เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสไปสอบโทอิคมาค่ะ ที่สำคัญเป็นการสอบครั้งแรกในชีวิต
แน่นอนว่าไปสอบคนเดียว ไม่รู้จะฝากของที่ไหน เลยไม่ได้เอามือถือไปเพราะกลัวไม่มีสมาธิ
(กระเป๋าต้องฝาก จนท.ไว้เนอะ พอไม่อยู่กับตัว กลัวใครจะมาหยิบไป เลยไม่มีสมาธิค่ะ)
เลยทำให้การรีวิวในครั้งนี้ไม่มีรูปค่ ตัวหนังสือล้วนๆ อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ
มาดูเหตุผลที่ต้องการสอบ >>
1. อยากลองภูมิ เนื่องจากจบมา ทำงานหลายปีแล้ว ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย
Background จขกท. จบมัธยม ร.ร.เอกชน + มหาวิทยาเอกชน (เอกชนนี้ ไม่ได้แปลว่าร่ำรวยนะคะ)
เป็นพวกเรียนกลางๆไม่เก่งค่ะ
2. เปิดโอกาสให้กับตัวเองในการงาน / เรียนต่อ
อันนี้สำคัญ เพราะตอนนี้บริษัทไหนๆก็เริ่มให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาที่สาม
ที่จริงแล้ว ที่ออฟฟิศมีโควต้าให้ไปสอบค่ะ แต่กลัวว่าจะไม่ได้ใบผลสอบ (กลัวเอาไปยื่นที่อื่นไม่ได้นั่นเอง)
เริ่มกันเลยดีกว่า
ขั้นตอนการเตรียมตัว
ก่อนอื่น พอจับจุดตัวเองได้ว่าต้องสอบ เลยเริ่มไลน์ บวกกับคุยโทรปรึกษาเพื่อนๆ ว่าเคยสอบมั้ย? ต้องทำยังไง?
สรุปว่า สาวๆในแกงค์ เคยสอบกันมาถึง 2 คน เลยเริ่มคุยเรื่องการสอบ ว่าต้องทำอย่างไรในขั้นต้น
พอรู้พิธีการคร่าวๆแล้ว ด้วยพื้นความรู้งูๆปลาๆที่สะสมมาจากการเรียน เลยคิดว่า เราน่าจะพอมีความรู้สะสมบ้าง
(ตอนจบมาเคยไปเรีบนปูพื้นภาษาอยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่ง เกือบๆปีค่ะ) ขาดแต่คำศัพท์ ซึ่งไม่รู้คำยากๆ คำทางการ หรือแนวที่จะออก

ขั้นต่อมา จึงออกไปซื้อหนังสือ ซึ่งเน้นพวกคำศัพท์มา ซึ่งก็มีแบบฝึกหัด รวมทั้ง CD ที่มีโจทย์การฟังมาให้
ทำให้เริ่มคุ้นชินกับการออกเสียงคำค่ะ
โดยตั้งใจว่า อ่านและทำแบบฝึกหัด
วันละ 1 บท เอาจริงๆ พอตั้งใจจะสอบ ระยะเวลาที่วางไว้สั้นมาก แค่
2 อาทิตย์เท่านั้นเอง
นี่เป็นหนังสือที่ซื้อมาค่ะ
โดยมีการ
เร่งสปีดในวันเสาร์อาทิตย์ กี่บท ถ้าอ่านไหวก็อ่านไปเลย (เน้นเอาคำศัพท์ผ่านตา)
รวมทั้งโทรไปจองสอบด้วยในเวลานั้น
สอบครั้งแรก เลยคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องทำยังไงบ้าง
สรุปได้คร่าวๆแบบนี้ค่ะ (อันนี้ของจริงนะคะ จดไว้ในมือถือ)
ต้องไปถึง 08.00 น. เพื่อลงทะเบียนเข้าสอบ รวมทั้ง จ่ายเงินค่าสมัครสอบ (1500 บาท กำเงินสดไปเลยค่ะ ไม่รับบัตรเครดิต)
