.
นับตั้ง พ.ศ.2475 ที่ประเทศไทยใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองของประเทศ รัฐธรรมนูญของไทยเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เหตุการณ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเราไม่มีความมั่นคง สาเหตุที่เปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ปัจจัยอันหนึ่งที่สำคัญก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ทหาร ข้าราชการ หรือประชาชนทั่วไป
ยังไม่มีวัฒนธรรมทางการเมืองที่ส่อให้เห็นถึงความ “ศักดิ์สิทธิ์” หรือความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
เมื่อมองย้อนไปตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2475 จะเห็นได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองซึ่งเป็นกลุ่มคนจานวนน้อยและสร้างขึ้นมา
เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการยึดอำนาจและการขึ้นเป็นผู้ปกครองของฝ่ายก่อการ การใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกนั้น สาระสำคัญจึงยังมิใช่ให้รัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด อย่างที่รัฐธรรมนูญควรเป็น
การกล่าวอ้าง ว่า ประชาชนไม่มีความพร้อมเพราะขาดความรู้ความเข้าใจ ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย อาจถูกต้องและสมเหตุสมผลในช่วงเวลาขณะนั้น แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่คณะผู้ก่อการจะเขียนรัฐธรรมนูญมุ่งหมายที่จะใช้ ข้อความบนรัฐธรรมนูญมาการรันตรีรับรองความถูกต้องของการก้าวเข้าสู่อำนาจของตัวเอง เพราะ นั้นทำให้บางอย่างที่สำคัญที่สุดของรัฐธรรมนูญในประเทศเราขาดหายไป
ทุกฝ่ายตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งคณะผู้ก่อการ คณะขุนนาง ข้าราชการในระบอบปกครองเดิม รวมถึงประชาชนไม่มีใครตระหนักถึง สิ่งที่สำคัญที่สุดของ รัฐธรรมนูญ คือไม่มีฝ่ายใดเห็นว่าหน้าที่ของรัฐธรรมนูญ จริงๆแล้ว คืออะไร
เมื่อฝ่ายผู้ก่อการเห็นรัฐธรรมนูญเป็น เครื่องมือรับรองในการก้าวเข้าสู่อำนาจของฝ่ายตนเอง และใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของพวกตนเองต่อไปในภายภาคหน้า
ฝ่ายผู้ปกครองเดิม (สถาบันกษัตริย์) เห็นรัฐธรรมนูญเป็นข้อตกลงการแลกเปลี่ยนผ่อนถ่ายอำนาจของตนเองไปสู่ประชาชน ซึ่งเป็นระบบสากลที่ประเทศพัฒนาแล้วกระทำกัน จึงไม่แข็งขืนและยอมรับในอำนาจและบทบาทใหม่ของตนเองในการทำหน้าที่เป็นประมุขของชาติตามข้อตกลงนี้
ฝ่ายประชาชน เห็นรัฐธรรมนูญเป็นพันธะสัญญา จากฝ่ายปกครอง ที่จะนำสิ่งที่ดีขึ้นมาสู่ชีวิตของตนเอง ตามข้อความที่บัญญัติถึง สิทธิ เสรีภาพ ที่ตนเองเคยได้รับอย่างจำกัดในระบอบการปกครองเดิม
แต่ไม่มีฝ่ายไหนเลย ที่ ยึดถือ รัฐธรรมนูญเป็น กฎแห่งแผ่นดิน ตามที่รัฐธรรมนูญควรจะเป็น
การศึกษาไทยปลูกฝั่งให้ท่องจำกันว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่ทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติตาม เราทุกคนเคยผ่านการเล่าเรียนในระบบการศึกษาไทยมา ย่อมรู้กันดี แต่ถึงทุกวันนี้ รัฐธรรมนูญของไทย ก็ยังไม่เคยเป็นได้ตามนั้น
เมื่อเวลาผ่านไป
