สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้หมิ้นไม่ได้พาทุกคนมาแต่งหน้า
แต่จะมาแชร์วิธีการและขั้นตอนดูแลรักษาผิวหน้าหมิ้นในแต่ละวัน หรือ Skin Care Routine นั่นเอง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า สภาพผิวหน้าของเรานั้นเป็น ผิวมัน แพ้ง่ายค่ะ ไปเริ่มกันเลย
ขอเริ่มจาก Cleansing กันก่อนเลยนะคะ
- Bioderma H2O Cleansing Water ไบโอเดอม่า ถือเป็นคลีนซิ่งที่หมิ้นใช้บ่อยที่สุด เจ้าตัวนี้จะเป็นน้ำที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่น ล้างพวก Base Makeup ได้สะอาดหมดจดอย่างไม่ระคายเคือง ในเวลาที่รวดเร็ว หมิ้นจะใช้ตัวนี้ในวันที่แต่งหน้าหนักๆ
- Bifesta Acne Care Ceansing Lotion บีเฟสต้าตัวนี้ หมิ้นจะใช้สลับกับไบโอเดอม่าค่ะ เพราะกลัวไบโอเดอม่าหมดเร็ว 555+ เป็นคลีนซิ่งที่ค่อนข้างโอเค ในราคาที่ถูกลงมาจากไบโอเดอม่าค่ะ
- ในส่วนของ Point Makeup ใช้ตัวเดียวมาตลอดคือ Gentle Waterproof Eye Makeup Remover ลอรีอัลตัวนี้เป็นน้ำสีฟ้าที่เช็ด Point Makeup ได้อย่างไม่ระคายเคือง ในเวลาอันรวดเร็ว และราคาของมันก็ไม่แพงมาก เห็นขวดแบบนี้ใช้ได้นานมากจริงๆ ค่ะ
พอเราทำการคลีนซิ่งเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาหมิ้นก็จะไปล้างหน้า โดยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหมิ้นใช้สลับกันสองตัวแล้วแต่สภาพผิวหน้าในช่วงนั้นๆ
- ตัวแรกคือ AHA WASH CLEANSINGตัวนี้จะมีเม็ดบีด เม็ดสครับเล็กๆ หมิ้นจะใช้ในวันที่ไม่เป็นสิว หรือสิวหายแล้ว เพระเนื่องจากว่ามันมีเม็ดบีบ หรือเม็ดสครับเล็กๆ หมิ้นไม่ต้องการให้เม็ดสครับเหล่านี้ไปสร้างความรำคาญให้กับสิวค่ะ
- ส่วนในวันที่เป็นสิว หมิ้นจะใช้ ACNE AID อย่างที่ทราบกันว่าตัวนี้เป็นสบู่ล้างหน้า สำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ มันอ่อนโยนกับผิวหน้า ไม่ระคายเคือง ตัวนี้หมิ้นใช้มาตั้งแต่หมิ้นอยู่ ม.3
เมื่อเราทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ก่อนการบำรุงในขั้นตอนถัดไป หมิ้นจะใช้ Toner ก่อน
Toner ที่ใช้เป็นประจำ คือ “Clarifying Lotion 2 Twice a Day Exfoliator” เป็นโทนเนอร์สูตรสำหรับผิวมัน ตัวนี้จะมีแอลกลอฮอร์นะ ใครแพ้เราเสียใจด้วย แต่ว่าสำหรับหมิ้นกับโทนเนอร์ตัวนี้ เราค่อนข้างไปด้วยกันได้ดีค่ะ
หลังจากการลงโทนเนอร์ ในช่วงไหนที่หน้าเป็นสิว ทั้งบีบเอง หรือขึ้นมาเอง
หมิ้นก็จะใช้ “Smooth E Acne Hydrogel” เป็นยาแต้มสิวที่เห็นผลทันใจมากจริงๆ คือมันเห็นได้ชัดว่ามันยุบลง หรือช่วงไหนที่รู้ว่าสิวมันกำลังจะมาแล้ว เริ่มตุ่ยๆ ขึ้นมาแล้ว หมิ้นก็จะรีบโบกตัวนี้ไปก่อนเลย
