[CR] *เตือนภัย* อุบัติเหตุจากขาตั้ง และ Type Cover ของ Surface Pro 4 + ประสบการณ์การเคลมกับ Microsoft Thailand

สวัสดีครับ Surface Pro 4 ของผมประสบอุบัติเหตุตกจากโต๊ะขณะนั่งทำงานอยู่มา ซึ่งสุดท้ายจะเอาไปเคลม แต่ปรากฎว่าเคลมไม่ได้ ต้องเสียค่าจ่ายเพิ่มหลักหมื่น ก็เลยจะมาแชร์ให้เพื่อนๆฟัง ว่าอย่าประมาทแบบผมนะครับ

เหตุการณ์คือผมเอาเจ้า Surface ไปนั่งทำงานในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งปกติจะพอมีโต๊ะให้นั่งทำงานสบายๆได้ แต่คงเป็นเพราะชะตาลิขิต วันนั้นคนเยอะ ทำให้เหลือที่นั่งที่เป็นลักษณะเคาเตอร์สูงๆ ติดกระจกที่เดียว ผมจึงจำเป็นต้องไปนั่งที่เคาเตอร์นี้ ซึ่งมีลักษณะสูงประมาณ 1 เมตร และมันจะไม่ค่อยลึก มีความลึกของโต๊ะประมาณ 40 เซนติเมตรเท่านั้นเอง และที่สำคัญคือมีช่องว่างระหว่างโต๊ะ กับกระจกประมาณนึง ซึ่งปกติแล้ว ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนมาใช้เจ้า Surface เนี่ย ผมก็เคยนำโน๊ตบุ๊คมาใช้บนเคาเตอร์ลักษณะนี้บ่อยๆ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ประกอบกับที่เคาเตอร์นั้นก็มีลูกค้าท่านอื่นใช้งานโน๊ตบุ๊คอยู่เหมือนกันอีก 2 คน (เป็นแล๊ปท๊อปตัวเล็กจิ๋ว 1 ตัว กับ MacBook ขนาดใหญ่หน่อย น่าจะ Pro หรือ Air 1 ตัว ผมก็เลยไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างในวันนั้นเลยครับ

เพื่อนๆที่เป็นเจ้าของ Surface และมี Type Cover ด้วย นี่ก็น่าจะรู้เข้าใจดีอยู่แล้วว่าเมื่อต่อ Type Cover ไป เจ้า Surface มันจะต้องการพื้นที่สำหรับตัวมันเองเยอะกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากๆ ยกตัวอย่างเช่น เวลาใช้วางบนตัก จะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป คีย์บอร์ดของเจ้า Surface จะอยู่ติดกับตัวเรามากๆ แล้วขาตั้งของ Surface จะวางอยู่บนหัวเข่าพอดี เป็นต้น

อย่างที่อธิบายไปครับ เมื่อ Surface ที่ต้องการพื้นที่เยอะ มาเจอกับโต๊ะที่ความลึกไม่มาก อุบัติเหตุก็เลยเกิด

ผมนั่งพิมพ์งานโดยใช้ Type Cover ไปประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ก็เริ่มเมื่อยบ้างอะไรบ้าง ก็เลยต้องเปลี่ยนท่านั่งบ้าง ด้วยความที่โต๊ะสูง เก้าอี้สูง จะขยับเก้าอี้ก็ลำบาก Cover ตามปกติถ้าใช้โน๊ตบุ๊คทั่วไป  ผมก็จะใช้วิธีเลื่อนตัวเครื่องเอา ซึ่งพอมาเป็น Surface แล้ว... ตัวเครื่องมันคือ Type Cover บางๆเท่านั้นเอง...

ก็จำไม่ได้เหมือนกันนะครับว่าผมขยับตัวไปกี่ครั้ง แต่ครั้งที่จำได้แม่นที่สุดก็คือครั้งที่เกิดอุบัติเหตุนี่แหละ ขณะที่ทำงานอยู่ มืออยู่ที่คีย์บอร์ด พิมพ์ๆไป อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเหมือนจอเบลอๆ ไม่โฟกัส แต่ความรู้สึกถัดมาคือ เฮ้ย! มันไม่ได้เบลอ แต่มันเครื่องมันพลิกหล่นจากโต๊ะไป! โดยที่มือเรายังอยู่กับคีย์บอร์ดอยู่เลย..