แม้ฝ่ายผู้ปกครองเดิม จะยอมรับ และปฏิบัติตามบทบาทของตนเองที่ถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
แม้ฝ่ายประชาชนจะมีความรู้ความเข้าใจในระบอบการปกครองประชาธิปไตยมากขึ้นแล้ว รับรู้ว่าข้อความที่บัญญัติไว้บนรัฐธรรมนูญ มิใช่ พันธะสัญญา แต่เป็นกรอบกติกาของการอยู่ร่วมกันในสังคมของทุกคนในประเทศ โดยมีสิทธิ เสรีภาพ เท่าเทียมกัน ตามที่ควรเป็นในระอบประชาธิปไตย
ซึ่งนั้นเป็นสัญญาณที่ดี ว่า รัฐธรรมนูญของไทย จะถูกยอมรับให้เป็นสิ่งที่มันสมควรจะเป็น คือเป็น กฎแห่งแผ่นดิน Law of the Land
ถ้าหากว่า อีกฝ่ายที่เหลือ ปฏิบัติตนแบบเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยที่ใช้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด แต่รัฐธรรมนูญไทย ก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่อย่างที่มันควรจะเป็นอยู่ดี
เพราะฝ่ายผู้หวังในอำนาจทางการเมือง ไม่ว่าจะนักการเมือง หรือ นักรัฐประหาร ต่างก็ยังคงใช้ รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการก้าวเข้าสู่อำนาจและสิบทอดอำนาจตามเดิมอยู่ดี
มองย้อนหลังไปในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ จะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญที่มาจากการใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ รัฐธรรมนูญเหล่านั้น ล้วนแต่มีการใช้รัฐธรรมนูญเป็น เครื่องมือในการสืบทอดอำนาจอยู่ ไล่นับนิ้วดูจะเห็นว่าจากการใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลง (ปฏิวัติ รัฐประหาร) นับเฉพาะครั้งที่ทำสำเร็จจะเห็นได้ว่า หากไม่ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งแล้วเขียนใหม่เพื่อสืบทอดอำนาจคณะผู้ก่อการ ก็แก้ไขของเดิมโดยบัญญัติให้การสืบทอดอำนาจของตนเอง ถูกต้องและชอบธรรมตามกฎหมาย
มีเพียงรัฐธรรมนูญฉบับเดียวเท่านั้น ที่ไม่มีเรื่องการสืบทอดอำนาจ เขียนอยู่บนรัฐธรรมนูญ คือรัฐธรรมนูญ 2540 ฉบับที่มาจากประชาชนแต่ก็ยังมีเรื่องใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเกี่ยวข้องอยู่ เพรารัฐธรรมนูญ 2540 เกิดขึ้นเพราะประชาชนไม่ต้องการให้ผุ้หวังมีอำนาจในระบอบการปกครองประชาธิปไตย แต่ไม่ยอมมาตามระบบ อย่างในกรณี รสช. เมื่อ 2535 เกิดขึ้นอีก จึงเป็นที่มาของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนี้ขึ้น
และเป็นช่วงเวลาเดียวที่รัฐธรรมนูญไทย ไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสิบทอดอำนาจ มันจึงเป็นช่วงเวลาเดียว ที่รัฐธรรมนูญได้ทำหน้าที่ กฎแห่งแผ่นดิน ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
แต่ช่วงเวลานั้นช่างสั้นนัก เมื่อสุดท้ายก็ถูกการใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลง ฉีกทิ้งและเขียนใหม่เพื่อใช้ในการสืบทอดอำนาจของคณะผู้ก่อการเหมือนเช่นครั้งอดีต
คำว่าเครื่องมือสืบทอดอำนาจ จึงเหมาะสมกับรัฐธรรมนูญไทยมากกว่า ที่จะเป็น กฎแห่งแผ่นดิน หรือ Law of the Land อย่างที่รัฐธรรมนูญไทยควรจะเป็น
อะไรทำให้รัฐธรรมนูญของเราเป็นเช่นนั้น ประเทศของเราขาดอะไรไปหรือ..?
ความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย..? ความพร้อมของประชาชน..?
หรือว่าขาดจิตสำนึก...ของคนบางจำพวก..?
