เรื่องมีอยู่ว่า ฝ่ายชาย ก็คือแฟนเรา ตอนนี้ ขอให้นามสมมุตินะคะ ฝ่ายชายคือ พี่เอ ส่วนฝ่ายหญิง(เมียเก่า) คือ บี
พี่เอกับบี ก่อนหน้าที่จะมาเจอเราเขาทั้ง 2 คนก็ทะเราะกันมานานมากแล้ว 4-5 ปีได้ ส่วนมากจะทะเราะกันเรื่องเงิน เนื่องจากพี่เอ ทำงานมาแล้วได้เงินน้อย พี่เอจะให้บัตร ATM และสมุดบัญชีให้บีพกหมด ฉะนั้นการบริหารงานจึงอยู่ที่บี แต่ด้วยส่วนตัวบีเอง ก็ยังคงกินและเที่ยวอยู่ เดือนๆนึง บีเที่ยวประมาณ 6-7 ครั้ง และสถานที่ที่ไปก็จะเป็นพวก ป.กุ้งเผา (ประจำ) หรือไม่ก็ผับแถวๆบ้าน พี่เอเล่าว่า บีเป็นคนหน้าใหญ่ เวลาไปเที่ยวทีไรก็ชอบออกให้น้องๆก่อนและค่อยมาคืนทีหลัง และบีเองก็เป็นคนที่เอาครอบครัวตัวเองมาเป็นสำคัญ เช่นก่อนหน้านี้ก็เคยเอาเงินเดือนของพี่เอไปผ่อนมอไซต์ให้พี่น้องบีจนผ่อนหมด และที่สำคัญ 2 คนนี้ก็ความเห็นไม่ค่อยลงลอยเท่าไหร่ พี่เอ ชอบกินปลาร้ามาก ส่วนบีเหม็นกลิ่นปลาร้า บีชอบกินพวก KFC Pizza ฯลฯ ที่พี่เอไม่ชอบกิน และอีกเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญเลยคือ บีไม่ชอบพ่อของพี่เอ เนื่องจากทุกครั้งที่พ่อพี่เอมาเยี่ยม ลูกชาย ของพี่เอ พ่อก็มักจะขอเงินเพื่อกลับบ้านครั้งละ 2-3 ร้อย บีก็จะไม่พอใจ (แต่เวลาส่งเงินให้ทางบ้านให้ลูกผัวเก่า ส่งทีละพัน พี่เอกล่าวไว้) ซึ่งเงินของพี่เอ เดือนๆนึง ก็อยู่ที่บีหมด และ 2 คนนี้ก็มีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันอีกเรื่องคือ เรื่องการก้าวก่ายการงาน พี่เอทำงาน 2 อย่างคือ 1.เป็นทหาร 2.ตกกลางคืนรับจ้างเป็นการ์ดที่ผับ บางทีพี่เอไม่ได้กลับบ้าน บีก็จะโมโหแล้วถามว่าไปไหน พี่เอก็ไม่ตอบ (พี่เอไปเล่นไพ่ เขาบอกเบื่อบ้านไม่อยากกลับ) พอเช้าบีก็จะโทรไปหาหัวหน้าของพี่เอว่า พี่เอลางาน ทั้งๆที่บางทีก็มีประชุม และอีกเรื่องคือ พี่เอทำงานเป็นการ์ดที่ผับ แน่นอนว่าผับ ต้องมีกินเหล้า แต่พอกลับไปมีกลิ่นเหล้า บีก็มักจะบ่นจะด่าพี่เอ เสมอว่าจะกินเหล้าทำ...ไรนักหนาทุกวี่ทุกวัน พี่เอก็บอกว่า บางวันก็ไม่ได้กิน แต่บางทีลูกค้ามันเมา เราเป็นการ์ดก็ต้องไปห้าม เหล้าหกใส่บ้างบางที แต่แกก็บ่นนะ (ทีมันกินเหล้ากลับมานอนคลานเป็นหมาหน้าห้องน้ำเขาก็ยังไม่เคยบ่น) จนเหตุการณ์สำคัญล่าสุดที่พี่เอบอกกับตัวเองไว้ว่า ถ้ามีที่ไปจะไม่กลับมาอยู่ร่วมกับผู้หญิงคนนี้อีกคือ
วันนั้นพ่อพี่เอป่วย และพี่ชายพี่เอโทรมาบอกว่าขาดเงิน 3พัน พี่เอเลยรีบเดินทางไปที่ทำงานบี พอพี่เอบอกจะขอเงินบีโอนไปให้พ่อ พ่อนอนอยุ่รพ. บีก็โมโห เลยหยิบเงินที่เตรียมไว้โยนใส่พี่เอ ซึ่งพี่เอตอนนั้นใส่ชุดเครื่องแบบราชการทหารอยู่ ความเป็นลูกผู้ชาย ของพี่เอไม่ได้ก้มเก็บเงินที่ตกตรงเท้าบี แต่เดินกลับออกมาแล้วหายืมเพื่อนให้พี่อีกที