จังหวะนั้นคืออุทานเสียงดังมากครับ แต่ไม่รู้เลยครับว่าคนในร้าน หรือแม้แต่พี่โน๊ตบุ๊คจิ๋วข้างๆ มีรีแอ็คชั่นกับเสียงอุทานผมยังไงบ้าง เพราะมัวแต่สนใจกับเจ้า Surface อย่างเดียว เพราะในความรู้สึกผมคือมันตกแรงมาก จอแตกเละแน่ๆ เลยรีบเก็บเครื่องขึ้นมาพลิกดู ปรากฎว่าจอไม่แตก! ก็เลยสึกใจชื้นขึ้นมานิดนึง แต่ก็ยังกังวลอยู่เพราะเครื่องดับไปเลย ไม่รู้ว่าจะเปิดขึ้นมาใหม่ได้มั้ย ในจังหวะนั้นก็เลยรีบพลิกดูความเสียหายอื่นๆ เจอรอยบุบที่มุมล่างด้านซ้าย ไม่ร้ายแรง จากนั้นก็พลิกๆไปทีละมุมไม่เจออะไร จนกระทั่งมุมสุดท้าย มุมขวาล่างด้านขวา ตรงบริเวณที่เสียบสายชาร์จ..



เครื่องเบี้ยวครับ! เบี้ยวจนมีรูเปิดเห็นไปถึงด้านใน แถมทำให้หน้าจอตรงมุมเผยอขึ้นมาเล็กน้อยด้วย ขาพับก็ไม่สามารถเก็บให้ราบเรียบแบบเดิมได้ จังหวะนี้เริ่มกังวลหนักเลยว่าเครื่องจะเปิดไม่ติดแล้ว ถึงเปิดติดก็ต้องมีปัญหาอะไรบ้างแน่ๆ อย่างน้อยก็อาจจะชาร์จไม่ได้ เพราะรูชาร์จก็เบี้ยวหนักตามตัวเครื่องไปเหมือนกัน

จากนั้นผมก็ลองเปิดเครื่องดูครับ ปรากฎว่า.. จอฟ้า! ใจแป้วไปเลย แต่โชคดีไม่ได้ฟ้าแบบ Windows ปกติ เป็นฟ้าของระบบตรวจสอบ ว่าเครื่องมีอาการผิดปกติอะไรหรือไม่ แต่แถบ progress ก็ไม่ยอมขยับเลยอยู่นาน พอขยับทีก็เสร็จภายในไม่กี่วิ ทำเอาเครียดไปอีกหนึ่งจังหวะ Windows เปิดใช้งานได้ตามปกติ แต่จอตรงมุมที่เผยอขึ้นมา มีอาการสีเพี้ยนติดเหลือง หลังจากนั้นก็ขึ้นเป็นแถบดำๆ (แต่หลังจากใช้ไปสักพักจะมีจังหวะที่มุมดำตรงนี้ กลับมาแสดงผลได้) จากนั้นผมก็เช็คระบบทุกอย่าง ตั้งแต่กล้อง ทัชสกรีน ไปจนถึงปากกา ปรากฎว่าใช้งานได้ปกติทั้งหมด แถมยังชาร์จไฟเข้าอีกต่างหาก ถือว่ารอดตัวไปเปราะหนึ่ง



เวลาขึ้นเป็นแถบดำจะมีลักษณะแบบนี้ครับ



หลังจากมานั่งวิเคราะห์การตก พบว่าสาเหตุคือ หลังจากผมขยับเครื่อง ทำให้เจ้า ขาตั้งของ Surface มันหลุดขอบโต๊ะไป ทำให้ตัวเครื่อง ซึ่งคือส่วนหน้าจอทั้งหมดพลิกหล่นจากโต๊ะ ซึ่ง Type Cover ที่ผมจับอยู่ก็ไม่สามารถป้องกันการตกจากโต๊ะในลักษณะนี้ได้เลย เพราะแม่เหล็กที่ใช้ดูดระหว่างสองสิ่งนี้ไม่มีแรงมากเพียงพอที่จะดึงตัวเครื่องที่พลิกหล่นจากโต๊ะไว้ได้ (แม่เหล็กมีแรงมากประมาณนึงครับ มีแรงมากพอที่เราจะจับ Type Cover แล้วดึง Surface ขึ้นจากพื้นได้) อยากให้เพื่อนๆที่ใช้ Surface ระวังตรงจุดนี้ไว้ด้วยนะครับ

