ก่อนอื่นผมต้องขอโทษที่นำความรู้สึกส่วนตัวปัญหาส่วนตัวมาลงในนี้แต่ผมคิดว่าผมคงได้คำตอบและเป็นประโยชน์สำหรับผมและเป็นอุทาหรณ์ในการใช้ชีวิตคู่ของหลายๆ คน เพราะผมเองไม่มีใครที่จะปรึกษาได้เพราะเป็นเรื่องที่ผมปิดบังมาตลอด และไม่สามารถที่จะคุยกับใครได้เลย แต่เรื่องของผมกับเขา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความรัก เรียได้เลยว่าความรัก เราไม่เคยคิดที่จะเอาเปรียบหรือหวังผลประ.โยชน์อื่นใดเลย ผมกับเขารักกัน แต่เรามาเจอกันช้าไป เพราะเขามีครอบครัวแล้ว และเขาก็ได้ค้นพ้บตัวตนที่แท้จริงของเขาว่าเขาเป็นแบบนี้ พูดง่ายๆ คือ เขาชอบผู้ชาย ผมอยู่กินกับเขาได้ประมาณ 16 - 17 เดือนเต็มๆ เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เรามีความสุขมาก เราอยู่ด้วยกันตลอด ผมทำหน้าที่ที่ผมพอจะทำได้เพื่อให้เขาได้พักผ่อนหลังจากเลิกงาน เพื่อให้เขาได้มีเวลาให้ครอบครัวของเขา ผมไม่เคยที่จะไปก้าวก่ายหรือล่วงล้ำครอบครัวของเขาเลย แม้แต่นิดเดียวและไม่คิดที่จะเข้าไปวุ่นวายหรือยุ่งเกี่ยวอะไรเลย จนเขาไว้ใจผม เขาให้ไลน์แฟนเขา ให้เบอร์แฟนเขา แล้วผมกับแฟนเขาก็ได้คุยกันในฐานที่ผมเป็นเพื่อนของเขา เราก็คุยกันถูกคอ แลละมีความรู้สึกให้กันและกัน ตอนนี้แฟนเขาเพิ่งคลอดลูกได้ประมาณ 2 เดือน ผมก็รักล
ูกเขาเหมือนลูกผม ผมไม่คยคิดอิจฉาที่เขาไปอยู่กับแฟนหรือลูกของเขา ถามว่าผมคิดถึงไม๊ ผมก็คิดถึง แต่ผมก็อยู่ในที่ของผม ในขอบเขตของผม ผมทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด พูดง่ายๆ คือทำหน้าที่ภรรยาอีกคนหนึ่งของเขา (แต่ไม่ไม่แสดงออกนะครับ เป็นผู้ชายปกติ) เร่ิมตั้งแต่ทำกับข้าว ซักผ้า รีดผ้า กวาดบ้านถูกบ้าน ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงเขาทำ เลิกงานผมต้องเรียบกลับห้องเพื่อรอเขาเลิกงานมาหาผม แล้วไปวิ่ง ออกกำลังกายด้วยกัน ทุกวันศุกร์เย็น เขาจะต้องรีบกลับไปหาแฟนเขาซึ่งอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็เป็นจังหวัดใกล้ๆ กัน ห่างกันประมาณ 125 กม. แล้วจะกลับวันอาทิตย์ตอนเย็น เป็นแบบนี้ทุกวัน ซึ่งผมไม่ได้ขัดข้องหรือห้ามไม่ให้ไปแต่อย่างใด ผมเต็มใจและเต้มที่ ยินดีที่ให้เขาไปหาแฟนและลูก มาถึงวันนี้ วันที่ผมจะต้องย้ายที่ทำงานซึ่งจะต้องไปทำงานจังหงวัดเดียวกันกับที่แฟนเขาอยู่ และเขาก็กำลังจะย้ายตามไป ซึ่งจะไปช้ากว่าผมประมาณ 1 เดือน แต่ไปครั้งนี้ เขาต้องไปอู่กับครอบครัวเขา กับภรรยาของเขา ไม่ได้อยู่กับผมเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา มันทำให้ผู้รู้สึกอย่างบอกไม่ถูก เพราะตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เราไม่เคยห่างกัน ไม่เคยทะเลากะกัน เราอยู่ด้วยกันแบบว่าถ้าใครรู้แล้วต้องอิจฉาแน่ๆ เพราะเรารักกันมาก