สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาว pantip ทุกท่าน มือใหม่ขอหัด เรื่องท่องเที่ยว ปกติรีวิวแต่เรื่องทำอาหาร แหะๆ
วันนี้ขอเสนอสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ อยู่ไม่ไกลจากกทม.
และเราเชื่อว่าที่นี่เป็น waiting list ของใครหลายคน ขอบอกว่าอย่าพลาด !!!! 📌📌
ขออนุญาตเล่าเลย.......เริ่มต้นที่ว่าเป็นเรามนุษย์ที่ชอบไปเที่ยววันธรรมดา (ไม่ใช่ไรหรอกนะ...ไม่ได้หยุดเสาร์อาทิตย์) และชอบเที่ยวมาก
เงินส่วนมากเอามาลงกับการท่องเที่ยวแทบทุกอาทิตย์ ขึ้นเขาลงห้วยถึงไหนถึงกัน รักธรรมชาติ+slow life ด้วยความที่วันหยุดมีจำกัด
เราจึงเลือกเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพ ขับรถสบายๆ ไม่รีบร้อน และที่นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ ^^ ออกจากบ้านบ่ายโมงนิดๆ ถึงที่หมายรวมแวะปั้มแล้วบ่ายสาม เรา search เส้นทาง ปางอุ๋งสุพรรณ , อ่างเก็บน้ำหุบเขากวางใน Maps ไม่เจอ เลยลอง search ว่าวัดพุน้ำร้อน โอเคเจอค่ะ ไปกันโลดดดดดด !! ขับมาเรื่อยทางบางบัวทอง สุพรรณบุรี เข้ามาในตัวเมือง ผ่านวัดป่าเลไลย์ หนองปรือ ด่านช้าง ตามทางเลยค่ะเรื่อยๆไกลอยู่ ระหว่างทางแถวหนองปรือมีแต่รถบรรทุกอ้อย เต็มไปหมดเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกัน ระวังๆหน่อยนะคะถ้าจะแซง (ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะ ขับอย่างเดียว) เกือบ 2 ชั่วโมง ตาม GPS เราก็มาถึงตรงวัดแล้วค่ะ เอ้า !!! ละไปไงต่อ ??????
เจอป้ายพอดี "ไปหุบเขาวง" เลี้ยวขวาเข้ามาเลย 9 กิโลเมตร ระหว่างทางถนนเป็นดินลูกรัง ขับได้ค่ะ ไม่แย่ขนาดนั้น
มองธรรมชาติ 2 ข้างทางเพลินๆสวยๆๆ ไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง มีภูเขาล้อมรอบ
ขับช้าๆชะลอตอนรถสวน 9 กิโลเมตร ไม่รีบ จอดถ่ายรูปวิวด้วย อิอิ
ในที่สุดเราก็มาถึง รับบัตรตรงทางเข้าก่อนนะคะ มีจนท.ยืนอยู่
พอเข้ามาถึง โอ้โหววววว !!! สวยอ่ะ สวยกว่าในรีวิวอีก ตื่นเต้นๆๆ หนาวด้วย ลมพัดตลอด เย็นมากๆ
ตอนนี้สัญญาณโทรศัพท์ no service แล้วจ้า จุดที่คุยโทรศัพท์ได้คือหน้าห้องน้ำ 555555 ไม่รีรอค่ะ รีบเช็คอินที่นี่ มีจนท.คอยให้บริการอยู่
พอถึงเค้าก็ให้เลือกว่าจะเอาแพไหน เราเลือกแพ 3ค่ะ วิวข้างหน้าคือภูเขา กับแพกลางน้ำหลังใหญ่ จ่ายตังเรียบร้อย 400 บาท
เช่าเตา+ถ่าน 50 บาท เพราะเราเตรียมของมาทำสุกี้กัน มาถึงก็ขนของเข้าแพก่อน
