สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตบนพันทิพเลย ตื่นเต้นเล็กน้อยไม่รู้ทำไม :p ขออนุญาตเปิดประเดิมด้วยทริปทิเบต หนึ่งในทริปที่น่าจดจำที่สุดทริปหนึ่งในชีวิต หากเกิดข้อผิดพลาดแต่ประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
แรงบันดาลใจก็เริ่มจากว่า...หลังจากกลับมาจากทริปนี้ ก็ได้รูปมาเป็นพัน! วีดีโอคลิปอีกเป็นร้อยๆ (กล้องจขกท.กับเพื่อนๆรวมกัน) เลยพยายามตั้งใจ จะเรียบเรียงทริปออกมาเป็นบันทึกความทรงจำดีๆเก็บไว้อ่าน และแบ่งปันประสบการ์ณดีๆให้คนที่อยากไปเส้นทางเดียวกัน ก็พยายามรวบรวมรูป และคลิปให้มากที่สุด หลังจากพักหายเหนื่อยตกตะกอนแล้ว ก็ได้มานั่งรีวิวภาพ เอาไปอัดออกมาบ้าง แต่งโต๊ะทำงานให้"อิน"ซะหน่อย เมื่อองค์ลงปุ๊บก็เริ่มเขียนออกมา
ทิเบต.. เป็นดินแดนที่อยากไปมาตลอดตั้งแต่สาวๆ แต่ตอนนั้นรายได้ยังไม่เท่าความอยากเลยได้แต่นั่งดูรูปไปก่อน ยิ่งมีรถไฟสายหลังคาโลกออกมาเมื่อหลายปีก่อน ก็เลยตั้งใจไว้เลยว่าการไปทิเบตจะต้องนั่งรถไฟเท่านั้น แพลนการเดินทางของเราจึงเริ่มต้นด้วยคีย์เวิร์ดสองคำคือ ทิเบต + รถไฟ จนเวลาล่วงเลยไปหลายปีเริ่มรู้สึกแก่ ไม่สามารถจะรอให้ผ่านไปอีกเป็นปีๆได้อีกแล้ว ยังมีแรง ยังเดินไหว ยังอายุพอได้ เลยคิดว่าให้รีบกันไปเหอะ จขกท.โชคดีที่มีเพื่อนสนิทที่รู้ใจและชอบทิเบตเหมือนกันอีก 2 คน เราเลยเริ่มกำหนดเรื่องวันไป วันลางาน จำนวนวัน และช่วงเวลาที่ควรไปทิเบตเป็นเค้าโครงออกมา
จากคีย์เวิร์ดทิเบตและรถไฟ ทำให้เรารู้ว่าเราควรเริ่มทริปจากจีน แต่ตรงไหนล่ะ.. จขกท.เลยทำการเสิชดูระยะเวลาเดินทางจากแต่ละสถานี เราเลยสรุปลงที่เมืองซีอาน เพราะ:
1. ใช้ระยะเวลาไม่หลายวันมากนัก แค่อยากสัมผัสบรรยากาศรถไฟและวิวสวยๆประมาณนึง ประมาณ 30 กว่าชั่วโมงพอหอมปากหอมคอ
2. ซีอานมีสุสานทหารจิ๋นซี ความน่าเกรงขามอลังการดึงดูดให้อยากไปเห็นตัวตาตัวเอง
เค้าโครงทริปตอนนี้คือประมาณ 10 วัน, กรุ๊ป 3 คน, เริ่มซีอาน, นั่งรถไฟไปลาซา.. ตอนนั้นคิดว่าไหนๆก็ไปถึงลาซาแล้ว ถ้าเราไปเที่ยวเมืองอื่นๆแล้วถ้าวกกลับมาลาซาอีกมันจะซ้ำ เลยเอางี้เราเดินหน้าไปเรื่อยๆไปสิ้นสุดทริปเราที่เนปาลกันเถอะ เพื่อนร่วมทริปก็ไม่หือไม่อือ ตอบตกลงโอเค สรุปเค้าโครงเลยมี 11-12 วัน, กรุ๊ป 3 คน, เริ่มซีอาน, นั่งรถไฟไปลาซา และสิ้นสุดทริปที่กาฐมัณฑุ
