มันต้องมีอะไรดี เขาถึงได้หลงใหลการเที่ยวคนเดียวได้ขนาดนั้นจริงไม๊? และสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นคำตอบ
1) ลองแบกเป้เที่ยวแบบไม่วางแผน
2) ลองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ป่า ทุ่งหญ้า
3) กางเต้นท์นอน
4) ลองกินของแปลก
5) ลองนอนดูดวงบนพื้น
6) ยามค่ำคืนดูดวงดาวบนท้องฟ้า
7) ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
ถ้าพูดถึงการเดินทางแล้ว หลายๆคนน่าจะเลือกไปท่องเที่ยวกันแบบเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นการเดินทางที่สนุกสนานอย่างแน่นอน จนหลายๆ คนตั้งคำถามกับการเดินทางคนเดียวอยู่บ่อยๆโดยเฉพาะผู้หญิง ที่ว่ามันจะน่ากลัวมั้ย อันตรายหรือเปล่า หรือมันคงจะเหงามากๆ ลองมาดูกันว่าการเดินทางคนเดียวนี้มันดีอย่างไร เผิ่อทริปหน้าคุณจะลองฉายเดี่ยวดูบ้าง
1. ได้เป็นเจ้าของทริปอย่างเต็มตัว
เคยเป็นกันไหมที่วันหยุดครั้งต่อไป อยากจะไปเที่ยวแล้วไปไม่ได้เพราะเวลาว่างกับเพื่อนๆ ไม่ตรงกัน การไปเที่ยวคนเดียวนั้นจะทำให้ทริปต่อไปเกิดขึ้นง่ายขึ้นสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยว คุณสามารถวางแผนการเดินทางแต่ละที่ได้ตามที่ต้องการ แถมยังสามารถวางแผนการเดินทางได้ตามช่วงเวลาที่ต้องการโดยไม่ต้องมารอเวลาของเพื่อนคนอื่นๆ หรือได้ไปดูสิ่งต่างๆ ตามฝันของคุณโดยไม่ต้องรอโหวตอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้เลือกบริหารเงินสำหรับทริปนั้นโดยไม่ต้องลำบากใจ เช่นการที่เพื่อนชวนไปทานอาหารร้านแพงแต่งบเรามีจำกัด เห็นไหมล่ะว่ามีทริปเป็นของตัวเองมันดีมากๆ เลย
2. ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
เพราะการเที่ยวคนเดียวทำให้เราเอาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเลย และพบปะกับคนแปลกหน้ามากมาย ทำให้การเดินทางคนเดียวช่วยทำให้เราได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเอง เช่น ความสุขของการได้ชื่นชมสิ่งเล็กน้อยๆรอบตัวในระหว่างวัน ได้ฝึกความสามารถในการแก้ปัญหา และตัดสินใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างทริป หรือค้นพบว่าการคุยกับคนแปลกหน้าก็ไม่ได้แย่เสมอไป และบางครั้งยังได้ความรู้จากการพูดคุยกับคนแปลกหน้าอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วบางคนยังค้นพบว่าตัวเองต้องการอะไรด้วย เช่นอยากจะเป็นนักเขียนหลังจากที่ได้เขียนบันทึกการเดินทาง หรืออยากเป็นครูสอนดำน้ำหลังจากที่ได้ไปดำน้ำในสถานที่ต่างๆ นั่นเอง
3. ได้เพื่อนใหม่
