สวัสดีค่ะ ไม่เคยคิดเหมือนกันนะว่าตัวเองจะมาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้อ่ะ แต่ตอนนี้มีความรู้สึกแค่ว่าอยากจะพูดอยากจะระบายออกมาบ้าง5555555555555 อาจจะมีบางคนเคยรู้สึกเหมือนกับเราบ้างอ่ะ ถ้าเราเล่าไม่รู้เรื่องหรือไม่ถูกใจใครเราขอโทษก่อนเลยนะ เริ่มกันเลยละกันเนอะ
ตอนนั้นเราเป็นเด็กม.2 อ้วนๆคนนึง ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย แล้วเราเป็นคนชอบร้องเพลงเลยอยากเล่นกีต้าไปด้วยมันดูมีเสน่ห์ดีนะเราว่า55555555555 เราก็เลยไปสมัครเรียนที่นึง ตอนแรกๆก็เรียนไปไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่มันมีอยู่วีคนึง มีผู้ชายคนนึงใส่เสื้อลายฟ้าขาว เดินเข้ามาในห้องเรียนเราแล้วก็คุยกับอาจารย์เรานิดหน่อยแล้วก็เดินออกไป เราก็มองแล้วก็ดูน่ารักดีนะ ชอบๆ วันนั้นคือวันแรกที่ได้เจอความคิดแรกเลยนะ พี่เค้าต้องเรียนมหาลัยแล้วแน่ๆเลยอ่ะ แต่ก็น่ารักดี ไม่ได้สนใจอะไร พออีกวีคต่อมาเราอยากให้อาจารย์สอนเพลงใกล้ อาจารย์ก็แกะเพลงไปเรื่อยๆแล้วมันก็ติดอยู่นิดนึงอาจารย์คิดไม่ออก มันพอดีกับตอนที่พี่เค้าก็เดินเข้ามาแล้วก็พูดว่า Bm7 แล้วก็เดินออกไป ตอนนั้นเรารู้สึกแบบน่ารักมากๆอ่ะ เขินแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆ ดูบ้าเนอะ แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ55555555555555 ตั้งแต่วันนั้นเราก็รู้สึกอยากเจอพี่เค้าตลอดเลยอ่ะ ความรู้สึกแบบเด็กๆอ่ะเนอะ
จนมาวันนึงช่วงเดือนตุลา ช่วงนั้นมันเป็นช่วงสอบปลายภาคแล้วต่อมาก็ปิดเทอม เด็กม.ต้นอย่างเราก็จะมีการเข้าค่ายลูกเสืออ่ะเนอะ เราเป็นเด็กกิจกรรม กล้าแสดงออก เพื่อนเลยเลือกให้เราเป็นตัวเด่นในการแสดงรอบกองไฟเลยต้องมีการซ้อมกันหน่อย เราก็เลือกไปซ้อมกันที่คอนโดแถวๆรร.เรา แถวรร.เราจะมีเซเว่นอยู่ แล้วมันจะค่อนข้างเป็นแหล่งที่ตอนเช้านร.จะต้องไปก่อนเข้าเรียน วันนั้นเป็นวันสอบวันสุดท้ายพี่ม.ปลาย เราก็กำลังจะเดินข้ามถนนไปหาเพื่อนที่เซเว่น มันบังเอิญหรืออะไรก็ไม่รู้นะ เราเห็นผู้ชายใส่เสื้อลายฟ้าขาวเหมือนพี่ที่เจอที่เรียนพิเศษยืนหันหลังอยู่หน้าเซ่เว่นใกล้ๆกับเพื่อนเรา ตอนนั้นไม่คิดว่าจะใช่หรอก เราก็ข้ามไปหาเพื่อนปกติแล้วก็รีบบอกว่าเนี่ยเหมือนคนที่เรียนพิเศษเราเลย สักพักพอเราหันไปหาอีกทีพี่ก็เค้าหันมาพอดี ช้อกสิคะ!! คนเดียวกัน เดี๋ยวนะความรู้สึกตอนนั้นคือ เราเรียนรร.