ปกติคนที่ห่างวัดไกลพระอย่างผม ไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพระของเจ้ามากนัก ด้วยรู้ดีถึงความละเอียดอ่อนทางศาสนา ที่คนกายหยาบอย่างผมไม่สมควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจนะครับ ผมเฝ้าติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในเรื่องนี้มานานพอสมควร เฝ้ารอและภาวนาอย่าให้ความขัดแย้งของคนในชาติลามไปถึงศาสนา แต่ยิ่งนานวัน ความขัดแย้งกับดูคล้ายจะลามไปกันใหญ่ จนถึงวันนี้ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับ ถึงผมเป็นคนเสื้อแดงก็จริง ถึงผมจะให้ความศรัทธากับวัดธรรมกายก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยนิยมแนวทางปฏิบัติของพระธัมมชโยเลยแม้แต่นิดเดียว และผมก็ไม่เคยสนใจด้วยว่า วัดไหน พระรูปใด จะอยู่ฝั่งไหนหรือเลือกสีใด
ดังนั้นเรื่องที่ผมจะระบาย จึงเป็นเรื่องของชาวพุทธคนหนึ่งที่รู้สึกห่วงใยพุทธศาสนาที่กำลังจะถูกการเมืองทำให้เกิดวิกฤติศรัทธา สร้างความแตกแยกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ถามผมว่า เห็นด้วยกับการรวมตัวกันที่พุทธมณฑลของเหล่าพระสงฆ์และพุทธบริษัทหรือไม่นั้น ผมอยากบอกว่า เป็นสิทธิที่พึงทำได้ไม่ใช่หรือ ตราบที่ยังไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
ถามผมว่า มันขัดกับ พรบ.การชุมนุมใช่หรือเปล่า ผมก็อยากบอกว่า นั่นอยู่ที่การปฏิบัติที่ต้องเสมอภาคกันครับ ตราบใดที่มีการเลือกปฏิบัติ การทำผิดกฎหมายก็จะมีให้เห็นอย่างนี่ไปเรื่อยๆแหละครับ
ถามผมว่า แล้วเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของเครือข่ายสงฆ์หรือไม่ ผมก็อยากบอกว่า อย่างบางข้อที่ไม่ให้รัฐเข้าไปก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์ มันจะกลายเป็นอำนาจนิยม มันก็จะกลายเป็นองค์กรอิสระ ที่มีโอกาสนำประเทศถอยหลังเข้าคลองดังที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องขอให้บรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ เพราะคนไทยทั้งประเทศต่างก็มีความเป็นอิสระที่จะนับถือศาสนาใดก็ได้ และเราก็อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ไม่ว่าใครจะนับถือศาสนาอะไรก็ตาม ดังนั้นอย่าได้สร้างความหวาดระแวง อย่าได้สร้างความอคติจากความศรัทธา นำสู่ความไม่ไว้วางใจระหว่างศาสนา จนเกิดความขัดแย้งกันเลยดีกว่านะครับ
แต่ประเด็นเรื่องของการตั้งพระสังฆราชนั้น ผมค่อนข้างเห็นด้วยครับ
หนึ่ง เป็นไปตาม พรบ.พระสงฆ์ 2505 แก้ไขเพิ่มเติมตาม พรบ. 2535
สอง เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคมที่เป็นเอกฉันท์
สาม ความเป็นเอกฉันท์ที่เห็นชอบทั้งจากฝ่ายมหานิกายและฝ่ายธรรมยุต
ดังนั้นเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกติกา เป็นไปตามบทบัญญัติ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แล้วทำไมจึงตั้งพระสังฆราชไม่ได้ล่ะครับ
จะมาอ้างความขัดแย้งของคนในชาติคงไม่ได้ เพราะที่ขัดแย้งจริง เท่าที่ติดตามมาก็เป็นพวกหน้าเดิมๆที่ยึดตามความต้องการตัวเองเป็นใหญ่ จนไม่สนใจใดๆกับเรื่องของกฎหมาย
