เมื่อแฟนผม(ปล.ชาย-ชาย) ทิ้งไปโดยไม่ทราบเหตุผล อีกทั้งเค้าไม่ได้มีคนใหม่ เพราะอะไร และทำไม รบกวนอ่านเรื่องผมแล้วแนะ

เกริ่นนำเหตุการณ์เลยนะครับ
เมื่อวันที่ ๖ พฤษจิกายน ของปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเล่นในเว็บซอยบอย สังคมของคนเช่นผม บอกตามตรงเลยนะครับว่าผมเป็นรักร่วมเพศที่มีบุคลิกไม่แสดงออก มีความประพฤติเป็นสุภาพบุรุษชนเช่นชายชาติทหารทั่วไป เพียงแต่ผมรักในเพศเดียวกันครับ คือว่าในเว็บดังกล่าว ผมเข้าไปเล่นเป็นประจำ เพื่อต้องการหาเนื้อคู่ที่มีคติแบบเดียวกันกับผม คติที่ว่านี้ก็คือ เป็นคนที่มีความเชื่อ อุดมการณ์ และปณิธานที่คล้ายกันหรือไปในทางเดียวกันได้ เนื่องจากที่ผมเป็นคนปฏิบัตินั่งกรรมฐานรักษาศีล และตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะสำเร็จอรหันต์เข้าสู่นิพพาน เพื่อจะได้ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดในสงสารวัฏอีกต่อไป หลายคนฟังแล้วอาจจะหัวเราะ ว่าเดี๋ยวนี้ยังมีเด็กวัยยี่สิบสองปีที่ไหนอีกหรือที่ยังใส่ใจในพระธรรมและปฏิบัติตามพระวจนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนสามารถสื่อสารและติดต่อกับสิ่งที่มนุษย์ธรรมดามองไม่เห็นได้(เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ เพราะนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับผม แต่มาเกี่ยวเนื่องกันได้อย่างไรนั้นค่อยมารับสารกันอีกทีครับ)
ในเว็บดังกล่าวผมก็เข้าไปเล่นในเว็บที่ว่านี้เหมือนปกติ เปิดคาไว้บ้างเข้าไปส่องบ้าง จนไปเห็นแชทที่มีคนปริศนาทักแชทผมเข้ามา โดยใช่ชื่อว่า “บอล” ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะคิดไปต่างๆ นาๆ ถึงการเข้ามาทักทายนี้ มันผิดวิสัยตั้งแต่เราเห็นภาพที่เขาใช้ตั้งในโปร์ไฟล์แล้วหล่ะครับ เพราะภาพที่เขาใช้เป็นภาพประจำตัวเป็นภาพผู้ชายเปลือยท่อนบน โชว์กล้ามนี่แหละแต่ผมก็ทราบว่าไม่ใช่ภาพเขาเพราะเป็นภาพที่ผมเห็นมีอยู่เกลื่อนกลาด ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เรากำลังจะปิดเว็บ แต่มีอะไรมาขัดตาจนนี่แหละครับ เพราะสิ่งที่ผมเข้าใจว่าเป็นเทพประจำตัวที่ผมนับถือ ซึ่งคือ พระศิวะ ได้สื่อมาทางจิตผมอย่าทันที ว่าอย่าเพิ่งไปปิดมัน คนนี่แหละเนื้อคู่เรา ไอ้เราก็ตกใจปกติท่านจะไม่ค่อยสื่อมาแต่นี้อะไรทำไมถึงได้มาในลักษณะนี้ สุดท้ายก็เปิดแชทขึ้นมาอ่าน เป็นข้อความทักทายกันตามปกติ ครับ แต่ผมก็รู้สึกว่าใจมันตื่นๆ ยังไงบอกไม่ถูก เหมือนเจอสิ่งที่รอคอยมานาน เลยขอไลน์ แต่เมื่อเปิดไลน์ขึ้นมาคุยกัน โปร์ไฟล์ดีกว่าที่ใช้ในเว็บที่ว่านี้มากครับ เพราะเป็นภาพคนที่ผมเคยรู้จักในนิมิต เป็นภาพคนเดียวกันกับที่พระแม่กาลีเคยมาวาดให้เห็นว่าบุรุษคนนี้คือคนที่จะมาเป็นเนื้อคู่เรา แต่เขาชื่อวินนี่ ไอ้เราก็นึกว่าจะใช่เนื้อคู่แน่หรือ ก็เนื้อคู่ของเราชื่อวิน แต่เขาชื่อบอล(ตามที่เราเข้าใจครับ) จนเราได้คุยกันไปถึงขอเฟส เข้าไปคุยเป็นปกติของวิสัยคนรักกันนะครับ จนทราบถึงประวัติว่า เขาชื่อ วิน ครับ ตอนแรกก็อึ้งและคิดว่าใช่และ เลยทราบอีกเรื่องว่าบอลคือชื่อที่สากลหรือเพื่อเนเขาเรียก ซึ่งไม่เห็นจะมีใครในเฟสเขาเรีกชื่อนี้ ส่วนใหญ่จะเรียกแต่ชื่อวินน่ะครับ เลยไม่ได้ใส่ใจเรื่องชื่อแล้ว เพราะคิดว่าเจอเนื้อคู่เราแล้ว เราได้ทราบถึงประวัติของเขาว่า พี่วิน มีอายุ ๒๔ปี(แก่กว่าผมสองปีครับ) และมีดรีกรีเป็นนักศึกษาฝึกสอนภาควิชาดาราศาสตร์ อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในชะอำที่บ้านของเขาโดยเขาก็อาศัยอยู่ในครอบครัวครับ เขายังเรียนอยู่ปีสุดท้าย แต่เราก็เข้าใจกันดีเนื่องจากช่วงวัยใกล้เคียงกัน จนกระทั่งพี่วินทราบถึงเรื่องที่ผมปฏิบัติธรรมและมีความเชื่อเรื่องสวรรค์ นรก พรหม และนิพพาน และเรื่องภพภูมิต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าสอนให้เชื่อและผมได้เคยไปด้วยการถอดจิตให้เห็นกลับตาว่ามีจริงๆ ตอนแรกก็คิดว่าเขาจะคิดว่าเราเป็นพวกเล่นของครับ หึๆๆ เพราะผมเองก็เป็นนักพยากรณ์ด้วยระบบกรรมฐานด้วย เขาได้ทราบอะไรหลายๆ อย่างจากเฟสเราแล้วก็มาถามเรากลับมาบอกเราว่า ตะลึงเลยเมื่อรู้ว่าเราเล่นเวทย์ศาสตร์พี่ไม่สันทัดสายนี้ พี่สายธรรมะ เราก็ตกใจเพราะเขาก็มาทางเรา แต่ไม่ได้ลึกเหมือนเราแค่เป็นคนชอบทำบุญสวดมนตร์ ไม่ทราบว่าจะเชื่ออะไรมากน้อยเพียงไหนเพราะผมทราบแค่นี้ ผมเลยอธิบายไปว่า ผมเป็นคนที่ปรารถนานิพพานครับ ปฏิบัติธรรมมะ หวังมีคนรักที่มีบารมีคู่กันมาแต่ภัทรกัปก่อนๆ ให้ได้มาใช้ชีวิตคู่นร่วมกัน จะได้ปฏิบัติเป็นคู่บารมีกันไปจนสำเร็จซึ่งมรรคผลนิพพานด้วยกัน เขาก็บอกว่าดีครับพี่ชอบสายขาว เราก็เลยคุยกันจนเข้าใจถึงชีวิตของเขา
