุดเราก็มาถึงซำแฮกดีใจมาก 55555 ถ้าผ่านอันนี้ไปได้ต่อไปสบายแล้วครับ มั่งนะ แวะถ่ายรูปกับสักนิด
พักกินน้ำกันข้าวที่ซำแฮกนี่แหละร้านค้ามีให้เลือกมากมาย
แล้วเราก็เดินทางกันต่อ
พักเป็นระยะๆ
คู่รักมานั่งพักกันเห็นแล้วหว๊านๆ
ถึงจุดชมวิว
ถึงซำแคร่แล้ว ควรนั่งพักกินข้าวเติมพลังตรงจุดนี้เพราะทางต่อจากนี้โหดมากๆ
กินเสร็จแล้วเดินทางต่อเลยครับผ่ายจุดนี้ไปเราจะถึงหลังแป ซึ้งถือเป็นที่สุดท้ายในการเดินขึ้นเขา
ลุงสุดยอดมาก
ดูน้องร่าเริงมากฟิตสุดๆ เราสู้ไม่ได้เลย555
ใกล้ถึงแล้วๆๆๆๆๆๆๆ
ถึงแล้ววววว แฟนผมดีใจสุดๆ 5555
เส้นทางที่เราต้องเดินทางราบต่ออีก3.5กิโล
เดี๋ยวมาต่อนะครับพักผ่อนสักแปบ