ต่อมาเป็นเซรั่ม ที่ใช้อย่างสม่ำเสมอ ใช้แค่ตัวเดียวเพราะอยากทดสอบประสิทธิภาพ ใช้แบบรักมาก เลิ้บมาก
“SENA MARINE PLANKTON WATER SERUM ” ตัวนี้เป็นน้ำตบจากเกาหลี คือชื่อก็บอกแล้วว่ามีแพลงตอนถึง 8% ตอนแรกก็กลัวแพ้เพราะเราเป็นคนแพ้ง่าย ปรากฏว่าพอใช้แล้ว เราถูกกันค่ะ ผิวหน้าอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด
วิธีใช้ก็ง่ายมาก แค่เขย่าขวด แล้วเทลงบนฝ่ามือ 5 หยด จากนั้นก็ทำการวอร์ม และลงบนผิวโดยการแปะๆ ลงบนผิวหน้า
ประมาณ 30 วินาทีต่อมาเซรั่มตัวนี้ก็จะซึมเข้าผิว แบบไม่เหนียวเหนอะหนะ
เราสามารถทาครีมบำรุง และกันแดดตามได้เลย ไม่เหนอะเลยค่ะ ตัวนี้หมิ้นใช้ทั้ง เช้า- เย็น ใช้แบบบ้าคลั่ง มันช่วยในเรื่องของผิวขาดน้ำได้ดี ช่วงไหนถ้าหน้าไปโดนแดดแบบรุนแรง หรือผิวหน้าอ่อนแอมากๆ SENA MARINE จะช่วยฟื้นฟูให้แข็งแรง และกระจ่างใสในเวลาอันรวดเร็ว
ต่อมาเป็น Moisturizer
Smooth E CREAM
Smooth E ตัวนี้ส่วนมากหมิ้นใช้ในเวลากลางคืน เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น เป็นครีมบำรุงที่ดี ช่วยให้แผลทีเกิดจากการบีบสิวบนผิวหน้าเรา แห้งและหายเร็ว 555+ คือจริงๆ ก็ไม่ควรบีบ ถ้าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาตัวช่วย
ครีมกันแดดที่หมิ้นใช้ในช่วงที่ผ่านมาคือ Biore ในหลายๆ สูตร
คือเนื่องด้วยราคามันถูก และมันก็มีให้เลือกหลายสูตรเหลือเกิน เลยซื้อมาลองใช้ซะหมด ก็โอเคทุกสูตร แตกต่างในเรื่องของสี และกลิ่น อันนี้หมิ้นเริ่มซื้อใช้ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้วทีผ่านมา ก็จะเป็นช่วงหน้าฝน-หน้าหนาว แต่ซัมเมอร์ที่จะถึงเราคงต้องกลับไปลงทุนกับครีมกกันแดด la-roche posay ตัวนั้นเราก็ใช้จริงใช้จัง กันแดดดี หมิ้นใช้ตั้งแต่เอ๊าะๆ แม้คนอื่นว่าในเรื่องเหนียวเหนอะหนะ แต่เทียบกับประสิทธิภาพแล้วหมิ้นทนได้ค่ะ
เราเป็นคนชอบมาก์สหน้ามากค่ะ มีมาก์ส 2 ชนิดที่ใช้เป็นประจำ สลับกัน ตัวแรกเลย คือ
ORIGINS ตัวนี้จะเป็นมาก์สแบบโคลนทีมีเม็ดสครับ เวลาเราพอก เมื่อถึงเวลาทีกำหนด แล้ว ขณะที่เราล้าง เราจะรู้สึกเหมือนว่าเราได้สครับหน้าไปด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกกุหลาบ แอบรู้สึกเล็กๆ ว่าหน้ากระจ่างใสขึ้น
SENA MARINE