จากนั้นเลยอีเมล์หา travel agency ต่างๆประมาณ 10 ที่ได้ เพื่อขอราคาสำหรับทริปที่เราดีไซน์มาประมาณนี้ แล้วมาเปรียบเทียบราคารวมที่ประกอบด้วย ตั๋วรถไฟ ค่าทำPermit ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวกี่ที่ โรงแรมที่พัก อาหารกี่มื้อ เทียบว่าเจ้าไหนให้มากกว่าคุ้มกว่า ยิ่งถ้าคนในกรุ๊ปมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อหัวก็จะน้อยลง สรุปลงเอยที่ Adventure Geo Treks ของคุณ Niru ซึ่งมีสนง.อยู่ในกาฐมัณฑุ หลังจากตกลงรายละเอียดส่งชื่อ เลขพาสปอร์ต หลักฐานต่างๆ และโอนมัดจำเรียบร้อยแล้ว เราตกลงกับทางเอเจนท์ให้ส่งตั๋วรถไฟและ permit มาให้ที่โฮสเทลในซีอาน
สรุปโปรแกรมของเราคือ:
21 ต.ค. - บินถึงซีอานตอนค่ำ (ค่าใช้จ่ายตัวเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
22 ต.ค. - ซื้อทัวร์เต็มวันเที่ยวสุสานทหารจิ๋นซี (ค่าใช้จ่ายตัวเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
23 ต.ค. - เช้าตรู่ ออกเดินทางด้วยรถไฟจากซีอาน ใช้เวลา 33 ชั่วโมง
24 ต.ค. - ถึงลาซา บ่าย 2-3
25 - 26 ต.ค. - เที่ยวในลาซา Potala - Jokhang Monastery - Barkhor Basar, Drepung Monastery - Sera Monastery - Norbulingka palace
27 ต.ค. - ออกเดินทางด้วยรถไป ทะเลสาบ Yamdrok - Gyantse - Shigatse
28 ต.ค. - ออกเดินทางด้วยรถไป Tashilhunpo Monastery - Shegar - Old Tingri
29 ต.ค. - ออกเดินทางด้วยรถไป Rongphu Monastery - Everest Base Camp - Zhangmu
30 ต.ค. - ข้ามชายแดนเข้าเนปาล เดินเที่ยวช้อปเพลินๆที่ Thamel เย็นๆไปเดินเล่น Kathmandu Durbar Sqaure
31 ต.ค. - สถูป Swayambhunath (เพิ่มวันเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
1 พ.ย. - เจดีย์ Boudhanath และบินกลับตอนค่ำ (เพิ่มวันเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
*สรุปค่าใช้จ่าย โปรแกรมที่ซื้อกับ AGT คนละ 1,092 USD
ส่วนรายการนอกโปรแกรม จขกท.ไม่ได้จดรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆไว้เลย ขออภัยด้วยค่ะ
2 คืนแรกที่ซีอาน
เข้าพักที่ Xi’an Shuyuan Hostel ราคาย่อมเยา ทำเลดีใกล้กับกำแพงเมืองซีอานเลย มีห้องพักสำหรับ 3 คนพอดี ร้านอาหารในโฮสเทล มีทั้งพิซซ่า เบเกอรี่ กาแฟ เครื่องดื่ม อาหารฝรั่ง อาหารจีนง่ายๆเช่นเกี๊ยว แต่เสียอย่างเดียวกลางคืนเสียงดังมาก คนคุยกันหน้าห้องเต็มไปหมด เพราะด้านล่างของโฮสเทลเป็นผับ
ซื้อทัวร์เยี่ยมชมสุสานทหารจิ๋นซี มันน่าเกรงขามและยิ่งใหญ่มาก
