เจ๊ติ๋มโดนแล้ว งานนี้ ..จ่อเพิกถอนไลเซ่นส์ 'ไทยทีวี' ไล่ยึด1.6พันล้าน..

จ่อเพิกถอนไลเซ่นส์ 'ไทยทีวี' ไล่ยึด1.6พันล้าน


บอร์ด กสท. จ่อเพิกถอนใบอนุญาต "ไทยทีวี-โลก้า" เตรียมเรียกเก็บเงินค่าประมูลมูลค่า 1.6 พันล้าน จากแบงก์กรุงเทพ ผู้ค้ำประกัน

หลังจากบริษัทไทยทีวี จำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือไทยทีวีและเอ็มวีทีวีแฟมิลี่ (โลก้า) ไม่ชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวดที่ 2 ซึ่งถึงกำหนดในเดือนพ.ค.2558 โดยไทยทีวีได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) เพื่อขอเลิกประกอบกิจการและดำเนินการฟ้องคดี กสทช. ต่อศาลปกครอง ซึ่งมีการไกล่เกลี่ยให้เลื่อนชำระหนี้เงินค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวดที่ 2 ไปถึง 31 ต.ค.2558

ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดบริษัทไทยทีวี จำกัด ไม่นำเงินมาชำระค่าประมูลงวดที่ 2 ดังนั้น คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จึงมีมติให้สำนักงาน กสทช.ออกคำสั่ง “พักใช้ใบอนุญาต” ครั้งละ 30 วัน ไม่เกิน 3 ครั้ง รวม 90 วันซึ่งในระหว่างนี้ ไทยทีวีและเอ็มวีทีวี แฟมิลี่ ไม่สามารถออกอากาศได้ในทุกระบบ โดยคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตจะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 3 ก.พ.2559

นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการแทนรองเลขาธิการ สำนักงาน กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่าการประชุม บอร์ด กสท. วานนี้ (1 ก.พ.) สำนักงาน กสทช. ได้เสนอแนวทางการดำเนินงานกรณีบริษัทไทยทีวี จำกัด ที่ยังค้างการชำระเงินประมูลค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัลงวดที่ 2 และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี โดยกรณีที่ไทยทีวี ไม่นำเงินประมูลมาชำระภายในวันที่ 3 ก.พ.นี้ ซึ่งจะครบกำหนดการพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราว 90 วัน

สำนักงาน กสทช. เสนอให้ใช้มาตรการทางปกครองกับบริษัทไทยทีวี จำกัด ด้วยการออกคำสั่ง “เพิกถอนใบอนุญาต” ทีวีดิจิทัลทั้ง 2 ช่อง คือช่องไทยทีวีและเอ็มวีทีวี แฟมิลี่ ทั้งนี้ในกรณีถูกเพิกถอนใบอนุญาต ไทยทีวี จะต้องชำระเงินประมูลงวดที่เหลืออยู่ทั้งหมดพร้อมกันในครั้งเดียวรวมเป็นมูลค่า 1,634 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หลังจากได้รับคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต จากสำนักงาน กสทช.

อย่างไรก็ตามหลังมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตไทยทีวี กสทช. จะส่งหนังสือแจ้งไปยังธนาคารกรุงเทพ ในฐานะผู้ออกหนังสือค้ำประกัน (แบงก์การันตี) ให้กับบริษัทไทยทีวี จำกัด มาชำระเงินค่าประมูลงวดที่เหลือทั้งหมด โดยหลังผู้ค้ำประกันได้รับหนังสือแจ้งจะต้องนำเงินมาชำระภายใน 30 วัน หากธนาคารผู้ค้ำประกัน ไม่ชำระเงินตามหนังสือค้ำประกัน สำนักงาน กสทช.จะดำเนินการฟ้องคดีกับผู้ค้ำประกันต่อไป

“การประมูลทีวีดิจิทัล ได้วางกฎเกณฑ์ให้ผู้ชนะประมูลทุกรายวางหนังสือค้ำประกันและมีผู้ค้ำประกันทุกงวดตามมูลค่าการประมูลไว้แล้ว สำนักงาน กสทช. สามารถใช้มาตรการทางกฎหมายบังคับให้ผู้ค้ำประกันมาชำระเงินได้ หากผู้รับใบอนุญาตไม่จ่ายเงินค่าประมูล”

นายสมบัติ กล่าวเพิ่มเติมว่าเนื่องจากมีการพิจารณาแนวทางดำเนินงานกรณีไทยทีวี ในการประชุมบอร์ด กสท. เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งยังไม่ครบกำหนดการพักใช้ใบอนุญาตในวันที่ 3 ก.พ. 2559 ดังนั้นบอร์ด กสท.จึงมีความเห็นว่าเมื่อครบกำหนดในวันที่ 3 ก.พ. และไทยทีวี ไม่นำเงินมาชำระ ให้สำนักงาน กสทช. เสนอวาระให้บอร์ด กสท. ประชุมพิจารณาเพื่อออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตอีกครั้ง คาดว่าการออกคำสั่งจะอยู่ในช่วงหลังวันที่ 4 ก.พ. 2559

วานนี้ นายสุชาติ ชมกุล ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทไทยทีวี จำกัด เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ได้ยื่นหนังสือต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง ของ บอร์ดกสท. กรณีสั่งพักใบอนุญาตประกอบกิจการก่อนหน้านี้ พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสทช.ชดเชยความเสียหาย 1 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าเป็นมติไม่ชอบด้วยกฎหมายและเกิดความเสียหายจากการประกอบกิจการในช่วงที่ผ่านมา โดยไทยทีวียืนยันว่า ไม่ต้องการประกอบกิจการทีวีดิจิทัลทั้ง 2 ช่อง


http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/685195

......................................

คิดว่า ธนาคารกรุงเทพ จะยอมให้ยึด เงินง่ายๆ ภายใน 30 วันไหม หรือว่า ต้องคอยให้ กสทช ฟ้องจนศาลสั่ง เสียก่อน ถึงยอมจ่าย

ปรกติ กระบวนการเป็นอย่างไง

ผมว่า จริงๆแล้ว ธนาคารกรุงเทพ ควรจะต้องจ่ายนะ ส่วนเจ๊ติ๋ม แกจะร้องแย้ง ก็ควรต้องร้องต่อศาลให้คุ้มครอง เอง หรือเปล่า

เพราะไม่งัน ธนาคารกรุงเทพ เกิดไม่ยอมจ่าย จะอ้างเหตุผลอะไรละ ว่าเจ้าของทรัพย์ไม่ยอมเหรอ คงไม่ได้มัง ถ้างันไอ้ที่ยึดแบงค์การันตีกันนะ มีเจ้าของทรัพย์ไหนมันยอมกันบ้าง

กรณี นี้ ธนาคารกรุงเทพ ควรจะจ่ายตามกำหนด ถ้าเจ๊แก จะแย้ง ก็คงทำได้ทางเดียวคือ ขอให้ศาลคุ้มครอง หรือเปล่า

เพราะตามข่าว ออกมา กสทช บอกไว้อยู่แล้ว ว่าถ้า 30 วันไม่จ่าย กสทช ฟ้องผู้ค้ำประกัน คือ ธนาคารกรุงเทพ งานนี้จะจบอย่างไง อยากดูเหมือนกัน เห็นเงียบหายไปนาน จนลืมไปแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่