ระดับล๊อกอินรุ่นเดอะ ออกมายืนยัน ถึงความเป็นเสื้อแดง

มาอยู่เป็นเพื่อนเกี๊ยกแล้วกัน

ผมว่ามันดูแปลกๆ และนับวันก็แปลกมากขึ้น

บางทีการออกมาแสดงความเห็นแบบตรงไปตรงมา ในสภาวะแบบนี้ ต้องอาศัยความกล้ามาก และต้องยิ่งมากขึ้น เมื่อกองหน้าตัวหลักสองคนออกมาพูด แล้วเจอประชาธิปไตยแบบเสียงข้างมาก ไม่สนใจเนื้อหา รุมกระหน่ำเข้าไป

ทั่งที่จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เท่าที่อ่านมา มันแค่คนสองกลุ่ม เคยทำอะไรแบบไหน ก็ทำแบบนั้นแค่นั้น ไม่มีใครเปลี่ยนไป สิ่งที่เปลี่ยนมีแค่คู่กรณีเท่านั้น

สมัยที่น้องพรฯ เป็นกองหน้าตัวหลักตัวนึง โต้เถียงกับฝ่ายตรงข้ามคนเสื้อแดง แนวทางการตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ มันก็แบบนี้อยู่แล้ว

แต่สมัยนั้น ป้าหลายคน(ป้าจริงๆ นะครับ ) ก็เป็นกองหนุน ตามเชียร์ รุมกระทืบฝ่ายตรงข้าม

พอมาตอนนี้ เมื่อน้องพรฯ ไม่ได้เปลี่ยนอะไร เพียงแต่เปลี่ยนคู่กรณี เป็นคนกลุ่มนึง ที่เข้ามาสร้างเรื่อง สร้างความวุ่นวายในห้องราชดำเนิน เดี๋ยวก็เป็นคนนั้น เดี๋ยวสวมรอยเป็นคนนี้ แต่กองเชียร์เมื่อตอนโน้น กลับมองภาพว่า น้องพรเปลี่ยนไป

ทั้งที่คำพูดที่รุมว่าน้องพรในวันนี้ ผมว่าคุ้นๆ เหมือนมีคนเคยว่าน้องพรเมื่อหลายปีก่อนแล้ว

แต่ตอนนั้นรู้สึกจะมีคนช่วยปกป้อง แต่คนกลุ่มนั้นวันนี้ทำไมถึงเปลี่ยนไป

และบางคนถึงขั้นเปลี่ยนจากเคยปกป้อง กลายมาเป็นทัพหน้าถล่มคนที่ออกมาประสานความเข้าใจ

และบางคนยอมทิ้งเพื่อนเก่า เกาะเพื่อนใหม่ ยอมทิ้งสิ่งที่เคยยึดมั่นมา

อาจจะเพราะไม่กล้ารับแรงกระแทกกลับ เลยต้องยอมอยู่แบบตามน้ำไป


ก็หวังว่า พอถึงวันหนึ่ง คนกลุ่มนั้นสนุกพอแล้ว ทิ้งราชดำเนินไป กลุ่มเจ้าบ้านหลักทั้งหลาย จะยังมีพลังใจเหลือ ช่วยกันกู้ซากปรักหักพังที่เหลืออยู่ ยังพอฟื้นมิตรภาพที่ขาดหายไปช่วงหนึ่งคืนมาได้



เป็นว่าแอบแสดงความเห็นในกระทู้เกี๊ยกแล้วกัน เพราะต้องยอมรับตรงๆว่า ไม่ได้ตั้งกระทู้นาน ความกล้าที่จะรับแรงกระแทกลดน้อยลง และยิ่งอ่านกระทู้สิงห์สนามหลวงแล้ว เห็นหลายคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ ก็เลยยิ่งไม่กล้า



新正如意  新年發財