พี่วินเป็นคนเพชรบุรีครับ พ่อเป็นช่างตัดผมในหมู่บ้านชะอำ แม่เป็นแม่บ้านทำงานโรงงาน ในครอบครัวเป็นครอบครัวใหญ่มาก มีปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอาครบครันแต่แยกบ้านกันอยู่เป็นโซนๆ แบบคนต่างจังหวัดแหละครับ ที่เราทราบก็ทราบเท่านี้มาจนถึงตอนนี้นี่แหละครับ แต่ที่เขาทราบจากเราไปเยอะกว่าอีก(อาจจะเป็นเพราะเรื่องราวชีวิตของผมมันซับซ้อนก็ได้ครับ) ผมเลยเล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดผมเกิดกับหมอตำแยเพราะตอนนั้นผมเกิดที่อุบลราชธานี บ้านเกิดพ่อ แต่ทีนี้บ้านอยู่ไกลโรงบาลมาก เลยต้องให้ยายแก่แถวนั้นทำคลอดให้ และไปแจ้งเกิดกับผู้ใหญ่บ้าน ทีนี้ปีเกิดผมเลยผิดเพราะการบันทึกแบบโบราณนี่แหละครับ จากปีสามเจ็ดเป็นสี่ศูนย์ พ่อกับแม่ผมในตอนนั้นอายุสิบแปดปีทั้งคู่ครับ ความเชื่อของผู้ใหญ่หรือไรไม่รู้ที่ทำให้ปู่กับย่าต้องมารับหน้าที่เป็นพ่อแม่ผมตามใบเกิดแทนจนถึงปัจจุบันนี่แหละครับ แต่พ่อกับแม่ก็อยู่ด้วยกันมาถึงทุกวันนี้และมีผมเป็นลูกคนเดียวครับ ส่วนปู่กับย่าก็ทำหน้าที่เรื่องไปเป็นผู้ปกครองให้ตามโรงเรียนเพราะเขายึดตามใบเกิดจนเคยมีปัญหาเพราะมีคนคิดว่าผมโกหกนี่แหละครับ เพราะผมจะบอกคนรู้จักไปตามความจริงว่า พ่อกับแม่ผมเป็นราชการครับ พ่อผมเป็นทหารหมอ แม่เป็นครูครับ และซีสูงทั้งคู่ ยศพ่อก็พันโท แม่ก็ซีเก้า แต่พอคนไปที่บ้านผมเขาจะเชื่อว่าปู่กับย่าคือพ่อกับแม่ผมจริงๆ ครับ เพราะปู่กับย่าจะชอบอ้างแบบนั้น(ตามประสาผู้ใหญ่ครับ ท่านสองคนจะไม่เคยบอกใครว่าผมเป็นหลาน และแทนตัวเองกับผมว่าพ่อและแม่ตลอด และไม่อนุญาตให้ผมเรียกท่านว่าปู่หรือย่าด้วยครับ ให้เชื่อแบบนั้นจนตอนนี้เลย ทั้งที่ผมทราบความจริงว่าใครเป็นใคร) และคนอื่นๆ มักจะคิดว่าผมเป็นพวกโกหกหลอกลวง ไปหมดครับเพราะที่ผมไปบอกว่าพ่อแม่ผมทำอาชีพนี้ มันไปขัดกับประวัติที่เขาไปพบที่บ้านผม เพราะปู่ผมขับแท็กซี่ ย่าผมขายกาแฟครับ คนที่เขาเข้าใจผิดเลยหัวเราะกันไปว่าผมเป็นพวกคุยโม้คุยโต แต่มันก็เป็นเรื่องในครอบครัวผมนี่ครับ ผมเลยไม่แก้ต่างให้ตัวเอง ปล่อยให้คนอื่นคิดไปเพราะผมไม่เดือดร้อน
เพราะกับพี่วินมันก็เช่นเดียวกันครับ เนื่องมาจากการที่ผมใส่ประวัติในหน้าโปรไฟล์ของซอยบอยมันเป็นประวัติเขียน โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นเอกสารอะไรก็ล้วแต่ที่ผมเขียนประจำ จะต้องใช้ประวัติตมเอกสารราชการ ซึ่งทำให้การใส่ข้อมูลในไซต์ที่ไปเจอกันครั้งแรกนั้น เป็นประวัติผมตามใบเกิดครับ ประมาณว่าผมอายุสิบแปดปี (เพราะในใบเกิดเกิดปีสี่ศูนย์) และอาชีพพ่อกับแม่ที่ผมใช้ก็เป็นอาชีพของปู่กับย่าครับ เลยทำให้เขาสงสัยว่าทำไมพ่อกับแม่ที่ผมบอกกับเขาไปถึงได้ขัดกับประวัติที่ไปอ่านในซอยบอย