จนพอหลังที่พ่อพี่เอเสีย พี่เอก็ได้มาเจอกับเราที่ผับ พี่เอถูกชะตาเราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน พี่เอคอยดูนิสัยเราเวลาเที่ยวผับ ว่าจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เคยเจอไหม พอแกเห็นว่าเราไม่เคยยุ่งกับผู้ชายคนอื่น กิน เที่ยว และก็กลับ ไม่สนใจผู้ชายที่เข้ามาชนแก้ว หรือมาขอเต้นด้วย เป็นระยะเวลา 5 เดือน และในช่วง 5 เดือนนั้น พี่เอก็เริ่มจีบเรา มาตลอดแต่เราก็ทำกะล่อน ไม่สนใจเอาตัวลอดมาตลอดเพราะรู้ว่าพี่เอมีลูกมีเมียแล้ว จนพอวันนึงเราเมา พี่เอก็มาจีบอีกด้วยความที่เมาก็เลยเผลอปากหลุดไปว่า "ไว้พี่ไม่มีเมียเมื่อไหร่หนูถึงจะคบกับพี่และกัน" และเราก็กลับบ้านไป จนผ่านไป พี่เอกับบีเลิกกัน บีเป็นคนขอเลิกกับพี่เอ และเก็บเสื้อผ้าพี่เอใส่กระเป๋าโยนออกนอกห้อง ตอนนั้นพี่เอก็มีอาการเครียด ไม่สนุกสนาน ไม่กวนประสาทคนอื่นเหมือนเคย จนพี่ที่เป็นการ์ดอีกคนบอกให้เราไปคุยกับพี่เอหน่อยว่าเป็นอะไรเห็นเครียดๆ พี่เขาบอกว่าเห็นพี่เอจีบเราอยู่เราน่าจะคุยได้ เราเลยไปคุยให้ จนพี่เอเอาข้อความไลน์ให้ดูว่าบี ขอเลิกกับพี่เอแล้ว คืนนั้นเรากับพี่เอและบรรดา เพื่อนๆที่เป็นการ์ดในผับนั้นก็นั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนพี่เอ จนเราเริ่มเมา เพราะก่อนจะกินกับพี่เอเราก็เริ่มตึงๆมาก่อนแล้ว พี่เอก็ถามเราว่าจำได้ไหมเราบอกว่าถ้าพี่ไม่มีเมียเราจะคบกับพี่ เราก็บอกจำได้ พี่เอก็เลยบอกงั้นตอนนี้เราเป็นแฟนกัน เราก็หัวเราะ(เมา) และคืนนั้นด้วยความเมาพี่เอก็ส่งเรากลับบ้าน ต่างคนต่างเมา ก็เลยเถิดจนมีอะไรกัน แต่พอเช้ามาพี่เอ ก็บอกว่า เขาดีใจที่ได้เรามาเป็นแฟน เพราะเขามองเรามานานแล้ว จีบมาหลายครั้งเราก็หาเรื่องกะล่อนหนีกลับตลอด หลังพอตอนเช้าออกไปกินข้าวกันเสร็จ ลูกน้องพี่เอก็โทรมาบอกว่า บีมาเก็บเสื้อผ้าพี่เอไปหมดแล้ว พอเราได้ยินแบบนั้นเราก็อึ้ง และก็งงว่า ทำไมเป็นแบบนี้ พี่เอเองก็หัวเสียและบอกว่า ไปยอมให้มันเก็บทำไม ลูกน้องก็บอกว่า เขามาอาละวาด กลัวผู้พันมาเห็นพวกผมเลยต้องยอม (นี่คือนิสัยอีกส่วนของบีคือ ชอบไปอาละวาดที่ป้อม) ตอนนั้นเราก็เลยบอกพี่เอไปว่า กลับไปเถอะ พี่ก็มีลุกกับเขา เรื่องเมื่อคืนถือว่าเราพลาดเอง จะจำไว้เป็นบทเรียน แต่พี่เอไม่ยอม แต่ด้วยความที่ทางบีก็โทรหาพี่เอตลอดเวลาเหมือนกันพี่เอเลยต้องกลับไปคุย สุดท้ายพี่เอก็ต้องยังทนอยุ่กับบี เพราะเรื่องลูก แต่พอผ่านไปได้ไม่ถึงเดือนเขาก็ทะเราะกันอีก ตลอดเวลานั้นที่พี่เอกลับไป พี่เอก็ยังติดต่อเราตลอดเวลา ส่วนเราเองก็คอยหนีตลอดเวลา ไม่รับสาย ตัดสายทิ้ง พี่เอก็ยังส่งข้อความมาหาทุกวันไม่เคยขาด ถามเสมอว่า "หิวไหม กินข้าวหรือยัง วันนี้ทำงานเหนื่อยไหม นอนหรือยัง หลับฝันดีนะ" บางวันก็ส่งข้อความมาระบายว่า ทะเราะกับบี เพราะพี่เอไม่ยอมกลับไปนอนห้อง หาว่าพี่เอมานอนกับเรา ทั้งๆที่เราไม่เคยให้พี่เอเข้าบ้านอีกเลยหลังจากนั้น แต่สำหรับเรา ความรุ้สึกเรา ผู้ชายที่เราได้เป็นสามี เราก็คิดจะมีแค่เขาคนเดียว ใช่ว่าพอเป็นแบบนี้เราก็ต้องหาใหม่ ไม่งั้นทุกครั้งที่เที่ยวผับแล้วเวลาเมา เราคงมีผัวไปหลายคนแล้ว และก็มีเหตุการณ์อยุ่ 3 ครั้งที่เกินขึ้น ระหว่าง เรา 3 คนคือ พอทุกครั้งที่พี่เอกับบีทะเราะกัน เขาก็เลิกกันและพี่เอ ก็จะมาอยู่กับเรา เพราะพี่เอนั้นก็อยากอยุ่กับเราอยุ่แล้ว ส่วนเราเองก็ยังรักพี่เออยุ่ แต่พี่ผ่านมาเรายอมให้เขากลับไปทำหน้าที่พ่อ เพราะเราเคยเจ็บปวดมาก่อน เลยคิดว่าบางทีคนเรา แค่ได้รักไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน แต่แค่เห็นเขาไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในส่วนของเขาเราก็มีความสุข ยอมรับนะว่า เจ็บบ้าง แต่ทุกครั้งที่เห็นพี่เอส่งข้อความมาถาม เหมือนเดิมทุกวันเราก็มีความสุขที่เขายังนึกถึงเรา แต่เราก็ไม่เคยเรียกร้องให้กลับมาหา แต่พอทะเราะกับบี พี่เอก็จะหอบเสื้อผ้าอยู่กับเรา พอผ่านไปสักระยะ บีคงคิดได้ก็มาขอคืนดีกับพี่เอ และเอาเรื่องลูกมาพูด บีก็เคยมาพูดกับเราว่า ให้สงสารลูกเขา เราก็บอกไปว่า เราสงสารอยุ่แล้วเราก็เลยบอกให้พี่เอกลับไปทำหน้าที่พ่อ ครั้งนั้นพี่เอเครียดมาก แต่สุดท้ายก็ยอมไป ครั้งนั้นเป็นการจากกันแบบเจ็บปวดที่สุด เพราะ2 ครั้งแรก พี่เอยอมกลับไปเองเพราะลุก แต่ครั้งนี้ เป็นเราที่มาขอให้พี่เอกลับไป ใจพี่เออยู่ที่เราครึ่งนึง อีกครึ่งนึงอยากอยุ่กับลูก (อ้อลืมบอก ลูกของเขา2คน แม่กับพ่อบีเป็นคนเลี้ยงอยู่ที่ ตจว.) พี่เอเลยกลับไปและก็ให้บีพาไปหาลูกที่ตจว. และครั้งนั้นเอง พี่เอ ไม่ใช่ผู้ชายฉลาดหลักแหลมอะไร พิมพ์ไทยยังผิดๆถูกๆ คิดตามคนอื่นไม่ทัน อันไหนเห็นว่าเป็นประโยชน์กับตนเองก็เออออห่อหมกไปด้วย และบีก็รู้อยู่แล้วว่าพี่เอ มีนิสัยแบบนี้ เลยบังคับพี่เอว่า ถ้าพี่เอยอมจดทะเบียนกับบี บีจะยอมเลิกให้และให้พี่เอมาอยุ่กับเราโดยไม่ตอแยอีก แต่พี่เอไม่อยากจดทะเบียนกับบี บีก็โมโหทุบตีพี่เอ พี่เอด้วยความรำคาญจึงตอบตกลง และพอไปถึงอำเภอ พี่เอก็ยังมีทีท่าไม่พอใจอยุ่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากบี เอาญาติพี่น้องตนเองไปกันเยอะพอสมควร เนื่องจากบีเคยจดทะเบียนกับสามีเก่ามาก่อน และหย่ากันมาแล้ว จะมาจดใหม่ก็ต้องมีพยาน ส่วนพี่เอ ก็โดนกดดันเนื่องจากญาติพี่น้องบี มองหน้าพี่เอแบบไม่พอใจ เพราะบีเล่าให้ทางญาติพี่น้องฟังอยุ่แล้วว่าพี่เอ มามีเราอีกคน สายตาคนในบ้านจึงรังเกลียดพี่เออย่างเห็นได้ชัด พอเขาจดทะเบียนกันเสร็จก็กลับมาจาก ตจว. พอกลับมาถึงเขาก็ทะเราะกัน พี่เอฉีกทะเบียนสมรสทิ้ง และก็เลิกกับบี แล้วมาอยู่กับเรา โดยพี่เอบอกกับบีไว้ว่า จะไม่มีอีกแล้วที่จะไปๆกลับๆแบบนี้ เขาเบื่อ เขาหมดความอดทน ที่ผ่านมาเขายอมเพราะลูกตลอด แต่ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ต่อให้ทำตัวดีขึ้น บีก็ยังคงคอยหาเรื่องทะเราะตลอด บางวันไม่กลับบ้าน นอนที่ทำงานก็หาเรื่องทะเราะหาว่ามาอยุ่กับเรา ซึ่งตอนนั้น ที่เราเป็นคนขอให้พี่เอกลับไปอยุ่กับบีเราตัดสินใจเดินออกมากจากชีวิตพี่เอแล้ว