สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ ใน Pantip
ตอนนี้เราได้รับความเดือดร้อนเลยสมัครสมาชิกเพื่อขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ๆ ค่ะ
ปัจจุบันเราทำงานอยู่ที่กรุงเทพ แต่บ้านอยู่ที่ต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559
ได้รับแจ้งจากบ้านที่ต่างจังหวัดว่ามีเอกสารส่งมาจากบริษัทขายเคมีภัณฑ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ประกอบไปด้วย
1. ต้นฉบับใบส่งสินค้า
2. ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน
3. ใบลดหนี้
4. ใบกำกับภาษี
5. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
โดยเอกสารทุกฉบับระบุ ชื่อ ที่อยู่ของเรา ซึ่งทางเราไม่ได้มีการสั่งซื้อสินค้ากับทางบริษัทฯ ดังกล่าวเลย
ซึ่งรายละเอียดที่ปรากฏเป็น ชื่อจริง นามสกุลจริง และที่อยู่ที่ต่างจังหวัด พร้อมกับเลขประจำตัวประชาชน
ระบุเป็นผู้สั่งซื้อสินค้า และที่อยู่ในการจัดส่ง ในเอกสารที่ส่งมามีการเขียนกำกับเป็นดินสอว่า ให้ส่งสินค้าที่
ร้านค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพิษณุโลก และมี post it แปะมาว่า ค้างจ่ายอีก หนึ่งหมื่นสามพันกว่าบาท
หลักจากได้รับแจ้งจากทางบ้าน เราจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน. เพื่อเป็นหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ใจในเบื้องต้น
และหลังจากนั้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 เราได้มีการติดต่อไปยังบริษัทเคมีภัณฑ์ดังกล่าว ตามชื่อและรายละเอียดบนเอกสาร
ทางพนักงานได้ส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลลูกค้ารายนี้ (เราแจ้งชื่อเราตอนที่ติดต่อ และสอบถามถึงร้านที่มีชื่อให้ไปส่งของ)
พนักงานที่ดูแลลูกค้ารายนี้ ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็น Sale เราได้ทำการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอชื่อและเบอร์โทรที่จะติดต่อ
กับคนที่มาทำการสั่งของ แต่กลับถูก Sale คนดังกล่าวบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลและบอกว่าจะเป็นคนติดต่อกับทางลูกค้าให้
และจะให้ลูกค้าเป็นคนติดต่อเรากลับมาเอง
เราจึงได้พูดคุยกับทาง Sale (อันนี้เป็นบทสนทนาหลังจากที่ sale พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลลูกค้า)
เรา: ทำไมถึงได้มีคนเอาข้อมูลของเรามาใช้สั่งซื้อสินค้ากับทางบริษัทคุณ คุณตรวจสอบเอกสารก่อนรึป่าว
Sale: มีการตรวจสอบตลอด
เรา: ลูกค้ารายนี้มีการสั่งซื้อของกับคุณมาก่อนรึป่าว
Sale: มีการสั่งซื้อก่อนหน้านี้นะคับ
เรา: แล้วทำไมลูกค้าถึงไม่ใช้ชื่อเดิมในการสั่งซื้อสินค้าหล่ะ
Sale: ลูกค้าอาจจะมีความจำเป็นบางอย่างนะคับ
เรา: นั่นเท่ากับว่า ลูกค้าจะต้องมีการยื่นเอกสารมาให้คุณตรวจสอบก่อนสิ แล้วคุณได้ตรวจสอบก่อนรึป่าว
Sale: มีคับ เรามีการตรวจสอบเอกสาร มีเอกสารจัดเก็บอยู่ตรวจสอบได้
เรา: แล้วได้ตรวจสอบรึป่าว ว่ามีตัวตนจริง แล้วถูกต้อง