ข้อห้าม
ห้ามเอาอะไรเข้าห้องสอบเลย
ยกเว้น กระเป๋าตังค์ใบเล็ก และบัตรประชาชน/ใบขับขี่ และหลักฐานการลงทะเบียนเข้าสอบ
ห้าม นาฬิกาข้อมือด้วยค่ะ เพราะในห้องมีนาฬิกาติดผนัง (สำหรับ จขกท. เวลาไม่ใส่นาฬิกานี่ไม่ค่อยมั่นใจ เลยประหม่าเล็กน้อย)
ผ่านไป 2 อาทิตย์ วันสอบก็มาถึง
วันสอบจริง
จขกท. ตั้งใจออกจากบ้านตั้งแต่ 06.30 น. ทำไมน่ะหรอคะ
ก็เพราะ 7 โมงเช้า คนจะเริ่มมาเบียดเสียดบนรถไงคะ
สุดท้ายออกสาย พอมาถึงรถไฟฟ้า รอรถนาน แถมรถเต็มด้วย ยืนตั้งแค่บางนา จนถึง อโศก เลยค่ะ
ลงจากรถแล้ว แนะนำขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างค่ะ
(ถึงก่อนได้เปรียบ มีเวลาเตรียมตัวมากกว่า)
ถึงตึก BB ประมาณ 07.30 น. ขึ้นไปดูที่
ชั้น 19 ออกจากลิฟท์ แล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ จะเห็นคนมานั่งรอกันอยู่แล้ว
เลยถามคนที่นั่งรอแหละค่ะว่า ต้องลงทะเบียนตรงไหน? เปิดรึยัง?
สรุปได้ว่า
เปิด 8 โมงตรง เลยลงมาหามื้อเช้าค่ะ
(แนะนำว่า คนที่มาถึงแล้ว หาของกินก่อนเลยค่ะ ตามงบประมาณ และตามสะดวก
อย่าลืมใครไม่ได้พกค่าลงทะเบียนมา รีบหาตู้กดด่วนค่ะ
แต่ขึ้นไปชั้น 19 ให้ตรงเวลา ทำไมหรอคะ ดูหัวข้อลงทะเบียนค่ะ)
หลังจากหามื้อเช้ามาได้แล้ว (จขกท. ลงไปแฟมิลี่มาร์ทที่อยู่ใต้ตึก แล้วซื้อขึ้นมากินข้างบน แล้วนั่งสังเกตุการณ์ค่ะ ว่าอะไรยังไง)
นั่งรอซักพัก เจ้าหน้าที่เริ่มทะยอยกันมา
รวมทั้งคนที่มาสอบเริ่มมาตั้งแถวกันหน้าห้องลงทะเบียน แล้วก็เป๊ะค่ะ เปิด 8 โมงตรง
คนต่อแถวเยอะตามจำนวนผู้มาสมัคร
จขกท. เลยไปต่อกะเค้าบ้าง รอคิวนิดหน่อยเพราะลุกไปต่อแถวช้าแล้ว
แต่เจ้าหน้าที่ทำงานกันเร็วมากค่ะ ทุกอย่างเป็นคิวเป็นระบบ เจ้าหน้าที่ให้เดินไปตามจุด ไม่มีพลาด ไม่มีหลงค่ะ
แล้วชี้แจงกฏต่างๆเรียบร้อยสบายใจ จ่าย 1500
เจ้าหน้าที่จะถามเรื่องการรับผลสอบด้วยนะคะ ว่าจะมารับเอง หรือส่งไปรษณีย์
(แต่ถ้าส่งไปรษณีย์ ยังค่ะ อย่าพึ่งจ่าย มาจ่ายตอนสอบเสร็จนะคะ 50 บาท)
จขกท. เสร็จจากการลงทะเบียน ประมาณ 08.30 น. (
เวลานี้ ไม่เหมาะจะลงไปหาอะไรทานแล้วนะคะ)
ควรเข้าห้องน้ำ ทำธุระให้เรียบร้อยค่ะ
การเข้าห้องสอบ จะ
ต่อแถวเข้ากันตอน 08.45 น. ค่ะ
รวมทั้งมีการ
ใช้เครื่องตรวจโลหะด้วยนะคะ อย่าหวังว่าจะแอบเอาอะไรเข้าไปเลยค่ะ
ใครเอากระเป๋ามา ควรฝากไว้หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จสิ้นค่ะ
