เฮ้อออ.. เอือมนักการเมืองพรรค ปชป. ถึงขนาดบอกให้สอบสวนอัยการที่ไม่ฎีกา พล.อ.ธรรมรักษ์ ในคดียุบพรรคไทยรักไทย

คงลืม  ชอบยัดชั่วคนอื่นจนเคยตัว

เฮ้ยยย...  แบบนี้  ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยยกคำร้อง  ไม่วินิจฉัยคดียุบ ปชป.  
ข้อหารับเงินทีพีไอ 258 ล้าน   ใช้เงินอุดหนุนพรรคการเมืองจาก กกต. 29 ล้านผิดกฎหมาย    ควรโดนสอบสวนด้วยไหม ?

ยกคำร้องง่าย ๆ ด้วยข้ออ้างยื่นคำร้องเกิน 15 วัน    
ทั้งที่กรอบเวลา 15 วันเป็นแค่บทเร่งรัด  ไม่ใช่บทบังคับที่มีผลทางกฎหมาย

คดียุบไทยรักไทย  ที่ไม่ฎีกา พล.อ.ธรรมรักษ์   ยังสู้กันถึงชั้นศาลอุทธรณ์
แต่คดียุบ ปชป. ไม่วินิจฉัยเอาดื้อ ๆ  

อะไรควรโดนสอบสวนมากกว่ากัน



เรื่องอัยการไม่ฎีกา พล.อ.ธรรมรักษ์  นั้น  
อัยการเขาก็ออกมาชี้แจงแล้ว  ว่าสาเหตุใดถึงไม่ฎีกา

ก็พยานน่ะ   ในชั้น ป.ป.ช. ก็บอกว่าได้รับเงินจาก พล.อ.ธรรมรักษ์  (เป็นแค่คำบอกเล่า  ไม่มีหลักฐาน ไม่มีประจักษ์พยาน)
แต่พอถึงชั้นศาล  พยานกลับให้การว่า  ที่ให้ปากคำในชั้นสอบสวนของ ป.ป.ช. ว่ารับเงินจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ เพราะโดนข่มขู่
และให้การในชั้นศาลอีกว่า  ไม่ได้รับเงินจาก พล.อ.ธรรมรักษ์แต่อย่างใด

(และต่อมา  ก็มีพยานออกมาแฉสารพัด   ว่ารับเงินค่าจ้างจากสุเทพให้ใส่ร้าย   สุเทพจ้าง 15 ล้าน
แต่จ่ายเพียง 5.8 ล้าน  มีสลิปเป็นหลักฐาน  แต่กระบวนการยุติธรรมไม่รับฟัง
และยังมีผู้หญิงหนึ่งคน  ออกมาแฉว่า  โดนสุเทพกักตัวไว้ที่สุราษฎร์  เพื่อให้เป็นพยานเท็จปรักปรำ)

เมื่อพยานกลับคำให้การในชั้นศาล  จนศาลยกฟ้อง
อัยการก็เห็นว่า  ไม่มีอะไรที่ต้องฎีกาในส่วนของ พล.อ.ธรรมรักษ์    
ไม่ใช่อยู่ดี ๆ   แล้วไม่ฎีกาเอาดื้อ ๆ  แต่เพราะพยานให้ปากคำชัดเจนขนาดนี้   จะเอาอะไรไปฎีกา