Sale: ลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้าประจำและเก่าแก่ จึงปล่อยผ่านเอกสาร (น้ำตาร่วง สำผัสได้ถึงความซวยที่กำลังคืบคลานมา)
หลังจากนั้นเราก็ยืนยันที่จะขอรายละเอียดของลูกค้ารายนั้นเพื่อติดต่อไป แต่ทาง Sale ก็บ่ายเบี่ยงบอกกับเราว่า
ให้เบอร์ติดต่อของเราไปแล้ว และถ้าเราโทรไปจะขึ้นเป็นเบอร์แปลกเค้าจะไม่รับสาย แต่ถ้าเป็นทาง Sale ติดต่อไป
จะดีกว่า เพราะติดต่อกันบ่อย ถ้าทางลูกค้าไม่รับก็จะโทรกลับ (สุดท้ายก็ยอมที่จะรอให้ฝ่ายนู้นติดต่อกลับมา)
จากการพูดคุยกับทาง Sale ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจและเกิดความสงสัยในการปฏิบัติงานของเค้า เราเลยเขียนจดหมายร้องเรียน
พฤติกรรมไปกับทางบริษัทของ Sale คนนี้ (ไม่รู้ว่าเราทำถูกรึป่าว)
ในตอนบ่ายของวันนั้น คนที่นำชื่อเราไปใช้ได้ติดต่อกลับมา ซึ่งเราขอเล่าเป็นคร่าวๆ ว่าคุยอะไรกันบ้าง แต่ถ้าเพื่อนๆ หรือพี่ๆ
ต้องการให้ลงรายละเอียดจะเขียนเพิ่มเติมให้นะคะ
เราได้สอบถามกับฝ่ายที่เอาข้อมูลไปใช้ เราขอใช้ชื่อสมมุติว่า อ (จะได้เล่าง่ายๆ)
ทาง อ ได้ยอมรับว่า "นำเอกสารของเราไปใช้จริง แต่เค้ายืนยันว่า ไม่ได้มีการนำไปใช้ในทางเสียหายแต่อย่างใด และยืนยันว่า
ถ้าเกิดค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดจากบริษัทเคมีภัณฑ์ทาง อ จะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเอง
ให้เราสบายใจได้ว่าจะไม่มีการเอาไปทำผิดกฎหมายแน่นอน"
เราจึงสอบถามกลับไปว่า "แล้วทำไมจะต้องเอาชื่อเราไปสั่งซื้อของด้วย ทำไมไม่ใช้ของญาติพี่น้องคุณ"
เราได้คุตอบว่า "สินค้าที่ทาง อ สั่งซื้อเป็นสินค้าที่ต้องเสีย vat 7% แต่ทางร้านของ อ ไม่ต้องการที่จะเสีย vat 7%
โดยอ้างว่า ทางร้านไม่มีบัญชีในการลงรายละเอียด vat 7% และเค้าได้เอกสารของเรา ซึ่งเป็นสำเนาบัตรประชาชนมาจากคนอื่นอีกที"
เรื่องราวที่เล่ามาค่อนข้างยาว แต่มีบางจุดที่เราไม่ได้ลงรายละเอียด ถ้าใครมีข้อสงสัย เราจะมาลงรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ
นับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ จนถึงวันนี้ เราได้มีการติดต่อกับทาง อ ตลอด ซึ่งเราก็ยอมรับในการแสดงความรับผิดชอบตรงนี้
แต่เรายังไม่สามารถสบายใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เราพยายามจะสอบถามว่า อ ได้ข้อมูลของเรามาได้ยังไง
แต่ก็ยังถูกบ่ายเบี่ยงว่า เค้าติดต่อคนหลายคน จำไม่ได้ว่าใครให้มา
ตอนนี้เราจะทำการร่างจดหมายเพื่อให้ทาง อ เซ็นต์รับรองการกระทำของเค้า แต่เราก็ยังไม่สบายใจเพราะเรายังไม่รู้ว่าต้นตอ
ที่เอาเอกสารมาให้ใช้เป็นใคร
เราอยากจะรบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ใน pantip ว่าเราจะสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง จะดำเนินคดีกับคนที่เอาข้อมูลไปใช้
และจะดำเนินการหาต้นตอที่ปล่อยข้อมูลของเรายังไงดี
เราอยากจะเตือนให้เพื่อนๆ พี่ ทุกคนที่ทำธุรกรรมที่ต้องใช้เอกสารสำคัญว่า อย่าไว้ใจใครง่ายๆ และเวลาเซ็นต์สำเนาถูกต้อง
จะต้องระบุอย่างชัดเจน อย่าหล่ะหลวมอย่างเรา
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้านะคะ