โรงแรม Guesthouse หรือ Airbnb น่าจะเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนึกถึงเมื่อเดินทางไปกับเพื่อนๆ แต่สำหรับคนที่เดินทางคนเดียวนั้น Hostel มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน ซึ่งที่ Hostel นั้นมักจะสร้างมิตรภาพใหม่ๆ เสมอ เพราะเป็นการรวมนักเดินทางที่สนใจในเมืองนั้นๆ อยู่ด้วยกัน แถมแต่ละคนก็มีเรื่องราวของการเดินทางแตกต่างกันไป การเดินทางคนเดียวนั้นจะเปิดโอกาสให้คุณได้ทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ตั้งแต่คนที่พักร่วมห้อง หรือร่วม Hostel ก็ตาม เพียงแค่กล้าที่จะเริ่มทักทายหรือโต้ตอบบทสนทนา เท่านี้ก็อาจจะทำให้ทริปในแต่ละเมืองของคุณไม่เหงาอีกต่อไป คุณอาจจะมีเพื่อนไปชมสถานที่ต่างๆเพิ่มขึ้น แถมยังได้เคล็ดลับหรือรายละเอียดของเมืองที่กำลังจะเดินทางจากเพื่อนๆ ที่ Hostel นอกจากที่พักแล้ว คนแปลกหน้าต่างๆ ที่พบในเมืองไม่ว่าจะที่ร้านค้าหรือร้านอาหารต่างๆ ก็อาจจะกลายเป็นเพื่อนใหม่ของเราได้ เห็นมั้ยล่ะว่าเพียงแค่เริ่มต้นบทสนทนาก็อาจจะโชคดีมีคนท้องถิ่นพาทัวร์เมือง หรืออาจจะได้เพื่อนสนิทที่อาจจะร่วมเดินทางกันต่อไปตลอดทั้งทริปอีกด้วย
4. ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ
จริงอยู่ที่แรงบันดาลใจนั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่การเดินทางคนเดียวนั้นทำให้เรามีโอกาสจะได้ทำความรู้จัก และปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวต่างๆมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณเป็นนักออกแบบ การที่มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตใน Museum ต่างๆ หรือการได้เดินหรือนั่งดูผู้คนในเมืองคนเดียว อาจทำให้ไอเดียในการทำงานใหม่เกิดขึ้นได้ หรือการที่ได้พูดคุยกับเพื่อนใหม่ ก็อาจทำให้มุมมองของชีวิตหรือการเดินทางของคุณเปลี่ยนไป ซึ่งอาจทำให้ทริปที่เหลือของคุณสนุกขึ้น หรืออาจจะเอามุมมองมาปรับใช้กับการทำงานเมื่อกลับมาก็เป็นได้
5. มันเป็นการเอาชนะความกลัวของคุณเอง
ความกลัว คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง และมันทำให้เราปิดกั้นโอกาสที่เราจะได้เจอสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน และถ้าคุณไม่เอาชนะความกลัวนั้นสักครั้ง คุณก็จะไม่ชนะมันไปตลอด คุณจะคิดว่า ถ้าไปเที่ยว และเจอปัญหา เจออันตราย หลงทาง คุณจะทำอย่างไร…อ่านให้มาก ทำการบ้านให้มากก่อนไปเที่ยว อ่านพวกรีวิว ตามโฟรัมต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย และสอบถามพูดคุยคนท้องถิ่น แค่นี้คุณก็ปลอดภัยและเที่ยวอย่างสนุกแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัว
6. มีโอกาสในการตกหลุมรัก
ไม่ว่าใครก็ตาม ครั้งหนึ่งในชีวิตก็คงอยากตามหา หรือพบเจออีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่จะมาเติมเต็มชีวิตของคุณ และการที่คุณออกเดินทางคนเดียวนี่แหละ คือหนึ่งในโอกาสนั้น เพราะเป็นไปได้ที่คุณจะเจอเพื่อนร่วมเดินทางที่มีความชอบคล้ายๆ คุณ ความฝันคล้ายๆ คุณ และนี่อาจจะเป็นคนที่จะลงเอยใช้ชีวิตด้วยในที่สุดก็เป็นได้
7. ได้มีโอกาส “ทิ้งทุกอย่าง” และตัดขาดจากโลก
