ประสบการณ์จองดินเนอร์ล่องเรือเจ้าพระยา(ครั้งแรก)ผ่าน agent ของ travel for today

ประสบการณ์ จองดินเนอร์ล่องเรือเจ้าพระยา ผ่าน agent ของ travel for today (พนักงานพูดจาแบบนี้)
เรากับแฟนตกลงกันไว้ว่า วันครบรอบจะไปดินเนอร์ล่องเรือเจ้าพระยากัน หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็ทำการหาข้อมูลเบอร์โทรติดต่อเรือ เราไปเจอเบอร์ agent ของ “travel for today ” (มีโปรอยู่) ลองดูข้อมูลคร่าวๆแล้วก็โอเคตกลงเอาอันนี้แหละ เพราะอีกอาทิตย์นึงก็จะวันครบรอบแล้ว เลยรีบโทรไปสอบถามก่อนจะเต็ม
วันที่ 6 ก.พ. เราได้ทำการโทรไปสอบถามการล่องเรือเจ้าพระยา ผ่าน agent ของ travel for today ก็ได้ข้อมูลมาเรียบร้อย เขาบอกให้โอนเงินถึงจะทำการจองให้ได้ ก็ตกลงบอกเขาว่าเดี๋ยวจะไปโอนในวันนี้ (คือวันที่ 6) แต่ด้วยภารกิจ ติดธุระเลยไม่สามารถโอนเงินได้ วันที่ 6 นั้นเลยยังไมได้โอน ผ่านไปประมาณ 2 วัน เข้าวันที่ 8 ก.พ. ก็คือวันจันทร์ ก็มีสายเข้าจาก agent ของ travel for today โทรมาประมาณ 5 สายได้ แต่เราไม่ว่างรับ พอสะดวกเลยโทรกลับไปว่าเป็นใคร? ปรากฏว่าเป็น agent ของ travel for today โทรมาประมาณว่า “ยังไปอยู่ไหมคะ ถ้าไปให้โอนเงินมา เราจะได้จองที่นั่งให้ เพราะว่ามีคนจองเยอะ เดี๋ยวจะเคลื่อนนะคะ” (ดูใส่ใจลูกค้าดีนะคะ โทรมาสอบถามว่ายังไปอยู่ไหม) หลังจากนั้นเราก็โทรบอกแฟนให้แฟนเราไปโอนเงิน แฟนก็โอนเรียบร้อยแล้วก็โทรกลับมาบอกเราว่า โอนเรียบร้อยแล้วนะ แล้วเราก็โทรกลับไปหา agent ของ travel for today ว่าโอนแล้วนะคะ แล้วเขาก็บอกว่า “จะจัดส่ง voucher ไปให้จะรับเป็นทางไหนดีคะ ทาง sms หรือ E-mail” เราเลยบอกว่า “เอาทาง sms แล้วก็ถามเขาว่า ท่าเรืออยู่ที่ไหนหรอคะ พอดีไม่รู้จักเส้นทาง
เขาก็บอกว่า ท่าเรือยอดพิมาร”
เราก็ถามว่า อยู่แถวไหนหรอคะ? ใช่สี่พระยาหรือเปล่า? (สี่พระยานี้เราคิดว่าเป็นท่าเรือที่เขาชอบไปล่องเรือกันเลยถามเขาว่า ใช่หรือเปล่า)
แล้วเขาก็บอกว่า เอ่ออ.. ใช่ค่ะ (ตอบเหมือนไม่มั่นใจ)
เราก็บอกว่า รบกวนส่งแผนที่มาให้ทาง E-mail ได้ไหมคะ (เราก็พูด E-mail เราไป และทวนสะกดคำให้เขาด้วย)
เขาก็บอกว่า โอเคค่ะ เดี๋ยวส่งให้
“จบการสนทนาการจอง หลังจากนั้นเราก็ได้ voucher มาทาง sms มือถือ แต่ไมได้แผนที่ทาง E-mail”
พอมาถึงวันเสาร์ (13 ก.พ. วันกำหนดล่องเรือ)