เดียวกันหรอ ตกใจมากๆอ่ะ พี่เค้าก็มองเราสักพักแล้วก็เดินไปเข้ารร.ไป คือวันนั้นทั้งวันพูดกับเพื่อนตลอดว่าตกใจ เห้ยคืออะไร ใช่หรอวะ ไม่มีสมาธิเลย ตั้งแต่วันนั้นเราก็นับวันรอให้ถึงวันอาทิตย์เร็วๆ เราอยากไปเจอพี่เค้า ดูคลั่งไคล้มากเนอะ555555555555 แล้วพอวันอาทิตย์มาถึงเราก็พยายามทำตัวแต่งตัวสวยๆไปเรียน พอเราไปถึงที่เรียนเราก็พยายามชวนอาจารย์คุยว่าเราเจอพี่เสื้อฟ้าขาวที่รร. อาจารย์ก็เลยบอกว่า ไอ้บลูอ่ะหรอ เราขอเรียกพี่เค้าว่าบลูนะ ไอ้บลูเรียนที่เดียวกับเราหรอ เราก็ตอบไปว่าใช่ๆ พึ่งรู้เหมือนกัน แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เรียนต่อไปค่ะ 55555555555 สักพักพี่บลูก็เดินเข้ามาในห้อง ครั้งนี้ไม่ได้เดินเข้ามาแล้วผ่านไปนะ เค้าเดินมานั่งข้างๆอาจารย์ แล้วก็หยิบกีต้าสีฟ้าของเค้ามาเล่น ไม่ได้พูดไร เราเลยเปิดประเด็นถามพี่เค้าไปเลยว่า พี่คะ เราเจอกันที่เซเว่นหน้ารร.ป่ะะ พี่บลูเลยบอกว่า ใช่ป่ะะ ก็ว่าคุ้นๆ5555555555 พี่ชื่อบลูนะ อยู่ม.4อีพี เราล่ะ เราก็แนะนำตัวปกติ ก็ว่าอยู่ทำไมไม่รู้จักกัน คือเราอยู่ฝั่งไทยพี่เค้าอยู่อีพีนี่เอง55555555555555
ตั้งแต่วันนั้นเราก็ได้คุยกับพี่เค้ามากขึ้น พี่เค้ามานั่งเรียนกับเราบ่อยมากขึ้น เราไปเที่ยวปีใหม่ก็ซื้อของมาฝากพี่เค้า ตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเลยนะ เราอยู่ในสถานะที่เป็นแค่นี้ก็พอแล้วแค่ได้คุยได้อยู่ใกล้ๆก็พอแล้ว พี่เค้าก็มีแฟนใหม่เปลี่ยนแฟนใหม่ไปเรื่อยๆ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะโมโหหรือเสียใจอะไรนะ จนมาวันนึงเราอยู่ม.4แล้วแหละ มันก็มีข่าวมาว่าพี่บลูไปเป็นมือที่สามของพี่ม.5 ตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่แบบเห้ยย ไม่ใช่สิ พี่เค้าไม่ใช่คนแบบนั้นอ่ะ นี่คืออะไรอ่ะ บ้าแล้ว คือมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลยนะ แต่คืออยู่ดีๆเราก็น้ำตาไหลแบบหยุดไม่ได้อ่ะ พอดีเพื่อนเรามีพี่เป็นเพื่อนกับพี่บลู มันมาเล่าให้ฟังว่า พี่บลูไม่รู้ว่าพี่ม.5คนนั้นมีแฟนแล้ว ตอนนี้พี่ม.5คนนั้นก็ต้องเลิกทั้งคู่ไม่มีใครเอา ตอนที่ได้ยินแบบนั้นคือ เออออ มันต้องแบบนี้สิ พี่บลูไม่ใช่คนแบบนั้นนี่น่า เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มทันทีเลย5555555555555555
