[CR] กาลครึ่งหนึ่งคิดถึงตลอดไป..กาญนะจ๊ะบุรี | o n c e k a n c h a n a b u r i ♡

* ส วั ส ดี ค่ า นี่ เ ป็ น ค รั้ ง แ ร ก ใ น ก า ร เ ขี ย น ก ร ะ ทู้ ข อ ง เ ร า *

ที่มาเขียนกระทู้นี้เพราะได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนๆช่วงปิดเทอมเลยอยากเขียนเก็บไว้เป็นความทรงจำ
ก็เลยถือโอกาสแชร์ความรู้สึกของเราที่ได้ไปเที่ยวด้วยเลย รูปไม่ค่อยมี (เสียดายมาก)เพราะตอนไปทั้งแบตโทรศัพท์และกล้องหมดตลอดทางเลย รูปส่วนใหญ่ก็มาจากโทรศัพท์เพื่อน ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ ขอภัยด้วยนะคะ

การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัว ส่วนเส้นทางก็ง่ายแสนง่ายเปิด maps 555 แล้วเลือกทางที่ใกล้สุด+อาศัยดูป้ายข้างทางไม่หลงแน่นอนจ้า

เราเริ่มออกเดินทางจากม.เกษตร กำแพงแสน จ.นครปฐม ตอน 7.00 น. ที่แรกที่เราจะไปคือ"วัดถ้ำเสือ" ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ตอนเรามาถึงผิดแผนไปนิดนึง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คนเลยเยอะมาก

เราเคยมาวัดนี้3-4ครั้งแล้ว จุดเด่นของที่นี่เราว่าน่าจะเป็นองค์พระที่ใหญ่ เจดีย์สวยนี่แหละ ครั้งนี้เราได้มีโอกาสขึ้นไปบนพระบรมสารีริกธาตุ เหนื่อยและเมื่อยสุดๆ แต่เราว่าคุ้มนะ พอขึ้นไปบนนั้นมองลงมาแล้ววิวสวยมาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และนมัสการหลวงพ่อชินประทานพรเรียบร้อย
เราก็เดินมาหาอะไรกินหน้าวัด อาหารที่นี่ก็ราคาปกติเราสั่งบะหมี่แห้งต้มยำชามละ 30 บาท กินเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อ

จุ ด ห ม า ย ต่ อ ไ ป คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ตอนเราไปถึงมันร้อนมาก เดินดูและแวะถ่ายรูปแค่แปปเดียว
จากนั้นเราก็ไปสถานที่ถ่ายทำตำนานสมเด็จพระนเรศวรต่อ
ระยะทางจากสะพานข้ามแม่น้ำแควไปสถานที่ถ่ายทำก็ประมานครึ่งชั่วโมงโดยประมาณ
ตอนไปถึงแทบไม่อยากลงจากรถเลย แดดแรงสุดๆ สัมผัสได้ถึงไอร้อน ร่มไม้ไม่มีสักต้น แต่ไหนๆมาแล้วก็เข้าไปดูสักหน่อย ข้างในคนไม่ค่อยเยอะมาก เรากินข้าวกลางวันที่นี่ นั่งกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกชามละ 20 บาท รสชาติและปริมาณก็ตามราคาเลยแต่ที่นี่มีสองร้าน ร้านแรกจะอยู่ติดแม่น้ำและอีกร้านอยู่ใกล้ๆทางเข้าเห็นติดป้ายว่าเป็นน้อง...เดอะวอยซ์เราไม่รู้จักอ่ะ แต่ดูแล้วร้านที่สองน่ากินดี ซึ่งเราก็ไม่ได้กินร้านที่สองเรากินร้านแรกจ้าเพราะเรามาเห็นร้านที่สองตอนจะกลับแล้ว
หลังจากนั้นเราก็ไม่รอช้ารีบออกเดินทางไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นที่นี่แหละคือเป้าหมายของเรา เราใช้เวลาเดินทางเกือบ3ชั่วโมงได้ ทางถือว่าโหดพอตัว ทั้งขึ้นเขาลงเขาวิ่งสวนกันเลนเดียว พอเราไปถึงตัวอุทยานแห่งชาติจะมีด่านเราเสียค่ารถไป30บาทต่อคัน และค่าเข้า50บาทต่อคน(เรามีบัตรนิสิต)

