เป็นละครรูปแบบนึงที่เวียนกลับมาให้ดูอีกครั้ง
แต่มากันในรูปแบบใหม่ เป็นเครื่องประดับคือ กำไล
ในตอนแรกหลายคนก็คงคิดว่าแปลกใหม่ แต่สุดท้ายก็วนมาเรื่องเดิม ๆ หลายคนอาจผิดหวัง
แต่ในความเหมือนเดิมย่อมมีเรื่องแตกต่าง
เพราะการปรับบทเพื่อปูทางไปในหลายประเด็นย่อมมีความหมาย
การสร้างให้ตัวละครออกมาแบบนี้เพื่ออะไร เป็นสิ่งที่น่าติดตาม
คนดูละครเรื่องนี้คงแปลกใจว่า ทำไมเรื่องนี้ตัวละครผู้หญิงเยอะมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน
เพราะละครเรื่องนี้ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ของผู้หญิงตลอดเรื่อง ตัวละครผู้ชายจึงดูมีความสำคัญน้อย
นั่นคือเหตุผลการสร้างตัวละครและการปรับบทที่เกิดขึ้น
เพราะผู้หญิงทุกคนในเรื่องต้องการเป็นเจ้าของสิ่งที่เขาต้องการ
อินทนิล หญิงม่ายที่ต้องการเด็กหนุ่มมาหล่อเลี้ยงหัวใจ เขาครอบครองโดยไม่รู้ว่า เขาครอบครองไม่ได้เลย
แทมมี ผู้หญิงที่ต้องการความโด่งดัง จนบางครั้งต้องเสียความเป็นเจ้าของคู่ขา เพื่อผลประโยชน์ของเขาและเธอ
สวิตา ดาราสาวผู้มีชีวิตสองหน้าเพื่อความสำเร็จ แต่เธอยังต้องการเป็นเจ้าของเพื่อให้ชีวิตเธอสมบูรณ์มากขึ้น
เหม่ยกุย หญิงสาวที่ทำทุกอย่างเพื่อเป็นเจ้าของคนที่เขารัก
ภรณี ผู้หญิงที่ดำเนินชีวิตในกรอบมาตลอดชีวิต แต่เพื่อความเป็นเจ้าของในตัวปรุง จึงทำได้ทุกอย่าง
ล้อมเพชร หญิงสาวทะเยอะทะยาน หลอกใช้คนอื่นเพื่อให้ตนเองได้ครอบครองเป็นเจ้าของในตัวดิเรก
และ รัมภาและริ้วทอง หญิงสาวที่ต่างมีความรักให้กับผู้ชายคนเดียว จนทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เธอได้เป็นเจ้าของของเขา
โดยตัวละครแสดงความเป็นเจ้าของชัดที่สุดคือ ตัวริ้วทอง รัมภาและดิเรก
รักแรกพบ กับรักที่มีเจ้าของ มักเป็นของคู่กันตามนิยายและละคร เรื่องนี้ก็เหมือนเดิม
ริ้วทอง หญิงสาวในคณะหุ่นกระบอก ถูกช่วยชีวิตจากโจรโดย ดิเรก แล้วเขาก็ช่วยเธอและครอบครัว
ให้คณะหุ่นกระบอกเข้าไปแสดงที่วังตินชาติ และได้รับโอกาสให้อยู่แสดงในวังต่อไป
แต่ ดิเรก มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้วคือ รัมภา และเมื่อรัมภากับริ้วทองได้เจอกันจากเหตุบางอย่าง
ทำให้ ริ้วทองและรัมภา เกิดอคติและก่อทิษฐิตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
รักสามเส้า เราสามคน รักแท้ กับ รักมีเจ้าของ เรื่องที่เห็นกันมาในอดีตจนปัจจุบัน
ริ้วทองและเกล้ามาศ ทั้งสองชีวิตยังดำเนินไปด้วยอคติและทิษฐิ
ริ้วทองต้องการเป็นที่รักของดิเรกเพราะรู้ว่าดิเรกรักตัวเอง และป้องกันการยุยงของแม่เพื่อให้คบชายอื่น
เมื่อรัมภาเห็นว่าริ้วทองมีใจต่อดิเรก จากความอคติในครั้งแรก พยายามจับผิดริ้วทอง