วันที่ 3 ขึ้นรถไฟเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด รถไฟไปลาซามีหลายขบวน เลือกเอาวันและเวลาที่ไปถึงให้เหมาะกับทริปของเราและแน่นอนเราเตรียมเสบียงมาเพียบๆ ขนมาจากบ้านและซื้อจากสถานีรถไฟนั่นแหละ รูปข้างล่างนี้คนขายตัวจริงหน้าใสแก้มชมพูมว๊ากกก มากกก
ตู้นอนก็มีหลายแบบ เราเลือกแบบ Hard sleeper 4 เตียง ซึ่งกรุ๊ปเรามี 3 คนเลยครองห้องกันไป
แต่บนรถไฟก็มีรถเข็นขายอาหารด้วยค่ะ ราคาไม่แพง กินไปชมวิวไปมันสุขสุดๆ
เวลารถไฟวิ่งอยู่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากเพราะภายในรถไฟมีการปรับความดันให้เหมาะสมอยู่แล้ว แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกเริ่มปวดหัวได้ แต่พอรถไฟหยุดจอดให้ลงไปยืดแข้งยืดขา (ซึ่งก็มีไม่กี่สถานีที่จอดให้ลง) หลายๆคนจะมีอาการ altitude sickness มากขึ้นก็ตอนนี้ ให้ระวังการเคลื่อนไหวร่างกาย ห้ามทำอะไรเร็ว อย่าตื่นเต้น ให้เดินช้าๆหายใจยาวๆลึกๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากที่สุด
วิถีชีวิตบนรถไฟแบบภาพเคลื่อนไหว
ถึงสถานีรถไฟที่ลาซา ไกด์ของเราชื่อ “เชดอร์” เป็นชาวทิเบตก็มาให้การต้อนรับทักทายว่า Tashi Delek แลัวคล้องคอให้ด้วยผ้าคาตะสีขาว
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
http://pantip.com/topic/34778547
[CR] บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 1
แรงบันดาลใจก็เริ่มจากว่า...หลังจากกลับมาจากทริปนี้ ก็ได้รูปมาเป็นพัน! วีดีโอคลิปอีกเป็นร้อยๆ (กล้องจขกท.กับเพื่อนๆรวมกัน) เลยพยายามตั้งใจ จะเรียบเรียงทริปออกมาเป็นบันทึกความทรงจำดีๆเก็บไว้อ่าน และแบ่งปันประสบการ์ณดีๆให้คนที่อยากไปเส้นทางเดียวกัน ก็พยายามรวบรวมรูป และคลิปให้มากที่สุด หลังจากพักหายเหนื่อยตกตะกอนแล้ว ก็ได้มานั่งรีวิวภาพ เอาไปอัดออกมาบ้าง แต่งโต๊ะทำงานให้"อิน"ซะหน่อย เมื่อองค์ลงปุ๊บก็เริ่มเขียนออกมา
ทิเบต.. เป็นดินแดนที่อยากไปมาตลอดตั้งแต่สาวๆ แต่ตอนนั้นรายได้ยังไม่เท่าความอยากเลยได้แต่นั่งดูรูปไปก่อน ยิ่งมีรถไฟสายหลังคาโลกออกมาเมื่อหลายปีก่อน ก็เลยตั้งใจไว้เลยว่าการไปทิเบตจะต้องนั่งรถไฟเท่านั้น แพลนการเดินทางของเราจึงเริ่มต้นด้วยคีย์เวิร์ดสองคำคือ ทิเบต + รถไฟ จนเวลาล่วงเลยไปหลายปีเริ่มรู้สึกแก่ ไม่สามารถจะรอให้ผ่านไปอีกเป็นปีๆได้อีกแล้ว ยังมีแรง ยังเดินไหว ยังอายุพอได้ เลยคิดว่าให้รีบกันไปเหอะ จขกท.โชคดีที่มีเพื่อนสนิทที่รู้ใจและชอบทิเบตเหมือนกันอีก 2 คน เราเลยเริ่มกำหนดเรื่องวันไป วันลางาน จำนวนวัน และช่วงเวลาที่ควรไปทิเบตเป็นเค้าโครงออกมา