แต่เมื่อเวลานี้มาถึง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมกับเขาก็ร้องไห้กันทุกคืนติดต่อกันมาหลายคืน เพราะเขาเองก็ยอมรับว่าเขารักผมมาก รักมากกว่าแฟนเขาซะอีก ผมก็พยายามบอกว่าให้เขายอมรับความจริงระหว่างเรื่องหัวใจ ความรู้สึก ความสุข กับความรับผิดชอบ ผมยอมรับ บางครั้งผมก็พูดเหมือนเห็นแก่ตัว บางครั้งผมก็พูดเหมือนให้กำลังใจเขา เพราะเขายัมรับแล้ว่าเขาเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่มีสังคมแบบนี้ เขารักแบบนี้ แต่เขาก็สงสารแฟนเขาซึ่งคบกับเขามานานพอสมควรเกือบ 10 ปี จนเขามารู้จักผม อ้อ ผมลืมบอกไปว่าเขาเป็นคนเข้ามาจีบผมในสถานที่ออกกำลังกาย เป็นคนเข้ามาในชีวิตผม แต่ถึงเวลานี้เขาบอกว่าเมื่อเขาเดินเข้ามา เขาก็จะเดินออกไปเอง มันทำให้ผมปวดร้าวยิ่งนั้ก มันเป็นความรกนะครับ ไม่ใช่ความรู้สกเล่นๆ ที่จะมาทิ้งกันง่ายๆ เขาอยากให้ผมพบเจอคนดีๆ ที่พร้อมจะดูแลและอยู่กับผมเหมือนช่วงเวลาที่เขาอยู่กับผม แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะผมได้มอบความรักของผมให้กับผู้ชายคนนี้ไปแล้ว และผมก็รักเขามาก มีแต่ความรักให้กับเขา และพร้อมที่จะเคียงข้างเขาเสมอทุกเวลา บางครั้งเขาก็พูดกับผมว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะบอกความจริงกับภรรยาของเขาว่าเขาเป็นแบบนี้ แล้วเขาก็จะขอใช้ชีวิตกับผมใน กทม. เพราะเป็นที่ที่ไม่ต้องแค์อะไรมากนัก (ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา) แต่พอมาถึงเวลานี้ เขาก็กลับที่จะอยู่กับแฟนเขา แต่ผมก็ไม่เคยขัดข้อง เพียงแต่อยากให้เขามาหาผม และยังคงสถานความรักของเราแบบนี้ตลอดไป เพราะผมไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว มาหาผมบ้าง ผมยอมรับได้เสมอ ยอมรับได้ทุกอย่าง แต่เขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเวลาผมมีอะไรที่ไม่สบายใจหรือกลังร้องไห้ หรือเสียใจ ผมก็ไม่สามารถที่ยกโทรศัพท์หรือไลน์หาเขาได้ เพราะเขาต้องอยู่กับแฟน ผมฟังดูมันก็ถูกนะ แต่ความรักล่ะ ผมต้องการเขา ผมจึงบอกว่าไม่เป็นไร ผมยอมรับได้ทุกอย่าง อย่างน้อย เวลาผมไม่สบายใจ ผมก็ยังมีคนที่ให้ผมคิดถึง มันเป็นไปไหม่ได้หรอกที่ใจเรารักเขา แล้วเขาอยากให้เรามีคนใหม่ ที่ดีเหมือนเขา เพื่อมาดูแลเรา แต่เรากลับมั่นใจว่าเขาเป็นคนที่เรารักและรักเราที่สุดแล้ว เราพร้อม เรายอมเสมอ เพราะเราสองคนไม่เคยคิดหวังผลประโยชน์อะไรต่อกันเลย มีก็อยู่ตามที่จะไม่ ไม่มีเราก็กินมาม่า ก๋วยเตียว เรามีความรักให้กันล้วนๆ ไม่เคยคิดนอกใจ ไม่เคยยุ่งเกียวเรื่องเงินทองของกันและกัน ผมกลับขอให้เขาดูแลครอบครัวของเขาให้เต็มที่สำหรับผมไม่ต้องเป็นห่วง จุดนี้แหละครับ ที่ทำให้เรารักกัน เพราะผมรู้ว่าความรักประเภทนี้มีแต่ที่จะเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ น้อยคนนักที่จะเจอแบบนี้ และผมกับเขาก็เป็นแบบนี้ ต่อไปผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราทั้งสามคน แฟนก็ยังไม่รู้ว่าเขาชอบผู้ชาย เขาเป็นเกย์ และก็ยังไม่รู้ว่าผมกับเขาคบกัน เป็นแฟนกัน รักกัน แต่ผมเป็นฝ่ายที่รับรู้ทุกเรื่องราวมาตลอด ทุกอย่าง ทุกเรื่อง แต่ไม่เคยคิดที่จะก้าวก่ายหรือแสดงอาการใดๆ ออกมาให้เขาไม่พอใจเลยแม้แต่นิด เพราะผมรักเขา เขาก็เป็นผู้ชายธรรมดา ที่ใครเห็นแล้วบอกว่าไม่หล่อ แต่สำหรับผม จิตใจเขาหล่อเสมอ และหน้าตาเขาก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยสำหรับผม ผมไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ผมรักเขา ตอนนี้ผมกับเขาก็สับสนว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปดี เขาเองก็ยอมรับว่าเป็นแบบนี้ ผมเคยให้คำแนะนำเขาว่า ผมอยากให้เขาเลือกในสิ่งที่เขาเป็น เลือกในสิ่งที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีความสุข แล้วเขาก็ยอมรับว่าเขามีความสุขที่เขาอยู่กับผม แต่เขาไม่รู้จะบอกแฟนเขายังไง เขาทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นแฟนเขาร้องไห้ แม้กระทั่งผมเองเขาก็เป็นคนที่ทนเห็นน้ำตาของคนที่เขารักไม่ได้ เพราะแผนเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แล้วผมก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเขาเป็นคนเข้ามาจีบผมเอง ผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ผมเคยบอกว่าให้บอกแฟนไปเถอะ ความจริงก็คือความจริง แต่เหรียญมักมีสองด้าน แฟนอาจจรับได้ก็ได้ หรือถ้ารับไม่ได้ ผมก็พร้อมและยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเขา ถ้าแฟนเขาไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ ผมก็พร้อมที่จะช่วย เพราะผมกับเขาก็มีงานที่มั่นคงกันทั้งคู่ แต่สำหรับแฟนเขายังไม่มีงานทำ เพราะลาออกจากงานบริษัทตอนที่ท้อง อีกอย่างถ้าแฟนเขารับไม่ได้ที่เขาเป็นแบบนี้ แฟนเขาอาจจะมีโอกาสได้เจอผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ที่พร้อมจะดูแลเขา เพราะอายุก็ยังไม่มาก ผมพูดแบบนี้ก็เหมือนผมเห็นแก่ตัว แต่ผมก็จำเป็นต้องพูด เพื่อบกความในใจและเจตนาของผม แม้ว่าจะดูว่าเป็นการแนะนำที่เห็นแก่ตัวซะเหลือเกิน เขาก็พยายามที่จะเกริ่นกับแฟนเขานะ ว่าอยากมีแฟนใหม่ไม๊ อยากเลิกกับเขาไม่ คำตอบที่ได้ก็คือ "ไม่" แต่ไม่ในที่นี้เพราะแฟนเขาไม่รู้ว่าเขาเป็นเกย์ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าแฟนเขารู้ความจริงแล้วจะเป็นอย่างไร ผมรับได้เสมอ ถ้าแฟนเขารับได้ ผมก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการชีวิตเขา แต่ถ้ารับไม่ได้ ผมก็พร้อมที่จะเคียงข้างเขาและช่วยกันดูแลลูก และก็จะยังมีมิตรภาพให้แฟนเขาเสมอ ผมเชื่อว่าเวลาจะช่วยให้แฟนเขาดีขึ้นในกรณีที่เขารู้ความจริง ตอนนี้ม้ันรู้สึกสับสนมากครั้บ ทั้งผมและเขา ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่แนวโน้มคือ เขาต้องไปอยู่กับแฟนเขา แล้วเราทั้งสามคนก็ต้องอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ที่ทำงานใกล้ๆ กัน บ้านพักใกล้ๆ กัน มันจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ ผมเดาไม่ถูกเลย ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ผมเพียงแค่อย่ากบอกความรู้สึกที่ผมไม่สามารถที่จะคุยกับใครได้เท่านั้นเองครับ ขอบคุณครับ
ปรึกษาปัญหาความรักของคนสามคน
ูกเขาเหมือนลูกผม ผมไม่คยคิดอิจฉาที่เขาไปอยู่กับแฟนหรือลูกของเขา ถามว่าผมคิดถึงไม๊ ผมก็คิดถึง แต่ผมก็อยู่ในที่ของผม ในขอบเขตของผม ผมทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด พูดง่ายๆ คือทำหน้าที่ภรรยาอีกคนหนึ่งของเขา (แต่ไม่ไม่แสดงออกนะครับ เป็นผู้ชายปกติ) เร่ิมตั้งแต่ทำกับข้าว ซักผ้า รีดผ้า กวาดบ้านถูกบ้าน ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงเขาทำ เลิกงานผมต้องเรียบกลับห้องเพื่อรอเขาเลิกงานมาหาผม แล้วไปวิ่ง ออกกำลังกายด้วยกัน ทุกวันศุกร์เย็น เขาจะต้องรีบกลับไปหาแฟนเขาซึ่งอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็เป็นจังหวัดใกล้ๆ กัน ห่างกันประมาณ 125 กม. แล้วจะกลับวันอาทิตย์ตอนเย็น เป็นแบบนี้ทุกวัน ซึ่งผมไม่ได้ขัดข้องหรือห้ามไม่ให้ไปแต่อย่างใด ผมเต็มใจและเต้มที่ ยินดีที่ให้เขาไปหาแฟนและลูก มาถึงวันนี้ วันที่ผมจะต้องย้ายที่ทำงานซึ่งจะต้องไปทำงานจังหงวัดเดียวกันกับที่แฟนเขาอยู่ และเขาก็กำลังจะย้ายตามไป ซึ่งจะไปช้ากว่าผมประมาณ 1 เดือน แต่ไปครั้งนี้ เขาต้องไปอู่กับครอบครัวเขา กับภรรยาของเขา ไม่ได้อยู่กับผมเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา มันทำให้ผู้รู้สึกอย่างบอกไม่ถูก เพราะตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เราไม่เคยห่างกัน ไม่เคยทะเลากะกัน เราอยู่ด้วยกันแบบว่าถ้าใครรู้แล้วต้องอิจฉาแน่ๆ เพราะเรารักกันมาก แต่เมื่อเวลานี้มาถึง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมกับเขาก็ร้องไห้กันทุกคืนติดต่อกันมาหลายคืน เพราะเขาเองก็ยอมรับว่าเขารักผมมาก รักมากกว่าแฟนเขาซะอีก ผมก็พยายามบอกว่าให้เขายอมรับความจริงระหว่างเรื่องหัวใจ ความรู้สึก ความสุข กับความรับผิดชอบ ผมยอมรับ บางครั้งผมก็พูดเหมือนเห็นแก่ตัว บางครั้งผมก็พูดเหมือนให้กำลังใจเขา เพราะเขายัมรับแล้ว่าเขาเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่มีสังคมแบบนี้ เขารักแบบนี้ แต่เขาก็สงสารแฟนเขาซึ่งคบกับเขามานานพอสมควรเกือบ 10 ปี จนเขามารู้จักผม อ้อ ผมลืมบอกไปว่าเขาเป็นคนเข้ามาจีบผมในสถานที่ออกกำลังกาย เป็นคนเข้ามาในชีวิตผม แต่ถึงเวลานี้เขาบอกว่าเมื่อเขาเดินเข้ามา เขาก็จะเดินออกไปเอง มันทำให้ผมปวดร้าวยิ่งนั้ก มันเป็นความรกนะครับ ไม่ใช่ความรู้สกเล่นๆ ที่จะมาทิ้งกันง่ายๆ เขาอยากให้ผมพบเจอคนดีๆ ที่พร้อมจะดูแลและอยู่กับผมเหมือนช่วงเวลาที่เขาอยู่กับผม แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะผมได้มอบความรักของผมให้กับผู้ชายคนนี้ไปแล้ว และผมก็รักเขามาก มีแต่ความรักให้กับเขา และพร้อมที่จะเคียงข้างเขาเสมอทุกเวลา บางครั้งเขาก็พูดกับผมว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะบอกความจริงกับภรรยาของเขาว่าเขาเป็นแบบนี้ แล้วเขาก็จะขอใช้ชีวิตกับผมใน กทม. เพราะเป็นที่ที่ไม่ต้องแค์อะไรมากนัก (ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา) แต่พอมาถึงเวลานี้ เขาก็กลับที่จะอยู่กับแฟนเขา แต่ผมก็ไม่เคยขัดข้อง เพียงแต่อยากให้เขามาหาผม และยังคงสถานความรักของเราแบบนี้ตลอดไป เพราะผมไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว มาหาผมบ้าง ผมยอมรับได้เสมอ ยอมรับได้ทุกอย่าง แต่เขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเวลาผมมีอะไรที่ไม่สบายใจหรือกลังร้องไห้ หรือเสียใจ ผมก็ไม่สามารถที่ยกโทรศัพท์หรือไลน์หาเขาได้ เพราะเขาต้องอยู่กับแฟน ผมฟังดูมันก็ถูกนะ แต่ความรักล่ะ ผมต้องการเขา ผมจึงบอกว่าไม่เป็นไร ผมยอมรับได้ทุกอย่าง อย่างน้อย เวลาผมไม่สบายใจ ผมก็ยังมีคนที่ให้ผมคิดถึง มันเป็นไปไหม่ได้หรอกที่ใจเรารักเขา แล้วเขาอยากให้เรามีคนใหม่ ที่ดีเหมือนเขา เพื่อมาดูแลเรา แต่เรากลับมั่นใจว่าเขาเป็นคนที่เรารักและรักเราที่สุดแล้ว เราพร้อม เรายอมเสมอ เพราะเราสองคนไม่เคยคิดหวังผลประโยชน์อะไรต่อกันเลย มีก็อยู่ตามที่จะไม่ ไม่มีเราก็กินมาม่า ก๋วยเตียว เรามีความรักให้กันล้วนๆ ไม่เคยคิดนอกใจ ไม่เคยยุ่งเกียวเรื่องเงินทองของกันและกัน ผมกลับขอให้เขาดูแลครอบครัวของเขาให้เต็มที่สำหรับผมไม่ต้องเป็นห่วง จุดนี้แหละครับ ที่ทำให้เรารักกัน เพราะผมรู้ว่าความรักประเภทนี้มีแต่ที่จะเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ น้อยคนนักที่จะเจอแบบนี้ และผมกับเขาก็เป็นแบบนี้ ต่อไปผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราทั้งสามคน แฟนก็ยังไม่รู้ว่าเขาชอบผู้ชาย เขาเป็นเกย์ และก็ยังไม่รู้ว่าผมกับเขาคบกัน เป็นแฟนกัน รักกัน แต่ผมเป็นฝ่ายที่รับรู้ทุกเรื่องราวมาตลอด ทุกอย่าง ทุกเรื่อง แต่ไม่เคยคิดที่จะก้าวก่ายหรือแสดงอาการใดๆ ออกมาให้เขาไม่พอใจเลยแม้แต่นิด เพราะผมรักเขา เขาก็เป็นผู้ชายธรรมดา ที่ใครเห็นแล้วบอกว่าไม่หล่อ แต่สำหรับผม จิตใจเขาหล่อเสมอ และหน้าตาเขาก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยสำหรับผม ผมไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ผมรักเขา ตอนนี้ผมกับเขาก็สับสนว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปดี เขาเองก็ยอมรับว่าเป็นแบบนี้ ผมเคยให้คำแนะนำเขาว่า ผมอยากให้เขาเลือกในสิ่งที่เขาเป็น เลือกในสิ่งที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีความสุข แล้วเขาก็ยอมรับว่าเขามีความสุขที่เขาอยู่กับผม แต่เขาไม่รู้จะบอกแฟนเขายังไง เขาทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นแฟนเขาร้องไห้ แม้กระทั่งผมเองเขาก็เป็นคนที่ทนเห็นน้ำตาของคนที่เขารักไม่ได้ เพราะแผนเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แล้วผมก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเขาเป็นคนเข้ามาจีบผมเอง ผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ผมเคยบอกว่าให้บอกแฟนไปเถอะ ความจริงก็คือความจริง แต่เหรียญมักมีสองด้าน แฟนอาจจรับได้ก็ได้ หรือถ้ารับไม่ได้ ผมก็พร้อมและยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเขา ถ้าแฟนเขาไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ ผมก็พร้อมที่จะช่วย เพราะผมกับเขาก็มีงานที่มั่นคงกันทั้งคู่ แต่สำหรับแฟนเขายังไม่มีงานทำ เพราะลาออกจากงานบริษัทตอนที่ท้อง อีกอย่างถ้าแฟนเขารับไม่ได้ที่เขาเป็นแบบนี้ แฟนเขาอาจจะมีโอกาสได้เจอผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ที่พร้อมจะดูแลเขา เพราะอายุก็ยังไม่มาก ผมพูดแบบนี้ก็เหมือนผมเห็นแก่ตัว แต่ผมก็จำเป็นต้องพูด เพื่อบกความในใจและเจตนาของผม แม้ว่าจะดูว่าเป็นการแนะนำที่เห็นแก่ตัวซะเหลือเกิน เขาก็พยายามที่จะเกริ่นกับแฟนเขานะ ว่าอยากมีแฟนใหม่ไม๊ อยากเลิกกับเขาไม่ คำตอบที่ได้ก็คือ "ไม่" แต่ไม่ในที่นี้เพราะแฟนเขาไม่รู้ว่าเขาเป็นเกย์ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าแฟนเขารู้ความจริงแล้วจะเป็นอย่างไร ผมรับได้เสมอ ถ้าแฟนเขารับได้ ผมก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการชีวิตเขา แต่ถ้ารับไม่ได้ ผมก็พร้อมที่จะเคียงข้างเขาและช่วยกันดูแลลูก และก็จะยังมีมิตรภาพให้แฟนเขาเสมอ ผมเชื่อว่าเวลาจะช่วยให้แฟนเขาดีขึ้นในกรณีที่เขารู้ความจริง ตอนนี้ม้ันรู้สึกสับสนมากครั้บ ทั้งผมและเขา ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่แนวโน้มคือ เขาต้องไปอยู่กับแฟนเขา แล้วเราทั้งสามคนก็ต้องอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ที่ทำงานใกล้ๆ กัน บ้านพักใกล้ๆ กัน มันจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ ผมเดาไม่ถูกเลย ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ผมเพียงแค่อย่ากบอกความรู้สึกที่ผมไม่สามารถที่จะคุยกับใครได้เท่านั้นเองครับ ขอบคุณครับ