พี่วินเคยมาถามผมครั้งนึงว่าพ่อแม่จริงๆ เป็นใคร ผมก็บอกไปแค่ว่าตามใบเกิดคือปู่กับย่าแต่จริงๆ แล้วพ่อแม่ทำงานอย่างที่พี่วินรู้ก็คือเป็นครูและทหารหมอ แต่ผมไม่ได้อธิบายให้เขาทราบเรื่องที่ว่าประวัติในซอยแชท อาชีพของพ่อแม่ที่ผมลงไว้เป็นอาชีพของปู่กับย่าครับ เลยไม่แน่ใจว่าเขาจิดอะไรมากหรือเปล่า จนกระทั่งวันนึ่งผมได้มีโอกาสไปเจอครอบครัวเขาที่ชะอำ ได้ไปอยู่บ้านเขาถึงห้าวัน ด้วยการที่พ่อกับแม่แท้ๆ ผมเดินทางไปส่งน่ะครับ แต่ขากลับของท่านเกิดอุบัติเหตุที่กรุงเทพอาการสาหัส(แต่ตอนนี้หายดีแล้ว) ซึ่งตอนนั้นผมทราบเรื่องช็อคเอาการเลยครับ พี่วินก็ตกใจ จนแม่พี่วินเขาร้องไห้เลยครับผม พ่อเขาก็แสดงความเห้นห่วงถึงขั้นโวยวายอะไรต่อมิอะไรต่อว่าเวรกรรมให้กับผม ก็ดีใจครับเพราะทราบมาตลอดว่าที่บ้านเขายอมรับผมได้ดีทีเดียว ที่บ้านผมก็รับเขาได้ดีมากเช่นกันครับ
ในทางที่ดีเราก็คุยกันแบบคนรัก แต่ที่เคยทะเลาะกันก็มีเยอะครับ เช่น เรื่องแรก คือเรื่องที่ผมชอบไปโพสต์หน้าทามไลน์ต่างๆ นาๆ ทำให้เขาเข้าใจผิคิดว่าโพสต์ว่าเขา เช่น โพสต์ที่ผมเขียนว่า ทีคนอื่นไลค์ได้เม้นส์ได้แต่กับเราไม่เคยมาไลค์มาเม้นส์ ซึ่งเป็นการหยอกกันกับเพื่อนขำๆ แต่เขาคิดว่าเป็นเขาเอง ซึ่งเขาก็เป็นอย่างในโพสต์จริงๆ แหละครับ แต่ทำไมต้องซีเรียสล่ะครับเพราะไม่ได้หมายถึงเขานี่ ถึงขนาดว่าปิดเฟสไม่คุยกับผมไปเป็นวัน โดยงอนกันแต่ละครั้งก็เรื่องอะไรไม่ค่อยเข้าท่าครับ แรกๆ ก็เป็นเรื่องที่เขาชอบหายไปแบบไร้ร่องลอย และบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ผมไปแสดคงความคิดเห็นเชิงคนรักในเฟสเขา ซึ่งเขาจะใช้รายงานอากาศและมีแฝนคลบติดตาม ถึงขนาดว่าเป็นอนาคตของเขาเลยก็ว่าได้ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าทำไมเขาถึงต้องคิดมากเรื่องนี้ด้วยนะครับ เขาบอกกับผมว่าผมแสดงความคิดเห็นจนแฟนคลับไม่กล้าทักและผอ.ศูนย์ก็ส่งข้อความมาหาเขา ถือเป็นการตัดอนาคตของเขาชัดๆ ซึ่งผมก็ต้องเป็นฝ่ายง้อตลอด แต่ก็ยินดีครับเพราะเราหวังจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาและดูแลเขาไปตลอดชีวิต ผมก็มีน้อยใจนะครับ ว่าทำไมเขาต้องให้เราเป็นฝ่ายเข้าหาเขาโดยตลอด บอกเลยว่าตอนนี้ผมว่างงาน แต่เขาสอนหนังสือเพราะฝึกสอน เขาก็ชอบอ้างว่า งานเขาเยอะ ก็จริงครับเราเข้าใจ แต่แปลกตรงที่ว่าทำไมแค่เวลาว่างคิดจะมาหาเราที่กรุงเทพนิดนึงไม่เคยมี เราเป็นฝ่ายต้องไปหาเขาถึงเพชรบุรีมาโดยตลอด แต่ผมก็เก็บมันไว้ในใจครับ จนเวลาผ่านไปได้สามเดือนถึงการแตกหัก ซึ่งเป็นสามเดือนชี้ชัดชะตาชีวิตผมเลย
