สวัสดีครับ บทความนี้ เป็นการรีวิว การใช้งานรถจักรยานยนต์ Yamaha MT-03
ตามประสบการณ์ใช้งานจริง 1,000 กม. แรก มาแบ่งปันประสบการณ์ ให้กับผู้สนใจ และเป็นแนวทางให้พิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อครับ
ก่อนอื่น ขอแจ้งให้ทราบดังนี้
****
1.การทดสอบนี้ เป็นการทดสอบการใช้รถ ในชีวิตประจำวัน ( ซึ่งตัวเอง ใช้รถคันนี้ ประมาณ 90 % ทั้งไปทำงาน เที่ยว กินข้าว ไปตลาด ฯลฯ เนื่องจากเป็นยานพาหนะ ติดตัวเพียงคันเดียว อีก 10 % ใช้รถคนอื่นหรือรถยนต์ )
2. การขับขี่ ที่รีวิว ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 100 กม./ชั่วโมง ( เนื่องจากอยู่ในช่วงรันอิน )
3. ถนนหนทางที่ใช้งาน เป็นทางลาดยางซะเป็นส่วนมาก และใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก (การจราจรหนาแน่นปานกลาง ไม่แน่มากเท่ากทม. ออกนอกเมืองบ้างเป็นบางครั้ง (การจราจรเบาบาง)
4.การทดสอบใช้งานไม่ได้อิงผลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ใช้ความรู้สึกส่วนตัว กับ การอ่านค่าบางอย่างที่ สามารถดูบนหน้าจอของรถได้ ไม่ถือเป็นผลการทดสอบที่นำไปใช้อ้างอิงได้
***
รีวิว
รูปลักษณ์ภายนอกและท่านั่งขับขี่
Yamaha MT-03 ตัวนี้ เป็นรถทรง Naked 321 CC สองสูบ มีรูปทรงไม่สูงมาก คนสูงประมาณ 160 กลางๆ อย่างผม สามารถนั่งขี่ได้ โดยเมื่อรถตั้งตรงแล้ว สามารถที่จะวางเท้าทั้งสองข้างลงบนพื้นได้เต็ม น้ำหนักค่อนข้างเบา เมื่อเทียบกับคู่แข่ง อย่าง Kawasaki Z300
ด้านรูปลักษณ์ภายนอก ต้องบอกว่า รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ "ถ่ายรูปไม่ขึ้น" ถ้าดูจากรูปและแคตตาล็อก ไม่ค่อยสวยอย่างแรง
ส่วนตัวจริงนั้นจะดู สวยกว่า บึกบึน และใหญ่ กว่าในรูป พอสมควร ส่วนจุดด้อยของรุ่นนี้ ในสายตาก็คงจะเป็น ส่วนหน้าและบริเวณไฟหน้า
ซึ่ง ไม่ค่อยโดนใจเท่าไร โดยรวมแล้ว Yamaha MT-03 ตัวจริง "สวยกว่า" ในรูป ครับ ใครสนใจ ลองไปดูตัวจริงก่อนตัดสินใจ
ส่วนท่านั่งขับขี่ ระหว่างขับขี่ นั้น ผู้ขับขี่จะหลังเกือบตรง ขี่ระยะทางไกลๆ จะไม่ค่อยปวดหลังเท่าไรนัก นั่งค่อนข้างสบาย เบาะใหญ่พอสมควร จับแฮนด์แล้ว แขนไม่ตึงมาก (เทียบคันเดิมเป็น CBR 150 คาร์บู เทียบแล้ว ตัว CBR จะเมื่อยหลังกว่า)
สำหรับคนซ้อน
ด้วยเบาะคนซ้อน สไตล์รถแบบนี้ จะค่อนข้างสูง คนซ้อนจำเป็นจะต้องขึ้นซ้อนโดยเกาะไหล่ คนขี่ ขึ้นไป ตามสไตล์การขึ้นซ้อนรถที่มีรูปทรงใหญ่กว่ารถทั่วไปเล็กน้อย เบาะคนซ้อนตรงกลางจะเป็นสันนูนขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้การนั่งซ้อน จำเป็นต้องนั่งควบเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ครับ
ส่วนเรื่องความนั่งสบายบนเบาะคนซ้อน สอบถามคนซ้อน ที่เคยซ้อน CBR 150 คาร์บู บอกว่า " MT-03 นั่งสบายกว่า แต่ขึ้นยากไปหน่อย"
การขับขี่
เนื่องจากอยู่ในช่วงรันอิน จึงขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ส่วนใหญ่ นั้นขับขี่บนถนนในเมืองเป็นหลัก
