หลังจากที่หนูเล็กพาเดินตากฝนเที่ยว Munich ไปชม Residenz และโบสถ์ต่างๆ กันจนเต็มอิ่มแล้ว
คงถึงคราวต้องอำลามิวนิคกันแล้วค่ะ เพราะยังมีเป้าหมายถัดไปรออยู่
สำหรับแผนการเดินทางวันนี้ เราจะไปนอนกันที่ Regensburg ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ
ย้อนรอยการเดินทางได้ที่นี่ค่ะ
Germany :Love at first drive#1 (Frankfurt - Heidelberg - Rothenburg ob der Tauber)
http://pantip.com/topic/34435393
Germany : Love at first drive#2 (Around Rothenburg ob der Tauber)
http://pantip.com/topic/34442966
Germany : Love at first drive#3 (Rothenburg odt-Dinkelsbühl-Nördlingen-Landsberg am Lech)
http://pantip.com/topic/34459357
Germany : Love at first drive#4 (Landsberg am Lech - Schongau - Peiting - Schwangau - Fussen)
http://pantip.com/topic/34470191
Germany : Love at first drive#5 (Hohenschwangau Castle - Neuschwanstein Castle - Wieskirche)
http://pantip.com/topic/34516848
Germany : Love at first drive#6 (Linderhof Castle - Ettal Abbey - Garmisch-Partenkirchen - Mittenwald)
http://pantip.com/topic/34561512
Germany : Love at first drive#7 (Oberammergau-Prien am Chiemsee-Reit im Winkl-Shönau am Königssee)
http://pantip.com/topic/34629581
Germany : Love at first drive#8 (Königssee-St.Bartholomä-Munich)
http://pantip.com/topic/34660250
Germany : Love at first drive#9 (Around Munich)
http://pantip.com/topic/34713934
หรือจะแวะไปทักทายกันก็ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/
แต่ก่อนอื่นขอแวะไปช้อปแถวถนนคนเดินก่อนออกเดินทางค่ะ อิอิ
หลังจากให้สมาชิกช้อปกันเป็นครั้งสุดท้าย ก็ขอแวะเที่ยวปราสาทอีกแห่งของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 เสียหน่อย
ถึงแล้วค่ะ ลองไปดูรอบๆ กัน
ในปี ค.ศ.1662 เฮนเรียตต้า อเดเลด ออฟ ซาวอย (Henrietta Adelaide of Savoy) พระชายาของคัวเฟือสท์
หรืออีเล็กเตอร์เฟอร์ดินานด์ มารีอา (Kurfürst Ferdinand Maria) ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ.1651 – 1679)
ประสูติพระโอรส ซึ่งต่อมาคือ คัวเฟือสท์ แมกซิมิเลียนที่ 2 เอ็มมานูเอ็ล (Kurfürst Maximilian II Emanuel)
หลังจากรอคอยมานานนับ 10 ปี เพื่อเป็นของขวัญแด่พระชายาจึงทรงสร้างพระราชวังฤดูร้อนมอบให้ใน 2 ปีถัดมา
โดยประทานนามว่า พระราชวังนีมเฟนบูร์ก (Schloss Nymphenburg) ได้รับการออกแบบจากอะโกสติโน แบร์เรลลิ (Agostino Barelli)
สถาปนิกชาวอิตาเลียน เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1664 ตัวอาคารหลักสร้างเป็นแบบอิตาเลียนวิลลาแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1675
ในสไตล์บารอค มีบันไดทางขึ้นสองทาง ส่วนตรงกลางทำเป็นโครงสร้างโค้งรองรับตัวอาคารไว้
ถือเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวัง หากจำได้เจ้าอีเล็กเตอร์พระองค์นี้ได้สร้างโบสถ์ธีอาทิเนอร์เคียเชอ (Theatinerkirche)
โบสถ์สีเหลืองอร่ามฉลองที่พระชายาประสูติพระโอรสไปด้วยแล้ว ที่หนูเล็กพาไปเที่ยวเมื่อตอนที่แล้ว
แสดงให้เห็นว่าการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญและพิเศษต่างๆ ทำกันมานานมากแล้ว
จากนั้นก็ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมและตกแต่งใหม่อีกหลายครั้งโดยพระชายาถึงกับคุมการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง
หรือแม้แต่องค์พระโอรสแมกซิมิเลียนเองก็สานต่อภารกิจนี้จากพระมารดาโดยทำงานร่วมกับโจเซฟ เอฟเนอร์ (Joseph Effner)
สถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่สุดในการก่อสร้างพระราชวังและสวนในยุโรป โดยทรงมีบัญชาให้สร้างอาคารทั้งสองด้านเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1702