เราไปลงทะเบียนไว้ว่าจะไปทำงานต่างประเทศ เราตัดสินใจทำงานเก็บเงิน และไม่ยอมติดต่อกับพี่เออีก แต่ทุกครั้งที่พี่เอไม่กลับบ้าน บีก็จะโทรมาหาเราว่า พี่เอมาหาเราหรือเปล่า จนเราเริ่มรำคานเลยโทรหาพี่เอ พี่เอก็เลยบอกว่า พี่เอเบื่อ พี่เอมาหาเล่นไพ่ (ทั้งๆที่ตอนพี่เออยุ่กับเรา พี่เอเลิกการพนันทุกอย่าง) พี่เอก็พยายามขอคืนดีกับเรา เขาบอกกับเราว่าต่อไปนี้บีจะเอาเรื่องลูกมาอ้างพี่จะไม่ยอมอีก แต่จะส่งเงินให้ลูกใช้บีจะได้ไม่ต้องมาอาละวาด พี่เอขอกลับมาแก้ตัวใหม่ เราเองก็สองจิตสองใจ แต่อีกใจก็สงสารที่พี่เอต้องเป็นแบบนี้ น้ำเสียงพี่เอจากที่เป็นคนตลกๆกลับเป็นน้ำเสียงของคนที่ท้อแท้ เบื่อหน่ายชีวิต เราก็ยังรักเขาอยุ่ เลยยอมให้เขากลับมา
จนตอนนี้เราสองคนก็กลับมาอยู่ด้วยกันรักกันดี พี่เอดีกับเราทุกอย่าง ยามเราป่วยพี่เอก็ ไปเยี่ยมไปเฝ้าตลอด คอยหาข้าวให้กิน อุ้มไปขี้ไปเยี่ยว ซักเสื้อผ้า ให้ ทุกอย่าง โดยทุกครั้งพี่เอจะบอกเสมอว่า กับบี พี่เอไม่เคยทำแบบนี้ เขาบอกความรู้สึกไม่ถูกแต่กับเราที่เขาทำเขารู้สึกว่าเขาทำไปเองทำด้วยใจ และอีกเรื่องคือ พี่เอขอบีหย่า แต่บีไม่ยอม บีขอเงินพี่เอ 5 หมื่น พี่เอเองก็ไม่ยอมเพราะรู้ว่ายังไงเงินก็ไม่ถึงลูกแน่นอน เพราะลูกชายผัวเก่าของบี กำลังโต อายุ 17ละ ลูกพี่เอ 6 ขวบ ตอนนี้ เขา2 คนก็ยังไม่หย่ากัน ถึงพี่เอจะดีกับเราจนคนรอบข้างอิจฉาเราเลยก็ว่าได้ แต่เราเองก็ไม่ได้มีความสุขเต็มร้อยเพราะยังเครียดเรื่องจดทะเบียนของเขาอยู่ ก่อนหน้านั้นบีก็เคยมาอาละวาดที่บ้านเรา เพราะไม่พอใจที่ ตนเองคบกับพี่เอมาเกือบ 7 ปี พี่เอไม่เคยพาตนเองเข้าบ้านไปหาแม่ แต่กับเราที่พี่เอคบมาเกือบ 2 ปีพี่เอพาเข้าบ้านไปหาแม่ และญาติพี่น้อง และเพราะเหตุการณ์วันนั้นที่บีมาอาละวาด เราถึงได้รู้ทุกเรื่องว่าที่พี่เอพูดถึงการกระทำของบีเป็นความจริง ตอนนี้เรายอมรับเลยว่าเราเกลียดผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ไม่เคยไปราวี เก็บความเกลียดไว้ในใจ ส่วนพี่เอเอง เราก็รุ้ว่าเขาคิดถึงลูกอยากส่งเงินให้ลูกก็กลัวบีเอาไปใช้ก่อน เราเลยบอกพี่เอไปว่า ไว้ให้ลูกพี่เอโตพอที่จะกดบัตร ATM เป็นค่อยไปหาเขาและพาเขาไปทำบัตร และคอยส่งเงินให้เขาใช้ เขาจะได้คิดว่าเขาไม่ขาดพ่อ ถึงพ่อกับแม่เลิกกันแต่พ่อก็ยังคงคิดถึงเขาอยุ่ พี่เอก็เห็นตามด้วย แต่สายตาของพี่เอ เราเชื่อว่าพี่เอ คิดถึงลูกจริงๆ
ขอบคุณนะคะที่ก่อนหน้านี้เรื่องยาวไปก็ยังมีคนอ่านจนจบ ครั้งนี้ย่อแล้วก็ยังยาวอยุ่แต่ ก็ไม่รู้จะย่ออย่างไรดี เพราะเรื่องมันยาวจริงๆค่ะ เราเองก็ยิ่งได้พิมพ์ก็เหมือนยิ่งได้ระบาย เราคิดเสมอนะว่า นี่เราก็เหมือนเมียน้อยนี่หล่ะเพราะเขายังจดทะเบียนกันอยุ่ แต่พี่เอบอกกับเราเสมอว่า ไม่ใช่หรอก พี่เลิกกันมาแล้วและตอนนี้พี่เอก็มีเราคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ความสุขที่มีมันก็ยังไม่เต็มร้อยเพราะแบบนี้หล่ะ
