[CR] ลัลล้ามาเก๊า 3 วัน 2 คืน

กระทู้รีวิว

มาเก๊า บันทึกนักเดินทาง ปีชง

ลัลล้ามาเก๊าชิลๆ 3วัน2คืน (เน้นกิน เน้นลัลล้า)

ฟ้าฝนกระหน่ำตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง พาพันติดฝน

เลือกเดินทางจากเส้นทางใหม่ของไทยแอร์เอเชียจากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา

ฉีกปัญหาการจัดการรถติดทางขึ้นสนามบินฯดอนเมือง (กรอกตาบนแพร่บ

)
เป็นตัวเลือกเรื่องเวลาอาจจะมีเที่ยวบินน้อยกว่าดอนเมือง คือมีวันละ 1 เที่ยวบินเท่านั้น
แต่เอาความสบายใจ ไม่ต้องหงุดหงิดกลัวจะตกเที่ยวบิน
เพราะโดยปรกติโรงแรมมาเก๊าและฮ่องกงมักจะอนุญาตให้เข้าพักหลังบ่ายสองเป็นต้นไปอยู่แล้ว
ถ้าหากจะไปถึงก่อนก็เดินเล่นที่เวเนเชียนได้ระหว่างรอนินา

อัศวินขี่ม้าขาว

วันที่ 1
เดินทางโดยเที่ยวบิน FD450 1115-1450 ของไทยแอร์เอเชีย อู่ตะเภา-มาเก๊า

>>การผ่านการตรวจคนเข้าเมืองมาเก๊า
เวลาของเที่ยวบินนี้ไม่ติดใคร ไม่ต้องรอนาน บางเที่ยวบินลงพร้อมกัน รอกันเหนื่อยจ้า
แวะเข้าห้องน้ำก่อนผ่านตม.ก็มีแค่2ห้อง บร่ะเจ้า! แต่ก็ถือว่าความสะอาดผิดกับบ้านเราที่อู่ตะเภาเลยนะ
ห้องน้ำของมาเก๊าค่อนข้างสะอาดแปลกใจ บ้านเราก็กลิ่นห้องน้ำมาก่อนจะเดินเข้าอีกจ้า (ตามที่เจอมาจริงๆ)
หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมืองที่แสนสะดวก ไม่ต้องใช้ใบตม.ขาเข้าอีกแล้ว ใช้เฉพาะหนังสือเดินทาง
แค่นี้เดินทางตัวปลิวสบายๆไม่ต้องรอกรอกให้วุ่นวาย อ่ะจบเรื่องนี้

>>หาทางไปที่พักแบบวิธีประหยัด เก็บเงินไว้หม่ำของอร่อยๆกันเถอะ
เข้าประเด็นเลยล่ะกัน ผ่านด่านศุลกากรก็จะเจอพวกเค้าเตอร์สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวด้านหน้าเลย สังเกตุเห็นง่ายมากกกก
(ถ้าข้อมูลมาเก๊าไม่แน่นแนะนำโปรดหยิบแผนที่มาเก๊ามาด้วยนะจ๊ะ
ที่สำคัญถ้าไม่ได้ไปมาเก๊าบ๊อยบ่อย กรุณาหยิบดีที่สุด เพราะมาเก๊าพัฒนามีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ)
สนามบินมาเก๊าเค้ามี AIRPORT FREE WIFI Unlimited ด้วยนะเอออออ ดี๊ ดี!
จากนั้นเดินไปทางขวาจนสุดอาคารแล้วเดินออกไปยังที่จอดรถ shuttle buses ของบรรดาคาสิโน โรงแรมชื่อดัง
ซึ่งเป็นรถบัสบริการฟรี!! ก็เลือกเอาว่าไปไหนก่อนดี แต่ด้วยความที่ต้องทำเรื่องเข้าพักก่อน 1800น.
เลยรีบพุ่งตรงไปขึ้นรถบริการของเวเนเชียน VENETIAN คันสีฟ้าๆน้ำเงินๆ ถ้ามีกระเป๋าเดินทางก็ใส่ใต้ท้องรถได้เลย
ขึ้นไปนั่งปุ๊บพอเต็มรถออกจ้า ไม่เกิน20นาทีถึงหน้าล็อบบี้ใหญ่ (MAIN LOBBY) ให้เดินไป WEST GATE
สำหรับขึ้นรถฟรีไปที่ต่างๆ เช่น Macau Ferry , Cotai Ferry , Mainland Boarder มากมาย