ก่อนที่เราจะทะเลาะกัน ผมได้เขียนข้อความหนึ่งไปส่งไปให้พี่บุ๋ม ปนัดดา ให้พิจารณาเรียกร้องสิทธิให้พวกคนอย่างผมอีกหนึ่งเรื่องไปคู่กับการแก้กฎหมายข่มขืนไม่มีการอภัยโทษ นั้นคือผมต้องการให้มีกฎหมายรักร่วมเพศมีทะเบียนสมรสกันอย่างถูกกฎมาย และเนื่องจากผมเป็นนักเขียนิยายครับ ผมเลยแต่เรื่องขึ้นนมา ประมาณว่า ผมมีแฟนอยู่เพชรบุรี และต้องผ่าตัดมะเร็งลำไส้ ทีนี้แฟนผมเซ็นให้ไม่ได้แม้เราจะอยู่ด้วยกันแบบสามี ภรรยากันก็ตาม เพราะไม่มีทะเบียนสมรส อะไรประมาณนี้แหละครับผม และผมก็ได้เอาข้อความที่ผมส่งไปหาคุณบุ๋ม ปนัดดา ไปโพสต์ในเฟสเพราะผมพิพม์ในมือถือเพื่อป้องกันการหายของข้อมูลด้วยการใช้แป้นพิมพ์เสียงและโพสต์ในเฟสตั้งค่าให้เราเห็นโพสต์ได้คนเดียวก่อนก็อปข้อความที่ว่าไปส่งในไอจี ทีนี้ผมไปตั้งสถานะให้ทุกคนเห็นโพสต์ได้ทุกโพสต์ ขาเลยไปเห็นโพสต์ที่ว่านี้และมาพาลโกรธผม บอกกับผมว่า งานที่ผมทำให้เขาไม่ต้องทำมาให้แล้วนะ งานในที่นี้ก็คือว่า ผมจะช่วยเขาทำวิจัยให้ถึงขนาดเอาเวลาที่ผมว่างๆ ไปช่วยพิมพ์และแก้งานวิจัยให้กับเขาด้วยใจที่รักจริง และเขาไม่เคยบอกว่าต้องแก้งาน หรือเพิ่มเติม หรืออะไรอีกไหม บอกว่าใช้ได้ดีตลอด เราก็รู้สึกดีที่ทำให้เขาได้หนิครับ แต่พองานสุดท้ายนี่แหละถึงได้ฉุดขาด เราทำไปเยอะแลวมาบอกให้เราไม่ต้องส่งไป เพราะมาโกรธเรื่องข้อความที่ผมแต่งขึ้นเติมขึ้นมา เขาก็บอกนะครับว่าต้องการให้เขาดังหรือ ทำทำไม และอีกหลายประการเช่น ทำไมต้องแต่งเติม แต่งเติมนี่แหละที่แปลก และสุดท้ายคือความที่เขาบอกว่า คบกันเพื่อหวังผล ไม่ชอบ เหมือนแฟนเก่า ผมเลยฉุนขาด เครียดเลยทีนี้ ผมจะไปหวังผลอะไรกับเขา ผมนี่ฐานะดีกว่าเขาหลายเท่าตัว และถึงขนาดจะช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้เขาอีกในอนาคตถ้าเราอยู่ด้วยกัน แต่เขามาพูดว่าผมคบเขาเพื่อหวังผล ผมนี่หวังผลตรงไหนอ่ะครับ เราก็งง และเขาก็บอกกับเราอีกว่า บอกเลยว่าตอนนี้ไม่พร้อมอะไรทั้งนั้น มีพ่อแม่ต้องดูแล เรียนจบมาทำงานส่งเงินให้ที่บ้านใช้ เงินก็หมดแล้ว ผมก็ไม่ได้คิดอะไรครับ จนแม่แท้ๆ ผมมาอ่านเจอ และฉุดขาดที่เขาว่าผมว่า คบเพื่อหวังผล แม่ผมเลยฝากบอกผมมาว่า ถ้าเขาคิดแบนี้แม่ก็คิดได้ว่าเขาหลอกใช้งานเราทำวิจัยหรือเปล่า ผมเลยเอาที่แม่บอกไปบอกกับเขา