ช่วงเวลาเดินทาง : 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2559

คำโปรย
     ทริปนี้เริ่มต้นขึ้นเนื่องจากตั้งใจจะไปทำบุญวันเกิด เที่ยววัดเมืองไทยมาก่อมากแล้ว ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าวัดพม่าก็ศักดิ์สิทธิ์และสวยใช่ย่อย จึงมีความคิดอยากจะไปขึ้นมา ใจหนึ่งก็อยากจะแบ๊คแพ๊คไปกันเองเหมือนตอนที่ไปฮ่องกงแต่!! กิตติศัพท์ของความลำบากของการไปประเทศพม่าก็พอจะมีอยู่บ้าง จึงเปลี่ยนใจไปกับทัวร์ดีกว่า สบายดี ไม่ต้องวางแผนอะไรมาก หลังจากนั้นก่อทะย่อยหาข้อมูลว่าแหล่งท่องเที่ยว วัดของพม่ามีอะไร ที่ไหนบ้าง เราอยากไปดูไปชมตรงไหน เสร็จแล้วก็มองหาทัวร์ดีดี ไม่โดนหลอกชัวร์ๆสักอัน แล้วก่อเลือกโปรแกรมที่เค้ามี ทัวร์พม่าจริงๆมีไปหลายจังหวัดของทางพม่าแต่ด้วยเวลาที่มีแค่3วัน เราก็เลือกที่จะไปสิ่งศักดิ์สิทธิ์พม่ามากที่สุด (พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินแขวน พระมหาธาตุชเวสิกอง พระมหาธาตุชเวมอดอร์ และพระมหามัยมุนี) ดังนั้นเราจึงเลือกโปรแกรมทัวร์ 3วัน2คืนไปพระธาตุอินแขวน หงสาวดี ย่างกุ้ง ลุยกันเลยเนาะโน๊ะ ...

---

วิธีเตรียมตัว
A: จัดการคุยข้อตกลงกับทัวร์ให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง ทั้งโปรแกรมต่างๆ การโอนเงิน(ส่วนใหญ่จะให้มัดจำก่อน 50% แล้วอีก1 เดือนก่อนการเดินทางโอนครบหมด) การเตรียมตัวก่อนไป (ส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะโทรมาแจ้งก่อนวันเดินทาง1-2วัน) เอาจริงๆ ไปกับทัวร์ไม่ต้องคิดไรมากทั้งการเดินทางไฟล์บิน ที่พัก อาหารการกิน การเดินทางภายในประเทศ บริษัททัวร์จะจัดการไว้หมดแล้วเราแค่ไปตามโปรแกรมของเค้า

B: พาสปอร์ต
เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม ถ่ายภาพพาสปอร์ตส่งไปทัวร์ให้เรียบร้อยเพราะเค้าจะได้เตรียมใบตม.ทั้งขาออกและขาเข้าให้เรา จะได้ไม่ต้องเขียนเองอิอิ เช็ค passport ว่าหมดอายุหรือยัง

C: อื่นๆ
- การแลกเงิน : สำหรับการไปกับทัวร์ จะมีไกด์ชาวพม่าเตรียมเงินให้แลกไว้แล้ว เราไปครั้งนี้2คนหมดไป 2000บาท แลกได้มา 60000 จ๊าด ไม่ต้องเตรียมแลกเงินดอร์ลาร์หรือแลกเงินจ๊าดไป เพราะถ้าเงินเหลือถ้าไกด์ไม่รับแลกคืน จะรับแลกคืนเฉพาะเงินของเค้าที่ให้แลกเท่านั้น
- ซิมโทรศัพท์ : เราพอจะหาข้อมูลมาบ้างเรื่องการใช้โทรศัพท์ที่นู้น ไวไฟสัญญาณไม่ค่อยดี มีน้อยที่ ส่วนใหญ๋จะสนามบิน โรงแรมที่พัก ร้านอาหารแต่อย่าไปหวังอะไรมาก ส่วนการนำซิมจากที่นี่ไปก่อจะต้องเปิดโรมมิ่งแต่ไม่แน่ใจว่าที่พระธาตุอินแขวนจะใช้ได้หรือป่าว? สรุปเราก่อเลิกใช้ Airplane Mode ตลอดการเดินทาง 3 วัน  แต่!!!!! ถ้าใครขาดไม่ได้ให้ถามไกด์ได้เลยเครือข่ายโทรศัพท์ที่นู้นก่อพอมีอยู่บ้าง ให้ไกด์แนะนำได้เลย ที่สนามบินก็มีขาย แต่เราไม่ได้ถามอ่ะ ><
- กระแสไฟฟ้า : ที่พม่าใช้ไฟล์กระแสเดียวกับเรา ไม่ต้องเอาตัวแปลงอะไรไป เอาแต่ปลั๊กพ่วงและปลั๊ก3 ตาก่อโอเคแล้ว
- รองเท้าแตะ : สำคัญมากกกกกกกก ควรนำไปด้วยอย่างยิ่ง เพราะเราต้องถอดรองเท้า ถุงเท้าเดินบ่อยมาก บางทีจากที่จอดรถไปยังวัดต้องเดินไกลพอสมควรควรใส่รองเท้าแตะไปด้วย แล้วค่อยไปถอดใกล้ๆวัด
- ทิชชู่และทิชชู่เปียก : หลังจากเดินด้วยเท้าเปล่าแล้ว ก่อต้องเช็ดเท้าซิเนาะ เอาจริงๆที่จริงทัวร์เค้าก่อแจกให้นะค่ะ แต่ถ้ายังไม่สะอาดก่อควรเตรียมของเราไปเองด้วย ทิชชู่ไว้เผื่อตอนเข้าห้องน้ำ
- เสื้อผ้า : ชุดที่เตรียมไปควรแบ่งเป็น2กระเป๋า คือ1กระเป๋าเล็กเพื่อนำขึ้นพระธาตุอินแขวน 1 ชุดเท่านั้นควรมีเสื้อกันหนาวไปด้วย ถุงเท้าไม่ต้องเพราะเค้าห้ามใส่ ชุดต่างๆที่พกไปควรเป็นเสื้อมีแขนหรือแขนยาวเลยก็ดี กางเกงและกระโปรงก่อต้องยาวเช่นกัน

---

ลุย!!!!!
วันที่ 1 : 29 มกราคม 2015
แผน : ย่างกุ้ง ---> สนามบินมิงกาลาดง ---> หงสาวดี --->พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ(พระธาตุมุเตา) ---> วัดไจ้คะวาย ---> พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว(พระนอนยิ้มหวาน) ---> พระราชวังกัมโพชธานี (พระราชวังบุเรงนอง) ---> รัฐมอญ ---> พระธาตุอินแขวน ---> Yoe Yoe Lay Hotel