เพื่อสนับสนุนความคิดตัวเองว่าริ้วทองเป็นคนไม่ดีไม่ได้รักดิเรก แต่จริง ๆ เป็นเพียงความกลัวที่จะกลัวจะเสียดิเรกไป
รัมภานั้นก็พึงใจต่อดิเรก แต่ตัวเองก็ไม่กล้าจะแสดงความรักต่อเขา เพราะถึงจะเป็นสาวมั่นในยุคนั้นเธอก็สตรองไม่พอจะไปบอกรัก
เลยใช้ความเป็นคู่หมั้นที่ยังแสดงว่าเธอและเขายังรักกัน และคอยกีดกันผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้ดิเรก
ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอทำได้แต่ลึก ๆ เธอคงอยากบอกดิเรกว่า อยากเป็นคนนั้น คนที่เธอรักกันด้วยหัวใจ เพราะเธอก็รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ
เมื่อริ้วทองถูกสกัดกั้นด้วยรัมภา ริ้วทองจึงมีอคติกับรัมภามากขึ้น จนเธอได้พบคนที่เธอคิดว่าเป็นมิตรแต่จริง ๆ เป็นศัตรู คือ ล้อมเพชร
ริ้วทองเชื่อล้อมเพชรเพราะคิดว่าช่วยจริง แต่กลายเป็นเธอดึงล้อมเพชรเข้ามาอยู่ในสถานการณ์อยากเป็นเจ้าของครั้งนี้ด้วย
เมื่อทุกคนต้องการเป็นเจ้าของ ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม ฉันมีสิทธิ์จะรักไม่ผิดใช่ไหม
จนเลยเถิดเป็นโศกนาฏกรรมที่ยังมาถึงปัจจุบัน
ผีริ้วทองยังคงจะทำลายชีวิตเกล้ามาศโดยร่วมมือกับสวิตาเหมือนกับที่เธอร่วมมือกับล้อมเพชร และเธอยังคงเป็นเจ้าของกำไลมาศ
ที่เป็นของแทนใจระหว่างดิเรกกับเธอ เพื่อเป็นการยืนยันในการแก้แค้นว่า ดิเรกเป็นของฉัน
มาพูดถึงรายละเอียดของละคร
คิดว่า มาอีกแล้ว ผีแพนด้า 749 ผีแพง โอม กาก้า นี่จะผีกำไลคอสเพลย์อีก มันจะซ้ำๆๆๆๆ ไปไหน
ซึ่ง ๆ จริงก็มีลายละเอียดที่ต่างกัน และเป็นทั้งจุดดีและจุดด้อยของเรื่องกำไลมาศด้วย
สาปภูษา เป็นความแค้นของหญิงสาวที่ผูกชีวิตกับผ้าผืนที่ตัวเองจะแต่งงาน แต่เมื่อชายรักไปแต่งหญิงอื่น
เธอถูกทิ้งไว้กลางทาง จึงทำให้เธอตามแก้แค้นโดยผ่านตัวแทนเธอคือ ไหมพิม
บ่วง เรื่องของหญิงสาวที่มีชีวิตที่น่าสงสารแต่ก็แฝงความทะเยอทะยานที่ต้องการเติมความอยากที่ไม่ใช่ความรักของตัวเองจนเป็นบ่วง
กำไลมาศ เรื่องราวการแสดงความเป็นเจ้าของจนสู่โศกนาฏกรรม และการล้างแค้น
ซึ่งจุดเด่นในกำไลมาศ คือ เมื่อมีการปรับบทที่ชัดขึ้น เราจะได้เห็นจังหวะละครที่ตัวเอกที่มีความต้องการและจุดมุ่งหมายเดียวกันปะทะกัน
ซึ่งจะไม่เห็นในเรื่องที่แล้ว ๆ มา สีเกดก็ไม่เคยไปตีกับหญิงฉาย แพงจะข่มชื่นกลิ่นบ้างแต่ตรงไปปะทะกับคุณหญิงอบเชย
แต่ในจุดด้อยก็คือที่มาของตัวเอก ที่เมื่อคนดูไม่เชื่อหรือรู้สึกคล้อยตามนตัวเอก มันก็เป็นปัญหา
ซึ่งจริง ๆ ทั้ง สีเกด แพง และริ้วทอง มีสถานะเป็นตัวเอกของเรื่องซึ่งแตกต่างกัน
สีเกด มีชีวิตน่าสงสาร ถูกจับมาเป็นเชลย พบรักดันรักคนมีเจ้าของ และท้ายสุดก็ถูกคนที่เคยรักปฏิเสธไป