เราจะยอมให้คนกลุ่มนี้กระทำตามอำเภอใจไปถึงเมื่อไหร่กันครับ
เราจะยอมให้คนแต่งจีวรที่การกระทำที่ผ่านมา แทบจะไม่ใช่กิจที่สงฆ์พึงกระทำทั้งสิ้น แทนที่จะสร้างสันติสุขให้กับพุทธบริษัท กับนำแต่ความขัดแย้งมาให้ เป็นผู้กำหนดพระสังฆราชเสียเองอย่างนั้นหรือครับ
เราจะยอมให้ฆราวาสไม่กี่คน ที่ได้อำนาจจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดกติกา และไม่เคยศรัทธาในเรื่องประชาธิปไตย มาเป็นคนบงการให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการอีกอย่างนั้นหรือครับ
ถ้าประเทศไม่ยึดหลักการ ไม่ยึดกฎหมาย ไม่สนใจกติกา ไม่ว่าที่ไหนก็ยากจะหาความสงบสุขได้ ตราบใดที่คนไม่กี่คนยังมีอำนาจการต่อรองได้ดีกว่าคนส่วนใหญ่
และยิ่งอันตรายหนักเข้าไปอีก เมื่อมีความพยายามทำให้การชุมนุมของเหล่าพระสงฆ์ไม่ชอบธรรม ด้วยการให้ข้อมูลเรื่องพระปลอมบ้าง รับจ้างมาบ้าง หรือเป็นพวกเสื้อแดงบ้าง
มันกำลังจะเป็นกระบวนการทำลายล้าง เฉกเช่นการใช้ความรุนแรง เฉกเช่นชายชุดดำ เฉกเช่นจ้างชาวต่างชาติมาร่วมชุมนุมของคนเสื้อแดง จนนำไปโศกนาฏกรรม ที่ประชาชนตายกันเป็นเบือมากที่สุดที่ประวัติศาสน์จะต้องจารึกไว้ เราะจะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กันอีกหรือครับ
สุดท้ายที่อยากจะระบายก็คือ ทำไมคนกลุ่มหนึ่งจึงมีอภิสิทธิ์เหนือคนทั่วๆไป จะพูดอะไร จะทำอะไร หรือจะนำฝูงชนไปกดดันใคร ล้วนไม่มีปัญหา แต่พออีกฝ่ายจะลุกขึ้นมาตอบโต้บ้าง จะลุกขึ้นแสดงพลังไม่เห็นด้วยบ้าง จึงต้องผิดกฎหมายอยู่ร่ำไปล่ะครับ เ
ราจะเดินหน้าประเทศไปด้วยกันด้วยวิธีการอย่างนี้ตลอดไปจริงๆหรือครับ ผมอยากรู้
ทนไม่ไหวแล้วครับ ขอแจมบ้าง-----------------ทวดเอง
แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจนะครับ ผมเฝ้าติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในเรื่องนี้มานานพอสมควร เฝ้ารอและภาวนาอย่าให้ความขัดแย้งของคนในชาติลามไปถึงศาสนา แต่ยิ่งนานวัน ความขัดแย้งกับดูคล้ายจะลามไปกันใหญ่ จนถึงวันนี้ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับ ถึงผมเป็นคนเสื้อแดงก็จริง ถึงผมจะให้ความศรัทธากับวัดธรรมกายก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยนิยมแนวทางปฏิบัติของพระธัมมชโยเลยแม้แต่นิดเดียว และผมก็ไม่เคยสนใจด้วยว่า วัดไหน พระรูปใด จะอยู่ฝั่งไหนหรือเลือกสีใด
ดังนั้นเรื่องที่ผมจะระบาย จึงเป็นเรื่องของชาวพุทธคนหนึ่งที่รู้สึกห่วงใยพุทธศาสนาที่กำลังจะถูกการเมืองทำให้เกิดวิกฤติศรัทธา สร้างความแตกแยกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ถามผมว่า เห็นด้วยกับการรวมตัวกันที่พุทธมณฑลของเหล่าพระสงฆ์และพุทธบริษัทหรือไม่นั้น ผมอยากบอกว่า เป็นสิทธิที่พึงทำได้ไม่ใช่หรือ ตราบที่ยังไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
ถามผมว่า มันขัดกับ พรบ.การชุมนุมใช่หรือเปล่า ผมก็อยากบอกว่า นั่นอยู่ที่การปฏิบัติที่ต้องเสมอภาคกันครับ ตราบใดที่มีการเลือกปฏิบัติ การทำผิดกฎหมายก็จะมีให้เห็นอย่างนี่ไปเรื่อยๆแหละครับ
