แบงก์เข้มปล่อยกู้ ทรู-แจส จ่าย 4จี หวั่นซ้ำรอยทีวีดีจิตอลเจอจอดำ ครบ 90 วัน ยังเฉยจัดประมูลใหม่
มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
แบงก์ตรวจเข้มก่อนปล่อยเงินกู้อนุมัติแบงก์การันตีทรู-แจสจ่ายค่าประมูล 4จี หวั่นซ้ำรอยผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเจอปัญหาการเงินอย่างหนักจนจอดำ ชี้อุตฯโทรคมนาคมต้องลงทุนทั้งค่าใบอนุญาต โครงข่ายจำนวนมาก จนอาจทำธุรกิจไม่ได้ ด้าน กสทช.ให้เวลา 90 วัน ก่อนจัดประมูลใหม่ หรือให้สิทธิอันดับ 3 และ 4 แทน
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า จากกรณีการประมูล 4จี คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2558 แต่จนถึงขณะนี้ผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 ราย ได้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) และบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ยังไม่ได้เดินทางมาจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกจำนวน 8,040 ล้านบาท และหนังสือรับรองทางการเงิน (แบงก์การันตี) ในส่วนของเงินที่เหลือ เพื่อรับใบอนุญาตไปใช้งาน โดยกรณีดังกล่าวส่วนตัวยังไม่ได้รู้สึกเป็นกังวล ส่วนสาเหตุที่มีการดำเนินการตามเงื่อนไขล่าช้าเพราะเชื่อว่าสถาบันทางการเงินก็มีความเข้มงวดในการปล่อยกู้ แต่เชื่อว่าในท้ายที่สุดทุกอย่างจะเรียบร้อย
"ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 ราย จะทำตามเงื่อนไขได้อย่างแน่นอน อีกทั้งขณะนี้เองผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 ราย ก็ยังมีเวลาดำเนินการตามที่ กสทช.กำหนดคือ 90 วัน หลังรับรองผลการประมูลเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา" พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าว
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า ข้อกำหนดตามกติกาของ กสทช. หากเกิดกรณีผู้ชนะการประมูลไม่ชำระเงินค่าประมูลงวดแรกและมอบแบงก์การันตี ตามเวลาที่กำหนด ทาง กสทช.จะดำเนินการตัดสิทธิ จากนั้นจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมบอร์ด กทค. เพื่อลงความเห็นเลือกใน 2 แนวทาง ได้แก่ 1.จัดการประมูลใหม่ 2.ให้สิทธิผู้ที่ไม่ชนะการประมูลในอันดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับ ให้เลือกว่าจะยอมเสนอเงินจำนวนท้ายสุดที่ตนเองไม่ชนะการประมูลเพื่อรับอนุญาตไป หรือให้มีการประมูลใหม่ โดยกรณีที่มีการประมูลใหม่ไม่ว่าจะมาจากการลงความเห็นของ กทค.แต่ต้น หรือผู้ไม่ชนะการประมูลขอให้มีการประมูลใหม่ ทาง กสทช.ก็จะดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่ชนะการประมูลที่ไม่ทำตามเงื่อนไข เนื่องจากถือเป็นการทำให้รัฐเสียหาย
แหล่งข่าวจาก กสทช.กล่าวว่า กรณีที่ทรูและแจสยังไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขรับใบอนุญาต 4จี พบว่ามีสถาบันการเงินบางแห่งมาขอเอกสารแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ของ กสทช.บ้างแล้ว เช่น ช่วงเวลาไหนจะนำคลื่นความถี่มาประมูลอีก เพราะสถาบันการเงินจะต้องประชุมหารือว่าจะอนุมัติวงเงินกู้ในการประมูลครั้งต่อๆ ไปอย่างไรด้วย จึงเป็นเหตุที่ทำให้ทางสถาบันการเงินบางแห่งที่มีผู้เข้าประมูลไปขอแบงก์การันตีกำลังพิจารณาอย่างหนัก เพราะผู้ประกอบการบางรายมีกระแสเงินสดอยู่ในเกณฑ์ต่ำ บวกกับมีภาระหนี้สินคงค้างจำนวนมาก ประกอบกับในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการลงทุนจำนวนมากทั้งค่าประมูลใบอนุญาตและลงทุนโครงข่าย จึงอาจกลายเป็นต้นทุนที่ทำให้เอกชนไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมาสถาบันการเงินได้ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่พบว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาด้านการเงินอย่างหนักจนบางช่องไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 (หน้า 9)