**(สมัยก่อนมีรถมินิบัสจากเวเนเชียนไปลงท่าเรือYuetTungฟรี!!! ใกล้เซนาโด้มาก แหล่งที่พักอยู่ที่นั่น)

ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้วนะจ๊ะ เอาล่ะหว่าทำไง ครั้งก่อนมามาเก๊าก็นั่งรถฟรีไปYuetTung Pier ย้ำนั่งฟรีจนจบทริป นี่อาร๊าย!
ณ จุดนี้...แผนที่มาเก๊าสำคัญขึ้นมาทันที ได้ใช้ล่ะคร๊าฟฟฟ กางเลยจ๊ะ เงยดูป้ายรถเวเนเชียนมีไปไหนบ้างนะ
เอ้าล่ะหว่า..ไปMacau Ferry Terminalล่ะกัน ฝั่งเกาะมาเก๊าเนอะ (MFM INT’L AIRPORT อยู่ฝั่ง Cotai เมืองใหม่)

Venetian(West Lobby) >>Macau Ferry>>Hotel

ถึงท่าเรือเฟอรี่มาเก๊าปุ๊บ ต้องเดินลอดอุโมงค์ข้ามฝั่งเพื่อเป็นการข้ามถนนของที่นี่ รถไม่ชน รถไม่ต้องรอจอดให้คนข้าม ดี๊ดี
แต่ถ้ากระเป๋าหนัก พูดเลย!ขาลงเป็นบันไดเลื่อนให้จ๊ะ แต่ข้ามฝั่งแล้วขาขึ้นเป็นบันไดเดินเองนะจ๊ะ ซึ่งที่นี่มักเป็นเช่นนี้
ก็แอบสงกะสัยอยู่เหมือนกัน ทำเพื่อ!!?? ทำไมไม่ทำทั้งขึ้น-ลง?!
อ่ะๆพล่ามเสร็จแล้ว กางแผนที่และไปส่องป้ายรถว่ารถเมล์สายไหนผ่านสถานที่ใกล้โรงแรมที่จองไว้ที่สุด

>>การนั่งรถเมล์จากท่าเรือเฟอรี่มาเก๊าไปยังที่พักใกล้ๆย่านเซนาโด้
**แนะนำว่าควรมีธนบัตรย่อย/เหรียญเพื่อหยอดค่ารถเมล์

ไหนๆก็ไม่ได้เตรียมอ่านะ ก็ต้องรับชะตากรรมจ่ายไป10HKD ขึ้นรถเมล์สาย3A จะลงสถานีPraca Ponte Horta/ Terminalสุดสายเลยจ้า
(ที่พักครั้งนี้ คือ Home of Macau Guesthouse) แต่ถ้าให้ลงใกล้เซนาโด้ที่สุดสำหรับสาย3Aถ้าจากMacau Ferry Terminal คือ สถานีKam Pek Community Centre แล้วค่อยเดินย้อนนิดหน่อยก็จะเจอเซนาโด้ จริงๆสามารถไปที่พักครั้งนี้ได้เช่นกัน ทะลุกันหมด
หลังจากทำเรื่องเข้าพักเสร็จ ท้องร้องเลยจ๊ะ

Bus: 3A (Macau Ferry Terminal)>>Praca Ponte Horta>>Hotel

>>มื้อแรก มื้อค่ำที่มาเก๊า เพี้ยนกินมาม่า

แวะเลยจ้า เดินจากที่พักไปเซนาโด้ตามไปชิมบะหมี่ไข่เกี้ยวกุ้งและบะหมี่เนื้อตุ๋นแห่งร้าน WONG CHI KEI

หาป้ายร้านจากตึกสีเหลืองๆ (Macau New Shop) น่าจะมี3ชั้น
พนักงานจะถามว่ามากินกี่คน เค้าจะนำไป เนื้อที่อันน้อยนิดทำต๊ะนั่งและแบ่งๆกันนั่งได้หลายคนเลยทีเดียว
ถ้าไม่อร่อยไม่เจ๋งจริง ผู้คนคงไม่ยอมเบียดกันนั่งกิน ก็จัดการลองสั่งบะหมี่ไข่เกี้ยวกุ้ง

