ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมกับแฟนผมเป็นแบบชายรักชาย เรามีอายุห่างกันประมาณ 4-5 ปี
ผมเป็นอาจารย์สอนอยู่อาชีวะแห่งหนึ่ง ส่วนเค้าเป็นลูกศิษย์เราเจอกันครั้งแรกประมาณกลางปี 2555
ซึ่งเค้าเข้ามาช่วยทำให้ผมสามารถปล่อยวางจากแฟนเก่าของผมได้ หลังจากที่เคยคบกับแฟนเก่ามานาน 6 ปี ในตอนนั้น
เราเริ่มรู้จักกันในงานกิจกรรม เพราะเค้ามาเรียนในภาคพิเศษ วันอาทิตย์ และทำงานอยู่ในสถาบันที่ผมสอนอยู่
เราก็คุยกันและรู้สึกดีมาเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ว่าผมไม่สามารถตัดกับแฟนเก่าผมได้ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง จึงคุยกันในฐานะเพื่อนที่สนิทกัน
คอยให้คำปรึกษากัน แต่แฟนผมเค้าไม่ต้องการแบบนั้น จึงทำให้มีปัญหากันอยู่บ้าง (แต่ผมก็เข้าใจเค้านะ) ผมก็พยายามเลี่ยงออกมาให้มากที่สุด
เพื่อทำให้แฟนผมเค้าจะได้รู้สึกดีขึ้น ด้วยบ้านผมที่อยู่ไกลที่ทำงานผมเลยต้องออกมาอยู่หอ ซึ่งเป็นหอเดียวกันกับแฟนเก่าผม จึงทำให้แฟนผมรู้สึก
ไม่สบายใจ แต่ผมก็อยู่หอจนได้ ทีแรกผมก็อยากห่างๆกับแฟนผมเพราะรู้สึกว่ามันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ แต่สุดท้ายเราก็มาอยู่ที่หอด้วยกัน
เค้าเป็นคนดีมาก ช่วยเหลือผมทุกอย่างทั้งเรื่องเงิน และอื่นๆทุกครั้งที่ผมไม่สบายใจหรือมีปัญหา แต่ผมก็ทำให้แฟนผมเจ็บช้ำอยู่หลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นแหวน ทองหรือของที่แสดงถึงความรัก ผมกลับทำมันหายไปทั้งหมด จากความไม่ตั้งใจของผมเอง จนเราห่างกันออกไปสักพัก
เราคบกันเกือบครบ 4 ปีล่ะ
ตอนนี้แฟนผมจบจากอาชีวะนั้นแล้ว และเรียนต่อที่ ม. เอกชน แห่งหนึ่งจะจบแล้วเหมือนกัน (เค้าต่อที่ ม. 2 ปี ก็จบ) แน่นอนโลกมันกว้างขึ้น เค้าย่อมเจอคนใหม่ๆที่ดีกว่า เด็กกว่า น่ารักกว่า
หุ่นดีกว่า หลายๆอย่างคงดีกว่าผม (หลายคนคงรู้ว่าความรักแบบผม ส่วนใหญ่ก็ดูกันที่ตรงนี้) และผมก็เริ่มเห็นความผิดปกติของเค้าที่ขอยืมรถผมบ่อยๆ
และกลับดึก ทั้งที่บอกว่าไปไม่ไกลแต่น้ำมันและระยะทางมันฟ้องอยู่ จนจับได้ว่าเค้ามีคนอื่นซึ่งคอยไปรับส่งและไปเที่ยวกันบ่อยๆ ทั้งที่เค้าชอบบ่นกับผม
ว่าทำงานเหนื่อยอยากนอนพัก ไม่อยากไปไหน แต่กับคนนั้นเค้าทำทุกอย่างเลย เค้าคงชอบกันมากถึงกระทั่งคุยกันแบบเล้าโลม แอบถ่ายรูปกัน
โชว์หุ่นกัน และหลายๆอย่าง รวมถึงจูบและได้สัมผัสกัน และเค้าเตรียมวางแผนเพื่อจะตีห่างจากผมด้วยกันไปอยู่หอใหม่ และอาจไปอยู่ด้วยกัน
พอมจับได้ เค้าก็ขอโทษผม แต่ผมก็ทำใจไม่ได้หรอก ไม่มีทางลืมมันได้ เค้าขอโอกาส ด้วยความที่ผมรักมากผมก็ให้โอกาสเค้า แต่หลายๆอย่างมัน
ไม่เหมือนเดิม รหัสผ่านทุกอย่างที่เค้าเคยบอกผม เค้าเปลี่ยนหมด เค้าพยายามปิดบังผมทุกอย่างทั้งที่ไม่เคยทำ คำพูดของเค้าพูดให้ความชัดเจนไม่ได้
