เมื่ออาทิตย์ก่อนมีโอกาสไปเยือนแถวบ้านรุ่นพี่ที่ไม่เจอกันนานค่ะ ทีแรกนัดกันในเมือง กำลังคิดอยู่ว่าจะไปไหนดีเพราะกลุ่มเราไม่เจอกันนานพอสมควร แต่พอดีแผนเปลี่ยนนางต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงให้หลานวันนั้น จะยกเลิกนัดก็เสียดายเลยตัดสินใจไปรวมตัวกันแถวบ้านนางเสียเลย (ฮา) ช่วงสิบโมงครึ่งนางจะต้องเอาหลานไปเรียนยิมนาสติก ก็เลยมาถามว่าจะลองไปกินข้าวแกงปักษ์ใต้มั้ย อยู่ใกล้ๆกันนี่แหละอร่อยด้วย กลุ่มเราใจง่ายเรื่องกินอยู่แล้วค่ะ บอกว่าอร่อยก็เอาเลยสิ จะรออะไร (ฮา) ร้านจะอยู่ซอยเพชรเกษม81(ซอยมาเจริญ)นะคะ ในโครงการเพชรเอกชัยพลาซ่า ขับเข้าซอยเพชรเกษม 81 ไป จะเห็นเทสโก้ด้านขวามือ จากนั้นตรงมาอีกหน่อยจะเจอปั๊มปตท.ด้านซ้ายมือ ถ้าเห็นปั๊มแล้วชิดซ้ายเลยนะคะ โครงการเพชรเอกชัยจะอยู่ถัดจากปั๊มปตท.นิดนึงค่ะ (รูปถ่ายตอนขากลับออกมานะคะ เลยจะย้อนรอยจากหน้าร้านอีกที)
มีที่จอดรถเยอะค่ะ กว้างขวางดี ไม่เหมือนในเมืองนะ ต้องชิงร้อยชิงล้านน่าดู ...
หน้าร้านเป็นแบบนี้เลย
อันนี้ภายในร้านค่ะ ก็สะอาดดีนะ ตกแต่งไม่หรูหรา แต่ก็ร่มรื่นใช้ได้ บางทีก็อยากได้อากาศธรรมชาติมากกว่าห้องแอร์บ้างนะคะ (ถ้ากรุงเทพฯจะกลับมาหนาวเย็นเหมือนตอนต้นเดือนได้คงจะดี แต่คงไม่มีแล้วล่ะวันนั้น 555555)
ชอบป้ายนี้นะ อยากเอากลับบ้าน แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาไว้ตั้งตรงไหนดี 55555
เอาล่ะ เราบุกเข้าไปหาอะไรหม่ำๆกันเลยดีกว่า ...
ร้านเปิดทุกวันค่ะ ปิดเฉพาะ จันทร์ที่2 และ 4 ของเดือน ถ่ายมาเป็นภาพเลยค่ะ สมัยนี้เราไม่ต้องเสียเวลาจดแล้ว แต่เวลามือถือเสียที หน้าซีดที เพราะทุกอย่างอยู่ในมือถือหมดเลย บางครั้งทำกระทู้เก็บไว้มันก็เป็นการดีเหมือนกันนะคะ อิๆๆ
เจ้าถิ่นแนะนำว่าอาหารที่นี่ไม่แพง อร่อย สะอาด คนแถบนั้นมีเข้ามาเรื่อยๆค่ะ เพราะตรงนั้นมีทั้งหมู่บ้าน แล้วก็มีโรงงานอีซูซุในซอยด้วย คงเป็นลูกค้าฝากท้องกันประจำประมาณนั้น ช่วงยุ่งสุดๆของร้านคือช่วงเที่ยง และถึงจะปิดร้านบ่าย 3 แต่กับข้าวอาจจะหมดตั้งแต่บ่าย2 เพราะฉะนั้น มาก่อนได้เปรียบค่ะ เราเลยมาเปิดฟลอร์กันตั้งแต่ก่อน 11โมง อาหารพรั่งพร้อมมากค่ะ ดังที่จะเห็นต่อไปนี้