(กุ้งเป็นตัวจริงจัง ขอบอกไม่ได้ผสมแป้งแบบบ้านเรานะจ๊ะ) และ บะหมี่ไข่เกี้ยวหมู(จริงๆมีผสมกุ้งนะ)
มีเสริฟ์น้ำชาร้อนฟรีในกา สั่งเสร็จรอสักครู่พนักงานจะเอาใบราคาที่จะต้องจ่ายมาวางข้างๆเพื่อนำไปจ่ายที่เค้าเตอร์หน้าร้าน
วางแผนว่าหลังจากกินของคาว ต้องตามด้วยของหวาน นั่นก็คือทาร์ทไข่ขึ้นชื่ออีกแบรนด์นึงในมาเก๊า Margaret's Café e Nata
บางคนชอบรสชาดของที่นี่มากกว่าLord Stow’s ร้านเค้าเปิด 06:30 - 20:00น.นะจ๊ะ
อดจ้ามัวแต่กินเกี้ยวกุ้ง เลยลองเดินเล่นๆแถวเซนาโด้เล็กๆน้อยๆแถมแวะชิมLok Lokด้วยความที่อากาศค่อนข้างหนาว6องศา

แต่ดันเตรียมชุดเหมาะสำหรับ20องศาขึ้นไปมาเที่ยว จมูกเกือบแข็ง
ระหว่างเดินกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก็พยายามส่องร้านของกินที่น่าสนใจสำหรับวันถัดไป ดึกแล้วนอนเหอะzzzzz zzz

วันที่2
>>วางแผนจะลัลล้าเดินเล่นถ่ายรูปที่หมู่บ้านไทปาและโคโลอาน
**จุดเด่นคือ Chapel of St.Francis Xavier โบส์ถคาทอลิคสีเหลืองตามรอยF4เกาหลีและร้านทาร์ทไข่ต้นตำรับLord Stow’s

แวะ Margaret's Café e Nata สำหรับมื้อเช้าเบาๆ

Bus:25/26A Senado Square>>Coloane Viallge

ความที่ไม่รู้คืออ่านรีวิวมาบ้างว่าไปยังไง พอมาเองก็ไม่ได้ง่ายเลยเพราะไม่มีรถฟรีไปถึงเวเนเชียนอีกแล้วนินา
กางแผนที่เลือกนั่งรถสาย25/26A ตรงยาวจนถึงโคโลอานเลย
นั่งตั้งแต่Praca Ponte Horta/ Terminalก็ได้ หรือบริเวณที่ๆมีป้ายรถเมล์25/26A จนเห็นขวดแฟนต้าสีส้ม
(ถ้าดูตามรีวิวจากหลายๆที่)ตอนเห็นวงเวียนเล็กๆและร้านทาร์ทไข่Lord Stow’s ให้กดกริ่งลงเลย (Coloane Village)

ต้องแวะเลยร้านทาร์ทไข่ชื่อดังปรกติคิวยาวเลยถนน แต่แปลกจ๊ะแต่วันที่ไปไม่มีคิวต้องต่อ ดี๊ ดี
ก็ลองทาร์ทไข่ร้อนๆจากเตาและลองสั่งทาร์ทชอคโกแลต ตามความเห็นส่วนตัวเลยบรรดาอย่างอื่นที่ไม่ใช่ทาร์ทไข่รสชาดค่อนข้างไม่ใช่อ่ะคร๊าฟฟ
เดินเล่นๆเลยร้านดั้งเดิมไปนิดหน่อยแถวนั้นมีLord Stow’s Cafeด้วยนะ
นั่งชิมนั่งดื่มเครื่องดื่มได้ อาหารก็มีนะเออออ แต่ด้วยอากาศอุณหภูมิ8-9องศาก็ต้องสั่งโกโก้ร้อนแล้วล่ะ มันได้ฟีลลิ่งมาก บ่งตง! เพี้ยนต้มน้ำรอ