ชอบมาก์สหน้า และอยากมาก์สหน้าบ่อยๆ เราก็จะทำการ DIY ชีสมาก์สเองด้วย เซรั่มน้ำตบเกาหลี SENA ของเรานี่แหละค่ะ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ เราใช้เม็ดมาก์ส หาซื้อได้จาก DAISO มาแช่ใน SENA ที่เราเทออกมาประมาณ 4-5 หยด และนำมามาก์สทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ผิวหน้าเราก็จะได้รับความชุ่มชื้น กระจ่างใส แบบไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อชีสมาก์สเลยค่ะ
ทั้งหมดก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่หมิ้นใช้เป็นประจำทุกวัน ในการดูแลและรักษาผิวหน้า หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้ประโยชน์ใน หรือได้ไอเดียในการเลือกใช้สกินแคร์นะคะ เจอกันใหม่กระทู้หน้าวันนี้ไปแล้ว สวัสดีค่า ^^
[CR] REVIEW : สกินแคร์ที่ใช้เป็นประจำ สำหรับสาวผิวมัน แพ้ง่าย + D.I.Y ชีสมาก์ส | kaminnotsoplain
แต่จะมาแชร์วิธีการและขั้นตอนดูแลรักษาผิวหน้าหมิ้นในแต่ละวัน หรือ Skin Care Routine นั่นเอง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า สภาพผิวหน้าของเรานั้นเป็น ผิวมัน แพ้ง่ายค่ะ ไปเริ่มกันเลย
- Bioderma H2O Cleansing Water ไบโอเดอม่า ถือเป็นคลีนซิ่งที่หมิ้นใช้บ่อยที่สุด เจ้าตัวนี้จะเป็นน้ำที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่น ล้างพวก Base Makeup ได้สะอาดหมดจดอย่างไม่ระคายเคือง ในเวลาที่รวดเร็ว หมิ้นจะใช้ตัวนี้ในวันที่แต่งหน้าหนักๆ
- Bifesta Acne Care Ceansing Lotion บีเฟสต้าตัวนี้ หมิ้นจะใช้สลับกับไบโอเดอม่าค่ะ เพราะกลัวไบโอเดอม่าหมดเร็ว 555+ เป็นคลีนซิ่งที่ค่อนข้างโอเค ในราคาที่ถูกลงมาจากไบโอเดอม่าค่ะ
- ในส่วนของ Point Makeup ใช้ตัวเดียวมาตลอดคือ Gentle Waterproof Eye Makeup Remover ลอรีอัลตัวนี้เป็นน้ำสีฟ้าที่เช็ด Point Makeup ได้อย่างไม่ระคายเคือง ในเวลาอันรวดเร็ว และราคาของมันก็ไม่แพงมาก เห็นขวดแบบนี้ใช้ได้นานมากจริงๆ ค่ะ
- ตัวแรกคือ AHA WASH CLEANSINGตัวนี้จะมีเม็ดบีด เม็ดสครับเล็กๆ หมิ้นจะใช้ในวันที่ไม่เป็นสิว หรือสิวหายแล้ว เพระเนื่องจากว่ามันมีเม็ดบีบ หรือเม็ดสครับเล็กๆ หมิ้นไม่ต้องการให้เม็ดสครับเหล่านี้ไปสร้างความรำคาญให้กับสิวค่ะ
- ส่วนในวันที่เป็นสิว หมิ้นจะใช้ ACNE AID อย่างที่ทราบกันว่าตัวนี้เป็นสบู่ล้างหน้า สำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ มันอ่อนโยนกับผิวหน้า ไม่ระคายเคือง ตัวนี้หมิ้นใช้มาตั้งแต่หมิ้นอยู่ ม.3
Toner ที่ใช้เป็นประจำ คือ “Clarifying Lotion 2 Twice a Day Exfoliator” เป็นโทนเนอร์สูตรสำหรับผิวมัน ตัวนี้จะมีแอลกลอฮอร์นะ ใครแพ้เราเสียใจด้วย แต่ว่าสำหรับหมิ้นกับโทนเนอร์ตัวนี้ เราค่อนข้างไปด้วยกันได้ดีค่ะ