(จริงๆขอไม่นับว่าเป็นการฝาก แต่เป็นการวางบนชั้นที่อยู่ในสำนักงานค่ะ)
ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม่ต้องเอาเข้านะคะ มีให้ครบในห้องสอบค่ะ
และเวลาที่รอคอยก็มาถึง ดิฉันพบว่า ตัวเองนั่งอยู่ในห้องสอบแล้ว
เรามาถึงจุดๆนี้ได้ยังไง ไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะต้องมานั่งสอบวัดระดับภาษา
มาแล้วก็เต็มที่ ยังไง ขอไม่ต่ำกว่า 300 ละกัน (ในใจหวังว่าจะเก็บคะแนนไป 600 จะถึงมั้ยเนี่ยยยยย)
เข้าห้องสอบมาแล้ว
เริ่มจากการที่ จนท. มาอธิบายการสอบ
ควรตั้งใจฟังนะคะ เพราะถ้าเผลอหลับ หรือเริ่มเคลิ้มๆตอนนี้ จะทำให้ตลอดการสอบไม่สดใส ไม่มั่นใจเอาซะเลย
เจ้าหน้าที่จะให้
ฝนชื่อ และข้อมูลต่างๆของตัวเอง รีบฝนค่ะ แต่ระวังผิด ลบยากเน้อออ
เริ่มที่การสอบเป็น
พาร์ทการฟัง (Listening) ก่อนเลย
จำไว้ว่า เทป
พูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทุกคนมีเวลาเท่ากัน
ทริกของ จขกท. คือ ฟังไม่ทันข้อไหน ก็ฝนมั่วๆเลยค่ะ เดี๋ยวฟังข้อต่อไปไม่ทัน อย่าคิดนาน
ต่อด้วย
พาร์ทการอ่าน (Reading) ทุกคนมีเวลา 75 นาที
โดยเวลาสิ้นสุดนั้น จะเขียนไว้บนกระดานหน้าห้อง (อันนี้ จขกท. ไม่ทันสังเกต มาเห็นตอนใกล้หมดเวลาแล้ว TT)
ก็เลยทำไปเรื่อยๆ จนเหลือ 10 นาที (เข้าหน้าที่ประกาศเวลาที่เหลือเป็นระยะๆ)
มาถึงตอนนี้ เลยรีบอ่านรีบปั่น เพราะเหลือ 30 กว่าข้อที่ยังไม่ได้ทำ (เอาจริงๆคือ มันอ่านไม่ทันแล้ว)
ทำแบบเร่งสปีด สุดๆ (มั่วนั่นเอง)

สุดท้าย หมดเวลา ทำไม่ทันอยู่ดีค่า เสียดายที่ช่วงท้ายๆไม่รีบฝนให้หมดซะก่อน ว่างไปหลายข้อเลย
ข้อควรระวัง ::::: หมดเวลา ต้องวางดินสอทันที ไม่ว่าจะฝนข้อนั้นเสร็จหรือไม่ก็ตาม
(จขกท. ฝนไปครึ่งช่องเอง เจ้าหน้าที่มาดึงดินสอออกจากมือเลยค่ะ)

จุดนี้สอนให้รู้ว่า การสอบควรมีสมาธิมากๆ และบริหารเวลาการอ่านข้อแรกๆให้ดี จะได้ไม่มีปัญหาข้อท้ายๆค่ะ
การเก็บข้อสอบ จะมีเจ้าหน้าที่เดินเก็บตามโต๊ะ รวมทั้งเช็คข้อมูลส่วนตัว ตรงไหนที่ยังไม่ฝน หรือฝนไม่เรียบร้อยเค้าจะบอกค่ะ
และออกจากห้องสอบได้เมื่อ จนท. บอกเท่านั้นนะคะ
การขอรับผลสอบ
พอสอบเสร็จเดินเบลอๆออกจากห้องสอบเลยค่ะ
จขกท.ที่ขอรับผลทางไปรษณีย์ เลยเดินตรงไปยังห้องลงทะเบียนเพื่อเอากระเป๋า แล้วเดินไปรับซองจดหมายมาจ่าหน้าซอง
ชื่อ-ที่อยู่ ที่จะให้ส่ง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่บ้าน หรือตามบัตรประชาชน)