ถ้านึกภาพไม่ออก มันเป็นลักษณะตามภาพนี้ครับ



หลังจากใช้งานสักพัก Surface ผมใช้งานเกือบ 100%  ผมก็ยังกังวลว่า เจ้ารูที่เปิดอ้าข้างเครื่องนี่จะมีผลกับการใช้งานระยะยาว ก็เลยอยากจะลองส่งเครื่องไปซ่อมดูครับ คือคาดไว้แต่แรกแล้วว่าเคลมไม่ได้ เมื่อโทรไปที่ Microsoft สอบถามอาการเบื้องต้นแล้ว ก็พบว่าเคลมไม่ได้จริงๆครับ โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าเป็นเหตุจากบุคคล ทำให้ไม่อยู่ในเงื่อนไขการประกัน (ก็จริงของเค้าครับ แต่ส่วนตัวอยากจะโทษการออกแบบของทั้ง Surface และ โต๊ะร้านกาแฟมากกว่า *ร้องไห้*) ซึ่งพอถามถึงการส่งซ่อม ปรากฎว่า Microsoft ไม่มีศูนย์ซ่อมแบบ stand alone ครับ คือไม่มีหน้าร้านรับส่งซ่อมเหมือน Samsung หรือ Apple ต้องไปลงทะเบียนส่งซ่อมในเว็บ แล้วจะมี Messenger มารับเครื่องกับเราไปส่งให้ที่ศูนย์อีกทีนึง

ระบบการส่งซ่อมทางเว็บ http://myservice.surface.com/ ก็ทำได้ดีประมาณนึงนะครับ ติดอย่างเดียวคือเรื่องภาษา ต้องใช้ภาษาไทยอย่างเดียว ซึ่งเพื่อนๆหลายคนก็คงจะทราบดีกันว่า ภาษาไทยใน Windows นั้นอ่านไม่รู้เรื่องครับ มันไม่ใช่ภาษาที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันเลย หลายคำก็แปลผิด ยกตัวอย่าง ในเว็บจะมีคำว่า cover ซึ่งแปลว่าฝาปิด ถูกต้อง แต่พอเป็นพหูพจน์ covers กลับแปลว่า ครอบคลุม ??? เป็นต้น

ซึ่งพอผมไม่ได้ใช้ภาษาไทย ไปใช้ภาษาอังกฤษแทน ทำให้ผมโผล่เข้าไปในเว็บ Microsoft United States ครับ ทำให้การลงทะเบียนส่งซ่อมทีแรกไม่สำเร็จ ต้องเปลี่ยนมาเป็นประเทศไทยเสียก่อน การลงทะเบียนไม่ยากครับ แค่ต้องมี Microsoft Account ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะผูกติดกับ e-mail ของ hotmail หรือ Live.com อยู่แล้ว ที่สำคัญคือต้อง register ตัวเครื่องของเราก่อน เราจึงจะสามารถกดเลือกส่งซ่อม Surface หรือ Type cover ของเราได้ หลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนการกรอกข้อมูลต่างๆ เช่น ที่อยู่ อาการเสีย (จอแตก เปิดไม่ติด ฯลฯ) ซึ่งตรงนี้ผมใส่ในช่องอื่นๆ ว่า ตัวเครื่องเบี้ยว (จะมีผลกับเรื่องต่อไป) แล้วระบบก็จะสรุปค่าใช้จ่าย ซึ่งในกรณีของผมขึ้นว่า อยู่ในระยะประกัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นก็เข้าสู่การ print ใบสั่งมาเก็บไว้กับเราเป็นหลักฐาน 1 ชุด (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้) สุดท้ายพอลงทะเบียนในเว็บเสร็จ ก็มี e-mail เข้ามาบอกว่า Microsoft รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว ให้รอการติดต่อกลับ

ผมรอไป 5 วัน ลงทะเบียนวันอาทิตย์ วันศุกร์บ่ายแก่ๆ แล้วยังไม่มีใครโทรกลับมา ผมเลยโทรไปตามเรื่องที่ศูนย์
(เบอร์ 02-263-6888 สำหรับผู้ที่ไม่ทราบครับ เบอร์นี้ค่อนข้างหายาก เพราะไม่มีการแจ้งไว้ในเว็บ Microsoft) ทางศูนย์อ้างว่า Microsoft เพิ่งทำการเปลี่ยนบริษัทที่เข้ามาจัดการเรื่องการรับ-ส่งเครื่องซ่อม อาจจะทำให้ order ของผมตกหล่น จะตามเรื่องให้ แต่ถ้ารีบ ให้ผมโทรไปจิกเองได้ด้วย พร้อมกับให้เบอร์บริษัทใหม่มาด้วย ??? (ตรงนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าเปลี่ยนจาก Quantium Solution เป็นอีกบริษัทนึง ซึ่งผมเอาเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาไปลอง search ดู ปรากฎว่าเป็นบริษัทห้องแถวเล็กๆ งงๆ ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจ แต่สุดท้าย messenger ที่มารับก็มาจาก QS อยู่ดี ???)