เรากับแฟนก็ขับรถกันไป เรามุ่งตรงไปที่ท่าเรือสี่พระยา เพราะเราก็คิดว่ามันอยู่ท่าเรือสี่พระยา ก็ขับไปเรื่อยๆจวนเกือบจะถึงสี่พระยา แต่เริ่มสบสันเส้นทางเพราะไม่เคยไปเส้นทางนั้นเลย เลยโทรกลับไปหาพนักงาน agent ของ travel for today ที่โทรมาถามรเรื่องโอนเงิน (ที่ติดต่อกับเราบ่อยๆ) โทรไปตั้งแต่ หกโมงกกว่าๆ แต่ไม่มีใครรับเลย เราเลยเปิดดูใน voucher ว่ามีเบอร์ไหนติดต่อได้บ้าง ก็เห็นมีเบอร์ที่เขียนว่า Emergency call เราเลยโทรไปประมาณ 4-5 สาย รวมๆแล้วโทรไปประมาณ 10 สายได้ แต่ไม่มีใครรับเลย จากนั้นเราเลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนของเราแทน (เพื่อนเรามันรู้ทุกอย่าง รู้ทุกเส้นทาง เลยโทรหามัน 5555) เราถามเพื่อนว่า ท่าเรือตรงสี่พระยา อยู่ไหน เพื่อนก็บอกทางจนมาถึงแถวท่าเรือสี่พระยา แล้วเพื่อนถามว่า “นั่งเรือของอะไร” เราก็บอกชื่อไป มันเลยบอกว่า ท่าเรือที่ขึ้นของบริษัทล่องเรืออันนี้ไมได้อยู่สี่พระยา อยู่อีกที่นึงแถวปากคลองตลาด ต้องไปทางสะพานพุทธ (เรากับแฟนก็มองหน้ามกัน อ้าวนี่เราก็ใกล้ถึงท่าเรือสี่พระยาแล้ว เวลาก็ทุ่มนิดๆแล้ว กำหนขึ้นท่าเรือ ทุ่มครึ่ง เรากับแฟนก็เออคงไม่ทันแล้วแหละ เห้อออออ แต่เราก็บอกกับแฟนว่า อยากลองไปดูเผื่อจะไปพูดอะไรได้บ้าง เรื่องท่าเรือ) จากนั้นก็ขับรถจากสี่พระยาไปสะพานพุทธ ด้วยความที่งงทาง ไม่เคยมา ไม่เคยรู้เส้นทางเลย ต้องอาศัยเพื่อน ส่งโลเคชั่นให้เพื่อนดูตลอดทางให้เพื่อนบอกทาง และเปิดจีพีเอสเอา ระหว่างนั้น ก็ได้โทรหา Emergency call ไปด้วยแต่ก็ยังไม่มีใครรับเหมือนเดิม จนสุดท้ายเราก็มาถึงท่าเรือยอดพิมาร ตรงปากคลองตลาด ใกล้ๆ3ทุ่ม (แต่รู้แล้วแหละว่า ไม่ทันแล้ว แต่อยากมาไหนๆก็ตั้งใจจะมาแล้ว) และได้เลี้ยวรถเข้าไป พอเปิดกระจกจะรับบัตรจอดรถคนที่ให้บัตรก็บอกว่า “เรือออกไปนานแล้วนะคะ” (ไอเราก็รู้อยู่แล้วแหละ แต่อยากลงไปคุยเฉยๆ) เราก็ถามว่า “จอดรถตรงไหนคะ?” เขาก็บอกว่า “ถ้าจะจอดต้องไปวนรถใหม่ตรงสะพานพุทธนะคะ” แล้วเราก็ขับออกมาและถอดใจแล้วแหละ รู้ว่าไม่ทันแล้ว แต่ก็อยากลงไปคุย ถ้าให้ไปวนรถมาอีกก็ไม่เอาแล้วอ่ะ เลยตัดสินใจ ขับรถกลับบ้านดีกว่า
สรุป วันนั้นคือ เราแต่งหน้าแต่งตัวอยากไปล่องเรือเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปล่องเรือ ด้วยความหิวเราเลยไปหาข้าวต้มกินที่ตลาดแทน TT
พอเช้าวันอาทิตย์ เราก็ตัดสินใจโทรไปหา agent ของ travel for today อีกครั้งนึง แต่ก็ไม่มีใครรับเหมือนเดิม เราก็คิดว่า วันอาทิตย์คงหยุดทำการแหละมั้ง วันจันทร์ค่อยโทรใหม่อีกที