เราอยู่ม.4 ก็แปลว่าพี่บลูเค้าจะจบแล้วอ่ะเนอะ เราก็ไม่รู้จะเอาอะไรให้พี่เค้าดี เรามั่นใจว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วแน่ๆ เราเลยเขียนการ์ดแล้วก็ซื้อต้นไม้ให้พี่เค้าไป เขียนไปเรื่อยอ่ะ บอกว่าดูแลให้ดีๆนะคะ แล้วก็ไม่ต้องตามหานะว่าใครให้เดี๋ยววันนึงถ้าเราพร้อมเราจะไปหาพี่บลูเอง เราฝากพี่ของเพื่อนเราเอาไปให้ พี่เค้าบอกว่าตอนได้ไปพี่บลูยิ้มเยอะมาก แล้วก็พอเพื่อนแซวก็เขิน รู้มั้ยว่าเราดีใจมากๆนะ ขอบคุณจริงๆที่ยิ้มแบบนั้นอ่ะ
แล้วทุกอย่างก็จบไป เราไม่ได้ไปเรียนพิเศษแล้ว พี่เค้าก็เรียนจบไปแล้ว ก็จบแล้วอ่ะเนอะ จนมาวันนึงช่วงม.5เทอม2เราก็ไปเจอไอจีพี่เค้า พี่เค้ามีแฟนใหม่อีกแล้วอ่ะ คนนี้สวยมากๆอ่ะ ตอนนั้นความรู้สึกมันก็กลับมาใหม่ทั้งหมดและมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วยอ่ะ มีความรู้สึกว่าทำไมถึงไม่เป็นเราบ้างก็ไม่รู้เนอะ ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็ตั้งใจลดน้ำหนักจาก86ได้อ่ะ ลงมาเป็น50 เราใช้เวลาประมาณ7-8เดือนได้ ตอที่เราลดได้เราก็อยู่ม.6พอดีแหละ มันใกล้ๆวันเกิดพี่เค้าแล้วด้วย เราก็เลยตัดสินใจทักไลน์พี่เค้าไป บอกว่าเราพร้อมละนะ เราคือคนที่ให้ต้นไม้เองแหละ ถามว่าจำเราได้มั้ย พี่เค้าก็บอกจำได้นะ ขอบคุณมากๆสำหรับคำอวยพร ม.6แล้วตั้งใจเรียนสอบให้ติดนะ พี่เค้าพูดแค่นี้ แค่นี้จริงๆ เราไปต่อไม่ถูกเลยอ่ะ ไปไม่ถูกจริงๆ เราคงมาผิดเวลาอ่ะ เราก็โอเค ตั้งใจเรียน เราก็อ่านหนังสือหนักมากๆ อยากไปเรียนที่เดียวกับพี่เค้า จนเราคิดนะ ติดที่เดียวกับพี่เค้าเลย แต่เราก็ติดที่อื่นในคณะที่ดีกว่าที่บ้านเลยบอกให้เลือก ใจตอนแรกคือจะไปคณะที่พี่เค้าเรียนละนะ แต่แม่พูดมาว่า อนาคตหนู หนูต้องตัดสินใจนะ สุดท้ายเราไม่ได้เรียนที่เดียวกับพี่เค้า เราบอกตัวเองว่าจบทุกอย่างเริ่มต้นใหม่เนอะ เข้ามหาลัยยังไงก็มีคนอีกเยอะแยะให้รู้จัก แล้วมันก็มีจริงๆนะ มีคนเข้ามาเยอะมากๆอ่ะ แต่ทุกครั้งที่เปิดไอจีเข้าไปแล้วเจอรูปพี่บลูกับแฟนเค้ามันก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมไม่เป็นเราสักที.......