ถูกปลอมแปลงเอกสารควรทำอย่างไรดี
ตอนนี้เราได้รับความเดือดร้อนเลยสมัครสมาชิกเพื่อขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ๆ ค่ะ
ปัจจุบันเราทำงานอยู่ที่กรุงเทพ แต่บ้านอยู่ที่ต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559
ได้รับแจ้งจากบ้านที่ต่างจังหวัดว่ามีเอกสารส่งมาจากบริษัทขายเคมีภัณฑ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ประกอบไปด้วย
1. ต้นฉบับใบส่งสินค้า
2. ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน
3. ใบลดหนี้
4. ใบกำกับภาษี
5. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
โดยเอกสารทุกฉบับระบุ ชื่อ ที่อยู่ของเรา ซึ่งทางเราไม่ได้มีการสั่งซื้อสินค้ากับทางบริษัทฯ ดังกล่าวเลย
ซึ่งรายละเอียดที่ปรากฏเป็น ชื่อจริง นามสกุลจริง และที่อยู่ที่ต่างจังหวัด พร้อมกับเลขประจำตัวประชาชน
ระบุเป็นผู้สั่งซื้อสินค้า และที่อยู่ในการจัดส่ง ในเอกสารที่ส่งมามีการเขียนกำกับเป็นดินสอว่า ให้ส่งสินค้าที่
ร้านค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพิษณุโลก และมี post it แปะมาว่า ค้างจ่ายอีก หนึ่งหมื่นสามพันกว่าบาท
หลักจากได้รับแจ้งจากทางบ้าน เราจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน. เพื่อเป็นหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ใจในเบื้องต้น
และหลังจากนั้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 เราได้มีการติดต่อไปยังบริษัทเคมีภัณฑ์ดังกล่าว ตามชื่อและรายละเอียดบนเอกสาร
ทางพนักงานได้ส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลลูกค้ารายนี้ (เราแจ้งชื่อเราตอนที่ติดต่อ และสอบถามถึงร้านที่มีชื่อให้ไปส่งของ)
พนักงานที่ดูแลลูกค้ารายนี้ ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็น Sale เราได้ทำการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอชื่อและเบอร์โทรที่จะติดต่อ
กับคนที่มาทำการสั่งของ แต่กลับถูก Sale คนดังกล่าวบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลและบอกว่าจะเป็นคนติดต่อกับทางลูกค้าให้
และจะให้ลูกค้าเป็นคนติดต่อเรากลับมาเอง
เราจึงได้พูดคุยกับทาง Sale (อันนี้เป็นบทสนทนาหลังจากที่ sale พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลลูกค้า)
เรา: ทำไมถึงได้มีคนเอาข้อมูลของเรามาใช้สั่งซื้อสินค้ากับทางบริษัทคุณ คุณตรวจสอบเอกสารก่อนรึป่าว
Sale: มีการตรวจสอบตลอด
เรา: ลูกค้ารายนี้มีการสั่งซื้อของกับคุณมาก่อนรึป่าว
Sale: มีการสั่งซื้อก่อนหน้านี้นะคับ
เรา: แล้วทำไมลูกค้าถึงไม่ใช้ชื่อเดิมในการสั่งซื้อสินค้าหล่ะ
Sale: ลูกค้าอาจจะมีความจำเป็นบางอย่างนะคับ
เรา: นั่นเท่ากับว่า ลูกค้าจะต้องมีการยื่นเอกสารมาให้คุณตรวจสอบก่อนสิ แล้วคุณได้ตรวจสอบก่อนรึป่าว
Sale: มีคับ เรามีการตรวจสอบเอกสาร มีเอกสารจัดเก็บอยู่ตรวจสอบได้
เรา: แล้วได้ตรวจสอบรึป่าว ว่ามีตัวตนจริง แล้วถูกต้อง
Sale: ลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้าประจำและเก่าแก่ จึงปล่อยผ่านเอกสาร (น้ำตาร่วง สำผัสได้ถึงความซวยที่กำลังคืบคลานมา)