เขาก็ต่อเลย ว่าขอโทษเอง ผมผิดเองที่ใช้คุณ ไม่คิดว่าจะเป็นการหลอกใช้ เดี๋ยวเขาจะเอางานมาให้ดู ว่าไม่เหมือนที่ผมทำแน่นอน เพราะที่ผมทำให้เขาไป เขาบอกต้องแก้ห้ารอบ(แต่เพิ่งมาบอกในตอนนั้น)ฉะนั้น จึงไม่เหมือนงานที่ผมทำให้เขาแน่นอน ผมเลยอารมณ์เสียเลยว่าทำไมไม่บอกว่างานใช้ไม่ได้ และนี่งานที่เราทำให้เขาไปทั้งหมดมันหมายความว่าไง ไหนงานสุดท้ายที่เราทำไปเกินครึ่งแล้วเขาจะปฏิเสธไม่เอาอีก ผมเลยถามไปว่าแล้วงานที่ผมทำหล่ะ เขาก็บอกต่อว่า ปล่อยวางไงครับ พี่เป็นคนธรรมดายังปล่อยวางได้ เราเป็นคนเหนือคนทำไมปล่อยวางไม่ได้ ผมเลยชะงักเลย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
นี่อะไรกันทำไมพี่วินพูดกับผมแบบนี้ (ก่อนหน้านั้นเราก็เคยทะเลาะกันเรื่องธรรมะครับ เพราะผมจะพูดแต่เรื่องนิพพานให้เขาฟัง และเขาจะบอกว่า เรามันคนละระดับกัน ผมอยู่สูงอยู่แล้วจะลงมาเอาเขาทำไม เขาไม่มีค่าคู่ควรอะไรกับผมหรอกและเขาก็ดูถูกการปฏิบัติของผมด้วยครับ หาว่าผมจะนิพพานไม่ได้ นี่แหละที่เคือง) สุดท้าย เราก็จบเรื่องไม่ดีเท่าไหร่ครับ แม่ผมบอกมาว่าที่ว่าเนี้ยไม่ได้ต้องการด่า ว่าพี่วินมาหลอกใช้ผม แต่ทำไมพีวินต้องมาพูดว่าผมหวังผลอะไรกับพี่วินด้วย แม่ผมเลยโกรธและว่าพี่วินไป แต่เขาก็ยังรับพี่วินเป็นเขยของบ้านอยู่เหมือนเดิม แต่ทีนี้พี่วินเขาพูดว่า ไม่ต้องลบข้อความที่ส่งไปให้บุ๋ม ปนัดดานะ เพราะเขาแคปข้อความไปให้ครอบครัวเขาอ่านแล้ว และครอบครัวเขาบอกให้พอ ผมก็รู้แล้วว่าหมายความว่าไง  เขาบอกฝันดีก่อนผมจะเข้าบ้านมาหลังคุยกันเสร็จและพิมพ์แชทส่งไปอีกว่า
แม่ผมบอกว่า การที่ผมรับทำงานพี่แล้วแต่พี่ปฏิเสธที่จะไม่รับ มันยิ่งกว่าคำว่าหลอกใช้อีก ยังไงเค้าก็ทำแล้ว พี่ไม่เห็นค่าก็ทิ้งเลยก็ได้แต่รับน้ำใจหน่อยก็ยังดี ทำให้พี่ตั้งเท่าไหร่  แต่พี่ทำลายมันจนไม่มีอะไรแล้วหนิ ที่พี่โกรธผมที่ว่าพี่เรื่องหลอกใช้ มันก็เหมือนการที่พี่กล่าวหาว่าผมหวังอะไรจากพี่นี้แหละ คิดดูนะ ว่าผมเคยร้องขออะไรไหม งานก็เหมือนกัน ผมทำโดยที่ไม่เคยได้อะไร ผมยังทำเลย เรื่องหวย ที่เขาขอเลขเด็ดเพราะจะเป็นต้องหาเงิน เห็นพี่ให้แล้วถูกติดกันหลายงวด แต่ก็เห็นพี่ให้แต่คนอื่นแต่กลับผมไม่เคยให้ และถึงแม้ไม่ขอ พี่ก็คงไม่ให้อยู่ดี ความใจดำของคนเรามันเป็นแบบนี้นี่เอง(เหมือนเป็นคำพูดสุดท้ายน่ะครับ) เขาก็ตอบกลับมาในตอนเช้าว่า นั้นโอเค เราจบกัน ทีนี้ผมเจ็บจนต้องให้แม่บุญธรรมไปพูดง้อให้ครับ แต่เขาก็ระบายนความในใจอะไรออกมาไม่รู้ถึงขนาดที่ไม่อยากคุยกับเรา บอกเลยนะครับว่าตอนเขาบอกเลิกเรา เราแค่เพียงแค่อ่านข้อความแล้ว เราก็เกิดอาการช็อคจนต้องหามส่งเข้าโรงบาลเขายังไม่เห็นใจเลย บอกกับแม่บุญธรรมว่าเดี๋ยวผมก็เจอคนใหม่ ผมไม่ใช่คนที่เขาอยากใช้ชีวิตด้วย ผมก็เครียดเลยสิครับ ที่ผ่านมาหมายความว่าไง สุดท้ายแม่บุญธรรมผมก็บอกกับผมมาว่า ที่เขาทิ้งผมไปเพราะเขาคิดว่าเราเพี้ยน เพราะว่าเราไปพูดแต่เรื่องธรรมะ (ทั้งๆ ที่เขาเชื่อเรื่องธรรมะ เรื่องพระโพธิสัตว์) แต่ทำไมเขาต้องหามว่าผมเพี้ยน และที่เขาโกรธก็มาจากเรื่องข้อความที่เราไปส่งพี่บุ๋ม กับอีกหลายเรื่องเช่น เรื่องที่ผมบอกเขาว่าผมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชน แต่ทำไมเขาไปขาข้อมูลมาแล้วไม่พบชื่อเราในเน็ตเลย และเคยใช้ให้เพื่อนไปหาว่าผมเป็นตำรวจจริงไหม สรุปว่าไม่ได้เป็น (ก็จะเป็นได้ไงในเมื่อผมออกจากราชการแล้ว) ทีนี้แม่บุญธรรมผมบอกว่าเขาจะแจ้งความว่าเราเอาเครื่องแบบตำรวจมาใส่ถ่ายรูป(ผมไม่เคยเอารูปนี้ไปลงในสาธารณใดๆ ทั้งสิ้นแต่เขาเห็นมาจากในแชท) และเขาก็บอกกับแม่บุญธรรมผมว่า ถ้ายังวุ่นวายกับเขาอีก เขาจะแจ้งความข้อมูลเขาเก็บไว้หมด และยังมีเรื่องที่เขาหาว่าเราโกหกเขาอีกคือเรื่องที่พ่อแม่จริงๆ ผมเกิดอุบัติเหตุอาการสาหัส เขาคิดว่าเป็นเรื่องโกหก ทีนี้ผมไม่รู้ว่าอะไรยังไง เพราะแม่บุญธรรมเขารู้จักผมแค่ผ่านๆ ครับ เขารับผมเป็นลูกบุญธรรมเพราะผมดูดวงให้เขาแม่นและเขาก็ไม่มีลูก แต่เขาไม่รู้เรื่องในบ้านผม ก็จะคิดว่าแม่ผมขายกาแฟอย่างที่เขาคิด พอผมบอกว่าแม่เป็นครูเขาก็ไปถามย่าที่เข้าใจว่าเป็นแม่เรา ย่าเลยตอบว่าย่านี่แหละที่เป็นแม่ผมและที่ผมไปบอกกับแม่ไผ่ว่าแม่เป็นครูเพราะย่าเคยเป็นครูแต่เออลี่ออกมาแล้ว แต่กับพ่อผมเขาไม่เคยเจอ แต่ก็มีเหตุที่ต้องได้เจอครับ เพราะพ่อแท้ๆ ผมส่งข้อความไปหาพี่วินที่เขาบล็อกช่องทางการติดต่อทั้งเฟสทั้งไลน์ถึงขนาดจะส่งแหวนที่ผมให้เขาแลกกับรูปภาพทของเขาที่ให้ผมตอนปีใหม่มาทางไปรษณีย์ ใน SMS ที่พ่อผมพิมพ์นั้น นั้นประมาณว่า ขอให้พี่วินอย่าไปเชื่อคำพูดของแม่ไผ่มาก(แม่ไผ่คือแม่บุญธรรมผม) เพราะแม่ไผ่ไม่ใช่คนในครอบครัวผม ไม่รู้อะไรดีเท่ากับพ่อผมที่เป็นคนส่ง SMS ไป และขอร้องให้กลับมาคืนดีกับผม และที่บ้านก็ยังต้อนรับพี่วินอยู่เหมือนเดิม และพ่อผมก็บอกพี่วินไปอย่างที่ผมเคยบอกกับพ่อว่า ถึงพี่วินจะรังเกลียดผมนะ แต่อนาคตผมก็จะกลับไปซ่อมบ้านให้ยายเขา และทำหน้าที่ของคนรักที่ดีที่สุดแม้เขาจะไม่ต้องการก็ตาม พอผมก็เอาที่ผมบอกไปบอกให้พี่วินผ่าน SMS ด้วย ซึ่งพ่อที่ว่านี้คือพ่อจริงๆ ครับ ไม่ใช่ปู่