ทั้งที่เค้าเป็นคนชัดเจนกับผมมาก เหมือนเค้ากำลังหลงแสงสี หอที่เค้าจะย้ายไปอยู่เค้าก็ไม่อยากให้ผมไปอยู่ เค้าบอกว่าเราลองห่างๆกัน ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน
ทุกวันบ้าง ทั้งที่เมื่อก่อนเค้าห่างผมไม่ได้และทำให้ตอนนี้ผมห่างเค้าไม่ได้ แต่อยู่ๆกลับทำแบบนี้กับผม ผมขาดเค้าไม่ได้อีกอย่างความไว้ใจที่เคยมีมัน
หายไปแล้ว ขนาดอยู่ด้วยกันทุกวันเค้ายังคุยและแอบไปหาคนอื่นได้เลย แล้วนี่คืออะไร ไม่ได้อยยู่ด้วยกันทุกวัน มันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะหอที่เค้า
อยู่กับคนที่เค้าแอบคุยกันก็ไม่ห่างกัน จนวันที่เค้าไปอยู่หอเราก็ทะเลาะกันอีก ผมบอกว่าถ้าห่างกัน มันต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เราก็ควรห่างไปเลย
ดีกว่า อย่าเจอกันเลย เค้าก็ไม่ยอมและจะพยายามเพื่อจะมาหาผมให้ได้ แม้แต่ตอนย้ายของของเค้าแล้ว ผมขับรถออกมาถึงถนน เค้าก็ยังวิ่งตามรถผมออกมาเคาะกระจกเพื่อขอคุยและขอให้อยู่ต่อ ผมจะทำยังไงดี ผมตัดสินใจไม่ได้ เพราะแม้แต่คืนที่นอนหอคืนแรกผมเอาเสื้อผ้าและข้าวของมาด้วย เค้ายังบอก
ให้เอาแต่ชุดทำงานขึ้นไปชุดเดียวเลย เค้าได้แต่บอกให้ผมรอดู เค้าบอกมันจะดีขึ้น ผมไม่เข้าใจว่ามันจะดีขึ้นได้ยังไง แล้วทำไมเค้าต้องปิดบังและพยายามให้ผมห่างขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจ ชวนแนะนำผมที
จะมีความรักที่ยั่งยืนบ้างไหม สำหรับเกย์
ผมเป็นอาจารย์สอนอยู่อาชีวะแห่งหนึ่ง ส่วนเค้าเป็นลูกศิษย์เราเจอกันครั้งแรกประมาณกลางปี 2555
ซึ่งเค้าเข้ามาช่วยทำให้ผมสามารถปล่อยวางจากแฟนเก่าของผมได้ หลังจากที่เคยคบกับแฟนเก่ามานาน 6 ปี ในตอนนั้น
เราเริ่มรู้จักกันในงานกิจกรรม เพราะเค้ามาเรียนในภาคพิเศษ วันอาทิตย์ และทำงานอยู่ในสถาบันที่ผมสอนอยู่
เราก็คุยกันและรู้สึกดีมาเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ว่าผมไม่สามารถตัดกับแฟนเก่าผมได้ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง จึงคุยกันในฐานะเพื่อนที่สนิทกัน
คอยให้คำปรึกษากัน แต่แฟนผมเค้าไม่ต้องการแบบนั้น จึงทำให้มีปัญหากันอยู่บ้าง (แต่ผมก็เข้าใจเค้านะ) ผมก็พยายามเลี่ยงออกมาให้มากที่สุด
เพื่อทำให้แฟนผมเค้าจะได้รู้สึกดีขึ้น ด้วยบ้านผมที่อยู่ไกลที่ทำงานผมเลยต้องออกมาอยู่หอ ซึ่งเป็นหอเดียวกันกับแฟนเก่าผม จึงทำให้แฟนผมรู้สึก
ไม่สบายใจ แต่ผมก็อยู่หอจนได้ ทีแรกผมก็อยากห่างๆกับแฟนผมเพราะรู้สึกว่ามันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ แต่สุดท้ายเราก็มาอยู่ที่หอด้วยกัน
เค้าเป็นคนดีมาก ช่วยเหลือผมทุกอย่างทั้งเรื่องเงิน และอื่นๆทุกครั้งที่ผมไม่สบายใจหรือมีปัญหา แต่ผมก็ทำให้แฟนผมเจ็บช้ำอยู่หลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นแหวน ทองหรือของที่แสดงถึงความรัก ผมกลับทำมันหายไปทั้งหมด จากความไม่ตั้งใจของผมเอง จนเราห่างกันออกไปสักพัก
