คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1. ต้องไปนะคะ ไม่งั้นศาลจะตัดสินตามที่แบงค์ชงมาเลยค่ะ
2. การไกล่เกลี่ย บางทีเขาก็จะนัดให้เข้าห้องไกล่เกลี่ยเลย ก็พยายามต่อรองหลักๆ ก็คือเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เขาจะปรับ
และอัตราที่คุณจะผ่อนไหว ให้แสดงหลักฐานว่ามีรายได้แค่ไหนและมีค่าใช้จ่ายอย่างไร พอจะผ่อนได้แค่ไหน
เมื่อตกลงกันได้ อาจมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วศาลจะนัดฟังคำพิพากษาอีกทีนึง เสร็จแล้วก็จ่ายไปตามที่ตกลง
ที่สำคัญคือ อย่าผิดนัดและอย่าให้ทนายฝ่ายแบงค์จับไปเซ็นสัญญายินยอมอะไรก่อน เพราะบางทีเอาเปรียบมาก
หลังจากศาลพิพากษาแล้วก็ต้องชำระให้ตรง อย่าผิดนัดอีก เพราะผิดอีกทีเขาบังคับคดีคือยึดทรัพย์ได้เลยค่ะ ไม่ต้องฟ้องใหม่
2. การไกล่เกลี่ย บางทีเขาก็จะนัดให้เข้าห้องไกล่เกลี่ยเลย ก็พยายามต่อรองหลักๆ ก็คือเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เขาจะปรับ
และอัตราที่คุณจะผ่อนไหว ให้แสดงหลักฐานว่ามีรายได้แค่ไหนและมีค่าใช้จ่ายอย่างไร พอจะผ่อนได้แค่ไหน
เมื่อตกลงกันได้ อาจมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วศาลจะนัดฟังคำพิพากษาอีกทีนึง เสร็จแล้วก็จ่ายไปตามที่ตกลง
ที่สำคัญคือ อย่าผิดนัดและอย่าให้ทนายฝ่ายแบงค์จับไปเซ็นสัญญายินยอมอะไรก่อน เพราะบางทีเอาเปรียบมาก
หลังจากศาลพิพากษาแล้วก็ต้องชำระให้ตรง อย่าผิดนัดอีก เพราะผิดอีกทีเขาบังคับคดีคือยึดทรัพย์ได้เลยค่ะ ไม่ต้องฟ้องใหม่
แสดงความคิดเห็น
ถูกเรียกขึ้นศาล เพราะผิดนักการจ่ายชำระเงินธนาคารแห่งหนึ่ง
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