"บาปบุญ เกิดที่ใจ"
" .. "กรรมมันไมได้อยู่ถึงฟ้าอากาศ" กรรมทั้งหลายที่เราว่า
เป็นกรรมอย่างโน้นเป็นกรรมอย่างนี้ บาปอย่างโน้นบาปอย่างนี้
บาปอะไรมีที่โน่นที่นี่ในป่าดง "ภูเขาเหล่าก่อไม่ได้เป็นบาปเป็นกรรม
มันเป็นจากดวงใจของเรา"
ท่านจึงว่า
"กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเป็นของเรา"
กายกรรมทำทางกาย วจีกรรมทำทางวาจา มโนกรรมทำทางใจ
ข้อนี้แหละให้พากันพินิจพิจารณาให้เห็นชัด อย่าเข้าใจอย่างอื่น
อย่าให้เป็นสี
ลพัตตปรามาส ลูบคลำโน่น ๆ นี่ ๆ ว่า กรรมอยู่โน้นบาปอยู่โน้น
นั้นแหละเข้าใจผิดไป "เราต้องโอปนยิกธรรม ต้องน้อมเข้ามาถึงดวงใจของเรา"
กรรมมันไม่ได้เกิดที่อื่น เวลานี้กายเราไม่ได้ทำอะไร วาจาเราก็ไม่ได้ทำ เหลือแต่มโนกรรม
ความน้อมนึก
"มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา บุญและบาปไม่ว่าใด ๆ ใจถึงก่อน"
ให้พากันพินิจพิจารณาให้เห็นแจ่มแจ้งลงไป แน่นอนลงไป
"บุญและบาปใจมันถึงก่อน"
"มโน คือความน้อมนึก ธรรมะ คือความคิด ปุพพะ ในเบื้องต้น
นี่แหละต้นบุญต้นกุศลทั้งหลาย คือใจเรานี้เอง" บุญและบาปเกิดจากนี้
ไม่ได้เกิดจากอื่นไกล พิจารณาให้แน่นอนลงไปเดี๋ยวนี้ .. "
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
บาปบุญเกิดที่ใจ (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)
"บาปบุญ เกิดที่ใจ"
" .. "กรรมมันไมได้อยู่ถึงฟ้าอากาศ" กรรมทั้งหลายที่เราว่า
เป็นกรรมอย่างโน้นเป็นกรรมอย่างนี้ บาปอย่างโน้นบาปอย่างนี้
บาปอะไรมีที่โน่นที่นี่ในป่าดง "ภูเขาเหล่าก่อไม่ได้เป็นบาปเป็นกรรม
มันเป็นจากดวงใจของเรา"
ท่านจึงว่า "กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเป็นของเรา"
กายกรรมทำทางกาย วจีกรรมทำทางวาจา มโนกรรมทำทางใจ
ข้อนี้แหละให้พากันพินิจพิจารณาให้เห็นชัด อย่าเข้าใจอย่างอื่น
อย่าให้เป็นสีลพัตตปรามาส ลูบคลำโน่น ๆ นี่ ๆ ว่า กรรมอยู่โน้นบาปอยู่โน้น
นั้นแหละเข้าใจผิดไป "เราต้องโอปนยิกธรรม ต้องน้อมเข้ามาถึงดวงใจของเรา"
กรรมมันไม่ได้เกิดที่อื่น เวลานี้กายเราไม่ได้ทำอะไร วาจาเราก็ไม่ได้ทำ เหลือแต่มโนกรรม
ความน้อมนึก "มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา บุญและบาปไม่ว่าใด ๆ ใจถึงก่อน"
ให้พากันพินิจพิจารณาให้เห็นแจ่มแจ้งลงไป แน่นอนลงไป "บุญและบาปใจมันถึงก่อน"
"มโน คือความน้อมนึก ธรรมะ คือความคิด ปุพพะ ในเบื้องต้น
นี่แหละต้นบุญต้นกุศลทั้งหลาย คือใจเรานี้เอง" บุญและบาปเกิดจากนี้
ไม่ได้เกิดจากอื่นไกล พิจารณาให้แน่นอนลงไปเดี๋ยวนี้ .. "
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร