[CR] "บันทึกการเดินทาง "หลีแป๊ะ" เกาะสวรรค์ บนพื้นน้ำ ที่ยากจะบรรยายด้วยตัวอักษร รอให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง"

กระทู้รีวิว


สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การไปเที่ยว หลีแป๊ะ ผ่านเป็นตัวหนังสือ เพื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่ไม่เคยไป ไม่มากก็น้อย ว่าควรจะเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ระยะเวลา 5 วัน 4 คืน  27 ม.ค.59 - 31 ม.ค.59

อุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึกภาพ : Asus Zenfone 5 , Sjcam 5000x

เตรียมตัวก่อนเที่ยวเกาะ
สิ่งที่ต้องเตรียมไปนอกจากเครื่องใช้ส่วนตัวแล้วก็จะมี ครีมกันแดด , แว่นตาดำ , กระเป๋าถุงกระสอบปุ๋ยขนาดกลางๆ เอาไว้ใส่ของกิน , pocket money , และขาดไม่ได้เลย กล้อง action camera ถ่ายรูปใต้น้ำ ^^ ผมก็ซื้อใหม่ๆ เลย SJ5000x เพื่อ หลีแป๊ะ

บันทึกเดินทาง 27 ม.ค.59
- ออกเดินทางจาก สนามบิน ดอนเมือง 10.30 ==> สนามบิน หาดใหญ่ 11.55 แวะกิน บอนชอน ที่ อาคาร 2 ด้วย คนไม่มีเลย
- จาก สนามบิน หาดใหญ่ ส่วนตัวผม คืนนี้นอนพักเอาแรงที่ อ.หาดใหญ่ก่อนครับ เพราะจอง ตั๋วไป-กลับ แถมโรงแรม 1 คืนพักที่ "Get Guesthouse" ราคาตั๋วรวมที่พักตก 2,200 บ. ครับ ที่พักอยู่แถวตลาดกิมหยง สามารถเดินไปได้สะดวก พร้อมกับแวะกินอาหารเที่ยงที่ ร้านนายรู เป็นร้านที่อร่อยเหาะจริงๆ
จากสนามบินหาดใหญ่ ใช้บริการรถสองแถวสีฟ้า หลังคาสูงไปก็ได้นะครับราคา 30 บ. ระยะทางประมาณ 12 Km. หรือจะใช้บริการ Taxi ตรงประตูทางออกเดินข้ามถนนมาเลยครับจะมีอยู่ราคา 250 บ. เหมาๆ ถ้าเราไม่ได้โทรจองไว้ก่อน แต่ถ้าโทรจองไว้ จะได้ 200 บ. ^^
เน้นย้ำถ้าออกตรงประตูทางออกแล้วเลี้ยวซ้ายตรงนั้นก็มีเหมือนกันแต่แพงครับ 350 บ. ไม่เอาไม่ไป
- มาถึงที่พักเป็นที่พักเล็กๆ ^^ พี่เค้าก็ใจดี สอบถาม เส้นทาง แผนที่ หลายๆ อย่างก็อธิบายให้เราได้เข้าใจเป็นอย่างดี ^^ เพราะฉะนั้นหิวแล้วผมเลยเก็บของที่ห้องก่อนเลยครับ

- ต่อไปเก็บของแล้วเราก็ไปเดินเที่ยว ชิลล์ๆ รอบกิมหยงครับเพราะว่า วันแรกค้างที่นี่ ^^ ไม่ต้องรีบร้อนไปหาไรทานที่ร้าน "ในรู" ร้านอยู่ในรูจริงๆ

- ผมอยากจะบอกว่าให้ซื้อพวกของกินตั้งแต่ที่หาดใหญ่เลย สำหรับคนที่พัก หาดใหญ่ เพราะที่ผมเจอ คือ รถตู้ไปปากบารา มันเลทส์ มันจะไม่ทันขึ้นเรือ ไปเสียเวลาซื้อที่เซเว่นท่าเรือ ปากบาราอีก เสียเวลาครับ สำหรับคนที่มีเวลาพอ จัดการขนม น้ำสิ่งจะกินได้เลยเพราะถึงเวลาขึ้นรถตู้ไป ปากบารา ก็เก็บของไว้หลังรถตู้อยู่ดี สบายๆ สำหรับคนที่ลงเครื่องปุ๊บ ไปปากบารา ปั๊บ ก็ต้องไปจัดการตัวเองที่โน่น แล้วตอนแรกผมกะไปเที่ยวรอบหาดใหญ่เลยแต่เสียใจครับ วันผมไปฝนตกตลอดทั้งวัน เครียดไม่ได้ไปไหนเลย เดินกิมหยง กิน กลับ ห้องนอน