ถามผมว่า แล้วเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของเครือข่ายสงฆ์หรือไม่ ผมก็อยากบอกว่า อย่างบางข้อที่ไม่ให้รัฐเข้าไปก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์ มันจะกลายเป็นอำนาจนิยม มันก็จะกลายเป็นองค์กรอิสระ ที่มีโอกาสนำประเทศถอยหลังเข้าคลองดังที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องขอให้บรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ เพราะคนไทยทั้งประเทศต่างก็มีความเป็นอิสระที่จะนับถือศาสนาใดก็ได้ และเราก็อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ไม่ว่าใครจะนับถือศาสนาอะไรก็ตาม ดังนั้นอย่าได้สร้างความหวาดระแวง อย่าได้สร้างความอคติจากความศรัทธา นำสู่ความไม่ไว้วางใจระหว่างศาสนา จนเกิดความขัดแย้งกันเลยดีกว่านะครับ
แต่ประเด็นเรื่องของการตั้งพระสังฆราชนั้น ผมค่อนข้างเห็นด้วยครับ
หนึ่ง เป็นไปตาม พรบ.พระสงฆ์ 2505 แก้ไขเพิ่มเติมตาม พรบ. 2535
สอง เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคมที่เป็นเอกฉันท์
สาม ความเป็นเอกฉันท์ที่เห็นชอบทั้งจากฝ่ายมหานิกายและฝ่ายธรรมยุต
ดังนั้นเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกติกา เป็นไปตามบทบัญญัติ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แล้วทำไมจึงตั้งพระสังฆราชไม่ได้ล่ะครับ
จะมาอ้างความขัดแย้งของคนในชาติคงไม่ได้ เพราะที่ขัดแย้งจริง เท่าที่ติดตามมาก็เป็นพวกหน้าเดิมๆที่ยึดตามความต้องการตัวเองเป็นใหญ่ จนไม่สนใจใดๆกับเรื่องของกฎหมาย
เราจะยอมให้คนกลุ่มนี้กระทำตามอำเภอใจไปถึงเมื่อไหร่กันครับ
เราจะยอมให้คนแต่งจีวรที่การกระทำที่ผ่านมา แทบจะไม่ใช่กิจที่สงฆ์พึงกระทำทั้งสิ้น แทนที่จะสร้างสันติสุขให้กับพุทธบริษัท กับนำแต่ความขัดแย้งมาให้ เป็นผู้กำหนดพระสังฆราชเสียเองอย่างนั้นหรือครับ
เราจะยอมให้ฆราวาสไม่กี่คน ที่ได้อำนาจจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดกติกา และไม่เคยศรัทธาในเรื่องประชาธิปไตย มาเป็นคนบงการให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการอีกอย่างนั้นหรือครับ
ถ้าประเทศไม่ยึดหลักการ ไม่ยึดกฎหมาย ไม่สนใจกติกา ไม่ว่าที่ไหนก็ยากจะหาความสงบสุขได้ ตราบใดที่คนไม่กี่คนยังมีอำนาจการต่อรองได้ดีกว่าคนส่วนใหญ่
และยิ่งอันตรายหนักเข้าไปอีก เมื่อมีความพยายามทำให้การชุมนุมของเหล่าพระสงฆ์ไม่ชอบธรรม ด้วยการให้ข้อมูลเรื่องพระปลอมบ้าง รับจ้างมาบ้าง หรือเป็นพวกเสื้อแดงบ้าง
มันกำลังจะเป็นกระบวนการทำลายล้าง เฉกเช่นการใช้ความรุนแรง เฉกเช่นชายชุดดำ เฉกเช่นจ้างชาวต่างชาติมาร่วมชุมนุมของคนเสื้อแดง จนนำไปโศกนาฏกรรม ที่ประชาชนตายกันเป็นเบือมากที่สุดที่ประวัติศาสน์จะต้องจารึกไว้ เราะจะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กันอีกหรือครับ
สุดท้ายที่อยากจะระบายก็คือ ทำไมคนกลุ่มหนึ่งจึงมีอภิสิทธิ์เหนือคนทั่วๆไป จะพูดอะไร จะทำอะไร หรือจะนำฝูงชนไปกดดันใคร ล้วนไม่มีปัญหา แต่พออีกฝ่ายจะลุกขึ้นมาตอบโต้บ้าง จะลุกขึ้นแสดงพลังไม่เห็นด้วยบ้าง จึงต้องผิดกฎหมายอยู่ร่ำไปล่ะครับ เ
ราจะเดินหน้าประเทศไปด้วยกันด้วยวิธีการอย่างนี้ตลอดไปจริงๆหรือครับ ผมอยากรู้