หลังจากนั้นเราก็ยืนยันที่จะขอรายละเอียดของลูกค้ารายนั้นเพื่อติดต่อไป แต่ทาง Sale ก็บ่ายเบี่ยงบอกกับเราว่า
ให้เบอร์ติดต่อของเราไปแล้ว และถ้าเราโทรไปจะขึ้นเป็นเบอร์แปลกเค้าจะไม่รับสาย แต่ถ้าเป็นทาง Sale ติดต่อไป
จะดีกว่า เพราะติดต่อกันบ่อย ถ้าทางลูกค้าไม่รับก็จะโทรกลับ (สุดท้ายก็ยอมที่จะรอให้ฝ่ายนู้นติดต่อกลับมา)
จากการพูดคุยกับทาง Sale ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจและเกิดความสงสัยในการปฏิบัติงานของเค้า เราเลยเขียนจดหมายร้องเรียน
พฤติกรรมไปกับทางบริษัทของ Sale คนนี้ (ไม่รู้ว่าเราทำถูกรึป่าว)
ในตอนบ่ายของวันนั้น คนที่นำชื่อเราไปใช้ได้ติดต่อกลับมา ซึ่งเราขอเล่าเป็นคร่าวๆ ว่าคุยอะไรกันบ้าง แต่ถ้าเพื่อนๆ หรือพี่ๆ
ต้องการให้ลงรายละเอียดจะเขียนเพิ่มเติมให้นะคะ
เราได้สอบถามกับฝ่ายที่เอาข้อมูลไปใช้ เราขอใช้ชื่อสมมุติว่า อ (จะได้เล่าง่ายๆ)
ทาง อ ได้ยอมรับว่า "นำเอกสารของเราไปใช้จริง แต่เค้ายืนยันว่า ไม่ได้มีการนำไปใช้ในทางเสียหายแต่อย่างใด และยืนยันว่า
ถ้าเกิดค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดจากบริษัทเคมีภัณฑ์ทาง อ จะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเอง
ให้เราสบายใจได้ว่าจะไม่มีการเอาไปทำผิดกฎหมายแน่นอน"
เราจึงสอบถามกลับไปว่า "แล้วทำไมจะต้องเอาชื่อเราไปสั่งซื้อของด้วย ทำไมไม่ใช้ของญาติพี่น้องคุณ"
เราได้คุตอบว่า "สินค้าที่ทาง อ สั่งซื้อเป็นสินค้าที่ต้องเสีย vat 7% แต่ทางร้านของ อ ไม่ต้องการที่จะเสีย vat 7%
โดยอ้างว่า ทางร้านไม่มีบัญชีในการลงรายละเอียด vat 7% และเค้าได้เอกสารของเรา ซึ่งเป็นสำเนาบัตรประชาชนมาจากคนอื่นอีกที"
เรื่องราวที่เล่ามาค่อนข้างยาว แต่มีบางจุดที่เราไม่ได้ลงรายละเอียด ถ้าใครมีข้อสงสัย เราจะมาลงรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ
นับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ จนถึงวันนี้ เราได้มีการติดต่อกับทาง อ ตลอด ซึ่งเราก็ยอมรับในการแสดงความรับผิดชอบตรงนี้
แต่เรายังไม่สามารถสบายใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เราพยายามจะสอบถามว่า อ ได้ข้อมูลของเรามาได้ยังไง
แต่ก็ยังถูกบ่ายเบี่ยงว่า เค้าติดต่อคนหลายคน จำไม่ได้ว่าใครให้มา
ตอนนี้เราจะทำการร่างจดหมายเพื่อให้ทาง อ เซ็นต์รับรองการกระทำของเค้า แต่เราก็ยังไม่สบายใจเพราะเรายังไม่รู้ว่าต้นตอ
ที่เอาเอกสารมาให้ใช้เป็นใคร
เราอยากจะรบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ใน pantip ว่าเราจะสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง จะดำเนินคดีกับคนที่เอาข้อมูลไปใช้
และจะดำเนินการหาต้นตอที่ปล่อยข้อมูลของเรายังไงดี
เราอยากจะเตือนให้เพื่อนๆ พี่ ทุกคนที่ทำธุรกรรมที่ต้องใช้เอกสารสำคัญว่า อย่าไว้ใจใครง่ายๆ และเวลาเซ็นต์สำเนาถูกต้อง
จะต้องระบุอย่างชัดเจน อย่าหล่ะหลวมอย่างเรา
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้านะคะ