ที่พักของที่นี่จะมีทั้งแบบเป็นบ้านพักและกางเตนท์ แน่นอนเราตั้งใจจะมากางเตนท์กันอยู่แล้ว เราเอาเตนท์มาเองจะเสียให้อุทยาน30บาทต่อเตนท์ แต่ถ้าไม่มีเตนท์มาเองทางอุทยานก็มีให้เช่า ส่วนราคาเราไม่ได้ถามมา ลานเกงเตนท์ของที่นี่มีสองจุด เราก็ไปจับจองที่กางเตนท์ หลังจากกางเตนท์เรียบร้อย เราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าไปเล่นน้ำตกกัน น้ำตกของที่นี่จะแบ่งเป็นสองทางชั้นที่1-4จะอยู่ทางนึง ส่วนชั้นที่5-7จะแยกไปอีกทางนึง เราวางแผนว่าเย็นนี้จะไปชั้นที่1-4 แล้วพรุ่งนี้เช้าจะขึ้นไปชั้น5-7 ไม่รอช้าเราก็มุ่งหน้าลงไปที่ชั้น1-4 น้ำตกสวยมากสีฟ้าอมเขียวมรกต อากาศก็ดี บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่หมด เราว่าต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง เราเดินลงจนถึงชั้น1ก็เป็นทางตันไปต่อไม่ได้ ก็เดินย้อนกลับมาหยุดอยู่ที่ชั้น2 เราตัดสินใจว่าจะหยุดเล่นน้ำชั้นนี้แหละ พอเท้าเราสัมผัสน้ำครั้งแรก โอโห้!! น้ำเย็นเจี๊ยบเลยค่า เอ่อเราลืมบอก เราไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559
เล่นน้ำเสร็จเราก็ขึ้นมาอาบน้ำตอนนั้นก็เย็นๆประมาณ5โมงเย็น คนก็เริ่มมากางเตนท์กันมากขึ้น ต่างกับตอนแรกมีแค่5-6เตนท์เอง อาบน้ำเสร็จเราก็มาซื้อข้าวกิน ในน้ำตกจะมีร้านขายอาหารอยู่ 4-5 ร้าน และมีร้านสะดวกซื้อ อาหารตามสั่งราคาก็ประมาณ30-35บาทต่อจาน  แต่เราแนะนำเอาเตาปิคนิคมาทำกินเอง ปาร์ตี้รอบดึก ดีดกีตาร์ หน้าเตนท์ นอนดูดาว สนุกมากเห็นจากเตนท์ข้างหลัง^^ ตอนแรกเราก็อยากเอามาทำกินแต่เรายังไม่เคยมีประสบการณ์ไม่รู้ว่าเขาต้องใช้อะไรบ้าง ตอนกลางคืนเราก็เลยปาร์ตี้มาม่าต้มกับปลากระป๋อง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นอนดูดาวฟังเพลงจากเตนท์ข้างๆ บรรยากาศดีมากๆ ต้องลองมาสักครั้งเชื่อเรา