เชื่อมต่อกันด้วยแกลเลอรี่ จากวังฤดูร้อนเล็กๆ กลายเป็นวังขนาดใหญ่พื้นที่กว้างขวาง
มีอาคารเพิ่มเติมจากเดิมจนรายล้อมสวนด้านหน้าที่แต่เดิมมีเพียงอาคารหลักเพียงอาคารเดียว
เกิดสวนรายรอบพื้นที่กว่า 490 เอเคอร์ สวนขนาดใหญ่นี้สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1671 เป็นสวนแบบอิตาลี
แต่มาปรับเปลี่ยนเป็นแบบบารอคเพื่อให้เข้ากับตัวพระราชวังในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19
บริเวณสวนทั้งหมดมีการตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าของกรีกเรียงรายไว้เป็นระยะๆ อย่างเป็นระเบียบ
รูปสลักเหล่านี้เริ่มหมองด้วยคราบตะไคร่ แต่หากได้มีโอกาสพิจารณารูปสลักใกล้ๆ จะเห็นถึงฝีมือของศิลปิน
เพราะสามารถแสดงกล้ามเนื้อแขนและขาที่เป็นมัดๆ ราวกับมีเลือด มีเนื้อ
ความพลิ้วไหวของผ้าที่พันร่างกายที่ราวกับจะปลิวได้เมื่อต้องลม
ดอกไม้ต้นไม้ที่ปลูกไว้แสดงให้เห็นถึงการดูแลและเอาใจใส่ เพราะทอดตัวเรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบงดงาม
เหมือนกับว่าพวกมันไม่เคยงอกกิ่งก้านหรือแตกใบเพิ่มออกมาเลย จริงๆ นะ
หนูเล็กไม่ได้เข้าชมด้านในค่ะ เพราะมีค่าใช้จ่ายและจะต้องออกเดินทางต่อตามแผน จึงพาชมได้แค่รอบๆ เท่านี้ค่ะ
ออกเดินทางกันต่อดีกว่า
เข้าที่พักกันก่อนค่ะ
ที่พักของเราที่ Regensburg คือ Abotel Hotel Regensburg
http://www.abotel-regensburg.de/pages/englisch.php
เป็นห้องนอนรวม 4 คน สะดวกสบายมากค่ะ
แต่ว่าเราไม่มีอะไรเป็นอาหารเย็น ดังนั้น ไปห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ นี้กันก่อนดีกว่า
ห้างสรรพสินค้าจะอยู่ตรงสี่แยกก่อนเข้ามาที่พัก ถือโอกาสช้อปปิ้งกันก่อน
วันนี้จบลงที่การช้อปปิ้งค่ะ ยังไม่พาไปรู้จักกับ Regensburg นอนพักเอาแรงกันก่อน
ตอนถัดไปหนูเล็กจะพาเดินเที่ยว เผื่อบางทีเมืองนี้จะเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนท่องเที่ยว
ไว้ตามกันต่อค่ะ
[CR] Germany : Love at first drive#10 (Munich-Regensburg)
หลังจากที่หนูเล็กพาเดินตากฝนเที่ยว Munich ไปชม Residenz และโบสถ์ต่างๆ กันจนเต็มอิ่มแล้ว
คงถึงคราวต้องอำลามิวนิคกันแล้วค่ะ เพราะยังมีเป้าหมายถัดไปรออยู่
สำหรับแผนการเดินทางวันนี้ เราจะไปนอนกันที่ Regensburg ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ
ย้อนรอยการเดินทางได้ที่นี่ค่ะ
Germany :Love at first drive#1 (Frankfurt - Heidelberg - Rothenburg ob der Tauber)
http://pantip.com/topic/34435393
Germany : Love at first drive#2 (Around Rothenburg ob der Tauber)
http://pantip.com/topic/34442966
Germany : Love at first drive#3 (Rothenburg odt-Dinkelsbühl-Nördlingen-Landsberg am Lech)
http://pantip.com/topic/34459357
Germany : Love at first drive#4 (Landsberg am Lech - Schongau - Peiting - Schwangau - Fussen)
http://pantip.com/topic/34470191
Germany : Love at first drive#5 (Hohenschwangau Castle - Neuschwanstein Castle - Wieskirche)
http://pantip.com/topic/34516848
Germany : Love at first drive#6 (Linderhof Castle - Ettal Abbey - Garmisch-Partenkirchen - Mittenwald)
http://pantip.com/topic/34561512
Germany : Love at first drive#7 (Oberammergau-Prien am Chiemsee-Reit im Winkl-Shönau am Königssee)
http://pantip.com/topic/34629581
Germany : Love at first drive#8 (Königssee-St.Bartholomä-Munich)
http://pantip.com/topic/34660250
Germany : Love at first drive#9 (Around Munich)
http://pantip.com/topic/34713934
หรือจะแวะไปทักทายกันก็ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ก่อนอื่นขอแวะไปช้อปแถวถนนคนเดินก่อนออกเดินทางค่ะ อิอิ
หลังจากให้สมาชิกช้อปกันเป็นครั้งสุดท้าย ก็ขอแวะเที่ยวปราสาทอีกแห่งของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 เสียหน่อย