ใกล้ๆกันมีattraction>>Ponte Cais De Coloane ท่าเรือโคโลอานด้วยจ้า

>>เดินเล่นเรื่อยๆย้อนกลับมาจะเจอป้ายชี้ทางไป Chapel of St.Francis Xavier โบส์ถคาทอลิคสีเหลือง
เดินเรียบตามริมทะเลถ่ายรูปตามบ้านเรือนมุมนั้นมุมนี้จนมาบรรจบเจอป้ายรถเมล์ที่จะพึ่งลงและป้ายที่ต้องขึ้นกลับซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน

>>รถเมล์สาย25/26Aเพื่อจะไปTaipa Houses Musuem และ ถนนสายอาหาร จะลงป้ายไหนก็ได้ถ้าเห็นบ้านหลังเขียวๆ

แต่จริงๆแล้วคือพิพิธภัณฑ์ไทปา อาจจะลงป้าย Olimpica ก็ได้หรือลง1-2ป้ายก่อนหน้าก็ได้
ก็เดินเล่นชิลๆแวะถ่ายรูปบ้างนู้นนี่ ฟิน

แต่ไม่ควรลืมแวะถนนสายอาหาร

>>อย่าลืมแวะร้านสาขาใหญ่ที่ไทปา Tai Lei Loi Kei แซนวิสหมูทอดเค้าดัง!!

อยากได้น้ำซุปก็เลยลองสั่งบะหมี่ปลาหมึก เอิ่มม..มาแบบกรอบ ใหญ่ ยกซดอร่อยเด็ดเชียว
คลายหนาวลงได้เล็กๆ เม่าหนาว

ไม่ลืมแวะชิมชานมร้อนใส่ไข่มุกร้านKOI (เน้นกินไม่เน้นเที่ยว อิอิ)

>>กลับจากไทปาและโคโลอานโดยรถเมล์ต่อเดียวถึงเซนาโด้
>>โดยการนั่งรถเมล์สาย26Aยาวจนถึงหน้าเซนาโด้ลงป้ายAlmeida Ribeiro

จากเซนาโด้เดินไปRuins of St. Paul’s, วัดนาจา, พิพิธภัณฑ์มาเก๊า

วัดเปากง(เป้าหมายจริงๆคือมามาเก๊าเพื่อไหว้พระแก้ปีชง)

>>Chicken Star ร้านอยู่ในซอยเล็กๆก่อนขึ้นไปโบส์ถ St. Paul’s เมืองไทยมีแล้วแต่ไม่ได้กินมากินไกลมาก

สถานที่แต่ละที่ไม่ไกลกันมากเดินเล่นลัลล้าเรื่อยๆได้ ถ้าไม่ใช่ฉิ่งฉาบทัวร์หรือชะโงกทัวร์

>>ลองขนมเปี๊ยะหมูสับทอด Taiwan Pepper Cake

>>โชว์น้ำพุเต้นระบำ และ ต้นไม้ทอง12ราศี ที่โรงแรมWynn

กลับมาที่พักขอพักขาสักหน่อย อากาศก็แสนเย็น ค่ำๆค่อยลุยอีกทีกว่าจะขุดตัวจากที่นอน
อากาศก็แสนเย้น..เย็นเมื่อเช้านี้8องศาดีขึ้นจาก6องศาของเมื่อวานนิดนึง zzz

บร่ะเจ้า!!
แล้วเดินเลยไปทาง Lisboa > Grand Lisboa เดินไปเรื่อยๆเพื่อไปดูโชว์ที่โรงแรมWynn
พาพันรีบ

เจอน้ำพุเต้นตามเสียงบรรเลงเพลง มีแสดงทุกๆ15นาทีหน้าโรงแรมWynnเลยจ้า
ส่วนTree of prosperityต้นไม้สีทอง12ราศีจะมีการแสดงทุกๆ30นาที
ถ้ายืนริมทะเลข้างๆโรงแรมสามารถมองเห็นMacau Towerได้สูงตระหง่านเชียว

>>นมตุ๋น Leitaria I Son เมนูที่เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในทริปนี้

สั่งไป 2 ถ้วย คือ นมตุ๋นรสดั้งเดิม และ นมตุ๋นราดถั่วแดง
ฟินนนนน กลับบ้านได้อย่างสบายใจล๊าวววว

>>วันเดินทางกลับ
แวะกินทุกร้านที่ทำได้และที่สำคัญคือ...อยากส์แวะเป็นการส่วนตัว
ต้องลองบะหมี่หมูแดง