เขียนให้ครบอย่าให้ตกหล่นนะคะ จขกท. ให้ส่งไปยังออฟฟิศค่ะ
เขียนแล้ว ยื่นซอง พร้อมใบลงทะเบียนสอบ รวมทั้งค่าส่ง 50 บาทค่ะให้เจ้าหน้าที่ค่ะ
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มาสอบวันนี้ (วันศุกร์) ใบผลสอบ จะส่งออกจากสถาบันตอนวันจันทร์ค่ะ
*****ส่วนใครที่จะมารับเอง มารับได้เลยวันรุ่งขึ้นตอน 10 โมงค่ะ
พีธีการสอบเป็นอันเสร็จสิ้นเพียงเท่านี้ค่ะ ตอนนี้ก็รอรับผลอย่างเดียว
สำหรับใครที่เดินทางมาเอง รีบกลับ เวลาเดินลงมาข้างหน้าตึกก็จะเห็นคนลืนรอคิวพี่วินมากมาย
หากกลัวรอนาน แนะนำให้เดินผ่านมาทางหน้าตึกแกรมมี่ (ใครหลงทิศ ให้หันหน้าไปทางถนน เดินไปทางซ้ายค่ะ)
ผ่านตึกแกรมมี่ ไปทางปั๊ม(ปั๊มอะไรจำไม่ได้) จะมีพี่วินอีก 1 วิน ว่างๆอยู่ค่ะ เรียกใช้บริการได้ไม่รอนาน แถมเดินผ่านตึก อาจจะฟลุ๊คได้เจอศิลปิน ดาราที่ชื่นชอบด้วยนะคะ
อ่านแล้วเป็นยังไงบ้างคะ สำหรับการเตรียมตัว และการมาสอบ
เขียนไม่เคลียร์ขออภัยด้วยค่ะ เป็นการเล่าแบบยาวมากจริงๆ
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หากแท็กไม่เกี่ยวข้อง ขออภัยด้วยค่ะ


*****แก้ไขรูปค่ะ เบ้อเริ่มเทิ่มเลย
จะสอบ TOEIC ใน 2 อาทิตย์ เอาไงดี??? อธิบายการสอบ และการเตรียมตัว แบบคนไม่เคยสอบ
แน่นอนว่าไปสอบคนเดียว ไม่รู้จะฝากของที่ไหน เลยไม่ได้เอามือถือไปเพราะกลัวไม่มีสมาธิ
(กระเป๋าต้องฝาก จนท.ไว้เนอะ พอไม่อยู่กับตัว กลัวใครจะมาหยิบไป เลยไม่มีสมาธิค่ะ)
เลยทำให้การรีวิวในครั้งนี้ไม่มีรูปค่ ตัวหนังสือล้วนๆ อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ
มาดูเหตุผลที่ต้องการสอบ >>
1. อยากลองภูมิ เนื่องจากจบมา ทำงานหลายปีแล้ว ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย
Background จขกท. จบมัธยม ร.ร.เอกชน + มหาวิทยาเอกชน (เอกชนนี้ ไม่ได้แปลว่าร่ำรวยนะคะ)
เป็นพวกเรียนกลางๆไม่เก่งค่ะ
2. เปิดโอกาสให้กับตัวเองในการงาน / เรียนต่อ
อันนี้สำคัญ เพราะตอนนี้บริษัทไหนๆก็เริ่มให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาที่สาม
ที่จริงแล้ว ที่ออฟฟิศมีโควต้าให้ไปสอบค่ะ แต่กลัวว่าจะไม่ได้ใบผลสอบ (กลัวเอาไปยื่นที่อื่นไม่ได้นั่นเอง)
เริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่น พอจับจุดตัวเองได้ว่าต้องสอบ เลยเริ่มไลน์ บวกกับคุยโทรปรึกษาเพื่อนๆ ว่าเคยสอบมั้ย? ต้องทำยังไง?