แต่งานก็เข้าครับ เพราะพี่วินยังไม่บล็อกเฟสแม่ไผ่ เขาเลยเอาข้อความที่ส่งเป็น SMS ไปบอกให้แม่ไผ่รู้ แม่ไผ่ก็มาบอกผมว่า ทำแบบนี้ทำไม ไปว่าแม่กับวินทำไม และแม่ๆผ่กับพี่วินกล่าวหาว่าผม อ้างตัวเป็นพ่อพิมพ์ข้อความไป จนเป็นเรื่องใหญ่โตถึงขนาด พี่วินต้องขอที่อยู่ผมกับแม่ไผ่ และแม่ไผ่ก็โกรธผมด้วยเพราะข้อความที่ส่งไปล่าสุดให้พี่วินอ่าน มีการต่อว่าเขาซึ่งพ่อผมเขียนแต่เขาสองคนเข้าใจว่าผมอ่างตัวเป็นพ่อเขียนส่งไป
สุดท้าย พี่วินก็ไม่ติดต่อกลับมาทางผมเลยครับ แต่ยังติดต่อกับแม่บุญธรรมผมอยู่ และบอกกับแม่ไผ่ว่าจะมาบ้านผมมาเจอครอบครัวผม อยากจะมาคุย ก็ยังงงว่าเขาจะมาทำไมในเมื่อเขาเป็นคนทิ้งเราไปเอง แต่เขาก็ยังไม่มานะครับ และท้ายสุดนี้ ผมก็ยังค้างคาตรงที่ว่า ตกลงที่ผ่านมามันคืออะไร, เพราะอะไร ทำไม เขาทิ้งผมไปเพราะอะไร, และมีทางที่เราจะกลับมาคืนดีกันได้ไหมครับ, และถ้าตอนนี้ผมไปขอขมาพ่อกับแม่เขาถึงที่บ้านจะเกิดปัญหาอะไรไหมในเมื่อเขาบอกกับคนอื่นว่าพ่อกับแม่เขาไม่ยอมรับเราแล้ว, และทำไมตอนนี้แม่บุญธรรมผมกับพี่วินถึงยังติดต่อกันอยู่ ในเมื่อพี่วินเลือกจะออกไปจากชีวิตผม ทำไมยังต้องมาข้องเกี่ยวกับแม่บุญธรรมผมอีกด้วยครับ และที่สงสัยก็มีอีกครับ ที่เขาบอกว่าเราเพี้ยนนี่ตกลงว่าจริงหรือเปล่า เพราะเขาเชื่อเรื่องธรรมะ แต่ทำไมถึงได้หาว่าเราเพี้ยน และอีกอย่างก็คือบ้านเขาและตัวเขาก็เป้นร่างทรง ทำไมเขาถึงต้องบอกว่าเราเพ้อเจ้อกับคนอื่น ทำไมไม่บอกกับเราเอง และอีกอย่างก็คือ ถ้าอนาคตผมมีเงินล้านแล้วเดินทางไปหาเขาไม่ว่าเขาจะต้อนรับเราไหมโดยผมจะไปเพราะต้องารไปทำบ้านให้กับยายเขาตามสัญญาของผม หวังให้อนาคตเรากลับมาเป้นเหมือนเดิมหน่ะครับ ก็อยากจะรู้ว่าผมควรจะทำยังไงดี
ขอความกรุณาตอบข้อข้องใจให้ผมด้วย อาจจะเป็นปัญหาเด็กๆ สำหรับพวกพี่ประสบพบเจอมามากมาย แต่กับผม มันเป็นแค่อีกหนึ่งประสบการณ์ที่เพิ่งเจอ เพื่อต่อสู้ชีวิตทางโลกที่สกปรกใบนี้ต่อไป
ทั้งนี้ผมขอให้อำนาคุณพระศรีรัตนตรัย ดลบัลดาลให้ผู้ที่เข้ามาอ่านและตอบเพื่อปัญหาของผมทุกท่านพบแต่จตุรพรชัย ทั้งอายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดจนถึงพระนิพพานนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่