เข้ามหาลัยนี่เหมือนเปิดโลกเลยนะคะ

เข้ามหาลัย เข้าสังคมได้เจอผู้คนมากมายนี่เหมือนเปิดโลกเลยอะค่ะ เจอความหลากหลายเข้าไป เล่นเอาอึ้ง
เรายอมรับว่าเราเคยเป็นเด็กใสๆโลกสวย พอเข้ามาได้แง่มุมต่างๆเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะมีอะไรให้เราได้เรียนรู้อีกเยอะ

ข้อคิดคือ ระหว่างกำลังเรียนรู้ เราห้ามไว้ใจใครเด็ดขาด อย่าไปคาดหวังอะไรจากใคร ถ้าไม่อยากผิดหวัง คนที่เชื่อได้มีแค่ตัวเองเท่านั้น ถ้าคิดแบบนี้แล้วเราจะเรียนรู้ประสบการณ์ในรั้วมหาลัยอย่างที่ตัวเองไม่บอบช้ำ ไม่เจ็บชำรุดมากนัก

ยกตัวอย่างนะคะ เราได้เรียนรู้ว่า เราเชื่อคำพูดคนไม่ได้เลย มีหลายคนที่เราเจอชอบพูดให้ตัวเองดูดี แต่การกระทำไม่สอดคล้อง
มีผู้ชายคนนึงเข้ามาจีบเรา เดือนนึง แต่เค้ามีแฟนแล้ว เราก็เลยพยายามหักห้ามความรู้สึกไม่ให้ถลำลึก
พอตอนเดือนกว่าๆ เค้าบอกเราว่า มีผู้หญิงคนนึงที่เค้าชอบมาก สเปคเลย ถ้าเค้าไม่มีแฟนก็คงเลือกคนนี้ไปแล้ว เค้าแสดงออกให้เรารู้ว่าหมายถึงเรา เราก็เกือบจะเคลิ้มแล้ว แต่อยากรอดูๆเวลาอีกสักหน่อยก่อนจะเล่นด้วย เรายังเดินเกมแบบใจแข็งอยู่ ใจแข็งในที่นี้คือไม่ค่อยตอบไลน์ ตอบช้ามาก ปรากฏว่าเค้าคงถอดใจมั้ง อีกวันเราเห็นเค้าเดินตามเพื่อนเรา และเริ่มจีบเพื่อนเรา ทุกคำพูดหยอดๆที่เค้าใช้กับเพื่อนเรา เค้าเคยใช้มุขพวกนั้นกับเราหมดแล้ว แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเป็นแค่คารม คิดว่าเค้าก็อาจจะจริงใจ แต่พอเห็นสไตล์การพูดถูกใช้ซ้ำกับเพื่อนเรา เราเลยรู้ว่าที่ผ่านมามันโกหกเรามาตลอดนี่หว่า ละพอเราดูเหมือนไม่เล่นด้วย มันก็ไม่เห็นเราอยู่ในสายตาอีกเลย ตะคอก หงุดหงิดใส่เราเวลาทำงานกลุ่มด้วย ช่างแตกต่างจากตอนจีบจริงๆนะแก ดีนะที่เราไม่ได้ถลำลึก
แล้วมันก็ชอบพูดเอาดีเข้าตัว กะล่อนปริ้นปร้อนมากๆอะ
ชอบพูดจาเสี้ยมด้วย เหมือนชอบเห็นปัญหาอะ

มีหลายแบบมากๆเลยค่ะ
แต่เราจะเรียนรู้มันให้หมด แบบให้ตัวเองแปดเปื้อนน้อยที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่