สรุปว่า สาวๆในแกงค์ เคยสอบกันมาถึง 2 คน เลยเริ่มคุยเรื่องการสอบ ว่าต้องทำอย่างไรในขั้นต้น
พอรู้พิธีการคร่าวๆแล้ว ด้วยพื้นความรู้งูๆปลาๆที่สะสมมาจากการเรียน เลยคิดว่า เราน่าจะพอมีความรู้สะสมบ้าง
(ตอนจบมาเคยไปเรีบนปูพื้นภาษาอยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่ง เกือบๆปีค่ะ) ขาดแต่คำศัพท์ ซึ่งไม่รู้คำยากๆ คำทางการ หรือแนวที่จะออก
ทำให้เริ่มคุ้นชินกับการออกเสียงคำค่ะ
โดยตั้งใจว่า อ่านและทำแบบฝึกหัดวันละ 1 บท เอาจริงๆ พอตั้งใจจะสอบ ระยะเวลาที่วางไว้สั้นมาก แค่ 2 อาทิตย์เท่านั้นเอง
นี่เป็นหนังสือที่ซื้อมาค่ะ
โดยมีการเร่งสปีดในวันเสาร์อาทิตย์ กี่บท ถ้าอ่านไหวก็อ่านไปเลย (เน้นเอาคำศัพท์ผ่านตา)
รวมทั้งโทรไปจองสอบด้วยในเวลานั้น
สอบครั้งแรก เลยคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องทำยังไงบ้าง
สรุปได้คร่าวๆแบบนี้ค่ะ (อันนี้ของจริงนะคะ จดไว้ในมือถือ)
ต้องไปถึง 08.00 น. เพื่อลงทะเบียนเข้าสอบ รวมทั้ง จ่ายเงินค่าสมัครสอบ (1500 บาท กำเงินสดไปเลยค่ะ ไม่รับบัตรเครดิต)
ห้ามเอาอะไรเข้าห้องสอบเลย ยกเว้น กระเป๋าตังค์ใบเล็ก และบัตรประชาชน/ใบขับขี่ และหลักฐานการลงทะเบียนเข้าสอบ
ห้าม นาฬิกาข้อมือด้วยค่ะ เพราะในห้องมีนาฬิกาติดผนัง (สำหรับ จขกท. เวลาไม่ใส่นาฬิกานี่ไม่ค่อยมั่นใจ เลยประหม่าเล็กน้อย)
ผ่านไป 2 อาทิตย์ วันสอบก็มาถึง
จขกท. ตั้งใจออกจากบ้านตั้งแต่ 06.30 น. ทำไมน่ะหรอคะ
ก็เพราะ 7 โมงเช้า คนจะเริ่มมาเบียดเสียดบนรถไงคะ
สุดท้ายออกสาย พอมาถึงรถไฟฟ้า รอรถนาน แถมรถเต็มด้วย ยืนตั้งแค่บางนา จนถึง อโศก เลยค่ะ
ลงจากรถแล้ว แนะนำขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างค่ะ (ถึงก่อนได้เปรียบ มีเวลาเตรียมตัวมากกว่า)
ถึงตึก BB ประมาณ 07.30 น. ขึ้นไปดูที่ชั้น 19 ออกจากลิฟท์ แล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ จะเห็นคนมานั่งรอกันอยู่แล้ว
เลยถามคนที่นั่งรอแหละค่ะว่า ต้องลงทะเบียนตรงไหน? เปิดรึยัง?