จนให้เธอสูญสิ้นทุกอย่างจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
แพง อารมณ์เหมือนเป็นเรยา มีชึวิตน่าสงสารแต่มีความทะเยอทะยานให้ได้ไม่สนวิธีการ ใช้ความอยากเป็นตัวพาจนพบจุดจบ
แต่ริ้วทอง เมื่อบททำให้กลายเป็นนางประชัน และเพื่อเกลี่ยบทบาทให้ลงตัวและตัวละครมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
ริ้วทองกลับไม่ได้มีเหตุการณ์ที่รู้สึกเราต้องติดตามเธอเลย เธอไม่ได้น่าสงสารจนแค้นเหมือนสีเกด หรือ ถึงเลวกว่านี้มันก็ชีวิตฉันแบบแพง
อารมณ์ร่วมของคนดูก็จะไม่เกิดเพราะ ริ้วทองก็ไม่ได้ดีจนรู้สึกว่า การที่ริ้วทองออกมาอาละวาดเป็นเรื่องของเธอ(ภาษาหยาบ)
จากผีที่มีความพยาบาทที่มีเรื่องราว กลายเป็น ผีเกรียนเพราะอยากทวงสามีคืน
อารมณ์เหมือนตอนดูรอยไหมดูความสวยงามอลังการได้ แต่สรุปว่าที่สุดท้าย คือผู้หญิงที่เห็นความรักของตัวเองสำคัญจนไม่สนอะไรเลย
และยิ่งการสร้างจุดแตกหักของรัมภาและริ้วทอง คือสร้างเรื่องว่า แม่ริ้วทองปากไม่ดีไปว่ารัมภาก่อน
เลยทำให้รัมภาโกรธแม่จะลงโทษ แต่ริ้วทองอยากช่วยเลยถูกลงโทษเพื่อปกป้องแม่จนเธอถูกลงโทษจนทำให้เธอแค้น !
แล้วคนดูที่ไหนมันจะเป็นแค้นกับเธอ ก็ทำตัวเองทั้งนั้น (เฮ้อ อารมณ์ล้วน 555+)
ในแง่นักแสดงแม้จะรู้สึกจะเสียดาย จุ๋ย เพราะที่จริงเจ้าของเรื่องนี้คือเธอ เพราะบางครั้งบทต้องช่วยเธอบ้าง ไม่ได้ให้ริ้วทองคนดี
แต่เป็นตัวละครที่คนดูต้องติดตาม คนดูก็จะติดตามชีวิตตัวละครนี้ แล้วมองข้ามความไม่ค่อยจะเป็นละครผีในเรื่องนี้บ้าง
(คือไม่เข้าใจทำละครผี ผีโผล่ตอนกลางวันก็ได้ตลอดเวลาแล้วมันจะไปน่ากลัวตรงไหน !!!)
แต่จุ๋ยดูจะมีความสุขที่ได้เล่นเรื่องนี้และได้กลุ่มเพื่อนใหม่กับตัวเอง
แม้เต้ยจะดูโดดเด่นน้อยกว่าตามเรื่อง จริง ๆ ก็ตามนิยาย บทบาทก็ไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว
แต่เป็นหนทางทีทำให้เต้ยออกมาเจอปัจจุบันเพื่อให้มีแนวทางที่หลากหลายมันคงคุ้มมั๊ง
หลายคนคงถามว่ากำไลมาศจะให้อะไร นอกจากคำคมที่ยัดมากับเนื้อเรื่อง 55+
กำไลมาศที่หลายคนรู้ที่มาของเรื่องแล้ว
นอกจากเป็นเครื่องประดับ ยังเป็นตัวแทนแสดงความรักและผู้ที่ได้ก็เป็นเจ้าของสิ่งนั้นด้วย
และเหตุการณ์ในกำไลมาศ ก็ยังเป็นสิ่งที่เราเห็นในปัจจุบัน
บางครั้งเราจะเจอการทะเลาะกันของผู้หญิงเพื่อผู้ชายคนนีง แล้วผู้หญิงก็จะมีทะเลาะกันแล้วมองข้ามผู้ชายไป
บางทีก็ไม่รู้ว่า เขากำลังแสดงความรักหรือกำลังแสดงความเป็นเจ้าของสิ่งของกันแน่
ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ เพราะเขียนทีก็ยาวที ครั้งหน้าคงสั้นกว่านี้ 555+
ครั้งต่อไป ปดิวรัดา ไม่ใช่ละครที่รอคอยแต่เป็นละครรอกระทืบที่กระทืบไม่ลง