ทุกอย่างมันกำลังจะจบนะคะ เรากำลังจะเริ่มคุยกับคนคนนึงแบบจริงๆจังๆก่อนจะปีใหม่นี้เองค่ะ แล้วเราก็เปิดไอจีมาเห็นว่าพี่บลูเค้าดราม่า เราก็เริ่มส่องเลยค่ะ แฟนพี่บลูเค้าก็ดราม่าเหมือนกัน ความรู้สึกมันเอ่อขึ้นมาอีกแล้วอ่ะ เราตัดสินใจเลิกคุยกับผชที่เราจะจริงจังด้วยไปแบบไม่ได้ให้เหตุผลอะไร เราเป็นฝ่ายแบบชอบมาตลอดเลยอ่ะ แล้วเราเป็นพวกมีความคิดโบราณว่าเป็นผญไม่ควรจีบผชก่อน จนเพื่อนเราคนนึงบอกว่า แกรอพี่เค้ามานานแล้วแหละ ถ้าแกไม่เข้าไปยังไงพี่เค้าก็ไม่เข้ามา มันเป็นคำพูดที่ เออก็ใช่นะ แล้วปีใหม่นี้เลย เราก็ทักพี่เค้าไปว่า happy new year ka พี่เค้าก็ตอบกลับมาแบบนานมากถึงจะตอบอ่ะ เราตัดสินใจจะชวนคุยละนะ แต่ทุกอย่างมันก็จบอยู่ที่การ read แล้วไม่ตอบอ่ะ เราไม่ใช่คนที่จะทักบ่อยๆอ่ะ เราว่าพี่เค้าคงไม่อยากคุยกับเราจริงๆแหละ
เราอยากจะพอกับความรู้สึกพวกนี้นะ แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นพี่เค้า ทุกครั้งมันมีความสุขแบบบอกไม่ถูกอ่ะ เอาจริงๆก็5ปีแล้วเนอะที่เราทั้งเปลี่ยนตัวเอง ทั้งยังซื่อสัตย์กับความรู้สึก เราคงทำได้แค่อวยพรวันเกิดแล้วก็แฮปปี้นิวเยียร์ทุกๆปีแบบนี้ตลอดไปอ่ะ ขอบคุณนะคะ ที่ผ่านมาเป็นความสุขของหนู ทุกครั้งที่คิดถึงมันต้องยิ้มทุกครั้งเลย คงจะถึงเวลาที่ต้องเริ่มต้นใหม่แบบไม่หันหลังกลับแล้วจริงๆแหละเนอะ.
เค้าสอนให้ชั้นรู้จักกับคำว่าความรัก...........
ตอนนั้นเราเป็นเด็กม.2 อ้วนๆคนนึง ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย แล้วเราเป็นคนชอบร้องเพลงเลยอยากเล่นกีต้าไปด้วยมันดูมีเสน่ห์ดีนะเราว่า55555555555 เราก็เลยไปสมัครเรียนที่นึง ตอนแรกๆก็เรียนไปไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่มันมีอยู่วีคนึง มีผู้ชายคนนึงใส่เสื้อลายฟ้าขาว เดินเข้ามาในห้องเรียนเราแล้วก็คุยกับอาจารย์เรานิดหน่อยแล้วก็เดินออกไป เราก็มองแล้วก็ดูน่ารักดีนะ ชอบๆ วันนั้นคือวันแรกที่ได้เจอความคิดแรกเลยนะ พี่เค้าต้องเรียนมหาลัยแล้วแน่ๆเลยอ่ะ แต่ก็น่ารักดี ไม่ได้สนใจอะไร พออีกวีคต่อมาเราอยากให้อาจารย์สอนเพลงใกล้ อาจารย์ก็แกะเพลงไปเรื่อยๆแล้วมันก็ติดอยู่นิดนึงอาจารย์คิดไม่ออก มันพอดีกับตอนที่พี่เค้าก็เดินเข้ามาแล้วก็พูดว่า Bm7 แล้วก็เดินออกไป ตอนนั้นเรารู้สึกแบบน่ารักมากๆอ่ะ เขินแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆ ดูบ้าเนอะ แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ55555555555555 ตั้งแต่วันนั้นเราก็รู้สึกอยากเจอพี่เค้าตลอดเลยอ่ะ ความรู้สึกแบบเด็กๆอ่ะเนอะ