นี่ฉันเป็นเมียน้อยจริงๆหรือ
พี่เอกับบี ก่อนหน้าที่จะมาเจอเราเขาทั้ง 2 คนก็ทะเราะกันมานานมากแล้ว 4-5 ปีได้ ส่วนมากจะทะเราะกันเรื่องเงิน เนื่องจากพี่เอ ทำงานมาแล้วได้เงินน้อย พี่เอจะให้บัตร ATM และสมุดบัญชีให้บีพกหมด ฉะนั้นการบริหารงานจึงอยู่ที่บี แต่ด้วยส่วนตัวบีเอง ก็ยังคงกินและเที่ยวอยู่ เดือนๆนึง บีเที่ยวประมาณ 6-7 ครั้ง และสถานที่ที่ไปก็จะเป็นพวก ป.กุ้งเผา (ประจำ) หรือไม่ก็ผับแถวๆบ้าน พี่เอเล่าว่า บีเป็นคนหน้าใหญ่ เวลาไปเที่ยวทีไรก็ชอบออกให้น้องๆก่อนและค่อยมาคืนทีหลัง และบีเองก็เป็นคนที่เอาครอบครัวตัวเองมาเป็นสำคัญ เช่นก่อนหน้านี้ก็เคยเอาเงินเดือนของพี่เอไปผ่อนมอไซต์ให้พี่น้องบีจนผ่อนหมด และที่สำคัญ 2 คนนี้ก็ความเห็นไม่ค่อยลงลอยเท่าไหร่ พี่เอ ชอบกินปลาร้ามาก ส่วนบีเหม็นกลิ่นปลาร้า บีชอบกินพวก KFC Pizza ฯลฯ ที่พี่เอไม่ชอบกิน และอีกเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญเลยคือ บีไม่ชอบพ่อของพี่เอ เนื่องจากทุกครั้งที่พ่อพี่เอมาเยี่ยม ลูกชาย ของพี่เอ พ่อก็มักจะขอเงินเพื่อกลับบ้านครั้งละ 2-3 ร้อย บีก็จะไม่พอใจ (แต่เวลาส่งเงินให้ทางบ้านให้ลูกผัวเก่า ส่งทีละพัน พี่เอกล่าวไว้) ซึ่งเงินของพี่เอ เดือนๆนึง ก็อยู่ที่บีหมด และ 2 คนนี้ก็มีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันอีกเรื่องคือ เรื่องการก้าวก่ายการงาน พี่เอทำงาน 2 อย่างคือ 1.เป็นทหาร 2.ตกกลางคืนรับจ้างเป็นการ์ดที่ผับ บางทีพี่เอไม่ได้กลับบ้าน บีก็จะโมโหแล้วถามว่าไปไหน พี่เอก็ไม่ตอบ (พี่เอไปเล่นไพ่ เขาบอกเบื่อบ้านไม่อยากกลับ) พอเช้าบีก็จะโทรไปหาหัวหน้าของพี่เอว่า พี่เอลางาน ทั้งๆที่บางทีก็มีประชุม และอีกเรื่องคือ พี่เอทำงานเป็นการ์ดที่ผับ แน่นอนว่าผับ ต้องมีกินเหล้า แต่พอกลับไปมีกลิ่นเหล้า บีก็มักจะบ่นจะด่าพี่เอ เสมอว่าจะกินเหล้าทำ...ไรนักหนาทุกวี่ทุกวัน พี่เอก็บอกว่า บางวันก็ไม่ได้กิน แต่บางทีลูกค้ามันเมา เราเป็นการ์ดก็ต้องไปห้าม เหล้าหกใส่บ้างบางที แต่แกก็บ่นนะ (ทีมันกินเหล้ากลับมานอนคลานเป็นหมาหน้าห้องน้ำเขาก็ยังไม่เคยบ่น) จนเหตุการณ์สำคัญล่าสุดที่พี่เอบอกกับตัวเองไว้ว่า ถ้ามีที่ไปจะไม่กลับมาอยู่ร่วมกับผู้หญิงคนนี้อีกคือ
วันนั้นพ่อพี่เอป่วย และพี่ชายพี่เอโทรมาบอกว่าขาดเงิน 3พัน พี่เอเลยรีบเดินทางไปที่ทำงานบี พอพี่เอบอกจะขอเงินบีโอนไปให้พ่อ พ่อนอนอยุ่รพ. บีก็โมโห เลยหยิบเงินที่เตรียมไว้โยนใส่พี่เอ ซึ่งพี่เอตอนนั้นใส่ชุดเครื่องแบบราชการทหารอยู่ ความเป็นลูกผู้ชาย ของพี่เอไม่ได้ก้มเก็บเงินที่ตกตรงเท้าบี แต่เดินกลับออกมาแล้วหายืมเพื่อนให้พี่อีกที
