ก่อนอื่นเลยนะครับ สำหรับคนทั่วไป อาจจะมีความคิดแบบคนทั่วไป แต่ก็อาจจะมีบางคนหรือบางกลุ่มที่มีแนวคิดแตกต่างกันไป ซึ่งอาจจะมองเห็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าปรกติ กลายเป็นเรื่องที่ไม่ปรกติ เพราะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง เลยอยากขอความคิดเห็นจากหลายๆคนครับ
ข้อที่ 1
ถ้ากรณีฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง อายุประมาณ 26 โสดทั้งคู่ และมีใจให้กัน แต่พึ่งรู้จักและพูดคุยกันได้นานแค่สัปดาห์เดียว แล้วก็มีอะไรกัน เพราะผู้หญิงมีใจและเป็นฝ่ายรุกเข้าหาผู้ชายก่อน สำหรับคนทั่วไปถือว่าเป็นเรื่องผิดหรือไม่ครับ และสุดท้ายก็คบกันได้ประมาณสองปีครึ่ง แล้วก็เลิกกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คนที่ผมคุยด้วยคิดว่า ต่อให้ชอบพอกันและผู้หญิงเริ่มรุกก่อน แต่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ผู้ชายควรหักห้ามใจตัวเองไม่ยอมผู้หญิงครับ
แต่สำหรับผม ผมคิดว่าไม่ผิดเพราะต่างคนต่างโสดและชอบพอกันแล้วก็ไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว อีกทั้งฝ่ายหญิงเป็นคนเริ่มก่อน ผู้ชายทั้งแท่งในโลกนี้คงไม่มีใครฝืนทนได้ ถ้าฝ่ายชายมีแฟนอยู่แล้วผมถึงจะคิดว่าควรหักห้ามใจครับ
ข้อที่ 2
กรณีที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงโสดทั้งคู่เหมือนกัน อายุเยอะแล้วเหมือนกัน พึ่งรู้จักกันวันแรกเพราะเพื่อนแนะนำให้คุยกันที่ร้านอาหารในโรงแรม คุยกันจนร้านปิด และฝนข้างนอกยังตกอยู่ ผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์มาถ้ากลับเลยก็ต้องตากฝนกลับแล้วฝ่ายหญิงชวนขึ้นไปคุยต่อบนห้องพักของตัวเองในโรงแรม เป็นไปได้ไหมครับ ว่าฝ่ายชายจะไม่คิดอะไรเลย ว่าผู้หญิงชวนขึ้นห้องหมายความว่าต้องมีอะไรกัน แต่สรุปแล้วฝ่ายชายไม่คิดอะไรแบบนั้น และคืนนั้นผู้ชายก็ไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงคนนั้นเลย พอคุยกันเสร็จฝนเริ่มหยุด ก็กลับบ้านปรกติ และหลังจากนั้นไม่นานผู้ชายกับผู้หญิงคนนี้ก็คบเป็นแฟนกันได้สามปี แล้วก็เลิกกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อนี้คนที่ผมคุยด้วยบอกว่า พึ่งรู้จักกันวันแรกไม่ควรขึ้นห้องกับผู้หญิงเพราะเป็นไปไม่ได้ว่าผู้ชายถูกผู้หญิงชวนขึ้นห้อง จะไม่คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่า
แต่สำหรับผม ผมคิดว่าแน่นอนว่าการที่ขึ้นไปอยู่ในห้องนอนสองต่อสองคือการเสี่ยงที่จะมีอะไรกัน ถ้าฝ่ายหญิงต้องการและฝ่ายชายต้องการแม้จะพึ่งรู้จักกันมันก็ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ เพราะยังโสดกันทั้งคู่ และการที่ถูกสาวชวนขึ้นห้องในบางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่าต้องคิดถึงเรื่องอย่างว่าเสมอไป ผู้ชายบางคนก็ไม่คิดอะไรแบบนั้นเลยก็มี เพราะยังไม่รู้สึกชอบขนาดนั้น แถมกรณีนี้เพราะฝนตก ร้านอาหารก็ปิด ผู้หญิงก็เลยชวนไปนั่งคุยกันต่อบนห้อง และต่างฝ่ายต่างก็ไม่เมา ผู้ชายก็มีโอกาสที่จะไม่คิดอะไรเช่นกัน แต่ถึงคิดแต่ถ้าไม่ทำโดยการฝืนใจฝ่ายหญิงก็ไม่ผิดเช่นกัน ถ้าจะผิดก็คือฝ่ายหญิงไม่ต้องการที่จะทำแล้วฝ่ายชายใช้กำลังบังคับฝ่ายหญิง ถึงจะถือว่าผิดครับ แต่กรณีนี้คือไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่ขึ้นไปคุยกันเฉยๆรอฝนหยุดก็แยกย้ายขอตัวกลับบ้านครับ
แน่นอนว่าผมมีคำตอบในใจอยู่แล้ว และได้แสดงความคิดเห็นในมุมมองของผมไปแล้วในสปอยร์ แต่ที่ถามเพราะอยากรู้ความคิดเห็นจากคนอื่นครับ ว่าคิดเห็นแตกต่าง หรือเหมือนกันแบบไหนบ้างเท่านั้นเอง
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ
มีคำถามอยากจะถามเกี่ยวกับทางด้านความคิดครับ ว่าผิดหรือไม่ 18+
ข้อที่ 1
ถ้ากรณีฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง อายุประมาณ 26 โสดทั้งคู่ และมีใจให้กัน แต่พึ่งรู้จักและพูดคุยกันได้นานแค่สัปดาห์เดียว แล้วก็มีอะไรกัน เพราะผู้หญิงมีใจและเป็นฝ่ายรุกเข้าหาผู้ชายก่อน สำหรับคนทั่วไปถือว่าเป็นเรื่องผิดหรือไม่ครับ และสุดท้ายก็คบกันได้ประมาณสองปีครึ่ง แล้วก็เลิกกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อที่ 2
กรณีที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงโสดทั้งคู่เหมือนกัน อายุเยอะแล้วเหมือนกัน พึ่งรู้จักกันวันแรกเพราะเพื่อนแนะนำให้คุยกันที่ร้านอาหารในโรงแรม คุยกันจนร้านปิด และฝนข้างนอกยังตกอยู่ ผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์มาถ้ากลับเลยก็ต้องตากฝนกลับแล้วฝ่ายหญิงชวนขึ้นไปคุยต่อบนห้องพักของตัวเองในโรงแรม เป็นไปได้ไหมครับ ว่าฝ่ายชายจะไม่คิดอะไรเลย ว่าผู้หญิงชวนขึ้นห้องหมายความว่าต้องมีอะไรกัน แต่สรุปแล้วฝ่ายชายไม่คิดอะไรแบบนั้น และคืนนั้นผู้ชายก็ไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงคนนั้นเลย พอคุยกันเสร็จฝนเริ่มหยุด ก็กลับบ้านปรกติ และหลังจากนั้นไม่นานผู้ชายกับผู้หญิงคนนี้ก็คบเป็นแฟนกันได้สามปี แล้วก็เลิกกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แน่นอนว่าผมมีคำตอบในใจอยู่แล้ว และได้แสดงความคิดเห็นในมุมมองของผมไปแล้วในสปอยร์ แต่ที่ถามเพราะอยากรู้ความคิดเห็นจากคนอื่นครับ ว่าคิดเห็นแตกต่าง หรือเหมือนกันแบบไหนบ้างเท่านั้นเอง
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