จนมาวันนึงช่วงเดือนตุลา ช่วงนั้นมันเป็นช่วงสอบปลายภาคแล้วต่อมาก็ปิดเทอม เด็กม.ต้นอย่างเราก็จะมีการเข้าค่ายลูกเสืออ่ะเนอะ เราเป็นเด็กกิจกรรม กล้าแสดงออก เพื่อนเลยเลือกให้เราเป็นตัวเด่นในการแสดงรอบกองไฟเลยต้องมีการซ้อมกันหน่อย เราก็เลือกไปซ้อมกันที่คอนโดแถวๆรร.เรา แถวรร.เราจะมีเซเว่นอยู่ แล้วมันจะค่อนข้างเป็นแหล่งที่ตอนเช้านร.จะต้องไปก่อนเข้าเรียน วันนั้นเป็นวันสอบวันสุดท้ายพี่ม.ปลาย เราก็กำลังจะเดินข้ามถนนไปหาเพื่อนที่เซเว่น มันบังเอิญหรืออะไรก็ไม่รู้นะ เราเห็นผู้ชายใส่เสื้อลายฟ้าขาวเหมือนพี่ที่เจอที่เรียนพิเศษยืนหันหลังอยู่หน้าเซ่เว่นใกล้ๆกับเพื่อนเรา ตอนนั้นไม่คิดว่าจะใช่หรอก เราก็ข้ามไปหาเพื่อนปกติแล้วก็รีบบอกว่าเนี่ยเหมือนคนที่เรียนพิเศษเราเลย สักพักพอเราหันไปหาอีกทีพี่ก็เค้าหันมาพอดี ช้อกสิคะ!! คนเดียวกัน เดี๋ยวนะความรู้สึกตอนนั้นคือ เราเรียนรร.เดียวกันหรอ ตกใจมากๆอ่ะ พี่เค้าก็มองเราสักพักแล้วก็เดินไปเข้ารร.ไป คือวันนั้นทั้งวันพูดกับเพื่อนตลอดว่าตกใจ เห้ยคืออะไร ใช่หรอวะ ไม่มีสมาธิเลย ตั้งแต่วันนั้นเราก็นับวันรอให้ถึงวันอาทิตย์เร็วๆ เราอยากไปเจอพี่เค้า ดูคลั่งไคล้มากเนอะ555555555555 แล้วพอวันอาทิตย์มาถึงเราก็พยายามทำตัวแต่งตัวสวยๆไปเรียน พอเราไปถึงที่เรียนเราก็พยายามชวนอาจารย์คุยว่าเราเจอพี่เสื้อฟ้าขาวที่รร. อาจารย์ก็เลยบอกว่า ไอ้บลูอ่ะหรอ เราขอเรียกพี่เค้าว่าบลูนะ ไอ้บลูเรียนที่เดียวกับเราหรอ เราก็ตอบไปว่าใช่ๆ พึ่งรู้เหมือนกัน แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เรียนต่อไปค่ะ 55555555555 สักพักพี่บลูก็เดินเข้ามาในห้อง ครั้งนี้ไม่ได้เดินเข้ามาแล้วผ่านไปนะ เค้าเดินมานั่งข้างๆอาจารย์ แล้วก็หยิบกีต้าสีฟ้าของเค้ามาเล่น ไม่ได้พูดไร เราเลยเปิดประเด็นถามพี่เค้าไปเลยว่า พี่คะ เราเจอกันที่เซเว่นหน้ารร.ป่ะะ พี่บลูเลยบอกว่า ใช่ป่ะะ ก็ว่าคุ้นๆ5555555555 พี่ชื่อบลูนะ อยู่ม.4อีพี เราล่ะ เราก็แนะนำตัวปกติ ก็ว่าอยู่ทำไมไม่รู้จักกัน คือเราอยู่ฝั่งไทยพี่เค้าอยู่อีพีนี่เอง55555555555555