สรุปได้ว่า เปิด 8 โมงตรง เลยลงมาหามื้อเช้าค่ะ
(แนะนำว่า คนที่มาถึงแล้ว หาของกินก่อนเลยค่ะ ตามงบประมาณ และตามสะดวก
อย่าลืมใครไม่ได้พกค่าลงทะเบียนมา รีบหาตู้กดด่วนค่ะ
แต่ขึ้นไปชั้น 19 ให้ตรงเวลา ทำไมหรอคะ ดูหัวข้อลงทะเบียนค่ะ)
หลังจากหามื้อเช้ามาได้แล้ว (จขกท. ลงไปแฟมิลี่มาร์ทที่อยู่ใต้ตึก แล้วซื้อขึ้นมากินข้างบน แล้วนั่งสังเกตุการณ์ค่ะ ว่าอะไรยังไง)
นั่งรอซักพัก เจ้าหน้าที่เริ่มทะยอยกันมา
รวมทั้งคนที่มาสอบเริ่มมาตั้งแถวกันหน้าห้องลงทะเบียน แล้วก็เป๊ะค่ะ เปิด 8 โมงตรง
คนต่อแถวเยอะตามจำนวนผู้มาสมัคร
จขกท. เลยไปต่อกะเค้าบ้าง รอคิวนิดหน่อยเพราะลุกไปต่อแถวช้าแล้ว
แต่เจ้าหน้าที่ทำงานกันเร็วมากค่ะ ทุกอย่างเป็นคิวเป็นระบบ เจ้าหน้าที่ให้เดินไปตามจุด ไม่มีพลาด ไม่มีหลงค่ะ
แล้วชี้แจงกฏต่างๆเรียบร้อยสบายใจ จ่าย 1500
เจ้าหน้าที่จะถามเรื่องการรับผลสอบด้วยนะคะ ว่าจะมารับเอง หรือส่งไปรษณีย์
(แต่ถ้าส่งไปรษณีย์ ยังค่ะ อย่าพึ่งจ่าย มาจ่ายตอนสอบเสร็จนะคะ 50 บาท)
จขกท. เสร็จจากการลงทะเบียน ประมาณ 08.30 น. (เวลานี้ ไม่เหมาะจะลงไปหาอะไรทานแล้วนะคะ)
ควรเข้าห้องน้ำ ทำธุระให้เรียบร้อยค่ะ
การเข้าห้องสอบ จะต่อแถวเข้ากันตอน 08.45 น. ค่ะ
รวมทั้งมีการใช้เครื่องตรวจโลหะด้วยนะคะ อย่าหวังว่าจะแอบเอาอะไรเข้าไปเลยค่ะ
ใครเอากระเป๋ามา ควรฝากไว้หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จสิ้นค่ะ
(จริงๆขอไม่นับว่าเป็นการฝาก แต่เป็นการวางบนชั้นที่อยู่ในสำนักงานค่ะ)
ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม่ต้องเอาเข้านะคะ มีให้ครบในห้องสอบค่ะ
และเวลาที่รอคอยก็มาถึง ดิฉันพบว่า ตัวเองนั่งอยู่ในห้องสอบแล้ว
มาแล้วก็เต็มที่ ยังไง ขอไม่ต่ำกว่า 300 ละกัน (ในใจหวังว่าจะเก็บคะแนนไป 600 จะถึงมั้ยเนี่ยยยยย)
เริ่มจากการที่ จนท. มาอธิบายการสอบ
ควรตั้งใจฟังนะคะ เพราะถ้าเผลอหลับ หรือเริ่มเคลิ้มๆตอนนี้ จะทำให้ตลอดการสอบไม่สดใส ไม่มั่นใจเอาซะเลย
เจ้าหน้าที่จะให้ฝนชื่อ และข้อมูลต่างๆของตัวเอง รีบฝนค่ะ แต่ระวังผิด ลบยากเน้อออ
เริ่มที่การสอบเป็นพาร์ทการฟัง (Listening) ก่อนเลย
จำไว้ว่า เทป พูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทุกคนมีเวลาเท่ากัน
ทริกของ จขกท. คือ ฟังไม่ทันข้อไหน ก็ฝนมั่วๆเลยค่ะ เดี๋ยวฟังข้อต่อไปไม่ทัน อย่าคิดนาน