ทำงานมาทั้งปี คุณอาจต้องการเวลาที่คุณ ตัดขาดจากโลกแห่งการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตบ้าง ไม่ต้องคิดถึงเรื่องงาน ไม่ต้องอัพเดทอะไรให้ใครฟัง ไม่ต้องเปิดอีเมล์ ไม่ต้องแชตกับเพื่อน และเพลินไปกับความสนุก ธรรมชาติ และความงามที่อยู่ตรงหน้าคุณ และเวลาที่คุณหยุดกังวลหรือคิดทุกอย่างเนี่ยแหละ ที่บางทีคุณจะสมองโปร่ง และเผลอคิดอะไรออก ที่คุณคิดไม่ออกมานานก็เป็นได้
8. เลือกที่พักที่เหมาะสมกับ Life style
ถ้าคุณเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ชอบที่จะคุยกับใคร ก็แนะนำให้จองโรงแรมทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าหากคุณรู้ตัวว่าชอบพูดคุยกับคนอื่น ชอบหาเพื่อนใหม่ ๆ โดยเฉพาะนักเดินทางด้วยกัน HOSTLE คือคำตอบของคุณ เพราะนอกจากจะประหยัดและเป็นที่รวมของเหล่านักเดินทางทั่วโลกแล้ว ยังเป็นแหล่งข้อมูลและเรื่องเล่าชั้นดีอีกด้วย โดยที่ใน HOSTEL ก็มีหลายระดับห้องให้ลือกสรร ทั้งแบบนอนเดี่ยวมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง ไปจนถึงนอนรวมนับสิบคน และแน่นอนหลายแห่งมีห้องสำหรับผู้หญิงล้วนด้วย แก้ปัญหาผู้หญิงเดินทางคนเดียวได้ดีนักแล ถ้าได้พักในที่พักแบบนี้ แนะนำให้ลองลงไปที่ห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว รับรองคุณจะสนุกจนลืมไปเลยว่ามาเที่ยวคนเดียว
[SR] คนเดียวก็เที่ยวได้ Memory Love Travel
มันต้องมีอะไรดี เขาถึงได้หลงใหลการเที่ยวคนเดียวได้ขนาดนั้นจริงไม๊? และสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นคำตอบ
1) ลองแบกเป้เที่ยวแบบไม่วางแผน
2) ลองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ป่า ทุ่งหญ้า
3) กางเต้นท์นอน
4) ลองกินของแปลก
5) ลองนอนดูดวงบนพื้น
6) ยามค่ำคืนดูดวงดาวบนท้องฟ้า
7) ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
ถ้าพูดถึงการเดินทางแล้ว หลายๆคนน่าจะเลือกไปท่องเที่ยวกันแบบเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นการเดินทางที่สนุกสนานอย่างแน่นอน จนหลายๆ คนตั้งคำถามกับการเดินทางคนเดียวอยู่บ่อยๆโดยเฉพาะผู้หญิง ที่ว่ามันจะน่ากลัวมั้ย อันตรายหรือเปล่า หรือมันคงจะเหงามากๆ ลองมาดูกันว่าการเดินทางคนเดียวนี้มันดีอย่างไร เผิ่อทริปหน้าคุณจะลองฉายเดี่ยวดูบ้าง
1. ได้เป็นเจ้าของทริปอย่างเต็มตัว
เคยเป็นกันไหมที่วันหยุดครั้งต่อไป อยากจะไปเที่ยวแล้วไปไม่ได้เพราะเวลาว่างกับเพื่อนๆ ไม่ตรงกัน การไปเที่ยวคนเดียวนั้นจะทำให้ทริปต่อไปเกิดขึ้นง่ายขึ้นสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยว คุณสามารถวางแผนการเดินทางแต่ละที่ได้ตามที่ต้องการ แถมยังสามารถวางแผนการเดินทางได้ตามช่วงเวลาที่ต้องการโดยไม่ต้องมารอเวลาของเพื่อนคนอื่นๆ หรือได้ไปดูสิ่งต่างๆ ตามฝันของคุณโดยไม่ต้องรอโหวตอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้เลือกบริหารเงินสำหรับทริปนั้นโดยไม่ต้องลำบากใจ เช่นการที่เพื่อนชวนไปทานอาหารร้านแพงแต่งบเรามีจำกัด เห็นไหมล่ะว่ามีทริปเป็นของตัวเองมันดีมากๆ เลย
2. ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
เพราะการเที่ยวคนเดียวทำให้เราเอาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเลย และพบปะกับคนแปลกหน้ามากมาย ทำให้การเดินทางคนเดียวช่วยทำให้เราได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเอง เช่น ความสุขของการได้ชื่นชมสิ่งเล็กน้อยๆรอบตัวในระหว่างวัน ได้ฝึกความสามารถในการแก้ปัญหา และตัดสินใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างทริป หรือค้นพบว่าการคุยกับคนแปลกหน้าก็ไม่ได้แย่เสมอไป และบางครั้งยังได้ความรู้จากการพูดคุยกับคนแปลกหน้าอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วบางคนยังค้นพบว่าตัวเองต้องการอะไรด้วย เช่นอยากจะเป็นนักเขียนหลังจากที่ได้เขียนบันทึกการเดินทาง หรืออยากเป็นครูสอนดำน้ำหลังจากที่ได้ไปดำน้ำในสถานที่ต่างๆ นั่นเอง
3. ได้เพื่อนใหม่
โรงแรม Guesthouse หรือ Airbnb น่าจะเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนึกถึงเมื่อเดินทางไปกับเพื่อนๆ แต่สำหรับคนที่เดินทางคนเดียวนั้น Hostel มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน ซึ่งที่ Hostel นั้นมักจะสร้างมิตรภาพใหม่ๆ เสมอ เพราะเป็นการรวมนักเดินทางที่สนใจในเมืองนั้นๆ อยู่ด้วยกัน แถมแต่ละคนก็มีเรื่องราวของการเดินทางแตกต่างกันไป การเดินทางคนเดียวนั้นจะเปิดโอกาสให้คุณได้ทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ตั้งแต่คนที่พักร่วมห้อง หรือร่วม Hostel ก็ตาม เพียงแค่กล้าที่จะเริ่มทักทายหรือโต้ตอบบทสนทนา เท่านี้ก็อาจจะทำให้ทริปในแต่ละเมืองของคุณไม่เหงาอีกต่อไป คุณอาจจะมีเพื่อนไปชมสถานที่ต่างๆเพิ่มขึ้น แถมยังได้เคล็ดลับหรือรายละเอียดของเมืองที่กำลังจะเดินทางจากเพื่อนๆ ที่ Hostel นอกจากที่พักแล้ว คนแปลกหน้าต่างๆ ที่พบในเมืองไม่ว่าจะที่ร้านค้าหรือร้านอาหารต่างๆ ก็อาจจะกลายเป็นเพื่อนใหม่ของเราได้ เห็นมั้ยล่ะว่าเพียงแค่เริ่มต้นบทสนทนาก็อาจจะโชคดีมีคนท้องถิ่นพาทัวร์เมือง หรืออาจจะได้เพื่อนสนิทที่อาจจะร่วมเดินทางกันต่อไปตลอดทั้งทริปอีกด้วย
4. ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ
จริงอยู่ที่แรงบันดาลใจนั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่การเดินทางคนเดียวนั้นทำให้เรามีโอกาสจะได้ทำความรู้จัก และปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวต่างๆมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณเป็นนักออกแบบ การที่มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตใน Museum ต่างๆ หรือการได้เดินหรือนั่งดูผู้คนในเมืองคนเดียว อาจทำให้ไอเดียในการทำงานใหม่เกิดขึ้นได้ หรือการที่ได้พูดคุยกับเพื่อนใหม่ ก็อาจทำให้มุมมองของชีวิตหรือการเดินทางของคุณเปลี่ยนไป ซึ่งอาจทำให้ทริปที่เหลือของคุณสนุกขึ้น หรืออาจจะเอามุมมองมาปรับใช้กับการทำงานเมื่อกลับมาก็เป็นได้