จนพอหลังที่พ่อพี่เอเสีย พี่เอก็ได้มาเจอกับเราที่ผับ พี่เอถูกชะตาเราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน พี่เอคอยดูนิสัยเราเวลาเที่ยวผับ ว่าจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เคยเจอไหม พอแกเห็นว่าเราไม่เคยยุ่งกับผู้ชายคนอื่น กิน เที่ยว และก็กลับ ไม่สนใจผู้ชายที่เข้ามาชนแก้ว หรือมาขอเต้นด้วย เป็นระยะเวลา 5 เดือน และในช่วง 5 เดือนนั้น พี่เอก็เริ่มจีบเรา มาตลอดแต่เราก็ทำกะล่อน ไม่สนใจเอาตัวลอดมาตลอดเพราะรู้ว่าพี่เอมีลูกมีเมียแล้ว จนพอวันนึงเราเมา พี่เอก็มาจีบอีกด้วยความที่เมาก็เลยเผลอปากหลุดไปว่า "ไว้พี่ไม่มีเมียเมื่อไหร่หนูถึงจะคบกับพี่และกัน" และเราก็กลับบ้านไป จนผ่านไป พี่เอกับบีเลิกกัน บีเป็นคนขอเลิกกับพี่เอ และเก็บเสื้อผ้าพี่เอใส่กระเป๋าโยนออกนอกห้อง ตอนนั้นพี่เอก็มีอาการเครียด ไม่สนุกสนาน ไม่กวนประสาทคนอื่นเหมือนเคย จนพี่ที่เป็นการ์ดอีกคนบอกให้เราไปคุยกับพี่เอหน่อยว่าเป็นอะไรเห็นเครียดๆ พี่เขาบอกว่าเห็นพี่เอจีบเราอยู่เราน่าจะคุยได้ เราเลยไปคุยให้ จนพี่เอเอาข้อความไลน์ให้ดูว่าบี ขอเลิกกับพี่เอแล้ว คืนนั้นเรากับพี่เอและบรรดา เพื่อนๆที่เป็นการ์ดในผับนั้นก็นั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนพี่เอ จนเราเริ่มเมา เพราะก่อนจะกินกับพี่เอเราก็เริ่มตึงๆมาก่อนแล้ว พี่เอก็ถามเราว่าจำได้ไหมเราบอกว่าถ้าพี่ไม่มีเมียเราจะคบกับพี่ เราก็บอกจำได้ พี่เอก็เลยบอกงั้นตอนนี้เราเป็นแฟนกัน เราก็หัวเราะ(เมา) และคืนนั้นด้วยความเมาพี่เอก็ส่งเรากลับบ้าน ต่างคนต่างเมา ก็เลยเถิดจนมีอะไรกัน แต่พอเช้ามาพี่เอ ก็บอกว่า เขาดีใจที่ได้เรามาเป็นแฟน เพราะเขามองเรามานานแล้ว จีบมาหลายครั้งเราก็หาเรื่องกะล่อนหนีกลับตลอด หลังพอตอนเช้าออกไปกินข้าวกันเสร็จ ลูกน้องพี่เอก็โทรมาบอกว่า บีมาเก็บเสื้อผ้าพี่เอไปหมดแล้ว พอเราได้ยินแบบนั้นเราก็อึ้ง และก็งงว่า ทำไมเป็นแบบนี้ พี่เอเองก็หัวเสียและบอกว่า ไปยอมให้มันเก็บทำไม ลูกน้องก็บอกว่า เขามาอาละวาด กลัวผู้พันมาเห็นพวกผมเลยต้องยอม (นี่คือนิสัยอีกส่วนของบีคือ ชอบไปอาละวาดที่ป้อม) ตอนนั้นเราก็เลยบอกพี่เอไปว่า กลับไปเถอะ พี่ก็มีลุกกับเขา เรื่องเมื่อคืนถือว่าเราพลาดเอง จะจำไว้เป็นบทเรียน แต่พี่เอไม่ยอม แต่ด้วยความที่ทางบีก็โทรหาพี่เอตลอดเวลาเหมือนกันพี่เอเลยต้องกลับไปคุย สุดท้ายพี่เอก็ต้องยังทนอยุ่กับบี เพราะเรื่องลูก แต่พอผ่านไปได้ไม่ถึงเดือนเขาก็ทะเราะกันอีก ตลอดเวลานั้นที่พี่เอกลับไป พี่เอก็ยังติดต่อเราตลอดเวลา ส่วนเราเองก็คอยหนีตลอดเวลา ไม่รับสาย ตัดสายทิ้ง พี่เอก็ยังส่งข้อความมาหาทุกวันไม่เคยขาด ถามเสมอว่า "หิวไหม กินข้าวหรือยัง วันนี้ทำงานเหนื่อยไหม นอนหรือยัง หลับฝันดีนะ" บางวันก็ส่งข้อความมาระบายว่า ทะเราะกับบี เพราะพี่เอไม่ยอมกลับไปนอนห้อง หาว่าพี่เอมานอนกับเรา ทั้งๆที่เราไม่เคยให้พี่เอเข้าบ้านอีกเลยหลังจากนั้น แต่สำหรับเรา ความรุ้สึกเรา ผู้ชายที่เราได้เป็นสามี เราก็คิดจะมีแค่เขาคนเดียว ใช่ว่าพอเป็นแบบนี้เราก็ต้องหาใหม่ ไม่งั้นทุกครั้งที่เที่ยวผับแล้วเวลาเมา