บันทึกเดินทาง 28 ม.ค.59
- รถตู้มารับที่พัก เดินทางไปรับคนตามที่พักต่างๆ แล้วก็เดินทางไป ท่าเรือปากบาราใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ที่มันช้า เพราะเค้ายัดกระเป๋าฝรั่งเข้าไว้ข้างหลังกระเป๋าแต่ละคนใหญ่ๆ ทั้งนั้นบางทีไปจอดที่จุดจอดช่วยคันอื่นยัดกระเป๋าอีก เมื่อรถตู้มาถึงท่าเรือ ปากบารา เราก็ไปหา Speedboat ที่เราจองไว้เลยครับว่าของบริษัทไหน ของผม "Ploysiam" ก็ไป Check in เค้าก็จะให้ติกเกอร์มาติดหน้าอก พร้อมกับติดสัมภาระด้วย แล้วก็ ตั๋วเรือ เดินทางกลับ กับ ตั๋วรถตู้ ขากลับเค้าก็จะให้มาเลยนะครับ สำหรับ "Ploysiam" เมื่อได้รับตั๋วมาแล้วต้องเอาไปแลก บัตรคิวที่ช่อง 4 ภายในอาคารด้วยนะครับ เข้าอาคารก็เสียเงินค่าใช้ท่าเรือไป  แล้วก็รอเค้าเรียกตามบัตรคิว ครับ เข้าห้องน้ำ ให้เรียบร้อย

- รอขึ้นเรือครับปกติเรือจะออก 11.30 น. สามารถบรรจุคนได้ 80 คน ^^ แล้วแต่จะเต็มไม่เต็มส่วนมากเต็ม Speedboat 3 เครื่องยนต์ จับจองที่นั่งครับ ^^ นั่งข้างคนขับเลยครับที่นั่งที่ผมคิดว่าดีที่สุด

- ใส่ชูชีพด้วยนะครับไม่ใส่โดนกระทืบแน่ แล้วเรือก็จะแล่นฝ่าคลื่นลมออกไป ^^ เกาะแรกที่มา คือ ตะรุเตา แต่ผมไม่ได้ลงเกาะนี้ เสียค่าเข้า 40 บ. จอดให้ลง 20 นาที -*- ผมมองดูละคนลงแล้วก็ขึ้น ตก 10 นาที กว่าจะลงกันครบ เดินเล่น 10 นาที ขึ้นเรือต่อ แล้วก็จะแล่นไปสู่ เกาะไข่ ครับ ^^ ผมว่าเกาะนี้สวยแต่ผมก็ไม่ลงอีกเหมือนกัน ^^

- สวยงามตามท้องเรื่อง น่าลงครับ เกาะนี้  20 นาทีเหมือนกัน แวะถ่ายรูปหลังจากนั้น เรือก็จะนำเรามุ่งสู่ หลีแป๊ะ

- แล้วเราก็จะถูกทิ้งไว้แบบนี้ครับ เดินไปชำระค่าขึ้นเกาะ กับค่าเรือหางยาว ครับสำหรับพวกมาเอง ^^ แต่ถ้าดีลกับรีสอร์ทแพง หรือมีคนมารับเค้าจะจัดการให้เราครับ เดินไปชำระ ค่าเรือ คนละ 50 บ. กับค่าขึ้นเกาะ แล้วพอได้บัตรมาแล้วรีบเดินถามเรือหางยาวที่ว่างๆ นะครับว่าเค้าไปหาดไหนแล้วก็ขึ้นได้เลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ- คืนแรกผมจองกับ "Ricci House Resort Lipe" ไว้ครับผ่าน Agoda ราคา 2,400 บ. เมื่อเดินขึ้นจากหาดทรายน้องเค้าถือป้ายว่า "Ricci" เลย ^^ น้องเค้าก็จะนำเราไปสู่ที่พัก