ตั้งแต่วันนั้นเราก็ได้คุยกับพี่เค้ามากขึ้น พี่เค้ามานั่งเรียนกับเราบ่อยมากขึ้น เราไปเที่ยวปีใหม่ก็ซื้อของมาฝากพี่เค้า ตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเลยนะ เราอยู่ในสถานะที่เป็นแค่นี้ก็พอแล้วแค่ได้คุยได้อยู่ใกล้ๆก็พอแล้ว พี่เค้าก็มีแฟนใหม่เปลี่ยนแฟนใหม่ไปเรื่อยๆ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะโมโหหรือเสียใจอะไรนะ จนมาวันนึงเราอยู่ม.4แล้วแหละ มันก็มีข่าวมาว่าพี่บลูไปเป็นมือที่สามของพี่ม.5 ตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่แบบเห้ยย ไม่ใช่สิ พี่เค้าไม่ใช่คนแบบนั้นอ่ะ นี่คืออะไรอ่ะ บ้าแล้ว คือมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลยนะ แต่คืออยู่ดีๆเราก็น้ำตาไหลแบบหยุดไม่ได้อ่ะ พอดีเพื่อนเรามีพี่เป็นเพื่อนกับพี่บลู มันมาเล่าให้ฟังว่า พี่บลูไม่รู้ว่าพี่ม.5คนนั้นมีแฟนแล้ว ตอนนี้พี่ม.5คนนั้นก็ต้องเลิกทั้งคู่ไม่มีใครเอา ตอนที่ได้ยินแบบนั้นคือ เออออ มันต้องแบบนี้สิ พี่บลูไม่ใช่คนแบบนั้นนี่น่า เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มทันทีเลย5555555555555555
เราอยู่ม.4 ก็แปลว่าพี่บลูเค้าจะจบแล้วอ่ะเนอะ เราก็ไม่รู้จะเอาอะไรให้พี่เค้าดี เรามั่นใจว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วแน่ๆ เราเลยเขียนการ์ดแล้วก็ซื้อต้นไม้ให้พี่เค้าไป เขียนไปเรื่อยอ่ะ บอกว่าดูแลให้ดีๆนะคะ แล้วก็ไม่ต้องตามหานะว่าใครให้เดี๋ยววันนึงถ้าเราพร้อมเราจะไปหาพี่บลูเอง เราฝากพี่ของเพื่อนเราเอาไปให้ พี่เค้าบอกว่าตอนได้ไปพี่บลูยิ้มเยอะมาก แล้วก็พอเพื่อนแซวก็เขิน รู้มั้ยว่าเราดีใจมากๆนะ ขอบคุณจริงๆที่ยิ้มแบบนั้นอ่ะ
แล้วทุกอย่างก็จบไป เราไม่ได้ไปเรียนพิเศษแล้ว พี่เค้าก็เรียนจบไปแล้ว ก็จบแล้วอ่ะเนอะ จนมาวันนึงช่วงม.5เทอม2เราก็ไปเจอไอจีพี่เค้า พี่เค้ามีแฟนใหม่อีกแล้วอ่ะ คนนี้สวยมากๆอ่ะ ตอนนั้นความรู้สึกมันก็กลับมาใหม่ทั้งหมดและมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วยอ่ะ มีความรู้สึกว่าทำไมถึงไม่เป็นเราบ้างก็ไม่รู้เนอะ ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็ตั้งใจลดน้ำหนักจาก86ได้อ่ะ ลงมาเป็น50 เราใช้เวลาประมาณ7-8เดือนได้ ตอที่เราลดได้เราก็อยู่ม.6พอดีแหละ มันใกล้ๆวันเกิดพี่เค้าแล้วด้วย