เราคงมีผัวไปหลายคนแล้ว และก็มีเหตุการณ์อยุ่ 3 ครั้งที่เกินขึ้น ระหว่าง เรา 3 คนคือ พอทุกครั้งที่พี่เอกับบีทะเราะกัน เขาก็เลิกกันและพี่เอ ก็จะมาอยู่กับเรา เพราะพี่เอนั้นก็อยากอยุ่กับเราอยุ่แล้ว ส่วนเราเองก็ยังรักพี่เออยุ่ แต่พี่ผ่านมาเรายอมให้เขากลับไปทำหน้าที่พ่อ เพราะเราเคยเจ็บปวดมาก่อน เลยคิดว่าบางทีคนเรา แค่ได้รักไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน แต่แค่เห็นเขาไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในส่วนของเขาเราก็มีความสุข ยอมรับนะว่า เจ็บบ้าง แต่ทุกครั้งที่เห็นพี่เอส่งข้อความมาถาม เหมือนเดิมทุกวันเราก็มีความสุขที่เขายังนึกถึงเรา แต่เราก็ไม่เคยเรียกร้องให้กลับมาหา แต่พอทะเราะกับบี พี่เอก็จะหอบเสื้อผ้าอยู่กับเรา พอผ่านไปสักระยะ บีคงคิดได้ก็มาขอคืนดีกับพี่เอ และเอาเรื่องลูกมาพูด บีก็เคยมาพูดกับเราว่า ให้สงสารลูกเขา เราก็บอกไปว่า เราสงสารอยุ่แล้วเราก็เลยบอกให้พี่เอกลับไปทำหน้าที่พ่อ ครั้งนั้นพี่เอเครียดมาก แต่สุดท้ายก็ยอมไป ครั้งนั้นเป็นการจากกันแบบเจ็บปวดที่สุด เพราะ2 ครั้งแรก พี่เอยอมกลับไปเองเพราะลุก แต่ครั้งนี้ เป็นเราที่มาขอให้พี่เอกลับไป ใจพี่เออยู่ที่เราครึ่งนึง อีกครึ่งนึงอยากอยุ่กับลูก (อ้อลืมบอก ลูกของเขา2คน แม่กับพ่อบีเป็นคนเลี้ยงอยู่ที่ ตจว.) พี่เอเลยกลับไปและก็ให้บีพาไปหาลูกที่ตจว. และครั้งนั้นเอง พี่เอ ไม่ใช่ผู้ชายฉลาดหลักแหลมอะไร พิมพ์ไทยยังผิดๆถูกๆ คิดตามคนอื่นไม่ทัน อันไหนเห็นว่าเป็นประโยชน์กับตนเองก็เออออห่อหมกไปด้วย และบีก็รู้อยู่แล้วว่าพี่เอ มีนิสัยแบบนี้ เลยบังคับพี่เอว่า ถ้าพี่เอยอมจดทะเบียนกับบี บีจะยอมเลิกให้และให้พี่เอมาอยุ่กับเราโดยไม่ตอแยอีก แต่พี่เอไม่อยากจดทะเบียนกับบี บีก็โมโหทุบตีพี่เอ พี่เอด้วยความรำคาญจึงตอบตกลง และพอไปถึงอำเภอ พี่เอก็ยังมีทีท่าไม่พอใจอยุ่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากบี เอาญาติพี่น้องตนเองไปกันเยอะพอสมควร เนื่องจากบีเคยจดทะเบียนกับสามีเก่ามาก่อน และหย่ากันมาแล้ว จะมาจดใหม่ก็ต้องมีพยาน ส่วนพี่เอ ก็โดนกดดันเนื่องจากญาติพี่น้องบี มองหน้าพี่เอแบบไม่พอใจ เพราะบีเล่าให้ทางญาติพี่น้องฟังอยุ่แล้วว่าพี่เอ มามีเราอีกคน สายตาคนในบ้านจึงรังเกลียดพี่เออย่างเห็นได้ชัด พอเขาจดทะเบียนกันเสร็จก็กลับมาจาก ตจว. พอกลับมาถึงเขาก็ทะเราะกัน พี่เอฉีกทะเบียนสมรสทิ้ง และก็เลิกกับบี แล้วมาอยู่กับเรา โดยพี่เอบอกกับบีไว้ว่า จะไม่มีอีกแล้วที่จะไปๆกลับๆแบบนี้ เขาเบื่อ เขาหมดความอดทน ที่ผ่านมาเขายอมเพราะลูกตลอด แต่ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ต่อให้ทำตัวดีขึ้น บีก็ยังคงคอยหาเรื่องทะเราะตลอด บางวันไม่กลับบ้าน นอนที่ทำงานก็หาเรื่องทะเราะหาว่ามาอยุ่กับเรา ซึ่งตอนนั้น ที่เราเป็นคนขอให้พี่เอกลับไปอยุ่กับบีเราตัดสินใจเดินออกมากจากชีวิตพี่เอแล้ว