หลังจากนั้น 2-3 วันก็มี messenger โทรมาบอกว่าจะมารับตัวเครื่องไปครับ ซึ่งก่อนจะส่งเครื่องไปกับ messenger เราต้อง backup เครื่อง ก่อนนำตัวเครื่องใส่กล่อง ซึ่งจะเป็นกล่องอะไรก็ได้ ซีลให้เรียบร้อยก่อนจะส่งให้ messnger ไป ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็มีการเซ็นเอกสาร ซึ่งก็มีรายละเอียดต่างๆ ครบถ้วน มั่นใจได้ครับว่า ไม่ได้ส่งของให้โจรแน่นอน

ในระหว่างที่รอเครื่องซ่อม เราก็สามารถเช็คได้ตลอดครับว่าเครื่องเราเป็นยังไงบ้าง โดยใช้หมายเลขรับบริการ โดยจะได้มาใน e-mail ที่พูดถึงข้างต้น เท่าที่ผมลองเช็คดู ระบบจะอัพเดทช้าหน่อยครับ ไม่ไวแบบ DHL หรือ FedEx ที่จะอัพเดททันทีทุกขั้นตอน เช่น หลังจากส่งให้ messenger ก็ต้องรอเย็นๆ กว่าระบบจะขึ้นว่ารับของจากเราไปแล้วครับ

หลังจากรอ 3-4 วัน มี messenger โทรมาครับ ว่าจะส่งเครื่องกลับมาให้ ผมก็เริ่มเอะใจแล้วว่าทำไมซ่อมเร็วจัง นี่เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้เลยเหรอ ปรากฎว่าเครื่องส่งกลับมาในสภาพเดิมครับ ผมเลยสอบถามไปทาง call center ได้ความว่าทางศูนย์ไม่รับเคลม บอกว่าเป็นเหตุจากบุคคล ก็เลยตีกลับของกลับมาซะอย่างนั้น โดยไม่มีการติดต่อกลับมาเลยสักครั้งเดียว ซึ่งปกติแล้วเวลาผมส่งของไปซ่อมกับบริษัทอื่นๆ ทางศูนย์ฯนั้นๆก็จะรับเครื่องไปแล้วเช็คอาการ ก่อนจะโทรกลับเรามาบอกอาการเสีย พร้อมกับค่าใช้จ่ายหากเราตัดสินใจซ่อม แต่ทาง Microsoft กลับตีของกลับมาเฉยๆซะงั้น เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงเพิ่มว่า ถ้าผมต้องการจะซ่อมจริงๆ ให้ไปลงทะเบียนส่งซ่อมใหม่ในเว็บอีกครั้ง พร้อมระบุค่าใช้จ่ายมา 14,000 บาท

ผมมานั่งทบทวนดูแล้ว Surface ของผมก็ยังใช้งานได้ตามปกติ ยกเว้นมุมมืดเล็กๆที่ขวาล่างจอ, รูเปิดด้านขวาของเครื่องที่น่าจะหาเทปอะไรมาปิดได้ง่ายๆ แล้วก็เครื่องที่เบี้ยวผิดรูปเล็กน้อย ผมคงไม่ส่งเครื่องซ่อมอีกรอบ ในราคา 14,000 บาท แถมยังต้องเสียเวลาในการรอซ่อมอีกอย่างน้อยประมาณ 1-2 อาทิตย์ หรือมากกว่าแล้วครับ

สุดท้าย ผมพอใจกับการใช้งาน Surface Pro 4 มากๆ ทั้งเล็ก ทั้งเบา สะดวกในการพกติดตัวไปทำงานในที่ต่างๆ มากๆ ปากกาก็ใช้จดได้ดี ใช้งานกราฟฟิก รีทัชอะไรก็พอได้ แต่ผมว่ารีทัชบนคอมพิวเตอร์จอใหญ่ๆสะดวกกว่า มานั่งถูบน Surface มากนะครับ เสียใจมากที่ทำเครื่องตก จนทำให้มันพิการ ไม่สมบูรณ์ 100% หวังว่าเพื่อนๆ ที่ใช้ Surface หรือคิดจะซื้อมาใช้ จะระมัดระวังตอนใช้ Surface ของเราในพื้นที่แคบๆ และให้พึงระลึกไว้เสมอด้วยว่า Type Cover มีไว้แค่ใช้พิมพ์ ไม่ได้มีไว้ช่วยยึด ช่วยถือ หากเกิดอุบัติเหตุเครื่องตก ให้จับที่เครื่องเท่านั้น นะครับ

ขอบคุณครับ
ชื่อสินค้า:   Microsoft Thailand
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่