อ รู ณ ส วั ส ดิ์ ค่า

แน่นอนเราไม่พลาดที่จะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น เราดูเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจากกรมอุตฯ เพราะไม่อยากพลาดและไม่อยากตื่นมารอนาน555
รูปนี้เป็นชั้นที่6รูปนี้เราเดินเลยชั้นที่7มา ตอนแรกหวังจะเดินไปดูต้นน้ำแต่มันยังตอนเดินต่อไปอีก เลยหยุดแค่นี้เพราะเราจะไปเที่ยวต่ออีกที่หนึ่ง
ตอนเรากินข้าวได้ไปคุยกับพี่คนหนึ่ง เราบอกเขาว่าเราจะไปเขื่อศรีนครรินทร์(เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท) เขาแนะนำให้เราเอารถข้ามแพไป หลังจากลงแพก็ถึงเลย แน่นอนเราก็ทำตามที่พี่เขาแนะนำมา
เส้นทางที่จะไปแพ
ป้ายบอก 7 กิโลเมตรเลยแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย หลังจากนั้นก็ขับต่อไปเรื่อยๆ
โอ้โห แม่เจ้า!!!! ระยะทาง7กิโลเมตรตอนนี้เรารู้สึกว่ามันไกลมากเพราะเป็นทางลูกรัง เรียกได้ว่าตลอดทางเลยแหละ กว่าจะถึงใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกับระยะทางแค่ 7 กิโลเมตร ไม่เป็นไรหลังจากลงแพไปเราก็จะถึงเขื่อนแล้ว ระหว่างแพเทียบอีกฝั่งเราเลยหลับพักเอาแรงเตรียมไปเล่นเครื่องเล่นเต็มที่ ใกล้จะถึงฝั่งเพื่อนเราก็ปลุก พอดูเวลา อยากจะกรี๊ดดังๆเลยคะ ใช้เวลาไปสองชั่วโมง จะร้องไห้ เราออกจากน้ำตกตอนเกือบ11นาฬิกาได้ เราถึงอีกฝั่งตอนบ่ายสองเสียเวลาไปกับการเดินทางเต็ม หลังจากขึ้นแพได้ รีบขับต่ออย่างไม่รอช้า แต่ทางก็ไม่เอื้ออำนวยอีกแล้วเป็นเหมือนตอนมาเลย แต่ยังดีนี่แค่ 5 กิโลเมตร พอเจอถนนลาดยางเราก็ไปตามที่ลุงขับแพบอกให้เลี้ยวขวา แต่ขับไปเกือบ10กิโลยังไม่เห็นวี่แววของเขื่อนเลยสักนิด ตัดสินใจแวะถามข้างทาง ป้าบอกหนูต้องข้ามแพข้ามไปอีก ไม่ๆ ไม่ข้ามแล้วคะป้า บอกเลยว่า เข็ด ป้าเลยบอกว่าไม่อย่างนั้นก็ต้องขับรถไปอีกประมาณ30กิโล โอเคเลยคะหนูยอมขับรถ หลังจากคุยกับป้า เราและเพื่อนๆเปิด maps ทันที และแล้วเราก็มาถึงเป้าหมายสุดท้ายของเรา เลค เฮฟ เว่น รีสอร์ท เราซื้อบัตรแบบเล่นน้ำอย่างเดียว เล่นได้ 4 ชั่วโมง สามารถเช่าไม้พายมาพายเรือได้ สวนน้ำปิด 6 โมงเย็น เราไปถึงก็บ่ายสามกว่าๆได้ กว่าจะเข้ามาเล่นก็4โมงเย็น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เลยมีเวลาเล่นแค่2ชั่วโมงเอง เสียดายเล่นไม่จุใจเลยมัวแต่เสียเวลาขึ้นแพลงแพ TT


สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริปนี้
ค่าเชื้อเพลิงรถ2คัน 1300 บาท
ค่าลงแพข้ามฟาก 400 บาท คันละ200
ค่าบัตรเล่นน้ำ 250 บาทต่อคน
เฉลี่ยคนละ 495 บาท

รวมค่าอาหาร

วันที่1
มื้อเช้า 30 บาท
มื้อกลางวัน 20 บาท
มือเย็น 35 บาท
มื้อดึก 20 บาท

วันที่2
มื้อเช้า 35 บาท
มื้อกลางวัน 30 บาท
มื้อค่ำ 30 บาท (แวะกินตอนทางกลับ)
สรุปรวมค่าใช้จ่ายที่เสียไปทั้งหมด 695 บาท กับสองวันหนึ่งคืน 5สถานที่ในทริปเดียว
ชื่อสินค้า:   กาญจนบุรี น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เลคเฮฟเว่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่