เริ่มเรื่อง คือ แม่ของเราเมื่อก่อนจะทำมีอาชีพเสริมเป็นการค้าขาย แบบไปรับสินค้าจากร้านใหญ่มาขายต่อ
แล้วก็จะมีคนรู้จักมาซื้อของ บางคนก็จะมาขอรับจากแม่เราไปขายต่ออีกที ทีนี้ด้วยความที่แม่เราเป็นคนจิตใจดี
ใจดี และคิดว่าคนที่รู้จักกัน สนิทกัน จะเป็นคนดีด้วยเช่นกัน ก็ทำให้ไว้ใจ ให้คนรู้จักเอาของไปขายต่อแบบนำ
สินค้าไปก่อน จ่ายคืนทีหลัง ตอนแรกๆ ก็จ่ายคืนครบไม่มีปัญหา แต่พอหลังๆ เริ่มไม่มีจ่ายคืน สินค้าขายได้หมด
นะคะ แต่ไม่มีเงินจ่ายคืนค่าของ (ตอนนั้นเราเด็กมาก เลยไม่รู้เรื่องของแม่ มารู้เรื่องตอนโตแล้ว) แม่เราก็ต้องเป็น
คนจ่ายคืนร้านใหญ่เองทั้งหมด เรื่องนี้ยังทำให้คุณแม่เสียเครดิตกับร้านไปที่รับของมาอีกด้วย สรุปแล้วเค้าก็
กลายมาเป็นลูกหนี้ของแม่ ซึ่งมียอดหนี้หลายหมื่นบาท (เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว) โดยแม่พยายามทวงเงินคืนตลอด
แต่ลูกหนี้รายนี้ก็ทำแบบ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ด้วยความที่แม่เราเป็นดี ไม่กล้าทำอะไรรุนแรง ด้วยเป็นคุณแม่เลี้ยง
เดี่ยว ไม่มีคู่คิด คนคอยปรึกษา ทำอะไรไม่ได้ ต้องก้มหน้ารับชะตากรรม โดยยินยอมให้ลูกหนี้จ่ายชำระคืนเพียง
เดือนละ 500 – 1000 บาท และแม่เราต้องเป็นคนไปเก็บจากลูกหนี้เอง บางเดือนก็บอกว่าไม่มีจ่าย (บ้านก็มีอยู่
รถก็มีขับ แต่ไม่ยอมจ่ายหนี้คืน) เป็นอย่างนี้มาตลอดสิบปี ซึ่งกว่าจะตกลงกันได้เรื่องผ่อนชำระคืน ก็ล่วงเลยมา
หลายปี จนปัจจุบันก็ยังคงผ่อนชำระแบบนี้อยู่ เราเพิ่งรับรู้เรื่องนี้ไม่นานมานี้ เลยอยากจะช่วยแม่หาทางออก บ้าน
เราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็ต้องมาเจอคนแบบนี้เอาเปรียบอีก

      เราอยากจะปรึกษาคนที่มีความรู้ด้านกฎหมาย หรือคนที่เคยมีประสบการณ์ ขอคำแนะนำว่าเราควรช่วยแม่
จัดการเรื่องนี้อย่างไรดีคะ มีวิธีไหนที่จะจัดการบังคับให้ชำระหนี้คืนเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดแบบเป็นเงินก้อน
หรือยังไงก็ได้ ที่ไม่ใช่การจ่ายคืนแค่เดือนละหนึ่งพันบาท (ลูกหนี้มีสองคน คนนึงเป็นข้าราชการ จ่ายคืนเดือนละ
500 - 1000 ยบาท ส่วนอีกคนนึงหนีไปค้าขายอยู่ที่ต่างจังหวัด แต่ยังโชคดีที่แม่เค้าไม่หนีไปด้วย เลยสามารถ
ไปเก็บเงินจากแม่เค้าได้ โดยเค้าส่งเงินมาไว้ที่แม่เค้า จ่ายคืนเดือนละ 1000 - 2000 บาท) ซึ่งแม่ไม่ได้ให้ลูกหนี้
เซ็นต์เอกสารอะไรเป็นหลักฐานเลย สอบถามแม่ แม่บอกว่ามีแค่สมุดบัญชีที่คอยจดไว้ ว่าใครเป็นหนี้เท่าไหร่
จ่ายคืนแล้วเท่าไหร่แค่นั้นเอง ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