ท่านที่เข้ามาอ่านงานเขียนชิ้นนี้ของผมคงมีคำตอบอยู่ภายในใจของตนเองนะครับ
ขอบคุณครับ
นายพระรอง
*ช่วงนี้ถูกอุ้มบ่อย จนเรตติ้งตก และผู้เขียนเริ่มสติแตกหาเรื่องที่จะมาเขียนไม่ได้
เพราะไม่ว่าจะเขียนเรื่องอะไรก้ดูเหมือนจะผิดกฏหมายและศีลธรรมอันดีไปเสียหมด
(บทความ...นายพระรอง) กฎแห่งแผ่นดิน Law of the Land
นับตั้ง พ.ศ.2475 ที่ประเทศไทยใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองของประเทศ รัฐธรรมนูญของไทยเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เหตุการณ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเราไม่มีความมั่นคง สาเหตุที่เปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ปัจจัยอันหนึ่งที่สำคัญก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ทหาร ข้าราชการ หรือประชาชนทั่วไป ยังไม่มีวัฒนธรรมทางการเมืองที่ส่อให้เห็นถึงความ “ศักดิ์สิทธิ์” หรือความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
เมื่อมองย้อนไปตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2475 จะเห็นได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองซึ่งเป็นกลุ่มคนจานวนน้อยและสร้างขึ้นมา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการยึดอำนาจและการขึ้นเป็นผู้ปกครองของฝ่ายก่อการ การใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกนั้น สาระสำคัญจึงยังมิใช่ให้รัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด อย่างที่รัฐธรรมนูญควรเป็น
การกล่าวอ้าง ว่า ประชาชนไม่มีความพร้อมเพราะขาดความรู้ความเข้าใจ ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย อาจถูกต้องและสมเหตุสมผลในช่วงเวลาขณะนั้น แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่คณะผู้ก่อการจะเขียนรัฐธรรมนูญมุ่งหมายที่จะใช้ ข้อความบนรัฐธรรมนูญมาการรันตรีรับรองความถูกต้องของการก้าวเข้าสู่อำนาจของตัวเอง เพราะ นั้นทำให้บางอย่างที่สำคัญที่สุดของรัฐธรรมนูญในประเทศเราขาดหายไป
ทุกฝ่ายตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งคณะผู้ก่อการ คณะขุนนาง ข้าราชการในระบอบปกครองเดิม รวมถึงประชาชนไม่มีใครตระหนักถึง สิ่งที่สำคัญที่สุดของ รัฐธรรมนูญ คือไม่มีฝ่ายใดเห็นว่าหน้าที่ของรัฐธรรมนูญ จริงๆแล้ว คืออะไร
เมื่อฝ่ายผู้ก่อการเห็นรัฐธรรมนูญเป็น เครื่องมือรับรองในการก้าวเข้าสู่อำนาจของฝ่ายตนเอง และใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของพวกตนเองต่อไปในภายภาคหน้า
ฝ่ายผู้ปกครองเดิม (สถาบันกษัตริย์) เห็นรัฐธรรมนูญเป็นข้อตกลงการแลกเปลี่ยนผ่อนถ่ายอำนาจของตนเองไปสู่ประชาชน ซึ่งเป็นระบบสากลที่ประเทศพัฒนาแล้วกระทำกัน จึงไม่แข็งขืนและยอมรับในอำนาจและบทบาทใหม่ของตนเองในการทำหน้าที่เป็นประมุขของชาติตามข้อตกลงนี้
ฝ่ายประชาชน เห็นรัฐธรรมนูญเป็นพันธะสัญญา จากฝ่ายปกครอง ที่จะนำสิ่งที่ดีขึ้นมาสู่ชีวิตของตนเอง ตามข้อความที่บัญญัติถึง สิทธิ เสรีภาพ ที่ตนเองเคยได้รับอย่างจำกัดในระบอบการปกครองเดิม
แต่ไม่มีฝ่ายไหนเลย ที่ ยึดถือ รัฐธรรมนูญเป็น กฎแห่งแผ่นดิน ตามที่รัฐธรรมนูญควรจะเป็น
การศึกษาไทยปลูกฝั่งให้ท่องจำกันว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่ทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติตาม เราทุกคนเคยผ่านการเล่าเรียนในระบบการศึกษาไทยมา ย่อมรู้กันดี แต่ถึงทุกวันนี้ รัฐธรรมนูญของไทย ก็ยังไม่เคยเป็นได้ตามนั้น
เมื่อเวลาผ่านไป