แบงก์เข้มปล่อยกู้ ทรู-แจส จ่าย 4จี หวั่นซ้ำรอยทีวีดีจิตอลเจอจอดำ ครบ 90 วัน ยังเฉยจัดประมูลใหม่
แบงก์เข้มปล่อยกู้ ทรู-แจส จ่าย 4จี หวั่นซ้ำรอยทีวีดีจิตอลเจอจอดำ ครบ 90 วัน ยังเฉยจัดประมูลใหม่
มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
แบงก์ตรวจเข้มก่อนปล่อยเงินกู้อนุมัติแบงก์การันตีทรู-แจสจ่ายค่าประมูล 4จี หวั่นซ้ำรอยผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเจอปัญหาการเงินอย่างหนักจนจอดำ ชี้อุตฯโทรคมนาคมต้องลงทุนทั้งค่าใบอนุญาต โครงข่ายจำนวนมาก จนอาจทำธุรกิจไม่ได้ ด้าน กสทช.ให้เวลา 90 วัน ก่อนจัดประมูลใหม่ หรือให้สิทธิอันดับ 3 และ 4 แทน
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า จากกรณีการประมูล 4จี คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2558 แต่จนถึงขณะนี้ผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 ราย ได้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) และบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ยังไม่ได้เดินทางมาจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกจำนวน 8,040 ล้านบาท และหนังสือรับรองทางการเงิน (แบงก์การันตี) ในส่วนของเงินที่เหลือ เพื่อรับใบอนุญาตไปใช้งาน โดยกรณีดังกล่าวส่วนตัวยังไม่ได้รู้สึกเป็นกังวล ส่วนสาเหตุที่มีการดำเนินการตามเงื่อนไขล่าช้าเพราะเชื่อว่าสถาบันทางการเงินก็มีความเข้มงวดในการปล่อยกู้ แต่เชื่อว่าในท้ายที่สุดทุกอย่างจะเรียบร้อย
"ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 ราย จะทำตามเงื่อนไขได้อย่างแน่นอน อีกทั้งขณะนี้เองผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 ราย ก็ยังมีเวลาดำเนินการตามที่ กสทช.กำหนดคือ 90 วัน หลังรับรองผลการประมูลเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา" พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าว
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า ข้อกำหนดตามกติกาของ กสทช. หากเกิดกรณีผู้ชนะการประมูลไม่ชำระเงินค่าประมูลงวดแรกและมอบแบงก์การันตี ตามเวลาที่กำหนด ทาง กสทช.จะดำเนินการตัดสิทธิ จากนั้นจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมบอร์ด กทค. เพื่อลงความเห็นเลือกใน 2 แนวทาง ได้แก่ 1.จัดการประมูลใหม่ 2.ให้สิทธิผู้ที่ไม่ชนะการประมูลในอันดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับ ให้เลือกว่าจะยอมเสนอเงินจำนวนท้ายสุดที่ตนเองไม่ชนะการประมูลเพื่อรับอนุญาตไป หรือให้มีการประมูลใหม่ โดยกรณีที่มีการประมูลใหม่ไม่ว่าจะมาจากการลงความเห็นของ กทค.แต่ต้น หรือผู้ไม่ชนะการประมูลขอให้มีการประมูลใหม่ ทาง กสทช.ก็จะดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่ชนะการประมูลที่ไม่ทำตามเงื่อนไข เนื่องจากถือเป็นการทำให้รัฐเสียหาย
แหล่งข่าวจาก กสทช.กล่าวว่า กรณีที่ทรูและแจสยังไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขรับใบอนุญาต 4จี พบว่ามีสถาบันการเงินบางแห่งมาขอเอกสารแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ของ กสทช.บ้างแล้ว เช่น ช่วงเวลาไหนจะนำคลื่นความถี่มาประมูลอีก เพราะสถาบันการเงินจะต้องประชุมหารือว่าจะอนุมัติวงเงินกู้ในการประมูลครั้งต่อๆ ไปอย่างไรด้วย จึงเป็นเหตุที่ทำให้ทางสถาบันการเงินบางแห่งที่มีผู้เข้าประมูลไปขอแบงก์การันตีกำลังพิจารณาอย่างหนัก เพราะผู้ประกอบการบางรายมีกระแสเงินสดอยู่ในเกณฑ์ต่ำ บวกกับมีภาระหนี้สินคงค้างจำนวนมาก ประกอบกับในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการลงทุนจำนวนมากทั้งค่าประมูลใบอนุญาตและลงทุนโครงข่าย จึงอาจกลายเป็นต้นทุนที่ทำให้เอกชนไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมาสถาบันการเงินได้ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่พบว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาด้านการเงินอย่างหนักจนบางช่องไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 (หน้า 9)