คำเตือน : กรุณาระวังน้ำลายหกใส่คียบอร์ด ห้ามเปิดดูยามวิกาลเพราะอาจหิวได้
ดูๆแล้วก็น่าลองไปหมดค่ะ และเพราะเรามีกันหลายคนด้วยเลยชี้ชวนกันใหญ่ เจ้าของร้านเลยสังเกตเห็นว่าพวกนี้ต้องเป็นคนกรุงเข้าบ้านนอกแน่ๆเลย 5555555 เจ้าของอัธยาศัยดีนะคะ น่ารักเป็นกันเอง แกมาช่วยแนะนำอาหารให้ค่ะ และยังบอกว่าที่ร้านเน้นอาหารแนวเมืองตรัง คือภาคใต้ก็จริงแต่เพราะว่ามีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เยอะ รสชาติเลยจะออกกลมกล่อม ไม่เผ็ดมากเท่าบางพื้นที่ทางใต้ คนไม่ทานเผ็ดมากก็น่าจะทานได้ รายการอาหารก็เยอะมากด้วย ที่ร้านทำกันวันนึงเป็น 10 อย่าง มีเมนูอาหารที่ใช้ผักพื้นบ้านด้วย ซึ่งบางอย่างอาจจะหาทานยากในกรุงเทพฯ บางอย่างก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยค่ะ (ฮา) อันนี้ลงทุนจิ้มมือถือเพื่อจดเลยนะคะ จำไม่ไหวค่ะ 555555
-คั่วกลิ้งหมู
-ปลาหมึกพริกไทยดำ
-แกงเห็ดแครงใส่ปลาโอย่าง (ตอนแรกก็ฟังแล้วนึกว่าหอยแครง ... )
-แกงปลาดุกใส่ใบยี่หร่า
-ฉู่ฉี่ปลาทู
-หมูกะปิ(ใช้กะปิภูเก็ต)
-แกงหมูลูกเหลียงข่าอ่อน
-แกงไก่ใส่ขนุนอ่อน
-แกงเหลืองปลากระพงหมูทางคูน(พื้นบ้านเรียกว่าอ้อดิบ) (เกิดมายังไม่เคยได้ยินเล้ยยยย)
-แกงหอยโข่งใบชะพลู
-ปลานิลแดดเดียว
-ปลาเก๋าสามรส
-ไข่เค็มดาว(เอาไข่เค็มดิบมาทำไข่ดาว ก็อร่อยดี)
ที่ร้านมีเมนูแนะนำอีกอย่าง แต่วันนั้นเขาไม่ได้ทำ คือ หมูเก๋ายุก เป็นเหมือนหมูสามรส อยากชิมจังเห็นบอกขายดีมากค่ะ ไว้จะไปลองอีกๆๆ
เป็นอันว่าเราได้อาหารกันมาตามนี้ค่ะ
มีชุดผักฟรีนะคะ แล้วมีกะปิฟรีด้วย แถมมะนาวเขาใช้มะนาวแท้ค่ะ (แถวบ้านมีแต่คนใช้มะนาวขวดแบบสังเคราะห์ เห็นร้านไหนใช้มะนาวสดแล้วน้ำตาซึมๆ...) ร้านในเมืองก็มีให้บ้างเหมือนกัน แต่บางร้านจะให้มาหน่อยนึง ส่วนอันนี้ตักได้ตามสบาย แต่อย่าทานทิ้งขว้างก็พอค่ะ แหม่ ... ใจนักเลงจริงๆ
สวยงามตามท้องเรื่องนะคะ ส่วนเรื่องสนนราคา ให้เดาว่าเท่าไหร่ ...