ต่อด้วยพาร์ทการอ่าน (Reading) ทุกคนมีเวลา 75 นาที
โดยเวลาสิ้นสุดนั้น จะเขียนไว้บนกระดานหน้าห้อง (อันนี้ จขกท. ไม่ทันสังเกต มาเห็นตอนใกล้หมดเวลาแล้ว TT)
ก็เลยทำไปเรื่อยๆ จนเหลือ 10 นาที (เข้าหน้าที่ประกาศเวลาที่เหลือเป็นระยะๆ)
มาถึงตอนนี้ เลยรีบอ่านรีบปั่น เพราะเหลือ 30 กว่าข้อที่ยังไม่ได้ทำ (เอาจริงๆคือ มันอ่านไม่ทันแล้ว)
ทำแบบเร่งสปีด สุดๆ (มั่วนั่นเอง)
สุดท้าย หมดเวลา ทำไม่ทันอยู่ดีค่า เสียดายที่ช่วงท้ายๆไม่รีบฝนให้หมดซะก่อน ว่างไปหลายข้อเลย
(จขกท. ฝนไปครึ่งช่องเอง เจ้าหน้าที่มาดึงดินสอออกจากมือเลยค่ะ)
การเก็บข้อสอบ จะมีเจ้าหน้าที่เดินเก็บตามโต๊ะ รวมทั้งเช็คข้อมูลส่วนตัว ตรงไหนที่ยังไม่ฝน หรือฝนไม่เรียบร้อยเค้าจะบอกค่ะ
และออกจากห้องสอบได้เมื่อ จนท. บอกเท่านั้นนะคะ
พอสอบเสร็จเดินเบลอๆออกจากห้องสอบเลยค่ะ
จขกท.ที่ขอรับผลทางไปรษณีย์ เลยเดินตรงไปยังห้องลงทะเบียนเพื่อเอากระเป๋า แล้วเดินไปรับซองจดหมายมาจ่าหน้าซอง
ชื่อ-ที่อยู่ ที่จะให้ส่ง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่บ้าน หรือตามบัตรประชาชน)
เขียนให้ครบอย่าให้ตกหล่นนะคะ จขกท. ให้ส่งไปยังออฟฟิศค่ะ
เขียนแล้ว ยื่นซอง พร้อมใบลงทะเบียนสอบ รวมทั้งค่าส่ง 50 บาทค่ะให้เจ้าหน้าที่ค่ะ
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มาสอบวันนี้ (วันศุกร์) ใบผลสอบ จะส่งออกจากสถาบันตอนวันจันทร์ค่ะ
*****ส่วนใครที่จะมารับเอง มารับได้เลยวันรุ่งขึ้นตอน 10 โมงค่ะ
พีธีการสอบเป็นอันเสร็จสิ้นเพียงเท่านี้ค่ะ ตอนนี้ก็รอรับผลอย่างเดียว
สำหรับใครที่เดินทางมาเอง รีบกลับ เวลาเดินลงมาข้างหน้าตึกก็จะเห็นคนลืนรอคิวพี่วินมากมาย
หากกลัวรอนาน แนะนำให้เดินผ่านมาทางหน้าตึกแกรมมี่ (ใครหลงทิศ ให้หันหน้าไปทางถนน เดินไปทางซ้ายค่ะ)
ผ่านตึกแกรมมี่ ไปทางปั๊ม(ปั๊มอะไรจำไม่ได้) จะมีพี่วินอีก 1 วิน ว่างๆอยู่ค่ะ เรียกใช้บริการได้ไม่รอนาน แถมเดินผ่านตึก อาจจะฟลุ๊คได้เจอศิลปิน ดาราที่ชื่นชอบด้วยนะคะ
อ่านแล้วเป็นยังไงบ้างคะ สำหรับการเตรียมตัว และการมาสอบ
เขียนไม่เคลียร์ขออภัยด้วยค่ะ เป็นการเล่าแบบยาวมากจริงๆ
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หากแท็กไม่เกี่ยวข้อง ขออภัยด้วยค่ะ
*****แก้ไขรูปค่ะ เบ้อเริ่มเทิ่มเลย