พ่อแม่บ้าทำบุญทั้งๆที่บริหารการเงินผิดพลาดมาตลอด จะทำอย่างไรดี?

พ่อกับแม่ทำธุรกิจผิดพลาดหลายครั้ง จนต้องหยิบยืมญาติพี่น้องจนระอา แต่มิหนำซ้ำ พ่อกับแม่กลับเพลิดเพลินในการตระเวนทำบุญ ไปหลายๆวัด วัดชื่อดังแถวปทุมที่บ้านก็ชอบไป จนเสียเงินไปเยอะ วันๆวิ่งแต่จะทำบุญที่นั่น จะมากจะน้อยก็ดี ขอแค่ได้ไปทำ แต่ค่าน้ำมันรถล่ะ?? ไปกลับเท่าไหร่  

เพราะหวังจะให้ครอบครัวดีขึ้น (ที่สำคัญคือต้องการรวยขึ้นทันตาเห็น) แต่ไม่คิดที่จะหาเงินเพิ่ม ต่อให้แนะนำซักกี่ครั้งก็หาว่าอวดดี ถือดี ไม่เคารพ

จนไม่รู้จะทำอย่างไร พ่อกับแม่มีปัญหาทางการเงินถึงขนาดที่ว่า ป้า(พี่สาวของแม่)ต้องมาอุปถัมภ์เรา ส่งเสียเราเรียนตั้งแต่ม.ปลายจนถึงมหาลัย ทุกวันนี้เรามีเงินใช้ เพราะป้าส่งให้

แต่ทุกครั้งที่เป็นช่วงสิ้นเดือน เรามีเงินเหลือเก็บไม่มาก ก็ต้องเจียดให้พวกเขาไปทำบุญบ้าง เพราะพ่อกับแม่ชอบบังคับ ทวงบุญคุณ ไม่ก็เรียกร้องความสงสาร ขอความเห็นใจ ถ้าไม่ให้ก็กลายเป็นว่าเห็นแก่ตัว อกตัญญู บางทีพวกเขาก็มัวเอารถวิ่งไปทำงานที่ขาดทุนอยู่ตลอด ไม่ก็เดินสายทำบุญ ไหนจะค่ากินค่าอยู่ ค่าน้ำมันจนเงินไม่พอ ก็ต้องมาเดือดร้อนที่ป้ากับเราอยู่ตลอด

ขนาดเราจะผ่าตัดเร็วๆนี้ แม่ยังพยายามมาขอเงินที่เราเก็บไว้ผ่าตัดอีก

ชีวิตเราเหมือนมีพ่อแม่ที่มัวเมา ลุ่มหลงอะไรบางอย่าง ไม่ต่างจากคนติดการพนัน แต่พวกเขาก็เชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นเรื่องดี และคิดว่าจะรวยทันทีชาตินี้ เหมือนที่วัดชื่อดังแถวปทุมบอก ไม่ก็ตายไปแล้ว เขาต้องได้ผลประโยชน์จากการทำบุญ

แต่พ่อกับแม่ไม่นึกเลยว่าต้องมีซักกี่คนที่เดือดร้อน และทุกข์ใจกับการกระทำของพวกเขา ที่มาจากการบริหารเงินไม่เป็นและการทำบุญเกินตัว

แม่เป็นคนชักจูงที่บ้านให้ทำบุญอยู่เสมอ แต่ส่วนมากลูกๆจะถูกบังคับ จนเรารู้สึกอึดอัด เบื่อหน่าย รู้สึกว่าสำหรับเราหรือครอบครัวเรา ศาสนาไม่ช่วยอะไร ไม่สามารถแก้ปัญหาในชีวิต มีแต่จะเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องเงิน

ยิ่งทำบุญมาก หรือแม่ถือศีล แม่ก็จะคิดว่าแม่เหนือกว่าเรามากๆ ทั้งความเป็นผู้มีพระคุณ ผู้ให้กำเนิด ผู้ทรงศีล แม่จะคอยกดดันเราแบบนี้ตลอด ขนาดเราเอ็นติดสอบผ่านเข้ามหาลัยได้ แม่ยังบอกเลยเพราะแม่ทำบุญ อธิษฐานสวดมนต์ให้ เรากลายเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาทุกอย่าง ทั้งๆที่แม่เองก็ไม่ได้สนใจอะไรกับความรู้สึกเรามากนัก โตมาได้ แม่ก็เลี้ยงมาแต่ตัว ก็รู้ตลอดว่าส่วนดีของพ่อแม่ก็มี แต่บางอย่างทั้งหน้าที่ ความรับผิดชอบที่พ่อแม่ควรมี กลับแทบไม่มีเหลืออยู่เลย

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพ่อแม่ กลับทำให้เราผิดหวัง หมดหวัง หมดศรัทธาในตัวพวกเขา เราคิดมากอยู่ตลอด เพราะเรารู้ดีว่าปัญหาเหล่านี้เป็นปมในชีวิตเรา ที่ไม่สามารถลืมได้ ไหนจะต้องรับผิดชอบคนที่บ้านอีก ในวันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

แต่ที่รู้ๆคือ ตอนนี้พ่อกับแม่พึ่งพาตัวเองไม่ได้มานานแค่ไหนแล้ว พวกเขาปิดเรื่องนี้มาตลอด จนโตมาเราเพิ่งรับรุ้ว่ามีป้าคอยส่งเสียเลี้ยงดูที่บ้าน ยิ่งถึงวัยที่เราได้แยกออกมาเรียนมหาลัย อยู่หอ มีเงินเดือน ยิ่งทำให้เรารับผิดชอบตัวเอง รู้จักบริหารเงินโดยไม่รบกวนป้าเพิ่ม เราก็ยิ่งละอายใจ ที่พ่อแม่ไม่รู้จักการวางแผนการเงินโดยไม่ต้องพึ่งพาใครอีก

จริงๆแล้วที่เขียนเป็นปัญหาเพียงส่วนเดียวด้วยซ้ำที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่ปัญหาครอบครัวปัญหาชีวิตหลายๆเรื่องก็มาจากการบริหารการเงินที่ผิดพลาด รวมถึงการคลั่งศาสนา เข้าวัดมากจนหลงวัดหลงพระ คลั่งทำบุญ จนทำให้ปัญหาบานปลาย หมดเงินไปเป็นจำนวนมาก จนพี่สาวเราและเราเองก็รับรู้ และรู้สึกกดดันมาตลอดที่ต้องมาเจอ มาอยู่ในครอบครัวแบบนี้

ตอนนี้เราไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไงเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด ธุรกิจจะพังซักกี่ครั้ง หรือปัญหาทางบ้าน ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรใครกันแน่ เพราะพ่อก็บอกว่าแม่เป็นสาเหตุ ส่วนแม่ก็บอกว่าพ่อเป็นสาเหตุ แต่เราเห็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นหลายๆอย่างตั้งแต่เราเริ่มจำความได้ เราก็เริ่มรู้สึกว่าพอกันทั้งคู่แหละ เราได้แต่เปรียบเทียบกับคนอื่นว่า ทำไมคนที่เขาลำบากกว่านี้ ยังคิดจะส่งเสียเลี้ยงดูลูก ไม่คิดเอาเงินจากลูก ทำหน้าที่พ่อแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะเงินน้อย แต่ก็ไม่ได้ลำบากใครมากขนาดนี้

เรารู้สึกอึดอัดที่พ่อแม่เอาศาสนา มาเป็นหลักจนครอบครัวมีปัญหา ไหนจะมากดดันเรา อวดอ้างว่าเป็นผู้วิเศษ พอเราโตขึ้น ปฏิเสธที่จะเดินรอยตาม ก็ถูกมองว่าเป็นคนบาป ผิดปกติ โดนของบ้าง ผีเข้าบ้าง จนเราปวดหัว ร้องไห้เครียดจนอยากพบจิตแพทย์ คิดมากว่าทำไมต้องมาเจอปัญหาแบบนี้

เรื่องในอนาคตเราไม่รู้ว่าต่อไปเราจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าเรียนจบแล้วเราควรจะอยู่กับพวกเขา แต่เราก็ห่วงสุขภาพจิตของเราเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะทนได้ซักแค่ไหน หรือแยกออกมาดีแล้วส่งเงินไปให้พ่อกับแม่แทน ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยยังไงก็ต้องไปดูแล

หรือเราจะพาพวกเขาไปบวชดี ส่วนพี่สาวของเราที่เครียดป่วยทางจิตอยู่หรือกำลังเป็นอาการที่ที่บ้านเชื่อว่าโดนของอยู่ ถ้าเราเรียนจบ พ่อแม่แก่ตัวไปหรือไม่ได้อยู่แล้ว เราจะดูแลพี่สาวเรายังไงดี
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
เห็นใจ จขกท นะครับ จากที่เล่ามา ก็เหมือนน้ำท่วมปาก เเละทำอะไรไม่ได้เลย
จะเด็ดขาดก็ไม่ได้ เพราะยังไงก็ คือ พ่อเเม่ เเต่ถ้าจะปล่อยเลยตามเลยก็ไม่ได้อีก
เราเป็นลูกก็อยากให้มันดีกว่านี้ เห็น พ่อเเม่ ครอบครัวตกอยู่ในสภาพนี้ เราคนเป็นลูกที่ดี รักพ่อเเม่ มันก็ต้องคิดอยู่เเล้ว
เพราะมันถลำลึก เสียหาย เสียหน้า เสียความรู้สึก เสียความนับถือ เสียงิน เสียทอง อะไรต่างๆมากมาย

ทั้งจาก ครอบครัวตัวเอง พ่อเเม่ เเละคนรอบข้าง ไปมากเเล้ว เหตุการณ์ในกรณีนี้
ผมก็เคยผ่านนะ เเต่อาจจะไม่รุนเเรงเท่า จขกท ประมาณว่า พ่อเเม่ บริหารกิจการที่บ้านนี่เเหละ
เเกเคยทำมายังไงก็ทำยังงั้น ไม่เปลี่ยนเเปลง ไม่พัฒนา ไม่หาข้อมูล ไม่ปรับตัว ทำให้กิจการไปไม่รอด
เเต่ก็มีเหตุผลรอบข้างอีกหลายๆด้านเหมือนกันที่เกื้อหนุนให้ไปไม่รอด พูดอะไรเเนะนำอะไร

ท่านก็ไม่ค่อยฟัง ก็จะพูดว่าผ่านมาหมดเเล้ว จนสุดท้ายไปไม่รอด จนต้องเเยกกันอยู่ ท่านถึง
เห็นสัจจะธรรม ความคิดต่างๆก็เปลี่ยนไปเลย ฟังเรามากขึ้น ก็อยากเเนะนำ จขกท ว่าถ้าเรายังทำอะไรไม่ได้
ก็คงต้องปล่อย เเต่ถ้าเราจะปล่อยได้วางได้ในระดับหนึ่ง เราเองก็ต้องรู้ธรรมะบ้าง อย่างที่ คห ด้านบนบอกไว้
ก็ศึกษาให้พอรู้ เเละสามารถทำใจปล่อยวางได้ในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้ จขกท ดีขึ้นกว่านี้ เเละถ้าถึงเวลา

ที่พ่อเเม่จะเปลี่ยนความคิด หรือหันมาฟังเราก็ต้องรอให้มันเป็นไป เพราะจากที่ จขกท เล่ามา
ดูเเล้ว เรายังไม่มีความสามารถพอในทุกๆด้าน ที่จะทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ดีขึ้นได้เลย เเต่เราก็ต้องดูเเล
สอดส่องท่านไปด้วยเช่นกันนะครับเท่าที่เราจะทำได้ ไม่ใช่ปล่อยเเล้วก็ปล่อยเลย เพราะยังไง ก็พ่อเเม่เรา
ในเมื่อเรายังไม่ยังเรียนไม่จบ ฐานะยังไม่มั่นคงยังไม่มีเงินพอที่จะ ดูเเลท่านได้อย่างเต็มที่
มันก็ต้องเป็นไปเเบบนี้ก่อนล่ะครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ ขอให้โชคดีครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
ทำอะไรไม่ได้ค่ะ นอกจากทำใจ
พอเขาคิดว่าเขามีศีลเหนือกว่าแล้ว เราพูดอะไรไปเขาก็ไม่เชื่อ
ให้กำลังใจจขกท.นะคะ พยายามยืนให้ได้ด้วยขาตัวเอง

คนบางคนในนี้นี่แปลกนะ
อยากอยู่ในภพภูมิที่ดีในชาติหน้า แต่ชาตินี้ไม่มีกินก็ไม่เป็นไร

ปล.ไม่ได้พูดถึงคนที่รวยอยู่แล้วและแบ่งเงินทำบุญนะคะ
ความคิดเห็นที่ 8
ปัญหาคือถ้ารวยอยู่แล้ว และรู้จักทำบุญจะไม่ว่าเลย แต่นี่ลำบากอยู่น่าจะตั้งตัวให้ได้ก่อน จะได้ไม่ต้องพึ่งป้า ทำแต่พอประมาณครอบครัวไม่เดือดร้อน เราไม่เดือดร้อน ความรู้สึกแย่ๆ รวมถึงกระทู้นี้คงไม่เกิดขึ้นหรอกค่ะ   คือเราอึดอัดที่ครอบครัวเราต้องมาเป็นภาระคนอื่นให้ญาติดูถูก ไม่มีหน้ามีตาในสังคม เราไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมที่บ้านยังไม่เก็บเงินตั้งตัว ทำมาหากิน ถ้าอยู่ตัวแล้วจะไม่ว่าเลย ทำบุญทำได้อย่าให้ตัวเอง ครอบครัวญาติพี่น้องเดือดร้อนสิ เราไม่เข้าใจที่ว่าทำบุญกับพระคิดว่าได้บุญ แต่ไปขอคนอื่นมา คนอื่นลำบากเดือดร้อน ไม่เต็มใจให้ มันจะได้บุญตรงไหน ก็ได้แต่มาระบายในนี้หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่