มาวันจันทร์ (15 ก.พ.) เราโทรไปเวลา ประมาณ 11 โมง เราเลยเปลี่ยเบอร์ที่โทรไป โทรไปหาเบอร์ 02 แทน เพราะโทรไปหาเบอร์มือถือติดต่อไมได้เลย ปิดเครื่อง
เราโทรไปเราก็บอกปัญหาที่เราประสบมาให้เขาฟัง เพราะมีพนักงานของที่นั่นบอกมาแบบนี้
เรา : โทรไปวันนั้นไม่มีใครรับเลย ติดต่อใครไม่ได้เลย (โทรตั้งแต่ หกโมงกว่าๆยันสองทุ่ม)
พนักงาน : พอดีตอนนั้นปิดเวลาทำการแล้ว แล้ววันอาทิตย์ก็เป็นวันหยุด (อ่านแล้วจำตรงนี้ไว้นะ ว่าครั้งแรกเขาพูดแบบนี้)
เรา : แล้วแบบนี้จะช่วยอะไรได้ไหมคะ เพราะเป็นความเข้าใจผิดกัน (เราเองก็ผิด เขาก็ผิด คือก็ผิดทั้งคู่แหละ)
พนักงงาน : เดี๋ยวจะช่วยตามเรื่องให้นะคะ แล้วจะติดต่อกลับไป
เรา : รบกวนด้วยนะคะ ชอบคุณมากค่ะ
ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็รอจนถึง 17.30 ของวันนี้ และยังไม่มีใครติดต่อกลับมา
เรารีบโทรกลับไปถามกลัวว่าจะปิดทำการอีก
เรา : ที่ติดต่อมาเมื่อเช้าที่มีปัญหาค่ะ ไม่ทราบว่าตามเรื่องให้ถึงไหนแล้วคะ?
พนักงาน : พอดีในส่วนนี้ ทางลูกค้าไปเลทเองนะคะ ก็ถือว่าหมดสิทธิ์ไปเอง ทางเราช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ
เรา : แต่ว่าที่ไปไม่ทันก็เพราะไปผิดที่ ตามที่พนักงานคนนั้นบอกว่า ท่าเรือสี่พระยานะคะ
พนักงาน : ลูกค้าจะมานึกเอาเองไมได้นะคะว่าเป็นที่ไหน เพราะเราเขียนไว่แล้วใน voucher ว่าเป็นท่าเรือยอดพิมาร
เรา : ก็ตอนนั้นเราย้ำถามพี่ที่รับสายตอนนั้นแล้วนะคะว่า ใช่ท่าเรือแถวสี่พระยาไหม เขาตอบเองว่า ใช่ เราก็บอกแล้วว่า เราไม่รู้จักจริงๆ ให้ส่งแผนที่มาให้ด้วยแต่เราก็ไมได้รับ
พนักงาน : ไมได้แล้วทำไมไม่โทรมาบอกละคะ ว่าไมได้ จะได้ส่งไปให้ใหม่
เรา : ก็ไม่รู้ค่ะ เห็นนึกว่าจะไม่ส่งมาแล้ว เลยไม่ได้ตาม
พนักงาน : ถ้าจะเลื่อนวันหรือจะไม่ไปทำไม่ไม่โทรบอกล่วงหน้าก่อนสักหนึ่งชั่วโมง
เรา : ก็พยายามติดต่อแล้วนะคะ แต่ไม่มีใครรับสายเลย
พนักงาน : วันนั้นมีพี่ที่บริษัทคนนึงอยู่ถึงสามทุ่มเลยนะคะ เขาบอกไม่มีใครโทรมาเลยจริงๆ (จำได้ไหมคะเมื่อเช้าเขาพูดว่าอะไร บทสนทนาก่อนหน้านี้)
เรา : เราก็เถียงขาดใจว่าเราโทรไปหาคุณตลอด เป็น 10 สายได้ แต่ไม่มีใครรับเลย
จนสุดท้ายพนักงานก็พูดประมาณว่า ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เป็นความผิดของลูกค้าเองทั้งหมด
เรา : ตกลงจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยใช่ไหม (ตอนนั้นเรานี่จุก มือไม้สั่นไปหมด ทำไรไมได้)
พนักงาน : ทาง agent คอนเฟิร์มกับทางเรือไปแล้ว แต่ลูกค้าไม่ไปเอง ก็ไม่สามารถชดเชยให้ได้
เรา : งั้นต่อไปคงจะไม่ใช้บริการของ agent คุณแล้วค่ะ
พนักงาน : แล้วแต่คุณลูกค้าเลยค่ะ (น้ำเสียงแบบ ไม่แคร์อะไร)
เราก็พูดได้แค่ว่า โอเค แล้ววางสายไป
จากนั้นเราก็โทรไปเล่าให้แฟนเราฟัง แฟนเราก็เลยขอเบอร์ไปคุยอีกทีนึง (ด้วยความที่โมโห ที่พนักงานพูดจาแบบนี้)
แฟนเรา : นี่ใช่ agent ของ travel for today ใช่ไหมคะ
พนักงาน : ใช่ค่ะ
แฟนเรา : ที่โทรคุยกันเมื่อกี้ ที่ทางคุณบอกเราผิดท่าเรือ จะไม่รับผิดชอบหรอคะ?