แม้ฝ่ายผู้ปกครองเดิม จะยอมรับ และปฏิบัติตามบทบาทของตนเองที่ถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
แม้ฝ่ายประชาชนจะมีความรู้ความเข้าใจในระบอบการปกครองประชาธิปไตยมากขึ้นแล้ว รับรู้ว่าข้อความที่บัญญัติไว้บนรัฐธรรมนูญ มิใช่ พันธะสัญญา แต่เป็นกรอบกติกาของการอยู่ร่วมกันในสังคมของทุกคนในประเทศ โดยมีสิทธิ เสรีภาพ เท่าเทียมกัน ตามที่ควรเป็นในระอบประชาธิปไตย
ซึ่งนั้นเป็นสัญญาณที่ดี ว่า รัฐธรรมนูญของไทย จะถูกยอมรับให้เป็นสิ่งที่มันสมควรจะเป็น คือเป็น กฎแห่งแผ่นดิน Law of the Land
ถ้าหากว่า อีกฝ่ายที่เหลือ ปฏิบัติตนแบบเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยที่ใช้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด แต่รัฐธรรมนูญไทย ก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่อย่างที่มันควรจะเป็นอยู่ดี เพราะฝ่ายผู้หวังในอำนาจทางการเมือง ไม่ว่าจะนักการเมือง หรือ นักรัฐประหาร ต่างก็ยังคงใช้ รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการก้าวเข้าสู่อำนาจและสิบทอดอำนาจตามเดิมอยู่ดี
มองย้อนหลังไปในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ จะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญที่มาจากการใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ รัฐธรรมนูญเหล่านั้น ล้วนแต่มีการใช้รัฐธรรมนูญเป็น เครื่องมือในการสืบทอดอำนาจอยู่ ไล่นับนิ้วดูจะเห็นว่าจากการใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลง (ปฏิวัติ รัฐประหาร) นับเฉพาะครั้งที่ทำสำเร็จจะเห็นได้ว่า หากไม่ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งแล้วเขียนใหม่เพื่อสืบทอดอำนาจคณะผู้ก่อการ ก็แก้ไขของเดิมโดยบัญญัติให้การสืบทอดอำนาจของตนเอง ถูกต้องและชอบธรรมตามกฎหมาย
มีเพียงรัฐธรรมนูญฉบับเดียวเท่านั้น ที่ไม่มีเรื่องการสืบทอดอำนาจ เขียนอยู่บนรัฐธรรมนูญ คือรัฐธรรมนูญ 2540 ฉบับที่มาจากประชาชนแต่ก็ยังมีเรื่องใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเกี่ยวข้องอยู่ เพรารัฐธรรมนูญ 2540 เกิดขึ้นเพราะประชาชนไม่ต้องการให้ผุ้หวังมีอำนาจในระบอบการปกครองประชาธิปไตย แต่ไม่ยอมมาตามระบบ อย่างในกรณี รสช. เมื่อ 2535 เกิดขึ้นอีก จึงเป็นที่มาของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนี้ขึ้น
และเป็นช่วงเวลาเดียวที่รัฐธรรมนูญไทย ไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสิบทอดอำนาจ มันจึงเป็นช่วงเวลาเดียว ที่รัฐธรรมนูญได้ทำหน้าที่ กฎแห่งแผ่นดิน ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
แต่ช่วงเวลานั้นช่างสั้นนัก เมื่อสุดท้ายก็ถูกการใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลง ฉีกทิ้งและเขียนใหม่เพื่อใช้ในการสืบทอดอำนาจของคณะผู้ก่อการเหมือนเช่นครั้งอดีต
คำว่าเครื่องมือสืบทอดอำนาจ จึงเหมาะสมกับรัฐธรรมนูญไทยมากกว่า ที่จะเป็น กฎแห่งแผ่นดิน หรือ Law of the Land อย่างที่รัฐธรรมนูญไทยควรจะเป็น
อะไรทำให้รัฐธรรมนูญของเราเป็นเช่นนั้น ประเทศของเราขาดอะไรไปหรือ..?
ความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย..? ความพร้อมของประชาชน..?
หรือว่าขาดจิตสำนึก...ของคนบางจำพวก..?
ท่านที่เข้ามาอ่านงานเขียนชิ้นนี้ของผมคงมีคำตอบอยู่ภายในใจของตนเองนะครับ
ขอบคุณครับ
นายพระรอง
*ช่วงนี้ถูกอุ้มบ่อย จนเรตติ้งตก และผู้เขียนเริ่มสติแตกหาเรื่องที่จะมาเขียนไม่ได้
เพราะไม่ว่าจะเขียนเรื่องอะไรก้ดูเหมือนจะผิดกฏหมายและศีลธรรมอันดีไปเสียหมด