เราก็เลยตัดสินใจทักไลน์พี่เค้าไป บอกว่าเราพร้อมละนะ เราคือคนที่ให้ต้นไม้เองแหละ ถามว่าจำเราได้มั้ย พี่เค้าก็บอกจำได้นะ ขอบคุณมากๆสำหรับคำอวยพร ม.6แล้วตั้งใจเรียนสอบให้ติดนะ พี่เค้าพูดแค่นี้ แค่นี้จริงๆ เราไปต่อไม่ถูกเลยอ่ะ ไปไม่ถูกจริงๆ เราคงมาผิดเวลาอ่ะ เราก็โอเค ตั้งใจเรียน เราก็อ่านหนังสือหนักมากๆ อยากไปเรียนที่เดียวกับพี่เค้า จนเราคิดนะ ติดที่เดียวกับพี่เค้าเลย แต่เราก็ติดที่อื่นในคณะที่ดีกว่าที่บ้านเลยบอกให้เลือก ใจตอนแรกคือจะไปคณะที่พี่เค้าเรียนละนะ แต่แม่พูดมาว่า อนาคตหนู หนูต้องตัดสินใจนะ สุดท้ายเราไม่ได้เรียนที่เดียวกับพี่เค้า เราบอกตัวเองว่าจบทุกอย่างเริ่มต้นใหม่เนอะ เข้ามหาลัยยังไงก็มีคนอีกเยอะแยะให้รู้จัก แล้วมันก็มีจริงๆนะ มีคนเข้ามาเยอะมากๆอ่ะ แต่ทุกครั้งที่เปิดไอจีเข้าไปแล้วเจอรูปพี่บลูกับแฟนเค้ามันก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมไม่เป็นเราสักที.......
ทุกอย่างมันกำลังจะจบนะคะ เรากำลังจะเริ่มคุยกับคนคนนึงแบบจริงๆจังๆก่อนจะปีใหม่นี้เองค่ะ แล้วเราก็เปิดไอจีมาเห็นว่าพี่บลูเค้าดราม่า เราก็เริ่มส่องเลยค่ะ แฟนพี่บลูเค้าก็ดราม่าเหมือนกัน ความรู้สึกมันเอ่อขึ้นมาอีกแล้วอ่ะ เราตัดสินใจเลิกคุยกับผชที่เราจะจริงจังด้วยไปแบบไม่ได้ให้เหตุผลอะไร เราเป็นฝ่ายแบบชอบมาตลอดเลยอ่ะ แล้วเราเป็นพวกมีความคิดโบราณว่าเป็นผญไม่ควรจีบผชก่อน จนเพื่อนเราคนนึงบอกว่า แกรอพี่เค้ามานานแล้วแหละ ถ้าแกไม่เข้าไปยังไงพี่เค้าก็ไม่เข้ามา มันเป็นคำพูดที่ เออก็ใช่นะ แล้วปีใหม่นี้เลย เราก็ทักพี่เค้าไปว่า happy new year ka พี่เค้าก็ตอบกลับมาแบบนานมากถึงจะตอบอ่ะ เราตัดสินใจจะชวนคุยละนะ แต่ทุกอย่างมันก็จบอยู่ที่การ read แล้วไม่ตอบอ่ะ เราไม่ใช่คนที่จะทักบ่อยๆอ่ะ เราว่าพี่เค้าคงไม่อยากคุยกับเราจริงๆแหละ
เราอยากจะพอกับความรู้สึกพวกนี้นะ แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นพี่เค้า ทุกครั้งมันมีความสุขแบบบอกไม่ถูกอ่ะ เอาจริงๆก็5ปีแล้วเนอะที่เราทั้งเปลี่ยนตัวเอง ทั้งยังซื่อสัตย์กับความรู้สึก เราคงทำได้แค่อวยพรวันเกิดแล้วก็แฮปปี้นิวเยียร์ทุกๆปีแบบนี้ตลอดไปอ่ะ ขอบคุณนะคะ ที่ผ่านมาเป็นความสุขของหนู ทุกครั้งที่คิดถึงมันต้องยิ้มทุกครั้งเลย คงจะถึงเวลาที่ต้องเริ่มต้นใหม่แบบไม่หันหลังกลับแล้วจริงๆแหละเนอะ.