พนักงาน : เรารับผิดชอบไมได้คะ ลูกค้าไปผิดเอง
แฟนเรา : อ่ะใช่ เราเข้าใจผิดท่าเรือ แต่เราบอกทางคุณแล้วว่า ให้ส่งแผนที่มาให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้ส่งมา? แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์เลยคะ โทรไปเป็น 10 กว่ารอบ ทีตอนเรายังไม่โอนเงิน คุณโทรมาถามตลอดว่าจะจองไหม?
แฟนเรา : โทรตั้งแต่ หกโมงกว่า ทุ่ม ยันสามทุ่ม ไม่มีคนรับเลยนะคะ? (เสียงแฟนเราก็คงจะโมโหด้วยแหละ เพราะตอนยังไม่โอนเงิน มันโทรมาหลายสายมาก ทีอย่างนี้ไม่รับโทรศัพท์)
พนักงาน : มีพี่อยู่ที่บริษัทถึงสามทุ่ม เขาบอกว่าไม่มีใครโทรมาเลยนะคะ ทั้งเบอร์มือถือ และเบอร์ 02
แฟนเรา : โทรไปเป็น10สาย จะดูหลักฐานไหม ว่าเราโทรหาคุณกี่รอบ มี E-mail มีไรไหม จะส่งให้ดู
พนักงาน : ก็หน้าเว็บอะค่ะ (น้ำเสียงแบบ …. ไม่ดีอ่ะ)
แฟนเรา : แล้วแผนที่คุณก็ไม่ส่งมา บอกแล้วนะว่าไม่คุ้นเส้นทางให้ส่งแผนที่มาทางเมลล์
พนักงาน : ถ้าลูกค้าไม่ได้รับแผนที่ ทำไมไม่โทรกลับมาบอกละคะ ว่าไม่ได้ (อ้าว นี่กูผิดหรอวะ)
แฟนเรา : แล้วเราต้องโทรหาด้วยหรอว่าไมได้ ทำไมตอนยังไม่โอนเงินคุณโทรมาได้ตลอดว่า ไปไหมคะ ที่จะเต็มแล้วนะ ให้รีบโอน  ทีตอนนี้ทำไมคุณโทรมาไมได้ ?
พนักงาน : ถ้าคุณไมได้คุณก็น่าจะโทรมาบอกนะว่าไม่ได้
แฟนเรา : แล้วใน voucher หรือตรงไหนมีหมายเหตุบอกไว้ ตรงไหนระบุไว้ว่า ถ้าไม่ได้ต้องโทรกลับหาคุณ
พนัหงาน : วางสายใส่ …….
คืออะไรรรรรรรรร? คือทำไมพนักงานพูดจากับลูกค้าแบบนี้ พนักงานพูดจากับเราแบบไม่แคร์อะไร เหมือนชั้นได้ตังแล้วกูไม่แคร์แบบนั้นอะ แล้วคนที่เสียก็คือเรา เราก็โมโหที่พนักงานพูดจาแบบนั้น แล้วที่แฟนเราโทรไปถามอีกครั้งเพราะด้วยความโมโหอีก ตั้งแต่เรื่องโอนเงินแล้ว เพราะ ตอนเรายังไม่โอน เขาโทรมาหาตลอด แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เขาไม่โทรกลับบมา โทรไปไม่รับ ไม่อะไรทั้งนั้น? เราก็ยอมรับนะว่า เราเองก็ผิดที่ไม่ดูท่าเรือดีๆ ไม่ศึกษาเส้นทางก่อนอันนี้เราก็ยอมรับว่าเราผิดจริงๆ ฟังแต่พนักงานคนนั้น เพราะเขาบอกว่า ใช่ เราเลยว่าใช่ เขาเองก็ผิดที่พนักงานคนนั้นบอกท่าเรือเราผิดและไม่รับโทรศัพท์เราเลย ก็ผิดกันทั้งคู่นั่นแหละ แต่เราเสียมากกว่าไง คือเสียตัง เสียเวลา อารมณ์เสียกับพนักงานอีก ไม่ไหวเลยจริงๆพนักงานแบบนี้ เราพูดดีกับเขานะ แต่ที่แฟนเราพูดไม่ดีบ้าง ก็เพราะโมโหพนักงานที่พูดแบบนั้นกับเรา เราก็ไม่รู้จะทำยังไง สรุปก็คงไม่ได้อะไรเลยจาก agent ของ travel for today นี้ ก็อยากฝากประสบการณ์ของเราให้เพื่อนๆทุกคน ที่กำลังจะล่องเรือได้พิจารณา เขาอาจพูดดีกับคนอื่นๆ แต่เราเจอแบบนี้ก็ไม่ไหวอ่ะ
ปล.ฟังจากเสียงแล้วเหมือนรู้สึกว่า เราจะคุยกับพนักงานคนเดิมนะคะ แล้วนางก็ดูตัดสินใจเองทั้งหมด ไม่รู้ว่าเรื่องนี่ได้เคยมีการไปปรึกษาหัวหน้าหรือใครบ้างหรือยัง แต่ที่จะสื่อคือ ประเด็นการพูดคุยเจรจากับพนักงาน
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เข้าไปดูในเวปของเอเจนซีที่ล่องเรือแล้วขึ้นท่ายอดพิมานเขามีแผนที่ให้ชัดเจนนะ