ถ้า ราดข้าว 1 อย่าง 35 บาท ราด 2 อย่าง 40 บาท และถ้าสั่งแกง เขาจะตักใส่ถ้วยเล็กไม่ราดบนข้าวจนเปียกชุ่มไม่น่าทาน (บางคนไม่ชอบนะเพราะข้าวจะแฉะ ซึ่งนี่เป็นข้อดีของร้านค่ะ)
มีข้าวให้เลือกคือข้าวขาว และข้าวไรซ์เบอรี่ด้วย จานละ 10 บาทเท่ากันทั้ง 2 ชนิด และมีขนมหวานทำใหม่ทำเองทุกวัน ขายถ้วยละ 15 บาท(วันนี้เป็นแกงบวดมัน กับข้าวโพดน้ำกะทิ)
ดังนั้นทั้งหมดที่เห็นนี่ 150 บาท ถ้วนค่ะ ปลาบปลื้มมากกกกกก
ถูก อร่อย สะอาด แบบที่ห่างหายจากชีวิตในเมืองไปนานมากกกกกกกกกก ส่วนใหญ่ไปกินกับใคร บอกไม่แพงนะ ไม่แพงเลย โอเคเลย ... ไอ้เราแอบกรี๊ดอยู่ในนึกในใจ ... แพงจ้า (แต่ไม่กล้าแสดงออก 55555555) แต่ ณ จุดนี้ยอมใจเลยค่ะว่าไม่แพง สุดยอดจริงๆ อาหารก็ให้เยอะด้วย ผักก็มีให้ฟรีตามที่ต้องการ ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ ชนชั้นกลางอย่างเราๆย่อมมองหาร้านที่อาหารอร่อย และราคาไม่แพงทั้งนั้นล่ะนะคะ พอได้เจอสักร้านนึงนี่ดีใจยิ่งกว่าได้ทองอีก นึกอิจฉาคนแถวนี้จับใจ ถ้าบ้านอยู่ใกล้คงมาฝากท้องประจำเหมือนกันค่ะ
ดูจะอิ่มหมีพีมันแล้ว เจ้าของร้านเลยแวะมาไถ่ถามด้วยอีกทีว่าถูกปากมั้ย เลยแหย่แกไปว่าไม่ส่งร้านประกวดรางวัลแบบมาสเตอร์เชฟชวนชิมอะไรอย่างนี้เรอะคะ 55555555 เจ้าของก็บอกขำๆมาว่าจริงๆร้านเคยได้รางวัลหนูณิชย์ คือประกวดกัน 1000 กว่าร้านทั่วกรุงเทพฯแล้วแกได้ติดอันดับ 3 แต่คือไม่มีป้ายรูปถ่ายรับรางวัลอะไรงี้เลยนะคะ เราเลยไม่รู้ว่าเขามีของดี เหอๆๆๆ ... จริงๆรางวัลที่ว่านี้ก็ยังไม่เคยได้ยินด้วย แกบอกว่าเป็นของกระทรวงพาณิชย์ ชื่อโครงการประมาณ "หนูณิชย์จานด่วน ชวนอร่อย" อะไรงี้ เป็นรางวัลให้ร้านที่ผ่านเกณฑ์ว่ารสชาติดี ทำสะอาดดี ราคาดี แต่ร้านในกรุงเทพฯอาจจะไม่ค่อยมีหรือไงก็ไม่แน่ใจค่ะเพราะไม่เคยเห็นเหมือนกัน ตอนจะกลับแกเลยชี้ให้ดูป้าย อ๋อ ... ป้ายอยู่หน้าร้านเลยจ้า ถ่ายรูปมาตอนแรกยังไม่รู้เลย นึกว่าโลโก้ร้าน 555555555 สำคัญยิ่งกว่านั้น แกเปิดมือถือให้ดูด้วยว่ามีดารากับนักชิมระดับประเทศมาชิมที่ร้านแล้วหลายคน แต่ แต่ แต่!!!
แกอินดี้มากกกกกกก แกไม่ติดรูปใครเลย (ในขณะที่บางร้านทำให้เรานึกว่าดาราคงมีหุ้นอยู่มั้งเพราะถ่ายรูปแปะไว้เยอะมาก อ๋อ ... ไม่ใช่ เขาถ่ายเป็นที่ระลึกเฉยๆ

)
แกแค่ทำสิ่งที่แกอยากทำ และทำให้ดีเท่านั้น ...
คือต้องขอเถอะ จุดนี้ ขอพูดเถอะ
“ยอมใจพี่เขาจริงๆ!”