ด้านหน้ามองเห็นแพใหญ่ กลางน้ำ
หน้าแพเรา มีเรือให้พายเล่นด้วยค่ะ
อันนี้คือโป๊ะ ใช้ขนส่งเสบียง คน เพื่อไปยังแพกลางน้ำ หรือเราจะใช้เพื่อไปถ่ายรูป กลางน้ำก็ได้ค่ะ
จะมีเชือกให้ลาก จากฝั่งไปอีกฝั่ง
เริ่มหิวแล้ว....ไปหาไรกินกันเถอะ เราเข้าไปจุดบริการด้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านค้าสหกรณ์ชุมชน มีของฝากขายด้วยค่ะ
หิวๆๆๆ ขอกินขันโตกหน่อยละกัน อาหารถูกและดี อร่อยมากๆ ชีวิตดี๊ดี ชาวบ้านที่นี่น่ารักมากค่ะ ใจดีเป็นกันเองสุดๆ
ค่าเสียหายหมดนี่ 300 มีข้าวให้ 1 โถ อิ่มมาก
กินเสร็จก็ไปเดินเล่นถ่ายรูป ตรงสันอ่างเก็บน้ำ เงียบดีค่ะ selfie เต็มที่ ไม่ต้องอายใคร 55555 เพราะตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเดินมา มันไกล
1 รูปจัดไป

ที่ถ่ายรูปชิคๆมีเยอะค่ะ
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับไปแถวแพ จะไปปั่นเรือเล่น มีเด็กๆน่ารักขอร่วมทางด้วย ทุกคนต้องใส่ชูชีพ น้องๆบอก เพื่อความปลอดภัย ^^
ตามรูปเลยค่ะ เด็กปั่น เด็กๆชอบถ่ายรูป น้องๆน่ารักแย่งกันพูด แย่งกันปั่น
พอค่ำๆก็ไปอาบน้ำ น้ำเย็นมากๆๆๆๆ ใครไม่ไหวก็อาบแห้งกันไป



ห้องน้ำมี 8 ห้อง แบ่งๆกันใช้
ทุ่มครึ่งเราทำสุกี้+เผามัน กินกันบนฝั่ง เพราะเกรงว่าทำในแพ สะเก็ดไฟจะปลิวขึ้นหลังคาอาจจะไฟไหม้ได้ อย่าดีกว่า
มันเผา หวานมาก กินตอนหน้าหนาว ใช่เลย
อ้ออออ!! ลืมบอกเราเอาน้องหมามาด้วย ที่นี่พาหมามาได้ แต่ต้องรักษาความสะอาด ลูกใครอึก็เก็บด้วยนะคะ เดี๋ยวโดนปรับเอา
หลับปุ๋ย



ตกดึกอากาศหนาวมากๆ ขนาดนอนในกระท่อม เค้าบอกว่าคืนนี้ตี 3 จะลดเหลือ 10 องศา โอ้วแม่เจ้า !!! หนาวมากกกกกกก
ดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด เข้ามานอนที่นอนมีหมอนผ้าห่ม มีมุ้งให้ด้วย ใครขี้หนาว เตรียมผ้าห่มมาเผื่อก็ดีนะคะ
ไฟฟ้าที่นี่ไม่มีค่ะ ใช้ตะเกียงแทน จนท.มาจุดให้ตอน 6 โมงเย็น
นอนในมุ้งด้วย ได้บรรยากาศสุดๆ
ยิ่งดึกอุณหภูมิยิ่งลดลงเรื่อย หนาวไม่ไหว นอนสั่น ฟันกระทบกึกๆ เมื่อไหร่จะเช้านะ มองนาฬิกา เวลาก็ผ่านไปช้าเกิน ในที่สุดก็เผลอหลับไป ตื่นอีกที 6.30 ฟ้ายังสลัวๆ หยิบกล้องออกมาถ่ายรูปรัวๆ มีหมอกลงบนผิวน้ำด้วย แต่ไม่เยอะ
นกนางแอ่นหนีหนาว
ถ่ายจากแพหน้าบ้านค่ะ
นี่แหละ....ปางอุ๋ง สุพรรณ
ตรงนี้คือมุม ที่คนมาถ่ายรูปมากสุด เพราะเป็นที่นั่งพักผ่อนและเห็นวิวสวย
ใกล้กันเป็นลานกางเต็นท์
รายละเอียดค่าเสียหาย
ข้อควรรู้ !!!!
1. สัญญาณโทรศัพท์ ไม่ค่อยมี แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ใครรัก social ไม่เหมาะค่ะเน็ตเล่นไม่ได้
2. มีร้านขายของชำ,อาหาร,ชากาแฟ,ผักที่ชาวบ้านเก็บมาขาย เปิดถึงประมาณ 2 ทุ่ม
3. ไม่ต้องล้างรถมาก่อนนะคะ กลับไปล้างทีเดียวเลย 55555555
4. ชาวบ้านที่นี่น่ารักและใจดีมากๆๆๆ ด้วยความที่ที่นี่เพิ่งเปิดใหม่ บางสิ่งบางอย่างอาจจะยังไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่แค่ 400 เราคงไม่ต้องหวังอะไรเยอะค่ะ แค่นี้ก็คุ้มสุดๆแล้ว จริงๆ ฟินบรรยากาศ
5. ถามว่าสวยไหม? เราว่าสวยมากเราชอบ ดูไม่มีอะไรแต่มีอะไร อยู่ที่คนชอบด้วยแหละค่ะ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
6. ควรเข้ามาก่อน 4 โมงเย็นเพราะถนนไม่มีไฟฟ้านะคะ มืดมาก มาเที่ยวเฉยๆก็ได้ค่ะ ไม่พักก็ได้
7. ไฟฟ้าไม่มี มีแต่ไฟตะเกียงจุดตอน 6 โมงเย็น พกไฟฉายมาด้วยก็ดี
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า ต้องมาอีกแน่ๆ เที่ยวแบบเนิบๆ ชอบบบบบบบบบ
ทริปนี้หมดเงินไป หารกัน 3 คน ไม่ถึง พันค่ะ แบงค์พันใบเดียวเอาอยู่
เติมน้ำมัน 500 เหลือเฟือ
ค่าที่พัก แพเล็กริมน้ำหลังละ 400
ค่าอาหาร ชุดขันโตก 200 (2-3คน) สั่งเพิ่มส้มตำ 40 ลาบหมู 60 รวมค่ากิน 300
เราวัดไมล์จากบ้าน(วัชรพล-ปางอุ๋งสุพรรณ 198 กิโลเมตรเอง ใกล้มาก)
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ มือใหม่ค่ะ รีวิวเรื่องท่องเที่ยว
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนนี้


ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.suphan.biz/phunamron01.htm
สนใจดูรูปเพิ่มได้ที่
https://www.facebook.com/toeypike
++++ ไปมาแล้วแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ .....ปางอุ๋ง สุพรรณ +++
วันนี้ขอเสนอสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ อยู่ไม่ไกลจากกทม.
และเราเชื่อว่าที่นี่เป็น waiting list ของใครหลายคน ขอบอกว่าอย่าพลาด !!!! 📌📌
ขออนุญาตเล่าเลย.......เริ่มต้นที่ว่าเป็นเรามนุษย์ที่ชอบไปเที่ยววันธรรมดา (ไม่ใช่ไรหรอกนะ...ไม่ได้หยุดเสาร์อาทิตย์) และชอบเที่ยวมาก
เงินส่วนมากเอามาลงกับการท่องเที่ยวแทบทุกอาทิตย์ ขึ้นเขาลงห้วยถึงไหนถึงกัน รักธรรมชาติ+slow life ด้วยความที่วันหยุดมีจำกัด
เราจึงเลือกเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพ ขับรถสบายๆ ไม่รีบร้อน และที่นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ ^^ ออกจากบ้านบ่ายโมงนิดๆ ถึงที่หมายรวมแวะปั้มแล้วบ่ายสาม เรา search เส้นทาง ปางอุ๋งสุพรรณ , อ่างเก็บน้ำหุบเขากวางใน Maps ไม่เจอ เลยลอง search ว่าวัดพุน้ำร้อน โอเคเจอค่ะ ไปกันโลดดดดดด !! ขับมาเรื่อยทางบางบัวทอง สุพรรณบุรี เข้ามาในตัวเมือง ผ่านวัดป่าเลไลย์ หนองปรือ ด่านช้าง ตามทางเลยค่ะเรื่อยๆไกลอยู่ ระหว่างทางแถวหนองปรือมีแต่รถบรรทุกอ้อย เต็มไปหมดเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกัน ระวังๆหน่อยนะคะถ้าจะแซง (ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะ ขับอย่างเดียว) เกือบ 2 ชั่วโมง ตาม GPS เราก็มาถึงตรงวัดแล้วค่ะ เอ้า !!! ละไปไงต่อ ??????