จขกท ไม่อ่านเองนะค่ะแผนที่เขาก็ชัดเจน

เราใช้บริการอีกเอเจนซี่ เขาส่งแต่ใบจองนะ
เวลาที่  จขกท โทรไป พนง สนง เลิกงาน
ส่วนหนึ่งไปสแตนบายแถวท่าเรือ คอยดูแลลูกค้าค่ะ คุณต้องมีเบอร์สายด่วนเชลล์ไว้ ปกติมีเบอร์เดียว

เรามี  ปสก ไปล่องเรือ แล้วลูกค้ามาสาย ทางเรือเขารอ30นาที เลยนะ แล้วคิดดูว่าคนเป็นร้อย เสึยเวลารอคนแค่ไม่กี่คน
ทางเรือเขาเพิ่มเวลาไม่ได้ ทางเจ้าท่าเขาต้องเคลียร์เส้นทางในการล่องเรือเป็นเวลา เพื่อความปลอดภัยของทุกๆคน

เรามองว่าคุณไม่ศึกษาให้ดี ทั้งที่ในเวปเขามีอธิบายละเอียดมาก

เสริทเลยนะค่ะ เอเจนซี่ travel. For today
เราไป ท่าเรือยอดพิมานบ่อยๆ แต่ถ้าให้เราล่องเรือที่นั่น เราคงเลือก นั่งบีทีเอสไปลงสถานีตากสิน ต่อเรือไปท่าพิมาน
หรือ อีกทางเลือก ใช้บริการแท๊กซี่  การเอารถไปแถวนั้นคงต้องเผื่อเวลาเยอะๆ

งานนี้ เราว่าทางเอเจนซี่คงถือว่าคุณไปช้าเองนะค่ะ

เอเจนซี่จะผิดคงผิดในกรณีที่ไม่ระงับอารมณ์ตอนที่คุณโทรไปเจรจานะค่ะ....

แต่ดีลนี้ จบตั้งแต่คุณไปไม่ทันนะค่ะ
ท่าเรือที่โรงแรมแชงกี่ล่า  คุณไม่ศึกษาเส้นทางแบบนี้ ขึ้นเรือไม่ทันแน่เพราะเขามีหลายท่า ถ้าไปผิดท่า จะไปอีกท่าเดินหลงแน่ มองเห็นแต่ข้ามไปไม่ได้...

สนง ลงทะเบียนก็ลึกลับซับซ้อนกว่าท่ายอดพิมานมากมาย ไปก่อน5โมง ก็ไม่รับลงทะเบียน มันต้องลงทะเบียนรับสติ๊กเกอร์ จะได้ลงเรือถูกลำ เพราะมีหลายลำมากเต็มทุกลำ. ทัวร์ทั้งนั้น

ถือซะว่าเป็นประสพการณ์ครั้งหนึ่งดีกว่าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่