วันแรกนี้ทางบริษัททัวร์นัดรวมตัวตอน 04.00น. หลังจากโหลดกระเป๋า เช็คอิน(บริษัททัวร์จัดการให้ สบ๊าย สบาย) เดินผ่านตม.ชิวๆ แล้วก่อรอเวลาเหินฟ้าโดยสายการบินนกแอร์ออจากสนามบินดอนเมืองเวลา 06.30 น. ใช้วลาบินประมาณ 1 ชม. ก็มาถึงสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง เวลาที่นี่จะช้ากว่าประเทศไทย 30นาที อย่าลืมปรับนาฬิกากันนะจ๊ะ พอผ่านตม.เสร็จทางไกด์จะให้เวลาเราคัดแยกกระเป๋า เพื่อนำกระเป๋าเล็กไปพระธาตุอินแขวน ไม่แนะนำกระเป๋าลากใดๆทั้งสิ้น เอาเฉพาะของที่จำเป็นไปเสื้อผ้า1ชุด ยาประจำตัว เครื่องสำอางเล็กน้อย ระหว่างนี้หากใครต้องการซิมการ์ดให้แจกไกด์ทันที เพราะที่สนามบินจะมีร้านขายซิมการ์ดอยู่บ้าง เพราะถ้าออกไปแล้วการแวะข้างทางจะลำบากพอสมควร ตามที่โปรแกรมทัวร์จัดไว้เราจะต้องนั่งรถโค้ชออกเดินทางจากกรุงย่างกุ้งเพื่อไปยังเมืองหงสาวดี ระยะทางก่อไกลกันพอสมควร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อมาถึงเมืองหงสาวดี จุดหมายแรกของวันนี้ก่อคือพระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ(พระธาตุมุเตา)เป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าที่ชาวพุทธควรมาเยี่ยมชมสักการะ ต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า ถุงน่องออกทั้งหมด เดินเท้าเปล่าอย่างเดียว ที่นี่ต้องเสียเงินค่ากล้องถ่ายรูปกล้องละ 300 จั๊ด ประมาณ 10 บาท เสียเงินแล้วก็จะได้ตั๋วพร้อมหนังยางคล้องกล้องไว้ มีเวลาประมาณ 30 นาที


ออกจากพระธาตุมุเตายังพอมีเวลา ก็มุ่งหน้าไป พระราชวังกัมโพชธานี (พระราชวังบุเรงนอง) จุดเด่นของที่นี่เห็นจะเป็นเสาสีทองซึ่งตั้งถี่มาก แล้วก็มีซากเสาไม้วางเรียงรายโดยรอบ มีข้าวของเครื่องใช้จำลองสมัยพระเจ้าบุเรงนอง ที่นี่ใช้เวลาไม่นานครับ 30 นาที ไม่ต้องถอดรองเท้านะจ๊ะ


ใกล้เวลาเพลแล้วรีบไป วัดไจ้คะวาย  เพื่อใส่บาตรวัดนี้เป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนาที่โด่งดังของพม่า พระที่มาเรียนที่นี่ต้องอยู่ประจำ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจึงนิยมนำเอาสมุด ดินสอ ปากกามาทำบุญใส่บาตร เอาจริงๆเค้าก่อใส่บาตรได้ถุงอย่างนะ แต่เราก่อเตรียมสมุด ปากามาอย่างละโหลและ เห็นมีคนตักบาตรไมโล โอวัลติน สบู่ แชมพู ผลไม้ คือเอาอะไรมาก่อได้ แต่!!!! พระจะรับไม่ได้รับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะเพราะถ้าไม่รับพระก่อจะปิดบาตรไว้ พระที่นี่เค้ารับเงินด้วยนะค่ะ ใส่บาตรด้วยเงินจ๊าดก่อได้ หรือจะถวายเป็นข้าวสาวเป็นกระสอบก่อได้ติดต่อไกด์อีกทีจ๊ะ


อาหารกลางวันมื้อแรกที่เมืองหงสาวดี ชื่อร้าน Kyaw Swa Restaurant เป็นอาหารไทยค่ะ ร้านนี้มีไวไฟในระดับอัพรูปได้ แต่เล่นๆไปฟีดเฟสบุ๊คไม่ขยับ


หลังจากอิ่มแล้วตอนบ่ายก็ไปสักการะพระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว คนไทยเรียกกันว่า “พระนอนยิ้มหวาน” เป็นพระนอนองค์ใหญ่ดีทีเดียว องค์พระนอนหนุนกล่องเงินขาเกยกันไม่เสมอกันเหมือนบ้านเรา ตามตำนานว่ากันว่าเป็นท่านอนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่นี่เราไม่เสียเงินค่ากล้องค่ะ ไหว้พระขอพรเสร็จแล้วก็อย่าลืมชอปปิ้งกันค่ะ ข้างล่างลานพระมีที่ซื้อของได้ชื่อว่าเป็นของดีราคาถูก เป็นพวกงานไม้แกะสลัก งานฝีมือชาวบ้าน ผ้าถุง โสร่ง รองเท้าแตะคีบ ก็มีเกือบทุกอย่าง อยากจะต่อรองราคาพาไกด์ไปด้วยได้เลย


ต่อจากนี้เป้าหมายต่อไปคือ พระธาตุอินแขวน นั่งบนรถเพื่อไปรัฐมอญประมาณ 3 ชม.นิด ๆ ระหว่างทางจะแวะพัก 1 จุดพอเข้าห้องน้ำได้อยู่ค่ะ ระหว่างทางไกด์ก่อจะอธิบายประวัติความเป็นมาของพระธาตุอินแขวน วิธีปฏิบัติการเคารพ นัดแนะชี้แจงจุดรวมพลต่างๆ จนมาถึงจุดเปลี่ยนถ่ายรถที่จะขึ้นไปบนพระธาตุ เป็นรถบรรทุก6ล้อ ครับ คนไทยเรียกกันว่ารถขนหมู รูปที่เห็นคือการขึ้นนั่งอย่างมีระเบียบของคนไทยและรถที่ทัวร์จัดให้ แต่!!!!หากคุณมาแบ๊คแพ๊คคนเดียวจะต้องไปแย่งชิงที่นั่งกับคนในพื้นที่ถึงขั้นโสร่งบินข้ามหัวกันเลยทีเดียว สัมภาระที่ซื้อเพิ่มเติมสามารถทิ้งไว้บนรถโค้ชได้มีคนเฝ้ารถดูแลตลอด ในส่วนของกระเป๋า รองเท้า มีคนรับจ้างแบกให้นะค่ะ จะได้ไม่เหนื่อยและหนัก อีกอย่างก็เป็นการทำบุญด้วย ค่าแบกกระเป๋ารู้สึกจะเที่ยวละ 2000จ๊าด  ส่วนรองเท้า 500 จ๊า ขณะเดินทางอากาศดี้ดี ลมเย็น เอาใจช่วยคนขับขับรถขึ้นดอยเป็นระยะทาง 8 กม. ปลอดภัยค่ะ ไม่เคยมีการชนกันมากก่อน บรรยากาศคล้ายรถขึ้นเขาคิชกุฏ ส่วนที่นั่งไม่มีเรคคอมเม้นค่ะนั่งตรงไหนก่อรับลมเหมือนกันหมด


ถึงจุดรถจอดต้องเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร ข้างทางมีข้าวของขายข้างทาง ผลไม้ก็มี แว่นกันแดดก็มีเยอะแยะ


เดินไปเรื่อยๆ จะเดินมานิดถึงจุด Checkpoint ครับ เป็นที่ซื้อตั๋วขึ้นชมพระธาตุ จะได้ตั๋วพร้อมป้ายห้อยคอ (ไกด์และทัวร์เป็นคนจัดการ) เริ่มจากซุ่มสิงฆ์คู่แสดงว่าเข้าเขตสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว จะต้องเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธเพื่อเข้าสู่ด้านในครับ จุดนี้ต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า ถุงน่องออกหมดแล้วค่ะ





ก่อนขึ้นไปถึงองค์พระธาตุจะมีอาคารให้กราบไหว้บูชา 2 อาคาร ด้านขวาเป็นองค์พระธาตุจำลอง และรอยพระพุทธบาทจำลอง ส่วนทางด้านซ้ายเป็นอาคารที่มีรูปปั้นพระนางชเวนันจิน ซึ่งมีความเชื่อกันว่าใครเจ็บป่วยที่ส่วนไหนของร่างกายก็ให้จับ บีบ นวด ส่วนนั้นของรูปปั้นแล้วมาจับส่วนนั้นของร่างกายเราแล้วอธิษฐานก็จะหาย