10 แข้งดาวรุ่งถึงเวลาแจ้งเกิด (แบบเต็มตัว)

1. เจนรบ สำเภาดี (บีอีซี เทโร)
"ผลงานของ เจนรบ สำเภาดี เป็นที่กล่าวขานในศึกชิงแชมป์เอเชีย ยู23 ที่ผ่านมา… บวกกับชื่อเสียงที่เขาเคยสร้างไว้ตลอด 2 - 3 ปีที่ผ่านมา บางทีมันถึงเวลาที่เขาจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในการพา “มังกรไฟ” มีผลงานที่สุดแสนจะไฉไล ในไทยพรีเมียร์ลีก 2016 ได้แล้ว "

2. ชิตชนก ไชยเสนสุรินทร (สุพรรณบุรี เอฟซี)
"อดีตแข้งค่าตัว 500,000 ยูโร มากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังสวิตเซอร์แลนด์สำหรับเด็กอายุ 16 ปี สมัยย้ายไปซามพ์โดเรีย ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเมืองไทยตั้งแต่ 3 ปีก่อน พร้อมๆกับ ชาริล ชัปปุยส์ ในสีเสื้อของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2013 เขาคือดาวรุ่งที่น่าจับตามองแบบสุดๆ ด้วยดีกรีสุดร้อนแรง..."

3. สมพร ยศ (บีอีซี เทโร)
“ฟุตบอลมันมีเส้นทางของมันอยู่ ปีก่อนมันยังไม่ถึงเวลาของผม แต่ผมและพี่เอ้ ต่างก็ทำงานหนัก เพื่อแข่งขันกัน และเมื่อยิ่งผมได้ดูวิดีโอผลงานของตัวเองในทัวร์นาเม้นต์ที่กาตาร์ มันก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจ”

4. วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)
"ดาวรุ่งวัย 18 ปี เคยสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในไทยพรีเมียร์ลีกที่ทำประตูได้ในวัย 17 ปี กับ 340 วัน ในเกมที่ ชลบุรี เปิดบ้านชนะ ราชบุรี 2 - 0 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2558"

5. สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ (แบ็งคอก ยูไนเต็ด)
"...ปีนี้ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ตัดสินใจแน่วแน่บอกลาถิ่น "ปราสาทสายฟ้า" หลังไม่ได้รับโอกาสให้แสดงฝีเท้าในทีมชุดใหญ่ โดยหอบผ้ามาอยู่บ "แข้งเทพ" แบ็งคอก ยูไนเต็ด และเมื่อดูจากผลงานในเกมอุ่นเครื่องพรีซีซั่นหลายๆ นัดที่ผ่านมาก็ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับความไว้วางใจจาก "มาโน" อเล็กซานเดอร์ โพลกิ้ง ให้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นปีนี้น่าจะเป็นปีที่เขาได้รับโอกาสแสดงฝีเท้าในเวทีลูกหนังสูงสุดเมืองไทยเสียที"

6. สุวรรณภัทร กิ่งแก้ว (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
“ผมอยู่กับสโมสรนี้มาหลายปี แต่ก็ยังไม่เคยได้ลงเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลย ผมอาจยังไม่มีประสบการณ์มากพอ และปีที่แล้วผมก็โชคร้ายมาได้รับบาดเจ็บหนักช่วงกลางฤดูกาล แต่ปีนี้ผมมั่นใจด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด ผมก็พร้อมที่จะเป็นตัวหลักในเกมรับของทีม”

7. เชาว์วัฒน์ วีระชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
"หากพูดถึงดาวรุ่งพุ่งแรงในค่าย “ปราสาทสายฟ้า” แน่นอนว่ามีนักเตะหลายคนที่ฝีเท้าและพรสวรรค์ยอดเยี่ยม แต่ขณะเดียวก็มี “ยังเติร์ก” หนึ่งคนที่โดดเด่นกว่าใคร และเขาคนนั้นก็คือ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ จอมทัพวัย 19 กะรัตดีกรีแชมป์ซีเกมส์คนนี้..."

8. สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
“ผมรู้ว่าปีนี้มันจะเป็นปีที่ยากขึ้น ทั้งพี่ได (ปิยพล ผานิชกุล) และพี่แบ็ค (อาทิตย์ ดาวสว่าง) หายเจ็บกลับมาและพร้อมลงสนามแล้ว โอกาสของผมก็อาจจะน้อยลง ซึ่งผมก็ต้องอดทนและขยันฝึกซ้อมต่อไป และถ้าหาก โค้ชแบน (ธชตวัน ศรีปาน) มอบโอกาสให้ ผมก็มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ที่มีในปีที่แล้ว ผมจะพร้อมลงสนามแทนพี่ๆ คนอื่นอย่างแน่นอน”

9. ธนาสิทธิ์ ศิริผลา (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
"..ไม่มีใครสงสัยเรื่องพรสวรรค์ของ “เต๋าดินโญ” เขามีฝีเท้าและเทคนิคที่ดีพอจะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ดังบนเวทีลูกหนังสูงสุดของประเทศไทย แต่ปีนี้มันน่าจะถึงเวลาแล้วที่ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา จะแสดงให้เห็นว่าเขานั้นไม่ได้มีดีแค่สกิลเรียกเสียงฮือฮาหรือสร้างความหวือหวาในสนามได้เพียงแค่ช่วงสั้นๆ แต่เขาต้องพิสูจน์ว่าพร้อมจะเป็นตัวหลักในเกมรุกของทีมอย่างต่อเนื่องได้เสียที"

10. อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
“สมัยเด็กๆ ผมชอบไรอัน กิ๊กส์ เพราะเล่นทางซ้าย แต่พอโตขึ้นสไตล์ก็เริ่มเปลี่ยน ผมชอบเป็นตัวรุกทางด้านขวามากกว่า มันรู้สึกมีอิสระมีพื้นที่ในการเล่น และ เมื่อพอ ไรอัน กิ๊กส์ เลิกเล่น ผมก็มาเห็นว่า ลีโอเนล เมสซี่ นี่แหละที่สไตล์เหมือนๆเรา ผมก็เลยมักศึกษาสไตล์การเล่น โดยเฉพาะการเลี้ยงบอล และการจ่ายบอลทะลุพื้นที่แคบๆ ที่เขาทำได้ดีมาก”




อ่านเนื้อหาเต็มๆ ได้ที่
http://www.fourfourtwo.com/th/features/its-show-time-10-aekhngdaawrungthuengewlaaaecchngekid-aebbetmtaw#:IBCSpY-FmWR0YA
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่