จากคีย์เวิร์ดทิเบตและรถไฟ ทำให้เรารู้ว่าเราควรเริ่มทริปจากจีน แต่ตรงไหนล่ะ.. จขกท.เลยทำการเสิชดูระยะเวลาเดินทางจากแต่ละสถานี เราเลยสรุปลงที่เมืองซีอาน เพราะ:
1. ใช้ระยะเวลาไม่หลายวันมากนัก แค่อยากสัมผัสบรรยากาศรถไฟและวิวสวยๆประมาณนึง ประมาณ 30 กว่าชั่วโมงพอหอมปากหอมคอ
2. ซีอานมีสุสานทหารจิ๋นซี ความน่าเกรงขามอลังการดึงดูดให้อยากไปเห็นตัวตาตัวเอง
เค้าโครงทริปตอนนี้คือประมาณ 10 วัน, กรุ๊ป 3 คน, เริ่มซีอาน, นั่งรถไฟไปลาซา.. ตอนนั้นคิดว่าไหนๆก็ไปถึงลาซาแล้ว ถ้าเราไปเที่ยวเมืองอื่นๆแล้วถ้าวกกลับมาลาซาอีกมันจะซ้ำ เลยเอางี้เราเดินหน้าไปเรื่อยๆไปสิ้นสุดทริปเราที่เนปาลกันเถอะ เพื่อนร่วมทริปก็ไม่หือไม่อือ ตอบตกลงโอเค สรุปเค้าโครงเลยมี 11-12 วัน, กรุ๊ป 3 คน, เริ่มซีอาน, นั่งรถไฟไปลาซา และสิ้นสุดทริปที่กาฐมัณฑุ
จากนั้นเลยอีเมล์หา travel agency ต่างๆประมาณ 10 ที่ได้ เพื่อขอราคาสำหรับทริปที่เราดีไซน์มาประมาณนี้ แล้วมาเปรียบเทียบราคารวมที่ประกอบด้วย ตั๋วรถไฟ ค่าทำPermit ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวกี่ที่ โรงแรมที่พัก อาหารกี่มื้อ เทียบว่าเจ้าไหนให้มากกว่าคุ้มกว่า ยิ่งถ้าคนในกรุ๊ปมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อหัวก็จะน้อยลง สรุปลงเอยที่ Adventure Geo Treks ของคุณ Niru ซึ่งมีสนง.อยู่ในกาฐมัณฑุ หลังจากตกลงรายละเอียดส่งชื่อ เลขพาสปอร์ต หลักฐานต่างๆ และโอนมัดจำเรียบร้อยแล้ว เราตกลงกับทางเอเจนท์ให้ส่งตั๋วรถไฟและ permit มาให้ที่โฮสเทลในซีอาน
สรุปโปรแกรมของเราคือ:
21 ต.ค. - บินถึงซีอานตอนค่ำ (ค่าใช้จ่ายตัวเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
22 ต.ค. - ซื้อทัวร์เต็มวันเที่ยวสุสานทหารจิ๋นซี (ค่าใช้จ่ายตัวเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
23 ต.ค. - เช้าตรู่ ออกเดินทางด้วยรถไฟจากซีอาน ใช้เวลา 33 ชั่วโมง
24 ต.ค. - ถึงลาซา บ่าย 2-3
25 - 26 ต.ค. - เที่ยวในลาซา Potala - Jokhang Monastery - Barkhor Basar, Drepung Monastery - Sera Monastery - Norbulingka palace
27 ต.ค. - ออกเดินทางด้วยรถไป ทะเลสาบ Yamdrok - Gyantse - Shigatse
28 ต.ค. - ออกเดินทางด้วยรถไป Tashilhunpo Monastery - Shegar - Old Tingri
29 ต.ค. - ออกเดินทางด้วยรถไป Rongphu Monastery - Everest Base Camp - Zhangmu
30 ต.ค. - ข้ามชายแดนเข้าเนปาล เดินเที่ยวช้อปเพลินๆที่ Thamel เย็นๆไปเดินเล่น Kathmandu Durbar Sqaure
31 ต.ค. - สถูป Swayambhunath (เพิ่มวันเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
1 พ.ย. - เจดีย์ Boudhanath และบินกลับตอนค่ำ (เพิ่มวันเอง ไม่รวมในโปรแกรมของ AGT)
*สรุปค่าใช้จ่าย โปรแกรมที่ซื้อกับ AGT คนละ 1,092 USD
ส่วนรายการนอกโปรแกรม จขกท.ไม่ได้จดรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆไว้เลย ขออภัยด้วยค่ะ
2 คืนแรกที่ซีอาน
เข้าพักที่ Xi’an Shuyuan Hostel ราคาย่อมเยา ทำเลดีใกล้กับกำแพงเมืองซีอานเลย มีห้องพักสำหรับ 3 คนพอดี ร้านอาหารในโฮสเทล มีทั้งพิซซ่า เบเกอรี่ กาแฟ เครื่องดื่ม อาหารฝรั่ง อาหารจีนง่ายๆเช่นเกี๊ยว แต่เสียอย่างเดียวกลางคืนเสียงดังมาก คนคุยกันหน้าห้องเต็มไปหมด เพราะด้านล่างของโฮสเทลเป็นผับ
ซื้อทัวร์เยี่ยมชมสุสานทหารจิ๋นซี มันน่าเกรงขามและยิ่งใหญ่มาก
วันที่ 3 ขึ้นรถไฟเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด รถไฟไปลาซามีหลายขบวน เลือกเอาวันและเวลาที่ไปถึงให้เหมาะกับทริปของเราและแน่นอนเราเตรียมเสบียงมาเพียบๆ ขนมาจากบ้านและซื้อจากสถานีรถไฟนั่นแหละ รูปข้างล่างนี้คนขายตัวจริงหน้าใสแก้มชมพูมว๊ากกก มากกก
ตู้นอนก็มีหลายแบบ เราเลือกแบบ Hard sleeper 4 เตียง ซึ่งกรุ๊ปเรามี 3 คนเลยครองห้องกันไป
แต่บนรถไฟก็มีรถเข็นขายอาหารด้วยค่ะ ราคาไม่แพง กินไปชมวิวไปมันสุขสุดๆ
เวลารถไฟวิ่งอยู่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากเพราะภายในรถไฟมีการปรับความดันให้เหมาะสมอยู่แล้ว แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกเริ่มปวดหัวได้ แต่พอรถไฟหยุดจอดให้ลงไปยืดแข้งยืดขา (ซึ่งก็มีไม่กี่สถานีที่จอดให้ลง) หลายๆคนจะมีอาการ altitude sickness มากขึ้นก็ตอนนี้ ให้ระวังการเคลื่อนไหวร่างกาย ห้ามทำอะไรเร็ว อย่าตื่นเต้น ให้เดินช้าๆหายใจยาวๆลึกๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากที่สุด
วิถีชีวิตบนรถไฟแบบภาพเคลื่อนไหว
ถึงสถานีรถไฟที่ลาซา ไกด์ของเราชื่อ “เชดอร์” เป็นชาวทิเบตก็มาให้การต้อนรับทักทายว่า Tashi Delek แลัวคล้องคอให้ด้วยผ้าคาตะสีขาว
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
http://pantip.com/topic/34778547