สนามบินนานาชาติกระบี่ ไฟฟ้าดับนานถึง 6 ชั่วโมง เปิดช่องโหว่กลุ่มก่อการร้าย ...?

กระทู้คำถาม
วิกฤตไฟดับสนามบินกระบี่
ใช้ระบบ APPS แก้ทั้งระบบ
------------------------------------------------------
    เหลือเชื่อครับสำหรับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในสนามบินนานาชาติกระบี่ นานกว่า 6 ชั่วโมง ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้  เรียกว่าเดี้ยงแบบกระดิกอะไรไม่ได้เลย   ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ใบ้กินทั้งหมด  สิ่งที่เห็นในภาพข่าวแล้วน่าสลดใจ เพราะเจ้าหน้าที่ทำได้แค่ จุดเทียนให้แสงสว่างแล้วนั่งกรองเอกสารกันไปตามมีตามเกิด พุธโธ่ พุธถัง อะไรกันนั่น …
    ถามว่าถ้าบังเอิญเกิดมีอาชญากรข้ามชาติที่ลักลอบเข้ามาเตรียมก่อเหตุร้าย  ในประเทศไทยจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ครั้งนี้    แต่บังเอิญ ถือว่าโชคดีไปที่ ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นมาซ้ำ  เพราะเพียงแค่เหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ที่เพิ่งผ่านมา ก็ส่งผลเสียหายกับประเทศไทยไปไม่น้อย
    กรณีเหตุการณ์ไฟฟ้าดับที่สนามบินนานาชาติกระบี่ จึงไม่ควรมองข้ามไปเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่ควรเอาวิกฤตมาเป็นโอกาส   ทาง  ทอท.ควรจะเสนอแผนการป้องกันระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า หรือ APPS มาบังคับใช้กับสนามบินในประเทศทั้งหมด ที่มีอยู่อีกกว่า 30 แห่งโดยเร็ว  อย่าปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ  เพราะความโชคดีไม่มีบ่อยๆหรอกครับ
    ระบบ APPS นี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งขาเข้า ขาออก และผู้โดยสารเปลี่ยนผ่านลำ เมื่อเช็คอินจะรับรู้ทันทีว่าอยู่ในบัญชีผู้โดยสารต้องห้าม และสามารถเดินทางเข้าประเทศปลายทางได้หรือไม่ รวมถึงช่วยลดขั้นตอนการตรวจลงตราของผู้โดยสารให้รวดเร็ว เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันการก่อการร้ายและเพิ่มความปลอดภัยในท่าอากาศยาน
    ปัจจุบันเพิ่งมีผลบังคับใช้ในพื้นที่  6 สนามบินของ ทอท.คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ขณะที่สนามบินของกรมท่าอากาศยาน 28 แห่ง บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด 3 แห่ง และสนามบินอู่ตะเภาของกองทัพเรือ ยังไม่มีผลบังคับใช้  
     “ระบบเอพีพีเอส จะเริ่มตรวจสอบข้อมูลผู้โดยสารตั้งแต่ขั้นตอนการเช็คอิน ณ เคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสาร เมื่อผู้โดยสารทำการเช็คอิน ระบบจะทำการส่งข้อมูลมาตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หากพบว่าเป็นผู้โดยสารที่อยู่ในบัญชีผู้โดยสารต้องห้าม ระบบจะดำเนินการตอบกลับไปทันทีว่าไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศ”
    กรณีเหตุไฟฟ้าดับสนามบินนานาชาติกระบี่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า เกิดขึ้นในอาคาร 1  ช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น เนื่องจากเครื่องปั่นไฟสำรองของท่าอากาศยานในอาคาร 1 บางจุด เกิดใช้การไม่ได้ หลังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค งดจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้ามาในสนามบิน เพื่อซ่อมแซมระบบส่งในเขตอำเภอเหนือคลอง แม้จะนำรถโมบายปั่นไฟของอาคาร 2 มาช่วยปั่นกระแสไฟฟ้า ก็ไม่เพียงพอ เพราะอาคาร 1 เป็นอาคารผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ ทำให้มีการใช้ไฟฟ้ามาก
    จนส่งผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ไม่สามารถตรวจสอบผู้โดยสารที่บินตรงจากหลายประเทศประมาณ 2 พันคน ที่เป็นเที่ยวบินที่มาจากกลุ่มสแกนดิเนเวีย 3 ลำ จีน 4 ลำ และมาเลเซีย 4 ลำ จนตัดสินใจปล่อยให้ผู้โดยสารทั้งหมด ออกจากท่าอากาศยาน โดยไม่ได้ตรวจสอบประวัติ
    แต่ละปี ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปี 2558 ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินมาลงที่ท่าอากาศยานแห่งนี้ รวม 28,618 เที่ยวบิน เฉลี่ย 78 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มี 19,283 เที่ยวบิน
    โดยในปี 2558 มีผู้โดยสาร 3 ล้าน 6 แสน 8 หมื่น 9,672 คน เฉลี่ย 1 หมื่นคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มี 2 ล้าน 7 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินจากต่างประเทศ 13,986 เที่ยวบิน รวมผู้โดยสาร 1 ล้าน 8 แสน 4 หมื่น 3,345 คน
    ถือว่ายังไม่สายเกินแก้ครับ เพราะเชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้  มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะต้องเกิดขึ้นอีกไม่แห่งใดก็แห่งหนึ่ง ถือว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งไปปรับปรุงแก้ไข และที่สำคัญ การนำเอาระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้ามาบังคับใช้กับสนามบินที่เหลืออีกกว่า 30 แห่ง เพื่อป้องกันเหตุร้ายในอนาคต ใช้วิกฤตเป็นโอกาส สร้างชาติให้มั่นคง แข็งแกร่ง ไปเลยครับ…@ พระจันทร์แดง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่