กำไลมาศ : สัญลักษณ์ของความเป็นเจ้าของ <ชวนคุยกันในรายละเอียดเรื่องนี้>
แต่มากันในรูปแบบใหม่ เป็นเครื่องประดับคือ กำไล
ในตอนแรกหลายคนก็คงคิดว่าแปลกใหม่ แต่สุดท้ายก็วนมาเรื่องเดิม ๆ หลายคนอาจผิดหวัง
แต่ในความเหมือนเดิมย่อมมีเรื่องแตกต่าง
เพราะการปรับบทเพื่อปูทางไปในหลายประเด็นย่อมมีความหมาย
การสร้างให้ตัวละครออกมาแบบนี้เพื่ออะไร เป็นสิ่งที่น่าติดตาม
คนดูละครเรื่องนี้คงแปลกใจว่า ทำไมเรื่องนี้ตัวละครผู้หญิงเยอะมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน
เพราะละครเรื่องนี้ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ของผู้หญิงตลอดเรื่อง ตัวละครผู้ชายจึงดูมีความสำคัญน้อย
นั่นคือเหตุผลการสร้างตัวละครและการปรับบทที่เกิดขึ้น
เพราะผู้หญิงทุกคนในเรื่องต้องการเป็นเจ้าของสิ่งที่เขาต้องการ
อินทนิล หญิงม่ายที่ต้องการเด็กหนุ่มมาหล่อเลี้ยงหัวใจ เขาครอบครองโดยไม่รู้ว่า เขาครอบครองไม่ได้เลย
แทมมี ผู้หญิงที่ต้องการความโด่งดัง จนบางครั้งต้องเสียความเป็นเจ้าของคู่ขา เพื่อผลประโยชน์ของเขาและเธอ
สวิตา ดาราสาวผู้มีชีวิตสองหน้าเพื่อความสำเร็จ แต่เธอยังต้องการเป็นเจ้าของเพื่อให้ชีวิตเธอสมบูรณ์มากขึ้น
เหม่ยกุย หญิงสาวที่ทำทุกอย่างเพื่อเป็นเจ้าของคนที่เขารัก
ภรณี ผู้หญิงที่ดำเนินชีวิตในกรอบมาตลอดชีวิต แต่เพื่อความเป็นเจ้าของในตัวปรุง จึงทำได้ทุกอย่าง
ล้อมเพชร หญิงสาวทะเยอะทะยาน หลอกใช้คนอื่นเพื่อให้ตนเองได้ครอบครองเป็นเจ้าของในตัวดิเรก
และ รัมภาและริ้วทอง หญิงสาวที่ต่างมีความรักให้กับผู้ชายคนเดียว จนทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เธอได้เป็นเจ้าของของเขา
โดยตัวละครแสดงความเป็นเจ้าของชัดที่สุดคือ ตัวริ้วทอง รัมภาและดิเรก
รักแรกพบ กับรักที่มีเจ้าของ มักเป็นของคู่กันตามนิยายและละคร เรื่องนี้ก็เหมือนเดิม
ริ้วทอง หญิงสาวในคณะหุ่นกระบอก ถูกช่วยชีวิตจากโจรโดย ดิเรก แล้วเขาก็ช่วยเธอและครอบครัว
ให้คณะหุ่นกระบอกเข้าไปแสดงที่วังตินชาติ และได้รับโอกาสให้อยู่แสดงในวังต่อไป
แต่ ดิเรก มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้วคือ รัมภา และเมื่อรัมภากับริ้วทองได้เจอกันจากเหตุบางอย่าง
ทำให้ ริ้วทองและรัมภา เกิดอคติและก่อทิษฐิตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
รักสามเส้า เราสามคน รักแท้ กับ รักมีเจ้าของ เรื่องที่เห็นกันมาในอดีตจนปัจจุบัน
ริ้วทองและเกล้ามาศ ทั้งสองชีวิตยังดำเนินไปด้วยอคติและทิษฐิ
ริ้วทองต้องการเป็นที่รักของดิเรกเพราะรู้ว่าดิเรกรักตัวเอง และป้องกันการยุยงของแม่เพื่อให้คบชายอื่น
เมื่อรัมภาเห็นว่าริ้วทองมีใจต่อดิเรก จากความอคติในครั้งแรก พยายามจับผิดริ้วทอง
