ถ้าความจริงของคริสต์ รวมกันกับความจริงของพุทธ แล้วนำมาซึ่งคำตอบของคำถามทั้งหมด...

เจตนาเป็นธรรมทาน ขอถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมิได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นใดๆทั้งสิ้น

ทั้งเรื่องรูปธรรมและนามธรรม จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ พิสูจน์ได้และพิสูจน์ไม่ได้ มีเหตุและปัจจัยเกื้อหนุนกันให้เกิด มีเหตุและปัจจัยที่เกื้อหนุนกันให้เสื่อม
อัตราความน่าจะเป็น การเหนือกฏทางฟิสิกส์ กฏธรรมชาติ กฏของพระเจ้า ฯลฯ
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ มีทั้งสสารและพลังงาน รูปธรรมก่อให้เกิดนามธรรม [ธาตุกายก่อกำเนิดธาตุจิต] นามธรรมสร้างกายธาตุไม่ได้ แต่กายเกิดเพราะจิต มีกิเลสเป็นเชื้อ พระเจ้าสาปส่งมนุษย์ลงมาบนโลกเพราะ อดัมกินแอปเปิ้ล และแอปเปิ้ลผลนั้นคือกิเลส..
เพราะมีรูปธรรมและนามธรรม จึงมีนามธรรมและรูปธรรม โลกธาตุนี้ มีทั้งนามธรรมและรูปธรรม รูปธรรมปรากฏ จะสัมผัสได้ ด้วยกายแต่ นามธรรมปรากฏ สัมผัสได้ด้วยจิต
จิตคือตัวที่ใช้เครื่องวัดทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เพราะเป็นนามธรรม แต่การวัดทางวิทยาศาสตร์ให้ใช้กับทาง "กายภาพ"
ผมจะอธิบายกฏ สองสิ่งที่คู่ขนานกัน เป็นเหตุ และเป็นผล
1.เมื่อมีจุดเริ่มต้น ย่อมมีจุดสิ้นสุด
2.เมื่อมีการเกิด ย่อมมีการดับ
3.เมื่อมีเปิด ก็มีปิด
4.มีกาย ก็มีจิต
5.มีรูปธรรม ก็มีนามธรรม
ุ6.มีขาว มีดำ
ึ7.มีทุกข์ มีสุข
เมื่อไม่ทำกรรม ผลของกรรมย่อมไม่มี
เมื่อทำกรรม ผลของกรรมย่อมมี
เมื่อทำกรรมดี ผลของกรรมดีย่อมมี
เมื่อทำกรรมชั่ว ผลของกรรมชั่วย่อมมี
ทำกรรมเช่นใด ย่อมได้รับผลของกรรมเช่นนั้น
เมื่อเราขยัน ผลที่ได้ของความขยัน คือความสำเร็จ
เมื่อเราขี้เกียจ ผลที่ได้ของมันคือไม่ประสบความสำเร็จ
สิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ สิ่งนั้นต้องมีผู้สร้าง หรือ จุดเริ่มต้น
สิ่งใดจะดับไปได้ สิ่งนั้นต้องมีผู้ทำลาย หรือ จุดสิ้นสุด
ถ้าพระผู้สร้าง ที่เป็นนามธรรม หาจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดมิได้ฉันใด สังสารวัฏก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ทางออกย่อมมีแก่ผู้แสวงหา ผู้ออกเดินทางตามหาความจริงย่อมได้มาซึ่งความจริง ผู้ออกเดินทางค้นหาความเท็จย่อมได้มาซึ่งความเท็จ
โลกนี้เป็นเช่นใด เราถูกลิขิต หรือเราลิขิตตน อาจเป็นไปได้ทั้งสอง
ถ้าพระเจ้าเป็นเอกบุรุษ กระทำได้ทุกสิ่ง รู้ทุกสิ่ง แต่ผู้ที่ถูกสร้าง กระทำได้บางสิ่ง รู้ไม่ทุกสิ่ง ความจริงคือเช่นนั้น แล้วพระเจ้าเป็นเช่นใด ? พระเจ้าเป็นเฉกเช่นมนุษย์ มีอารมณ์ความรู้สึก มีสติปัญญาที่สูง มีจิตใจที่งดงาม พระเจ้าอยู่ที่ใด ? พระเจ้าอยู่ที่ใจเรา เมื่อใดที่เราอธิษฐาน แล้วสร้างเหตุ ผลที่ได้ก็ตามมาเอง

และปฏิจจสมุปบาทในความคิดผม
มีอวิชชา จึงมีสังขาร มีสังขาร จึงมีวิญญาณ มีวิญญาณ จึงมีนามรูป มีนามรูป จึงมีวิญญาณ [เพราะอาศัยกันและกันเพื่อการเกิด] มีนามรูปจึงมีสฬายตน มีสฬายตน จึงมีผัสสะ มีผัสสะ จึงมีเวทนา มีเวทนา จึงมีตัณหา และตัณหา ก่อให้เกิดเวทนา มีตัณหา จึงมีอุปาทาน มีอุปาทาน จึงมีภพ มีภพจึงมีชาติ มีชาติจึงมี ชรา มรณะ


หลักการทำให้มีปัญญา
1.เรียน
2.อ่าน
3.ฟัง
4.คิด
5.วิปัสสนา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่