อ้อ ตอนกลับเลยแวะถ่ายรูปซุ้มขนมที่เขาวางขายนะคะ แต่ราคานี่จำไม่ได้แล้ว คือตอนนั้นอิ่มแล้วไง อิ่มแล้วก็แล้วกัน ไม่อยู่ในสายตาแล้ว ... คงจะเข้าใจอารมณ์ได้ไม่ยากสินะคะ 5555555555
ไว้ถ้าหาโอกาสมาได้อีกอาจจะลองของเขาซะหน่อยค่ะ คงต้องรอมากันหลายๆคนอีก จะได้สั่งหลายๆอย่างค่ะ ถูก อร่อย สะอาด และดี แถมเจ้าของอินดี้แบบน่ารักแบบนี้ เราขอยอมใจค่ะ อะฮิ อะฮิ อะฮิ ...
[CR] รีวิวร้าน สถานีตรัง ซอยเพชรเกษม81
มีที่จอดรถเยอะค่ะ กว้างขวางดี ไม่เหมือนในเมืองนะ ต้องชิงร้อยชิงล้านน่าดู ...
หน้าร้านเป็นแบบนี้เลย
อันนี้ภายในร้านค่ะ ก็สะอาดดีนะ ตกแต่งไม่หรูหรา แต่ก็ร่มรื่นใช้ได้ บางทีก็อยากได้อากาศธรรมชาติมากกว่าห้องแอร์บ้างนะคะ (ถ้ากรุงเทพฯจะกลับมาหนาวเย็นเหมือนตอนต้นเดือนได้คงจะดี แต่คงไม่มีแล้วล่ะวันนั้น 555555)
ชอบป้ายนี้นะ อยากเอากลับบ้าน แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาไว้ตั้งตรงไหนดี 55555
เอาล่ะ เราบุกเข้าไปหาอะไรหม่ำๆกันเลยดีกว่า ...
ร้านเปิดทุกวันค่ะ ปิดเฉพาะ จันทร์ที่2 และ 4 ของเดือน ถ่ายมาเป็นภาพเลยค่ะ สมัยนี้เราไม่ต้องเสียเวลาจดแล้ว แต่เวลามือถือเสียที หน้าซีดที เพราะทุกอย่างอยู่ในมือถือหมดเลย บางครั้งทำกระทู้เก็บไว้มันก็เป็นการดีเหมือนกันนะคะ อิๆๆ
เจ้าถิ่นแนะนำว่าอาหารที่นี่ไม่แพง อร่อย สะอาด คนแถบนั้นมีเข้ามาเรื่อยๆค่ะ เพราะตรงนั้นมีทั้งหมู่บ้าน แล้วก็มีโรงงานอีซูซุในซอยด้วย คงเป็นลูกค้าฝากท้องกันประจำประมาณนั้น ช่วงยุ่งสุดๆของร้านคือช่วงเที่ยง และถึงจะปิดร้านบ่าย 3 แต่กับข้าวอาจจะหมดตั้งแต่บ่าย2 เพราะฉะนั้น มาก่อนได้เปรียบค่ะ เราเลยมาเปิดฟลอร์กันตั้งแต่ก่อน 11โมง อาหารพรั่งพร้อมมากค่ะ ดังที่จะเห็นต่อไปนี้
คำเตือน : กรุณาระวังน้ำลายหกใส่คียบอร์ด ห้ามเปิดดูยามวิกาลเพราะอาจหิวได้
ดูๆแล้วก็น่าลองไปหมดค่ะ และเพราะเรามีกันหลายคนด้วยเลยชี้ชวนกันใหญ่ เจ้าของร้านเลยสังเกตเห็นว่าพวกนี้ต้องเป็นคนกรุงเข้าบ้านนอกแน่ๆเลย 5555555 เจ้าของอัธยาศัยดีนะคะ น่ารักเป็นกันเอง แกมาช่วยแนะนำอาหารให้ค่ะ และยังบอกว่าที่ร้านเน้นอาหารแนวเมืองตรัง คือภาคใต้ก็จริงแต่เพราะว่ามีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เยอะ รสชาติเลยจะออกกลมกล่อม ไม่เผ็ดมากเท่าบางพื้นที่ทางใต้ คนไม่ทานเผ็ดมากก็น่าจะทานได้ รายการอาหารก็เยอะมากด้วย ที่ร้านทำกันวันนึงเป็น 10 อย่าง มีเมนูอาหารที่ใช้ผักพื้นบ้านด้วย ซึ่งบางอย่างอาจจะหาทานยากในกรุงเทพฯ บางอย่างก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยค่ะ (ฮา) อันนี้ลงทุนจิ้มมือถือเพื่อจดเลยนะคะ จำไม่ไหวค่ะ 555555
-คั่วกลิ้งหมู
-ปลาหมึกพริกไทยดำ
-แกงเห็ดแครงใส่ปลาโอย่าง (ตอนแรกก็ฟังแล้วนึกว่าหอยแครง ... )
-แกงปลาดุกใส่ใบยี่หร่า
-ฉู่ฉี่ปลาทู
-หมูกะปิ(ใช้กะปิภูเก็ต)
-แกงหมูลูกเหลียงข่าอ่อน
-แกงไก่ใส่ขนุนอ่อน
-แกงเหลืองปลากระพงหมูทางคูน(พื้นบ้านเรียกว่าอ้อดิบ) (เกิดมายังไม่เคยได้ยินเล้ยยยย)
-แกงหอยโข่งใบชะพลู
-ปลานิลแดดเดียว
-ปลาเก๋าสามรส
-ไข่เค็มดาว(เอาไข่เค็มดิบมาทำไข่ดาว ก็อร่อยดี)
ที่ร้านมีเมนูแนะนำอีกอย่าง แต่วันนั้นเขาไม่ได้ทำ คือ หมูเก๋ายุก เป็นเหมือนหมูสามรส อยากชิมจังเห็นบอกขายดีมากค่ะ ไว้จะไปลองอีกๆๆ
เป็นอันว่าเราได้อาหารกันมาตามนี้ค่ะ
มีชุดผักฟรีนะคะ แล้วมีกะปิฟรีด้วย แถมมะนาวเขาใช้มะนาวแท้ค่ะ (แถวบ้านมีแต่คนใช้มะนาวขวดแบบสังเคราะห์ เห็นร้านไหนใช้มะนาวสดแล้วน้ำตาซึมๆ...) ร้านในเมืองก็มีให้บ้างเหมือนกัน แต่บางร้านจะให้มาหน่อยนึง ส่วนอันนี้ตักได้ตามสบาย แต่อย่าทานทิ้งขว้างก็พอค่ะ แหม่ ... ใจนักเลงจริงๆ
สวยงามตามท้องเรื่องนะคะ ส่วนเรื่องสนนราคา ให้เดาว่าเท่าไหร่ ...
ถ้า ราดข้าว 1 อย่าง 35 บาท ราด 2 อย่าง 40 บาท และถ้าสั่งแกง เขาจะตักใส่ถ้วยเล็กไม่ราดบนข้าวจนเปียกชุ่มไม่น่าทาน (บางคนไม่ชอบนะเพราะข้าวจะแฉะ ซึ่งนี่เป็นข้อดีของร้านค่ะ)
มีข้าวให้เลือกคือข้าวขาว และข้าวไรซ์เบอรี่ด้วย จานละ 10 บาทเท่ากันทั้ง 2 ชนิด และมีขนมหวานทำใหม่ทำเองทุกวัน ขายถ้วยละ 15 บาท(วันนี้เป็นแกงบวดมัน กับข้าวโพดน้ำกะทิ)
ดังนั้นทั้งหมดที่เห็นนี่ 150 บาท ถ้วนค่ะ ปลาบปลื้มมากกกกกก
ถูก อร่อย สะอาด แบบที่ห่างหายจากชีวิตในเมืองไปนานมากกกกกกกกกก ส่วนใหญ่ไปกินกับใคร บอกไม่แพงนะ ไม่แพงเลย โอเคเลย ... ไอ้เราแอบกรี๊ดอยู่ในนึกในใจ ... แพงจ้า (แต่ไม่กล้าแสดงออก 55555555) แต่ ณ จุดนี้ยอมใจเลยค่ะว่าไม่แพง สุดยอดจริงๆ อาหารก็ให้เยอะด้วย ผักก็มีให้ฟรีตามที่ต้องการ ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ ชนชั้นกลางอย่างเราๆย่อมมองหาร้านที่อาหารอร่อย และราคาไม่แพงทั้งนั้นล่ะนะคะ พอได้เจอสักร้านนึงนี่ดีใจยิ่งกว่าได้ทองอีก นึกอิจฉาคนแถวนี้จับใจ ถ้าบ้านอยู่ใกล้คงมาฝากท้องประจำเหมือนกันค่ะ
ดูจะอิ่มหมีพีมันแล้ว เจ้าของร้านเลยแวะมาไถ่ถามด้วยอีกทีว่าถูกปากมั้ย เลยแหย่แกไปว่าไม่ส่งร้านประกวดรางวัลแบบมาสเตอร์เชฟชวนชิมอะไรอย่างนี้เรอะคะ 55555555 เจ้าของก็บอกขำๆมาว่าจริงๆร้านเคยได้รางวัลหนูณิชย์ คือประกวดกัน 1000 กว่าร้านทั่วกรุงเทพฯแล้วแกได้ติดอันดับ 3 แต่คือไม่มีป้ายรูปถ่ายรับรางวัลอะไรงี้เลยนะคะ เราเลยไม่รู้ว่าเขามีของดี เหอๆๆๆ ... จริงๆรางวัลที่ว่านี้ก็ยังไม่เคยได้ยินด้วย แกบอกว่าเป็นของกระทรวงพาณิชย์ ชื่อโครงการประมาณ "หนูณิชย์จานด่วน ชวนอร่อย" อะไรงี้ เป็นรางวัลให้ร้านที่ผ่านเกณฑ์ว่ารสชาติดี ทำสะอาดดี ราคาดี แต่ร้านในกรุงเทพฯอาจจะไม่ค่อยมีหรือไงก็ไม่แน่ใจค่ะเพราะไม่เคยเห็นเหมือนกัน ตอนจะกลับแกเลยชี้ให้ดูป้าย อ๋อ ... ป้ายอยู่หน้าร้านเลยจ้า ถ่ายรูปมาตอนแรกยังไม่รู้เลย นึกว่าโลโก้ร้าน 555555555 สำคัญยิ่งกว่านั้น แกเปิดมือถือให้ดูด้วยว่ามีดารากับนักชิมระดับประเทศมาชิมที่ร้านแล้วหลายคน แต่ แต่ แต่!!!
แกอินดี้มากกกกกกก แกไม่ติดรูปใครเลย (ในขณะที่บางร้านทำให้เรานึกว่าดาราคงมีหุ้นอยู่มั้งเพราะถ่ายรูปแปะไว้เยอะมาก อ๋อ ... ไม่ใช่ เขาถ่ายเป็นที่ระลึกเฉยๆ
แกแค่ทำสิ่งที่แกอยากทำ และทำให้ดีเท่านั้น ...
คือต้องขอเถอะ จุดนี้ ขอพูดเถอะ
“ยอมใจพี่เขาจริงๆ!”
อ้อ ตอนกลับเลยแวะถ่ายรูปซุ้มขนมที่เขาวางขายนะคะ แต่ราคานี่จำไม่ได้แล้ว คือตอนนั้นอิ่มแล้วไง อิ่มแล้วก็แล้วกัน ไม่อยู่ในสายตาแล้ว ... คงจะเข้าใจอารมณ์ได้ไม่ยากสินะคะ 5555555555
ไว้ถ้าหาโอกาสมาได้อีกอาจจะลองของเขาซะหน่อยค่ะ คงต้องรอมากันหลายๆคนอีก จะได้สั่งหลายๆอย่างค่ะ ถูก อร่อย สะอาด และดี แถมเจ้าของอินดี้แบบน่ารักแบบนี้ เราขอยอมใจค่ะ อะฮิ อะฮิ อะฮิ ...
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น