เราคบกันเกือบครบ 4 ปีล่ะ
ตอนนี้แฟนผมจบจากอาชีวะนั้นแล้ว และเรียนต่อที่ ม. เอกชน แห่งหนึ่งจะจบแล้วเหมือนกัน (เค้าต่อที่ ม. 2 ปี ก็จบ) แน่นอนโลกมันกว้างขึ้น เค้าย่อมเจอคนใหม่ๆที่ดีกว่า เด็กกว่า น่ารักกว่า
หุ่นดีกว่า หลายๆอย่างคงดีกว่าผม (หลายคนคงรู้ว่าความรักแบบผม ส่วนใหญ่ก็ดูกันที่ตรงนี้) และผมก็เริ่มเห็นความผิดปกติของเค้าที่ขอยืมรถผมบ่อยๆ
และกลับดึก ทั้งที่บอกว่าไปไม่ไกลแต่น้ำมันและระยะทางมันฟ้องอยู่ จนจับได้ว่าเค้ามีคนอื่นซึ่งคอยไปรับส่งและไปเที่ยวกันบ่อยๆ ทั้งที่เค้าชอบบ่นกับผม
ว่าทำงานเหนื่อยอยากนอนพัก ไม่อยากไปไหน แต่กับคนนั้นเค้าทำทุกอย่างเลย เค้าคงชอบกันมากถึงกระทั่งคุยกันแบบเล้าโลม แอบถ่ายรูปกัน
โชว์หุ่นกัน และหลายๆอย่าง รวมถึงจูบและได้สัมผัสกัน และเค้าเตรียมวางแผนเพื่อจะตีห่างจากผมด้วยกันไปอยู่หอใหม่ และอาจไปอยู่ด้วยกัน
พอมจับได้ เค้าก็ขอโทษผม แต่ผมก็ทำใจไม่ได้หรอก ไม่มีทางลืมมันได้ เค้าขอโอกาส ด้วยความที่ผมรักมากผมก็ให้โอกาสเค้า แต่หลายๆอย่างมัน
ไม่เหมือนเดิม รหัสผ่านทุกอย่างที่เค้าเคยบอกผม เค้าเปลี่ยนหมด เค้าพยายามปิดบังผมทุกอย่างทั้งที่ไม่เคยทำ คำพูดของเค้าพูดให้ความชัดเจนไม่ได้
ทั้งที่เค้าเป็นคนชัดเจนกับผมมาก เหมือนเค้ากำลังหลงแสงสี หอที่เค้าจะย้ายไปอยู่เค้าก็ไม่อยากให้ผมไปอยู่ เค้าบอกว่าเราลองห่างๆกัน ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน
ทุกวันบ้าง ทั้งที่เมื่อก่อนเค้าห่างผมไม่ได้และทำให้ตอนนี้ผมห่างเค้าไม่ได้ แต่อยู่ๆกลับทำแบบนี้กับผม ผมขาดเค้าไม่ได้อีกอย่างความไว้ใจที่เคยมีมัน
หายไปแล้ว ขนาดอยู่ด้วยกันทุกวันเค้ายังคุยและแอบไปหาคนอื่นได้เลย แล้วนี่คืออะไร ไม่ได้อยยู่ด้วยกันทุกวัน มันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะหอที่เค้า
อยู่กับคนที่เค้าแอบคุยกันก็ไม่ห่างกัน จนวันที่เค้าไปอยู่หอเราก็ทะเลาะกันอีก ผมบอกว่าถ้าห่างกัน มันต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เราก็ควรห่างไปเลย
ดีกว่า อย่าเจอกันเลย เค้าก็ไม่ยอมและจะพยายามเพื่อจะมาหาผมให้ได้ แม้แต่ตอนย้ายของของเค้าแล้ว ผมขับรถออกมาถึงถนน เค้าก็ยังวิ่งตามรถผมออกมาเคาะกระจกเพื่อขอคุยและขอให้อยู่ต่อ ผมจะทำยังไงดี ผมตัดสินใจไม่ได้ เพราะแม้แต่คืนที่นอนหอคืนแรกผมเอาเสื้อผ้าและข้าวของมาด้วย เค้ายังบอก
ให้เอาแต่ชุดทำงานขึ้นไปชุดเดียวเลย เค้าได้แต่บอกให้ผมรอดู เค้าบอกมันจะดีขึ้น ผมไม่เข้าใจว่ามันจะดีขึ้นได้ยังไง แล้วทำไมเค้าต้องปิดบังและพยายามให้ผมห่างขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจ ชวนแนะนำผมที