เพื่อสนับสนุนความคิดตัวเองว่าริ้วทองเป็นคนไม่ดีไม่ได้รักดิเรก แต่จริง ๆ เป็นเพียงความกลัวที่จะกลัวจะเสียดิเรกไป
รัมภานั้นก็พึงใจต่อดิเรก แต่ตัวเองก็ไม่กล้าจะแสดงความรักต่อเขา เพราะถึงจะเป็นสาวมั่นในยุคนั้นเธอก็สตรองไม่พอจะไปบอกรัก
เลยใช้ความเป็นคู่หมั้นที่ยังแสดงว่าเธอและเขายังรักกัน และคอยกีดกันผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้ดิเรก
ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอทำได้แต่ลึก ๆ เธอคงอยากบอกดิเรกว่า อยากเป็นคนนั้น คนที่เธอรักกันด้วยหัวใจ เพราะเธอก็รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ
เมื่อริ้วทองถูกสกัดกั้นด้วยรัมภา ริ้วทองจึงมีอคติกับรัมภามากขึ้น จนเธอได้พบคนที่เธอคิดว่าเป็นมิตรแต่จริง ๆ เป็นศัตรู คือ ล้อมเพชร
ริ้วทองเชื่อล้อมเพชรเพราะคิดว่าช่วยจริง แต่กลายเป็นเธอดึงล้อมเพชรเข้ามาอยู่ในสถานการณ์อยากเป็นเจ้าของครั้งนี้ด้วย
เมื่อทุกคนต้องการเป็นเจ้าของ ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม ฉันมีสิทธิ์จะรักไม่ผิดใช่ไหม
จนเลยเถิดเป็นโศกนาฏกรรมที่ยังมาถึงปัจจุบัน
ผีริ้วทองยังคงจะทำลายชีวิตเกล้ามาศโดยร่วมมือกับสวิตาเหมือนกับที่เธอร่วมมือกับล้อมเพชร และเธอยังคงเป็นเจ้าของกำไลมาศ
ที่เป็นของแทนใจระหว่างดิเรกกับเธอ เพื่อเป็นการยืนยันในการแก้แค้นว่า ดิเรกเป็นของฉัน
มาพูดถึงรายละเอียดของละคร
คิดว่า มาอีกแล้ว ผีแพนด้า 749 ผีแพง โอม กาก้า นี่จะผีกำไลคอสเพลย์อีก มันจะซ้ำๆๆๆๆ ไปไหน
ซึ่ง ๆ จริงก็มีลายละเอียดที่ต่างกัน และเป็นทั้งจุดดีและจุดด้อยของเรื่องกำไลมาศด้วย
สาปภูษา เป็นความแค้นของหญิงสาวที่ผูกชีวิตกับผ้าผืนที่ตัวเองจะแต่งงาน แต่เมื่อชายรักไปแต่งหญิงอื่น
เธอถูกทิ้งไว้กลางทาง จึงทำให้เธอตามแก้แค้นโดยผ่านตัวแทนเธอคือ ไหมพิม
บ่วง เรื่องของหญิงสาวที่มีชีวิตที่น่าสงสารแต่ก็แฝงความทะเยอทะยานที่ต้องการเติมความอยากที่ไม่ใช่ความรักของตัวเองจนเป็นบ่วง
กำไลมาศ เรื่องราวการแสดงความเป็นเจ้าของจนสู่โศกนาฏกรรม และการล้างแค้น
ซึ่งจุดเด่นในกำไลมาศ คือ เมื่อมีการปรับบทที่ชัดขึ้น เราจะได้เห็นจังหวะละครที่ตัวเอกที่มีความต้องการและจุดมุ่งหมายเดียวกันปะทะกัน
ซึ่งจะไม่เห็นในเรื่องที่แล้ว ๆ มา สีเกดก็ไม่เคยไปตีกับหญิงฉาย แพงจะข่มชื่นกลิ่นบ้างแต่ตรงไปปะทะกับคุณหญิงอบเชย
แต่ในจุดด้อยก็คือที่มาของตัวเอก ที่เมื่อคนดูไม่เชื่อหรือรู้สึกคล้อยตามนตัวเอก มันก็เป็นปัญหา
ซึ่งจริง ๆ ทั้ง สีเกด แพง และริ้วทอง มีสถานะเป็นตัวเอกของเรื่องซึ่งแตกต่างกัน
สีเกด มีชีวิตน่าสงสาร ถูกจับมาเป็นเชลย พบรักดันรักคนมีเจ้าของ และท้ายสุดก็ถูกคนที่เคยรักปฏิเสธไป
