เป็นการรีวิวครั้งแรกเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง ให้ภาพเล่าเรื่องละกันเนอะ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
การไปเที่ยวครั้งนี้เราจองกับทัวร์เจ้าหนึ่ง ทาง Facebook ที่โด่งดังมากในเรื่องโปรไฟไหม้ ซึ่งใครๆ ก็คิดว่าโดนหลอกไปปล่อยสนามบินหรือเปล่าราคาถูกแบบนี้ เรามาพิสูจน์แล้วจ้า ว่าด้วยราคานี้ ไปได้จริง แล้วก็สนุกมากด้วย
การเดินออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นสุดๆ เตรียมตัวมาเป็นเดือนเพื่อทริปนี้ ทั้งทำพาสปอร์ต ทำเรื่องลางานไปต่างประเทศ ทำหนังสือรับรองการทำงาน เตรียมเสื้อผ้า และอุปกรณ์กันหนาว นัดแนะกับน้องสาว และเพื่อน รวมถึงหนังสือเที่ยวเกาหลี (เพราะราคาทัวร์ถูก ใครๆ ก็เตือนว่าระวังโดนทิ้งกลางสนามบินนะ)
เริ่มต้นวันแรก กรุ๊ปทัวร์ นัดเจอกัน เวลา 4 ทุ่ม เพื่อเช็คอิน ไปถึงก็เจอป้ายทัวร์ มีหัวหน้าทัวร์ (คุณโก้) มารอ พร้อมเอกสาร ให้เราเซ็นชื่อ และไปเช็คอิน เข้า ตม คนต่อแถวยาวมากกกกก ผ่านไปได้ด้วยดี
หลังจากนั้น ก็เดินไปที่เกท ซึ่งเป็นเกท สุดท้ายยยย ปลายสายพานเลยจ้า หลังจากนั้นก็นั่งรอ นอนรอ ขึ้นเครื่อง ครั้งนี้เราเดินทางกับสายการบิน T-Way ที่นั้ง สะอาด ขนาดที่นั่งก็โอเคนะ ไม่ถึงกับเขาชน หลังจากนั้นก็หลับซิคะ (มัวแต่ตื่นเต้นไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย)
วันที่สอง ตื่นมาพร้อมเสียงกับตันแจ้งว่าอีก 30 นาทีเครื่องจะถึงสนามบินอินชอนแล้วจ้า เราก็ตื่นเต้น ตาสว่าง รีบถ่ายรูปเลยซิคะ ถึงเกาหลีแล้ว
พอเครื่องลงเรารีบเปิดโทรศัพท์ เชื่อต่อ Pocket wifi เพื่อเช็คอุณหภูมิเลยจ้า ปรากฏว่าอุณหภูมิที่เจอคือ
โอ๊ว ไม่น่าเชื่อ อยู่บนเครื่องแสนจะอุ่น แต่เมื่อเดินมาถึงประตูเครื่อง แม่เจ้า เย็นวาบเลยจ้า หลังจากนั้นก็รวมตัวกัน หัวหน้าทัวร์แนะนำ สถานที่และขั้นตอนและการเตรียมเอกสาร เพื่อเจอกับ ของจริง ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ (ที่เขาร่ำลือกันว่าโหดมาก) แต่กรุ๊ปเราผ่านมาครบกันหมดทุกคนเลย หลังจากนั้น ก็ออกมาเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวออกเดินทาง
พอมาถึงข้างนอกก็มีไกด์ชาวเกาหลี ชื่อ วินนี่ (เค้าเป็นลูกครี่ง ไทย เกาหลี) น่ารัก พูดไทยได้ สื่อสารเป็นภาษาไทยกับเค้าได้เลย
และอีกคนคือ ช่างภาพ ชื่อเคลวิน ชาวเกาหลีแท้ พูดไทยได้แค่ สวัสดีครับ ขอบคุณครับ หลังจากนั้นเค้าก็นำเรามาขึ้นรถบัส ที่จอดรออยู่ด้านนอก เรารีบลากกระเป๋าไปไว้ข้างรถ และวิ่งขึ้นรถเลย เพราะอากาศหนาวมาก บวกกับลมอีก คือหนาวสะท้านถึงกระดูกเลยจ้า ขึ้นรถปุ๊บเค้าก็แจกน้ำคนละขวด ด้วยความตื่นเต้นกับ ตม. เกาหลีทำให้เราหิวน้ำ รืบเปิดขึ้นดิ่มแต่สิ่งที่เราเจอคือ น้ำแช็งเกือบทั้งขวด นั่งเขย่าขวดอยู่นานกว่าจะได้กิน