เจอป้ายพอดี "ไปหุบเขาวง" เลี้ยวขวาเข้ามาเลย 9 กิโลเมตร ระหว่างทางถนนเป็นดินลูกรัง ขับได้ค่ะ ไม่แย่ขนาดนั้น
มองธรรมชาติ 2 ข้างทางเพลินๆสวยๆๆ ไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง มีภูเขาล้อมรอบ
ขับช้าๆชะลอตอนรถสวน 9 กิโลเมตร ไม่รีบ จอดถ่ายรูปวิวด้วย อิอิ
ในที่สุดเราก็มาถึง รับบัตรตรงทางเข้าก่อนนะคะ มีจนท.ยืนอยู่
พอเข้ามาถึง โอ้โหววววว !!! สวยอ่ะ สวยกว่าในรีวิวอีก ตื่นเต้นๆๆ หนาวด้วย ลมพัดตลอด เย็นมากๆ
ตอนนี้สัญญาณโทรศัพท์ no service แล้วจ้า จุดที่คุยโทรศัพท์ได้คือหน้าห้องน้ำ 555555 ไม่รีรอค่ะ รีบเช็คอินที่นี่ มีจนท.คอยให้บริการอยู่
พอถึงเค้าก็ให้เลือกว่าจะเอาแพไหน เราเลือกแพ 3ค่ะ วิวข้างหน้าคือภูเขา กับแพกลางน้ำหลังใหญ่ จ่ายตังเรียบร้อย 400 บาท
เช่าเตา+ถ่าน 50 บาท เพราะเราเตรียมของมาทำสุกี้กัน มาถึงก็ขนของเข้าแพก่อน
ด้านหน้ามองเห็นแพใหญ่ กลางน้ำ
หน้าแพเรา มีเรือให้พายเล่นด้วยค่ะ
อันนี้คือโป๊ะ ใช้ขนส่งเสบียง คน เพื่อไปยังแพกลางน้ำ หรือเราจะใช้เพื่อไปถ่ายรูป กลางน้ำก็ได้ค่ะ
จะมีเชือกให้ลาก จากฝั่งไปอีกฝั่ง
เริ่มหิวแล้ว....ไปหาไรกินกันเถอะ เราเข้าไปจุดบริการด้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านค้าสหกรณ์ชุมชน มีของฝากขายด้วยค่ะ
หิวๆๆๆ ขอกินขันโตกหน่อยละกัน อาหารถูกและดี อร่อยมากๆ ชีวิตดี๊ดี ชาวบ้านที่นี่น่ารักมากค่ะ ใจดีเป็นกันเองสุดๆ
ค่าเสียหายหมดนี่ 300 มีข้าวให้ 1 โถ อิ่มมาก
กินเสร็จก็ไปเดินเล่นถ่ายรูป ตรงสันอ่างเก็บน้ำ เงียบดีค่ะ selfie เต็มที่ ไม่ต้องอายใคร 55555 เพราะตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเดินมา มันไกล
1 รูปจัดไป
ที่ถ่ายรูปชิคๆมีเยอะค่ะ
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับไปแถวแพ จะไปปั่นเรือเล่น มีเด็กๆน่ารักขอร่วมทางด้วย ทุกคนต้องใส่ชูชีพ น้องๆบอก เพื่อความปลอดภัย ^^
ตามรูปเลยค่ะ เด็กปั่น เด็กๆชอบถ่ายรูป น้องๆน่ารักแย่งกันพูด แย่งกันปั่น
พอค่ำๆก็ไปอาบน้ำ น้ำเย็นมากๆๆๆๆ ใครไม่ไหวก็อาบแห้งกันไป
ทุ่มครึ่งเราทำสุกี้+เผามัน กินกันบนฝั่ง เพราะเกรงว่าทำในแพ สะเก็ดไฟจะปลิวขึ้นหลังคาอาจจะไฟไหม้ได้ อย่าดีกว่า
มันเผา หวานมาก กินตอนหน้าหนาว ใช่เลย
อ้ออออ!! ลืมบอกเราเอาน้องหมามาด้วย ที่นี่พาหมามาได้ แต่ต้องรักษาความสะอาด ลูกใครอึก็เก็บด้วยนะคะ เดี๋ยวโดนปรับเอา
หลับปุ๋ย