5. มันเป็นการเอาชนะความกลัวของคุณเอง
ความกลัว คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง และมันทำให้เราปิดกั้นโอกาสที่เราจะได้เจอสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน และถ้าคุณไม่เอาชนะความกลัวนั้นสักครั้ง คุณก็จะไม่ชนะมันไปตลอด คุณจะคิดว่า ถ้าไปเที่ยว และเจอปัญหา เจออันตราย หลงทาง คุณจะทำอย่างไร…อ่านให้มาก ทำการบ้านให้มากก่อนไปเที่ยว อ่านพวกรีวิว ตามโฟรัมต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย และสอบถามพูดคุยคนท้องถิ่น แค่นี้คุณก็ปลอดภัยและเที่ยวอย่างสนุกแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัว
6. มีโอกาสในการตกหลุมรัก
ไม่ว่าใครก็ตาม ครั้งหนึ่งในชีวิตก็คงอยากตามหา หรือพบเจออีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่จะมาเติมเต็มชีวิตของคุณ และการที่คุณออกเดินทางคนเดียวนี่แหละ คือหนึ่งในโอกาสนั้น เพราะเป็นไปได้ที่คุณจะเจอเพื่อนร่วมเดินทางที่มีความชอบคล้ายๆ คุณ ความฝันคล้ายๆ คุณ และนี่อาจจะเป็นคนที่จะลงเอยใช้ชีวิตด้วยในที่สุดก็เป็นได้
7. ได้มีโอกาส “ทิ้งทุกอย่าง” และตัดขาดจากโลก
ทำงานมาทั้งปี คุณอาจต้องการเวลาที่คุณ ตัดขาดจากโลกแห่งการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตบ้าง ไม่ต้องคิดถึงเรื่องงาน ไม่ต้องอัพเดทอะไรให้ใครฟัง ไม่ต้องเปิดอีเมล์ ไม่ต้องแชตกับเพื่อน และเพลินไปกับความสนุก ธรรมชาติ และความงามที่อยู่ตรงหน้าคุณ และเวลาที่คุณหยุดกังวลหรือคิดทุกอย่างเนี่ยแหละ ที่บางทีคุณจะสมองโปร่ง และเผลอคิดอะไรออก ที่คุณคิดไม่ออกมานานก็เป็นได้
8. เลือกที่พักที่เหมาะสมกับ Life style
ถ้าคุณเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ชอบที่จะคุยกับใคร ก็แนะนำให้จองโรงแรมทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าหากคุณรู้ตัวว่าชอบพูดคุยกับคนอื่น ชอบหาเพื่อนใหม่ ๆ โดยเฉพาะนักเดินทางด้วยกัน HOSTLE คือคำตอบของคุณ เพราะนอกจากจะประหยัดและเป็นที่รวมของเหล่านักเดินทางทั่วโลกแล้ว ยังเป็นแหล่งข้อมูลและเรื่องเล่าชั้นดีอีกด้วย โดยที่ใน HOSTEL ก็มีหลายระดับห้องให้ลือกสรร ทั้งแบบนอนเดี่ยวมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง ไปจนถึงนอนรวมนับสิบคน และแน่นอนหลายแห่งมีห้องสำหรับผู้หญิงล้วนด้วย แก้ปัญหาผู้หญิงเดินทางคนเดียวได้ดีนักแล ถ้าได้พักในที่พักแบบนี้ แนะนำให้ลองลงไปที่ห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว รับรองคุณจะสนุกจนลืมไปเลยว่ามาเที่ยวคนเดียว