- จาก Ricci สามารถเดินไป ถนนคนเดินได้ เดินไปหาดได้ เหมือนอยู่จุดศูนย์กลางเลยครับ ^^ ตอนเย็นภารกิจของเราทุกวัน มันคือ การเดินไปถนนคนเดิน ไปทุกคืน จริงๆ -*-

- ส่วนมากก็มาดูพระอาทิตย์ตกที่หาดพัทยา

- หอยแคลงโลละ 300 บ. ร้านบังรูน ณ หาดพัทยา

- กุ้งซอสมะขาม จานละ 250 บ. ร้านบังรูน ณ หาดพัทยา

- จัดต่อด้วย โรตี ร้านมีนา 80 บ.

- จัดต่อด้วย ชา ร้านมีนา 50 บ.

บันทึกเดินทาง 29 ม.ค.59
- ตื่นเช้ามาจัดอาหารเช้าที่ "Ricci House Resort Lipe" ก่อนที่จะเปลี่ยนที่นอน

- เสร็จแล้วก็เตรียมตัวเก็บของย้ายไปที่พักแห่งใหม่ คือ "Kathalee Beach Resort & Spa" เป็น รีสอร์ท ที่ไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่ ผมได้ทำการจองในงาน ททท. ด้วยราคาห้อง ซีวิว + รถตู้รับ-ส่ง + เรือ speed boatรับ-ส่ง + อาหารเย็น 1 มื้อ + อาหารตามสั่ง 1 มื้อ สนนราคาที่จ่ายไป 10,980 บ. มัดจำในงาน ททท.ไป 1,000 บ. มาชำระที่พักส่วนที่เหลือ ณ วันเข้าพัก

- ชื่อรีสอร์ท "Kathalee Beach Resort & Spa" , "กทลี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา" ตั้งอยู่ที่หาดซันไรท์ พระอาทิตย์ตก

- ห้อง ซีวิว เบอร์ A8 อยู่ข้างล่างเป็นห้องที่ผมว่า วิว สวยสุดแล้ว

- ภาพจากหน้าห้อง A8

- ภาพภายในห้องของใช้ครบ มีไดเปาผม เหมือนๆ กันทุกที่ ใช้แอร์ได้ตลอดวัน

- ทีวีจอใหญ่ ^^ ได้ใช้แค่กลางคืนแหละ

- ตู้เย็นพร้อม

- หรือจะนอนดูหาดทรายก็ชิลล์ๆ

- ห้องน้ำกว้างใหญ่แยกเป็นส่วนแห้ง เปียก

- ถ่ายจาก Reception ของทางรีสอร์ท เจ๊ กัน กับเฮีย ปีเตอร์ ดูแลดีมาก ^^

- ถ่ายจาก บนรีสอร์ท

- หน้า รีสอร์ทเลยครับ ^^ ทรายนุ่มๆ น้ำใสๆ

- ^^ มีคนนอนอาบแดด ^^

- เพิ่งเปิดตัวคนไทยไม่ค่อยมี

- ฝากนางแบบสักรูป

- พาไปดำน้ำหน้าหาดครับ ^^ ดู นีโม่

- หอยเม่นก็มีนะครับ แต่จะอยู่นอกทุ่นที่เค้าทำเขตไว้ ในเขตปลอดภัยแน่นอน ^^

- ความอุดมสมบูรณ์ ของที่นี่

- ^^ พอดี คนว่ายน้ำ ก็ดูได้ น้ำ ตื้น มาก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ- คลิปดำน้ำหน้า "Kathalee Beach Resort & Spa" โดย Sjcam 5000x

- บน หลีแป๊ะ จะมีร้าน Buffet อยู่ 1 ร้านครับ ราคา 499 บ. + เซอวิสอีก 10 % (ยังไม่รวมน้ำ)

- เป็นอีก 1 ทางเลือกมื้อเย็นครับ สำหรับคนอยากกินแบบย่างๆ กุ้งเสือ หมึก ปลา
ชื่อสินค้า:   Get Guesthouse, Ricci House Resort Lipe, Kathalee Beach Resort & Spa
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่