ตกดึกอากาศหนาวมากๆ ขนาดนอนในกระท่อม เค้าบอกว่าคืนนี้ตี 3 จะลดเหลือ 10 องศา โอ้วแม่เจ้า !!! หนาวมากกกกกกก
ดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด เข้ามานอนที่นอนมีหมอนผ้าห่ม มีมุ้งให้ด้วย ใครขี้หนาว เตรียมผ้าห่มมาเผื่อก็ดีนะคะ
ไฟฟ้าที่นี่ไม่มีค่ะ ใช้ตะเกียงแทน จนท.มาจุดให้ตอน 6 โมงเย็น
นอนในมุ้งด้วย ได้บรรยากาศสุดๆ
ยิ่งดึกอุณหภูมิยิ่งลดลงเรื่อย หนาวไม่ไหว นอนสั่น ฟันกระทบกึกๆ เมื่อไหร่จะเช้านะ มองนาฬิกา เวลาก็ผ่านไปช้าเกิน ในที่สุดก็เผลอหลับไป ตื่นอีกที 6.30 ฟ้ายังสลัวๆ หยิบกล้องออกมาถ่ายรูปรัวๆ มีหมอกลงบนผิวน้ำด้วย แต่ไม่เยอะ
นกนางแอ่นหนีหนาว
ถ่ายจากแพหน้าบ้านค่ะ
นี่แหละ....ปางอุ๋ง สุพรรณ
ตรงนี้คือมุม ที่คนมาถ่ายรูปมากสุด เพราะเป็นที่นั่งพักผ่อนและเห็นวิวสวย
ใกล้กันเป็นลานกางเต็นท์
รายละเอียดค่าเสียหาย
ข้อควรรู้ !!!!
1. สัญญาณโทรศัพท์ ไม่ค่อยมี แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ใครรัก social ไม่เหมาะค่ะเน็ตเล่นไม่ได้
2. มีร้านขายของชำ,อาหาร,ชากาแฟ,ผักที่ชาวบ้านเก็บมาขาย เปิดถึงประมาณ 2 ทุ่ม
3. ไม่ต้องล้างรถมาก่อนนะคะ กลับไปล้างทีเดียวเลย 55555555
4. ชาวบ้านที่นี่น่ารักและใจดีมากๆๆๆ ด้วยความที่ที่นี่เพิ่งเปิดใหม่ บางสิ่งบางอย่างอาจจะยังไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่แค่ 400 เราคงไม่ต้องหวังอะไรเยอะค่ะ แค่นี้ก็คุ้มสุดๆแล้ว จริงๆ ฟินบรรยากาศ
5. ถามว่าสวยไหม? เราว่าสวยมากเราชอบ ดูไม่มีอะไรแต่มีอะไร อยู่ที่คนชอบด้วยแหละค่ะ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
6. ควรเข้ามาก่อน 4 โมงเย็นเพราะถนนไม่มีไฟฟ้านะคะ มืดมาก มาเที่ยวเฉยๆก็ได้ค่ะ ไม่พักก็ได้
7. ไฟฟ้าไม่มี มีแต่ไฟตะเกียงจุดตอน 6 โมงเย็น พกไฟฉายมาด้วยก็ดี
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า ต้องมาอีกแน่ๆ เที่ยวแบบเนิบๆ ชอบบบบบบบบบ
ทริปนี้หมดเงินไป หารกัน 3 คน ไม่ถึง พันค่ะ แบงค์พันใบเดียวเอาอยู่
เติมน้ำมัน 500 เหลือเฟือ
ค่าที่พัก แพเล็กริมน้ำหลังละ 400
ค่าอาหาร ชุดขันโตก 200 (2-3คน) สั่งเพิ่มส้มตำ 40 ลาบหมู 60 รวมค่ากิน 300
เราวัดไมล์จากบ้าน(วัชรพล-ปางอุ๋งสุพรรณ 198 กิโลเมตรเอง ใกล้มาก)
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ มือใหม่ค่ะ รีวิวเรื่องท่องเที่ยว
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.suphan.biz/phunamron01.htm
สนใจดูรูปเพิ่มได้ที่ https://www.facebook.com/toeypike