จนให้เธอสูญสิ้นทุกอย่างจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
แพง อารมณ์เหมือนเป็นเรยา มีชึวิตน่าสงสารแต่มีความทะเยอทะยานให้ได้ไม่สนวิธีการ ใช้ความอยากเป็นตัวพาจนพบจุดจบ
แต่ริ้วทอง เมื่อบททำให้กลายเป็นนางประชัน และเพื่อเกลี่ยบทบาทให้ลงตัวและตัวละครมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
ริ้วทองกลับไม่ได้มีเหตุการณ์ที่รู้สึกเราต้องติดตามเธอเลย เธอไม่ได้น่าสงสารจนแค้นเหมือนสีเกด หรือ ถึงเลวกว่านี้มันก็ชีวิตฉันแบบแพง
อารมณ์ร่วมของคนดูก็จะไม่เกิดเพราะ ริ้วทองก็ไม่ได้ดีจนรู้สึกว่า การที่ริ้วทองออกมาอาละวาดเป็นเรื่องของเธอ(ภาษาหยาบ)
จากผีที่มีความพยาบาทที่มีเรื่องราว กลายเป็น ผีเกรียนเพราะอยากทวงสามีคืน
อารมณ์เหมือนตอนดูรอยไหมดูความสวยงามอลังการได้ แต่สรุปว่าที่สุดท้าย คือผู้หญิงที่เห็นความรักของตัวเองสำคัญจนไม่สนอะไรเลย
และยิ่งการสร้างจุดแตกหักของรัมภาและริ้วทอง คือสร้างเรื่องว่า แม่ริ้วทองปากไม่ดีไปว่ารัมภาก่อน
เลยทำให้รัมภาโกรธแม่จะลงโทษ แต่ริ้วทองอยากช่วยเลยถูกลงโทษเพื่อปกป้องแม่จนเธอถูกลงโทษจนทำให้เธอแค้น !
แล้วคนดูที่ไหนมันจะเป็นแค้นกับเธอ ก็ทำตัวเองทั้งนั้น (เฮ้อ อารมณ์ล้วน 555+)
ในแง่นักแสดงแม้จะรู้สึกจะเสียดาย จุ๋ย เพราะที่จริงเจ้าของเรื่องนี้คือเธอ เพราะบางครั้งบทต้องช่วยเธอบ้าง ไม่ได้ให้ริ้วทองคนดี
แต่เป็นตัวละครที่คนดูต้องติดตาม คนดูก็จะติดตามชีวิตตัวละครนี้ แล้วมองข้ามความไม่ค่อยจะเป็นละครผีในเรื่องนี้บ้าง
(คือไม่เข้าใจทำละครผี ผีโผล่ตอนกลางวันก็ได้ตลอดเวลาแล้วมันจะไปน่ากลัวตรงไหน !!!)
แต่จุ๋ยดูจะมีความสุขที่ได้เล่นเรื่องนี้และได้กลุ่มเพื่อนใหม่กับตัวเอง
แม้เต้ยจะดูโดดเด่นน้อยกว่าตามเรื่อง จริง ๆ ก็ตามนิยาย บทบาทก็ไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว
แต่เป็นหนทางทีทำให้เต้ยออกมาเจอปัจจุบันเพื่อให้มีแนวทางที่หลากหลายมันคงคุ้มมั๊ง
หลายคนคงถามว่ากำไลมาศจะให้อะไร นอกจากคำคมที่ยัดมากับเนื้อเรื่อง 55+
กำไลมาศที่หลายคนรู้ที่มาของเรื่องแล้ว
นอกจากเป็นเครื่องประดับ ยังเป็นตัวแทนแสดงความรักและผู้ที่ได้ก็เป็นเจ้าของสิ่งนั้นด้วย
และเหตุการณ์ในกำไลมาศ ก็ยังเป็นสิ่งที่เราเห็นในปัจจุบัน
บางครั้งเราจะเจอการทะเลาะกันของผู้หญิงเพื่อผู้ชายคนนีง แล้วผู้หญิงก็จะมีทะเลาะกันแล้วมองข้ามผู้ชายไป
บางทีก็ไม่รู้ว่า เขากำลังแสดงความรักหรือกำลังแสดงความเป็นเจ้าของสิ่งของกันแน่
ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ เพราะเขียนทีก็ยาวที ครั้งหน้าคงสั้นกว่านี้ 555+
ครั้งต่อไป ปดิวรัดา ไม่ใช่ละครที่รอคอยแต่เป็นละครรอกระทืบที่กระทืบไม่ลง