หลังจากนั้น รถบัสก็นำเรามาถึง สวนสตอร์เบอรรี่ พอเดินไปถึงเจ้าหน้าที่ก็จะแจกสตอร์เบอรรี่ให้คนละ 1 แก้ว ประมาณ 4-5 ลูกต่อแก้ว เพื่อให้เราชิม เท่าที่ดูก็ไม่คิดว่าจะหวานซักเท่าไหร่ คุ้นชินมาก กับสตอร์เบอรรี่บ้านเราที่ส่วนมากจะหวานจนเข็ดฟัน แต่พอชิมลูกแรกไปแล้ว ผิดคาดจ้า หวานมาก หลังจากนั้นเค้าก็จะปล่อยให้เราเดินเก็บชิมสดๆ จากแปลง ในเวลาที่เขากำหนด น่าจะประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นก็ออกมานั่งชิม แอปเปิ้ล กับสาลี่ที่โต๊ะ ข้างนอก ส่วนใครที่สนใจจะสั่งซื้อ ก็สั่งได้เลย เค้าจะแพคเอาไปส่งให่เราที่สนามบิน ในวันที่เรากลับ หรือใครจะซื้อไปกินต่อบนรถเลยเขาก็มีขาย
หลังจากนั้นก็เดินออกมาขึ้นรถบัส ระหว่างนั้นเราก็แวะถ่ายรูป นาข้างๆ สวนสตอร์เบอรรี่ เป็นน้ำแข็งหมดเลยจ้า มีเด็กๆ มาเล่นล้อเลื่อนกันด้วย ดูสนุกสนานเชียว
สถานที่ต่อไปก็คือ ร้านอาการกลางวัน วันนี้เมนูของเราคือ บุฟเฟ่บาบีคิวจ้า ทุกอย่างเติมได้ไม่อั้นอร่อยไม่อร่อยก็ไม่รู้แต่รีบกินจนลืมถ่ายรูป ได้รูปมานิดเดียวเอง
เมื่อกินอิ่มแล้ว สถานีต่อไป เอเวอร์แลน สวนสนุกที่ถูกกล่าวถึงเมื่อมาถึงเกาหลี แต่ที่น่าเศร้าคือวันที่เรา เครื่องเล่นส่วนมากจะปิดเพราะอากาศหนาวมาก เป็นอันตรายต่อผู้เล่น
เดินมาเจอ Line Shop เดินเข้าไปข้างในเจอแต่ของน่ารักๆ
หลังจากนั้นเราก็นั่ง ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร เราขอเรียกว่ากระเช้าก็แล้วกันเนอะ ถึงคิวปุ๊บ เก้าอี้เลื่อนมาปั๊บ ที่จับลงมาทับ ก็ออกตัวเลยจ้า
พอลงถึงข้างล่างก็ไปต่อกันด้วยนั่งรถชมเจ้าเสือ สิงโต และคุณหมีกันเลยต่อ
สาวน้อยร่วมทริป น้องแพรว ผู้สร้างสีสันให้กับทัวร์นี้ค่ะ (ปล. ยังไม่ได้ขออนุญาติคุณแม่ขอน้องแพรวเลย ถ้าคุณแม่มาเจอก็ขออนุญาติด้วยนะคะ)
ต่อจากนั้นทางทัวร์ก็ปล่อยให้เดินเที่ยวอิสระ อีกประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ คืออากาศแบบนี้เล่นเครื่องเล่นไม่ไหวจริงๆค่ะ
แวะชิมไอศครีม (เพื่อประอุณหภูมิในร่างกายซะหน่อย)
หลังจากนั้น เราก็เดินทางไปที่โรงเรียนสอนทำกิมจิ ถ่ายรูปชุดฮันบก แล้วก็ตามด้วยอาหารเย็นที่ร้านเดิม แต่เปลี่ยนเมนูจ้า
การทำกิมจิฝักกาดครั้งแรก หน้าตาก็พอดูได้เนอะ (ปลอบใจตัวเอง)
อาการเย็น จำชื่อเมนูไม่ได้เอารูปมาให้ดูก็แล้วกันเนอะ
หลังจากนั้นก็ขึ้นบัส เพื่อเดินทางไปยังที่พักของเราสกีรีสอร์ท "oak valley ski resort"
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถึงที่พักก็รีบเอาของไปเก็บ ห้องพักกว้างมากกกก มีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน พื่นห้องเป็นฮีทเตอร์ทั้งห้องอุ่นสบายมาก ห้องน้ำแยกส่วนห้องอาบน้ำและห้องส้วม
หลังจากนั้นก็เดินไปดูลานสกีต่อค่ะ อยู่หลังที่พักนี่เอง เดินไปไม่ถึง 5 นาที
