ผมมานั่งนึกๆว่า ควรจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม
มันเป็นเรื่องของตัวผมเองกับคนๆหนึ่งที่ทำงาน
ที่คิดเยอะ เพราะกลัวคนจะรู้ เนื่องจากผมไม่ได้เปิดเผยกับใครเลย
แต่วันนี้ว่างๆ เลยพิมพ์มาให้อ่านกัน
เรื่องราวจะเขียนเรียบๆง่ายๆ 10 ตอนสั้นๆจบนะครับ
จะเรียงตามวัน บางฉาก บางเหตุการณ์อาจจะดูงงๆ ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ปล เรื่องนี้ based on true story 70-80% ที่เหลือขอบิดเบือนบ้าง
เพื่อไม่ให้สาวถึงตัว จขกท และบุคคลในเหตุการณ์
ปล 2 ขอให้อ่านเป็นอรรถรสพอนะครับ และหวังว่าทุกคนจะชอบมันเหมือนกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
Can I call it as “LOVE”?
ตอน 1 : กรกฎาคม 2556
ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับว่าหลังจากทำงานที่นี่มาสองเดือน มีผู้ชายคนหนึ่งยิ้มให้ผมตลอด...
เจอกันที่ห้องแม่บ้าน
เดินสวนกันระหว่างทางไปห้องน้ำ
เกือบเดินชนกันที่ห้องถ่ายเอกสาร
เขาจะยิ้มให้ทุกครั้ง
ทั้งๆที่ผมหน้านิ่งๆ หน้าตาไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร แต่เขา กลับยิ้มให้ผมตลอด
รอยยิ้มนั้นทำให้ที่ทำงานที่แสนจะงี่เง่า หลายเป็นสถานที่น่าอภิรมย์ขึ้นมาทันใด
จนวันหนึ่ง ผมรวบรวมความกล้า และทักเขาไปในที่สุด
“น้องชื่ออะไรอะครับ”
“ตี๋ครับ”
“พี่ต้นนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
และนั่น คือบทสนทนาแรกๆที่ได้คุยกัน
ตี๋เป็นคนหน้ากลมตี๋สมชื่อ ผิวขาวใสหมดจดแบบลูกคนจีนขนาดแท้
ไม่มีส่วนไหนไม่ขาว นอกสเป้กผมไปไกลเลย เพราะผมก็ขาวและตี๋
ผมตัวใหญ่กว่า ล่ำกว่าตี๋เยอะ และที่สำคัญ อายุเราห่างกันมาก
ผมเลยถูกชะตาน้องตี๋แบบน้องชาย...จากรอยยิ้มที่เคยให้
แต่ให้คิดเกินเลยน่ะเหรอ...ไม่มีทางหรอก ผมชอบคนเข้มๆ
ใช่รักหรือเปล่า? : Can I call it as "LOVE"? (เรื่องเล่าจากความทรงจำ ครั้งหนึ่งในที่ทำงาน)
มันเป็นเรื่องของตัวผมเองกับคนๆหนึ่งที่ทำงาน
ที่คิดเยอะ เพราะกลัวคนจะรู้ เนื่องจากผมไม่ได้เปิดเผยกับใครเลย
แต่วันนี้ว่างๆ เลยพิมพ์มาให้อ่านกัน
เรื่องราวจะเขียนเรียบๆง่ายๆ 10 ตอนสั้นๆจบนะครับ
จะเรียงตามวัน บางฉาก บางเหตุการณ์อาจจะดูงงๆ ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ปล เรื่องนี้ based on true story 70-80% ที่เหลือขอบิดเบือนบ้าง
เพื่อไม่ให้สาวถึงตัว จขกท และบุคคลในเหตุการณ์
ปล 2 ขอให้อ่านเป็นอรรถรสพอนะครับ และหวังว่าทุกคนจะชอบมันเหมือนกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
Can I call it as “LOVE”?
ตอน 1 : กรกฎาคม 2556
ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับว่าหลังจากทำงานที่นี่มาสองเดือน มีผู้ชายคนหนึ่งยิ้มให้ผมตลอด...
เจอกันที่ห้องแม่บ้าน
เดินสวนกันระหว่างทางไปห้องน้ำ
เกือบเดินชนกันที่ห้องถ่ายเอกสาร
เขาจะยิ้มให้ทุกครั้ง
ทั้งๆที่ผมหน้านิ่งๆ หน้าตาไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร แต่เขา กลับยิ้มให้ผมตลอด
รอยยิ้มนั้นทำให้ที่ทำงานที่แสนจะงี่เง่า หลายเป็นสถานที่น่าอภิรมย์ขึ้นมาทันใด
จนวันหนึ่ง ผมรวบรวมความกล้า และทักเขาไปในที่สุด
“น้องชื่ออะไรอะครับ”
“ตี๋ครับ”
“พี่ต้นนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
และนั่น คือบทสนทนาแรกๆที่ได้คุยกัน
ตี๋เป็นคนหน้ากลมตี๋สมชื่อ ผิวขาวใสหมดจดแบบลูกคนจีนขนาดแท้
ไม่มีส่วนไหนไม่ขาว นอกสเป้กผมไปไกลเลย เพราะผมก็ขาวและตี๋
ผมตัวใหญ่กว่า ล่ำกว่าตี๋เยอะ และที่สำคัญ อายุเราห่างกันมาก
ผมเลยถูกชะตาน้องตี๋แบบน้องชาย...จากรอยยิ้มที่เคยให้
แต่ให้คิดเกินเลยน่ะเหรอ...ไม่มีทางหรอก ผมชอบคนเข้มๆ