ถึงแล้วค่ะ ลองไปดูรอบๆ กัน
ในปี ค.ศ.1662 เฮนเรียตต้า อเดเลด ออฟ ซาวอย (Henrietta Adelaide of Savoy) พระชายาของคัวเฟือสท์
หรืออีเล็กเตอร์เฟอร์ดินานด์ มารีอา (Kurfürst Ferdinand Maria) ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ.1651 – 1679)
ประสูติพระโอรส ซึ่งต่อมาคือ คัวเฟือสท์ แมกซิมิเลียนที่ 2 เอ็มมานูเอ็ล (Kurfürst Maximilian II Emanuel)
หลังจากรอคอยมานานนับ 10 ปี เพื่อเป็นของขวัญแด่พระชายาจึงทรงสร้างพระราชวังฤดูร้อนมอบให้ใน 2 ปีถัดมา
โดยประทานนามว่า พระราชวังนีมเฟนบูร์ก (Schloss Nymphenburg) ได้รับการออกแบบจากอะโกสติโน แบร์เรลลิ (Agostino Barelli)
สถาปนิกชาวอิตาเลียน เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1664 ตัวอาคารหลักสร้างเป็นแบบอิตาเลียนวิลลาแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1675
ในสไตล์บารอค มีบันไดทางขึ้นสองทาง ส่วนตรงกลางทำเป็นโครงสร้างโค้งรองรับตัวอาคารไว้
ถือเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวัง หากจำได้เจ้าอีเล็กเตอร์พระองค์นี้ได้สร้างโบสถ์ธีอาทิเนอร์เคียเชอ (Theatinerkirche)
โบสถ์สีเหลืองอร่ามฉลองที่พระชายาประสูติพระโอรสไปด้วยแล้ว ที่หนูเล็กพาไปเที่ยวเมื่อตอนที่แล้ว
แสดงให้เห็นว่าการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญและพิเศษต่างๆ ทำกันมานานมากแล้ว
จากนั้นก็ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมและตกแต่งใหม่อีกหลายครั้งโดยพระชายาถึงกับคุมการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง
หรือแม้แต่องค์พระโอรสแมกซิมิเลียนเองก็สานต่อภารกิจนี้จากพระมารดาโดยทำงานร่วมกับโจเซฟ เอฟเนอร์ (Joseph Effner)
สถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่สุดในการก่อสร้างพระราชวังและสวนในยุโรป โดยทรงมีบัญชาให้สร้างอาคารทั้งสองด้านเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1702
เชื่อมต่อกันด้วยแกลเลอรี่ จากวังฤดูร้อนเล็กๆ กลายเป็นวังขนาดใหญ่พื้นที่กว้างขวาง
มีอาคารเพิ่มเติมจากเดิมจนรายล้อมสวนด้านหน้าที่แต่เดิมมีเพียงอาคารหลักเพียงอาคารเดียว
เกิดสวนรายรอบพื้นที่กว่า 490 เอเคอร์ สวนขนาดใหญ่นี้สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1671 เป็นสวนแบบอิตาลี
แต่มาปรับเปลี่ยนเป็นแบบบารอคเพื่อให้เข้ากับตัวพระราชวังในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19
บริเวณสวนทั้งหมดมีการตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าของกรีกเรียงรายไว้เป็นระยะๆ อย่างเป็นระเบียบ
รูปสลักเหล่านี้เริ่มหมองด้วยคราบตะไคร่ แต่หากได้มีโอกาสพิจารณารูปสลักใกล้ๆ จะเห็นถึงฝีมือของศิลปิน
เพราะสามารถแสดงกล้ามเนื้อแขนและขาที่เป็นมัดๆ ราวกับมีเลือด มีเนื้อ
ความพลิ้วไหวของผ้าที่พันร่างกายที่ราวกับจะปลิวได้เมื่อต้องลม
ดอกไม้ต้นไม้ที่ปลูกไว้แสดงให้เห็นถึงการดูแลและเอาใจใส่ เพราะทอดตัวเรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบงดงาม
เหมือนกับว่าพวกมันไม่เคยงอกกิ่งก้านหรือแตกใบเพิ่มออกมาเลย จริงๆ นะ
หนูเล็กไม่ได้เข้าชมด้านในค่ะ เพราะมีค่าใช้จ่ายและจะต้องออกเดินทางต่อตามแผน จึงพาชมได้แค่รอบๆ เท่านี้ค่ะ
ออกเดินทางกันต่อดีกว่า
เข้าที่พักกันก่อนค่ะ
ที่พักของเราที่ Regensburg คือ Abotel Hotel Regensburg
http://www.abotel-regensburg.de/pages/englisch.php
เป็นห้องนอนรวม 4 คน สะดวกสบายมากค่ะ
แต่ว่าเราไม่มีอะไรเป็นอาหารเย็น ดังนั้น ไปห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ นี้กันก่อนดีกว่า
ห้างสรรพสินค้าจะอยู่ตรงสี่แยกก่อนเข้ามาที่พัก ถือโอกาสช้อปปิ้งกันก่อน
วันนี้จบลงที่การช้อปปิ้งค่ะ ยังไม่พาไปรู้จักกับ Regensburg นอนพักเอาแรงกันก่อน
ตอนถัดไปหนูเล็กจะพาเดินเที่ยว เผื่อบางทีเมืองนี้จะเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนท่องเที่ยว
ไว้ตามกันต่อค่ะ