จบวันที่สองแล้ว วันที่ 3 มาต่อพรุ่งนี้นะคะ
[CR] เที่ยวเกาหลี ครั้งแรกแบบเพื่อนสาว สาว สาว
การไปเที่ยวครั้งนี้เราจองกับทัวร์เจ้าหนึ่ง ทาง Facebook ที่โด่งดังมากในเรื่องโปรไฟไหม้ ซึ่งใครๆ ก็คิดว่าโดนหลอกไปปล่อยสนามบินหรือเปล่าราคาถูกแบบนี้ เรามาพิสูจน์แล้วจ้า ว่าด้วยราคานี้ ไปได้จริง แล้วก็สนุกมากด้วย
การเดินออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นสุดๆ เตรียมตัวมาเป็นเดือนเพื่อทริปนี้ ทั้งทำพาสปอร์ต ทำเรื่องลางานไปต่างประเทศ ทำหนังสือรับรองการทำงาน เตรียมเสื้อผ้า และอุปกรณ์กันหนาว นัดแนะกับน้องสาว และเพื่อน รวมถึงหนังสือเที่ยวเกาหลี (เพราะราคาทัวร์ถูก ใครๆ ก็เตือนว่าระวังโดนทิ้งกลางสนามบินนะ)
เริ่มต้นวันแรก กรุ๊ปทัวร์ นัดเจอกัน เวลา 4 ทุ่ม เพื่อเช็คอิน ไปถึงก็เจอป้ายทัวร์ มีหัวหน้าทัวร์ (คุณโก้) มารอ พร้อมเอกสาร ให้เราเซ็นชื่อ และไปเช็คอิน เข้า ตม คนต่อแถวยาวมากกกกก ผ่านไปได้ด้วยดี
หลังจากนั้น ก็เดินไปที่เกท ซึ่งเป็นเกท สุดท้ายยยย ปลายสายพานเลยจ้า หลังจากนั้นก็นั่งรอ นอนรอ ขึ้นเครื่อง ครั้งนี้เราเดินทางกับสายการบิน T-Way ที่นั้ง สะอาด ขนาดที่นั่งก็โอเคนะ ไม่ถึงกับเขาชน หลังจากนั้นก็หลับซิคะ (มัวแต่ตื่นเต้นไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย)
วันที่สอง ตื่นมาพร้อมเสียงกับตันแจ้งว่าอีก 30 นาทีเครื่องจะถึงสนามบินอินชอนแล้วจ้า เราก็ตื่นเต้น ตาสว่าง รีบถ่ายรูปเลยซิคะ ถึงเกาหลีแล้ว
พอเครื่องลงเรารีบเปิดโทรศัพท์ เชื่อต่อ Pocket wifi เพื่อเช็คอุณหภูมิเลยจ้า ปรากฏว่าอุณหภูมิที่เจอคือ
โอ๊ว ไม่น่าเชื่อ อยู่บนเครื่องแสนจะอุ่น แต่เมื่อเดินมาถึงประตูเครื่อง แม่เจ้า เย็นวาบเลยจ้า หลังจากนั้นก็รวมตัวกัน หัวหน้าทัวร์แนะนำ สถานที่และขั้นตอนและการเตรียมเอกสาร เพื่อเจอกับ ของจริง ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ (ที่เขาร่ำลือกันว่าโหดมาก) แต่กรุ๊ปเราผ่านมาครบกันหมดทุกคนเลย หลังจากนั้น ก็ออกมาเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวออกเดินทาง
พอมาถึงข้างนอกก็มีไกด์ชาวเกาหลี ชื่อ วินนี่ (เค้าเป็นลูกครี่ง ไทย เกาหลี) น่ารัก พูดไทยได้ สื่อสารเป็นภาษาไทยกับเค้าได้เลย
และอีกคนคือ ช่างภาพ ชื่อเคลวิน ชาวเกาหลีแท้ พูดไทยได้แค่ สวัสดีครับ ขอบคุณครับ หลังจากนั้นเค้าก็นำเรามาขึ้นรถบัส ที่จอดรออยู่ด้านนอก เรารีบลากกระเป๋าไปไว้ข้างรถ และวิ่งขึ้นรถเลย เพราะอากาศหนาวมาก บวกกับลมอีก คือหนาวสะท้านถึงกระดูกเลยจ้า ขึ้นรถปุ๊บเค้าก็แจกน้ำคนละขวด ด้วยความตื่นเต้นกับ ตม. เกาหลีทำให้เราหิวน้ำ รืบเปิดขึ้นดิ่มแต่สิ่งที่เราเจอคือ น้ำแช็งเกือบทั้งขวด นั่งเขย่าขวดอยู่นานกว่าจะได้กิน