หมิ้นก็จะใช้ “Smooth E Acne Hydrogel” เป็นยาแต้มสิวที่เห็นผลทันใจมากจริงๆ คือมันเห็นได้ชัดว่ามันยุบลง หรือช่วงไหนที่รู้ว่าสิวมันกำลังจะมาแล้ว เริ่มตุ่ยๆ ขึ้นมาแล้ว หมิ้นก็จะรีบโบกตัวนี้ไปก่อนเลย
“SENA MARINE PLANKTON WATER SERUM ” ตัวนี้เป็นน้ำตบจากเกาหลี คือชื่อก็บอกแล้วว่ามีแพลงตอนถึง 8% ตอนแรกก็กลัวแพ้เพราะเราเป็นคนแพ้ง่าย ปรากฏว่าพอใช้แล้ว เราถูกกันค่ะ ผิวหน้าอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด
วิธีใช้ก็ง่ายมาก แค่เขย่าขวด แล้วเทลงบนฝ่ามือ 5 หยด จากนั้นก็ทำการวอร์ม และลงบนผิวโดยการแปะๆ ลงบนผิวหน้า
ประมาณ 30 วินาทีต่อมาเซรั่มตัวนี้ก็จะซึมเข้าผิว แบบไม่เหนียวเหนอะหนะ
เราสามารถทาครีมบำรุง และกันแดดตามได้เลย ไม่เหนอะเลยค่ะ ตัวนี้หมิ้นใช้ทั้ง เช้า- เย็น ใช้แบบบ้าคลั่ง มันช่วยในเรื่องของผิวขาดน้ำได้ดี ช่วงไหนถ้าหน้าไปโดนแดดแบบรุนแรง หรือผิวหน้าอ่อนแอมากๆ SENA MARINE จะช่วยฟื้นฟูให้แข็งแรง และกระจ่างใสในเวลาอันรวดเร็ว
Smooth E ตัวนี้ส่วนมากหมิ้นใช้ในเวลากลางคืน เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น เป็นครีมบำรุงที่ดี ช่วยให้แผลทีเกิดจากการบีบสิวบนผิวหน้าเรา แห้งและหายเร็ว 555+ คือจริงๆ ก็ไม่ควรบีบ ถ้าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาตัวช่วย
คือเนื่องด้วยราคามันถูก และมันก็มีให้เลือกหลายสูตรเหลือเกิน เลยซื้อมาลองใช้ซะหมด ก็โอเคทุกสูตร แตกต่างในเรื่องของสี และกลิ่น อันนี้หมิ้นเริ่มซื้อใช้ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้วทีผ่านมา ก็จะเป็นช่วงหน้าฝน-หน้าหนาว แต่ซัมเมอร์ที่จะถึงเราคงต้องกลับไปลงทุนกับครีมกกันแดด la-roche posay ตัวนั้นเราก็ใช้จริงใช้จัง กันแดดดี หมิ้นใช้ตั้งแต่เอ๊าะๆ แม้คนอื่นว่าในเรื่องเหนียวเหนอะหนะ แต่เทียบกับประสิทธิภาพแล้วหมิ้นทนได้ค่ะ
ORIGINS ตัวนี้จะเป็นมาก์สแบบโคลนทีมีเม็ดสครับ เวลาเราพอก เมื่อถึงเวลาทีกำหนด แล้ว ขณะที่เราล้าง เราจะรู้สึกเหมือนว่าเราได้สครับหน้าไปด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกกุหลาบ แอบรู้สึกเล็กๆ ว่าหน้ากระจ่างใสขึ้น
ชอบมาก์สหน้า และอยากมาก์สหน้าบ่อยๆ เราก็จะทำการ DIY ชีสมาก์สเองด้วย เซรั่มน้ำตบเกาหลี SENA ของเรานี่แหละค่ะ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ เราใช้เม็ดมาก์ส หาซื้อได้จาก DAISO มาแช่ใน SENA ที่เราเทออกมาประมาณ 4-5 หยด และนำมามาก์สทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ผิวหน้าเราก็จะได้รับความชุ่มชื้น กระจ่างใส แบบไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อชีสมาก์สเลยค่ะ