เราไปลงทะเบียนไว้ว่าจะไปทำงานต่างประเทศ เราตัดสินใจทำงานเก็บเงิน และไม่ยอมติดต่อกับพี่เออีก แต่ทุกครั้งที่พี่เอไม่กลับบ้าน บีก็จะโทรมาหาเราว่า พี่เอมาหาเราหรือเปล่า จนเราเริ่มรำคานเลยโทรหาพี่เอ พี่เอก็เลยบอกว่า พี่เอเบื่อ พี่เอมาหาเล่นไพ่ (ทั้งๆที่ตอนพี่เออยุ่กับเรา พี่เอเลิกการพนันทุกอย่าง) พี่เอก็พยายามขอคืนดีกับเรา เขาบอกกับเราว่าต่อไปนี้บีจะเอาเรื่องลูกมาอ้างพี่จะไม่ยอมอีก แต่จะส่งเงินให้ลูกใช้บีจะได้ไม่ต้องมาอาละวาด พี่เอขอกลับมาแก้ตัวใหม่ เราเองก็สองจิตสองใจ แต่อีกใจก็สงสารที่พี่เอต้องเป็นแบบนี้ น้ำเสียงพี่เอจากที่เป็นคนตลกๆกลับเป็นน้ำเสียงของคนที่ท้อแท้ เบื่อหน่ายชีวิต เราก็ยังรักเขาอยุ่ เลยยอมให้เขากลับมา
จนตอนนี้เราสองคนก็กลับมาอยู่ด้วยกันรักกันดี พี่เอดีกับเราทุกอย่าง ยามเราป่วยพี่เอก็ ไปเยี่ยมไปเฝ้าตลอด คอยหาข้าวให้กิน อุ้มไปขี้ไปเยี่ยว ซักเสื้อผ้า ให้ ทุกอย่าง โดยทุกครั้งพี่เอจะบอกเสมอว่า กับบี พี่เอไม่เคยทำแบบนี้ เขาบอกความรู้สึกไม่ถูกแต่กับเราที่เขาทำเขารู้สึกว่าเขาทำไปเองทำด้วยใจ และอีกเรื่องคือ พี่เอขอบีหย่า แต่บีไม่ยอม บีขอเงินพี่เอ 5 หมื่น พี่เอเองก็ไม่ยอมเพราะรู้ว่ายังไงเงินก็ไม่ถึงลูกแน่นอน เพราะลูกชายผัวเก่าของบี กำลังโต อายุ 17ละ ลูกพี่เอ 6 ขวบ ตอนนี้ เขา2 คนก็ยังไม่หย่ากัน ถึงพี่เอจะดีกับเราจนคนรอบข้างอิจฉาเราเลยก็ว่าได้ แต่เราเองก็ไม่ได้มีความสุขเต็มร้อยเพราะยังเครียดเรื่องจดทะเบียนของเขาอยู่ ก่อนหน้านั้นบีก็เคยมาอาละวาดที่บ้านเรา เพราะไม่พอใจที่ ตนเองคบกับพี่เอมาเกือบ 7 ปี พี่เอไม่เคยพาตนเองเข้าบ้านไปหาแม่ แต่กับเราที่พี่เอคบมาเกือบ 2 ปีพี่เอพาเข้าบ้านไปหาแม่ และญาติพี่น้อง และเพราะเหตุการณ์วันนั้นที่บีมาอาละวาด เราถึงได้รู้ทุกเรื่องว่าที่พี่เอพูดถึงการกระทำของบีเป็นความจริง ตอนนี้เรายอมรับเลยว่าเราเกลียดผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ไม่เคยไปราวี เก็บความเกลียดไว้ในใจ ส่วนพี่เอเอง เราก็รุ้ว่าเขาคิดถึงลูกอยากส่งเงินให้ลูกก็กลัวบีเอาไปใช้ก่อน เราเลยบอกพี่เอไปว่า ไว้ให้ลูกพี่เอโตพอที่จะกดบัตร ATM เป็นค่อยไปหาเขาและพาเขาไปทำบัตร และคอยส่งเงินให้เขาใช้ เขาจะได้คิดว่าเขาไม่ขาดพ่อ ถึงพ่อกับแม่เลิกกันแต่พ่อก็ยังคงคิดถึงเขาอยุ่ พี่เอก็เห็นตามด้วย แต่สายตาของพี่เอ เราเชื่อว่าพี่เอ คิดถึงลูกจริงๆ
ขอบคุณนะคะที่ก่อนหน้านี้เรื่องยาวไปก็ยังมีคนอ่านจนจบ ครั้งนี้ย่อแล้วก็ยังยาวอยุ่แต่ ก็ไม่รู้จะย่ออย่างไรดี เพราะเรื่องมันยาวจริงๆค่ะ เราเองก็ยิ่งได้พิมพ์ก็เหมือนยิ่งได้ระบาย เราคิดเสมอนะว่า นี่เราก็เหมือนเมียน้อยนี่หล่ะเพราะเขายังจดทะเบียนกันอยุ่ แต่พี่เอบอกกับเราเสมอว่า ไม่ใช่หรอก พี่เลิกกันมาแล้วและตอนนี้พี่เอก็มีเราคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ความสุขที่มีมันก็ยังไม่เต็มร้อยเพราะแบบนี้หล่ะ