หลังจากนั้น รถบัสก็นำเรามาถึง สวนสตอร์เบอรรี่ พอเดินไปถึงเจ้าหน้าที่ก็จะแจกสตอร์เบอรรี่ให้คนละ 1 แก้ว ประมาณ 4-5 ลูกต่อแก้ว เพื่อให้เราชิม เท่าที่ดูก็ไม่คิดว่าจะหวานซักเท่าไหร่ คุ้นชินมาก กับสตอร์เบอรรี่บ้านเราที่ส่วนมากจะหวานจนเข็ดฟัน แต่พอชิมลูกแรกไปแล้ว ผิดคาดจ้า หวานมาก หลังจากนั้นเค้าก็จะปล่อยให้เราเดินเก็บชิมสดๆ จากแปลง ในเวลาที่เขากำหนด น่าจะประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นก็ออกมานั่งชิม แอปเปิ้ล กับสาลี่ที่โต๊ะ ข้างนอก ส่วนใครที่สนใจจะสั่งซื้อ ก็สั่งได้เลย เค้าจะแพคเอาไปส่งให่เราที่สนามบิน ในวันที่เรากลับ หรือใครจะซื้อไปกินต่อบนรถเลยเขาก็มีขาย
หลังจากนั้นก็เดินออกมาขึ้นรถบัส ระหว่างนั้นเราก็แวะถ่ายรูป นาข้างๆ สวนสตอร์เบอรรี่ เป็นน้ำแข็งหมดเลยจ้า มีเด็กๆ มาเล่นล้อเลื่อนกันด้วย ดูสนุกสนานเชียว
สถานที่ต่อไปก็คือ ร้านอาการกลางวัน วันนี้เมนูของเราคือ บุฟเฟ่บาบีคิวจ้า ทุกอย่างเติมได้ไม่อั้นอร่อยไม่อร่อยก็ไม่รู้แต่รีบกินจนลืมถ่ายรูป ได้รูปมานิดเดียวเอง
เมื่อกินอิ่มแล้ว สถานีต่อไป เอเวอร์แลน สวนสนุกที่ถูกกล่าวถึงเมื่อมาถึงเกาหลี แต่ที่น่าเศร้าคือวันที่เรา เครื่องเล่นส่วนมากจะปิดเพราะอากาศหนาวมาก เป็นอันตรายต่อผู้เล่น
เดินมาเจอ Line Shop เดินเข้าไปข้างในเจอแต่ของน่ารักๆ
หลังจากนั้นเราก็นั่ง ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร เราขอเรียกว่ากระเช้าก็แล้วกันเนอะ ถึงคิวปุ๊บ เก้าอี้เลื่อนมาปั๊บ ที่จับลงมาทับ ก็ออกตัวเลยจ้า
พอลงถึงข้างล่างก็ไปต่อกันด้วยนั่งรถชมเจ้าเสือ สิงโต และคุณหมีกันเลยต่อ
สาวน้อยร่วมทริป น้องแพรว ผู้สร้างสีสันให้กับทัวร์นี้ค่ะ (ปล. ยังไม่ได้ขออนุญาติคุณแม่ขอน้องแพรวเลย ถ้าคุณแม่มาเจอก็ขออนุญาติด้วยนะคะ)
ต่อจากนั้นทางทัวร์ก็ปล่อยให้เดินเที่ยวอิสระ อีกประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ คืออากาศแบบนี้เล่นเครื่องเล่นไม่ไหวจริงๆค่ะ
แวะชิมไอศครีม (เพื่อประอุณหภูมิในร่างกายซะหน่อย)
หลังจากนั้น เราก็เดินทางไปที่โรงเรียนสอนทำกิมจิ ถ่ายรูปชุดฮันบก แล้วก็ตามด้วยอาหารเย็นที่ร้านเดิม แต่เปลี่ยนเมนูจ้า
การทำกิมจิฝักกาดครั้งแรก หน้าตาก็พอดูได้เนอะ (ปลอบใจตัวเอง)
อาการเย็น จำชื่อเมนูไม่ได้เอารูปมาให้ดูก็แล้วกันเนอะ
หลังจากนั้นก็ขึ้นบัส เพื่อเดินทางไปยังที่พักของเราสกีรีสอร์ท "oak valley ski resort"
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถึงที่พักก็รีบเอาของไปเก็บ ห้องพักกว้างมากกกก มีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน พื่นห้องเป็นฮีทเตอร์ทั้งห้องอุ่นสบายมาก ห้องน้ำแยกส่วนห้องอาบน้ำและห้องส้วม
หลังจากนั้นก็เดินไปดูลานสกีต่อค่ะ อยู่หลังที่พักนี่เอง เดินไปไม่ถึง 5 นาที
จบวันที่สองแล้ว วันที่ 3 มาต่อพรุ่งนี้นะคะ