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีอัตราเร่งค่อนข้างดี ค่อนข้างพุ่ง โดยเฉพาะ รอบ 5 พันขึ้นไป จะพุ่งเป็นพิเศษ ( ไม่ได้ลองที่รอบสูงเกิน 7500 )
ส่วนไฟหน้ารถ การขับขี่ในเวลากลางคืน ค่อนข้างสว่าง ตัวรถเวลานั่งขับขี่ค่อนข้างจะสูงกว่ารถทรงสปอร์ต ทำให้การขับขี่ในเวลากลางคืน ในทางที่เป็นจุดขึ้นเนิน ลงเนิน ไม่ค่อยถูกไฟสูงหน้ารถ ส่องตรงๆ มาที่ตา มากนัก
ความสูงของแฮนด์รถ จะสูงกว่ารถแนวครอบครัว เช่น เวฟ อยู่เล็กน้อย และกว้างกว่านิดนึง การขับขี่ในลักษณะ "มุด" ทำได้ใกล้เคียงกับรถครอบครัวทั่วไป แต่ยังไม่มุดเก่งเท่า CBR 150 ตัวคาร์บู ส่วนการขับขี่ในลักษณะ เลี้ยวผ่านหน้ารถยนต์ ในช่องแคบๆ ซ้าย ขวา กรณีรถติด ต้องยอมรับว่า ด้วยขนาดรถที่กว้างและยาวกว่ารถเล็กๆ อาจทำได้ไม่คล่องมากนัก แต่ก็เชื่อว่า คล่องกว่ารถพิกัด 300 CC บางตัว ที่มีขนาดบอดี้ใหญ่กว่า เช่น TNT300
ถือได้ว่า MT-03 เป็นรถที่ขับขี่บนท้องถนนในเมือง ที่มีการจราจรติดขัด และต้องขับขี่ผ่านช่องแคบ ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการขับขี่ถนนโล่งๆ ไกลๆ ด้วยท่านั่งที่ไม่ก้มมาก ทำให้นั่งขับขี่ไกลๆ ได้ดีพอสมควร แต่คงไม่สบายเท่ากับรถแนวทั่วริ่ง โดยเฉพาะ ที่ความเร็วสูง จะถูกลมโต้มาก
การขับขี่บนสภาพพื้นผิวที่เปียก
เนื่องจากช่วงหนึ่งสภาพอากาศบ้านเรา มีฝนตกเกือบทั้งวัน จึงได้ทดลองขี่บนถนนที่เปียกน้ำ ซึ่งเพื่อนๆ ในคลับ ได้บอกว่า รถรุ่นนี้ ที่มียางติดรถ คือยาง
มิชาลิน ไพลอต สตรีท เป็นยางที่ค่อนข้างลื่น แต่โดยส่วนตัวแล้ว ทดสอบขับขี่บนถนนที่เปียกน้ำ และเข้าโค้งเล็กๆ ด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กม./ชม. ยังสามารถควบคุมการขับขี่ การเลี้ยว ได้ตามปกติ ไม่รู้สึกว่าลื่นเกินไป ครับ
การสิ้นเปลืองน้ำมัน ทดลองกับตัวเอง โดยดูจากมาตรวัดบนหน้าจอ ของรถ ได้ประมาณ 26-27 กม./ลิตร โดยได้ทดสอบ เติม น้ำมัน 91 (E10) กับ E20
ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมาก ( สมาชิกในคลับ บอกว่า เติม 95 จะมีอัตราเร่งดีกว่าเดิม )
การใช้งานทั่วไป/อื่นๆ
เนื่องด้วยการออกแบบถังน้ำมัน เป็นวัสดุ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับกระเป๋าติดถังน้ำมัน ที่ใช้หลักการของแม่เหล็กดูดติดเอาไว้
ใครมีกระเป๋าแม่เหล็กติดถังน้ำมัน เอามาใช้กับถังน้ำมัน รถรุ่นนี้ ไม่ได้เลยครับ
ส่วนช่องเก็บของท้ายรถ มีขนาดเล็กมาก (เล็กยิ่งกว่า CBR 150 คาร์บู) ไม่สามารถใส่ได้แม้กระทั่ง สายล็อคเก็บหมวกกันน็อค จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเก็บ "เสื้อกันฝน" สำหรับท่านที่ขับขี่หน้าฝน คงต้องหากระเป๋าเป้ มาใส่ต่างหาก หรือไม่ก็ ติดกล่องท้าย เข้าไปเลย
การเปิด-ปิด ฝาท้าย ต้องทำความคุ้นเคยซักระยะ เพราะต้องใช้หลักการสไลด์ เข้าออก และยกขึ้น ค่อนข้างยากเหมือนกัน
โดยเฉพาะตอนที่จะเก็บหมวกใส่ใต้เบาะ ใส่ค่อนข้างจะยาก จุดแขวนหมวกจะอยู่ด้านเบาะที่ถอดออก
การห้อยถุงในการใช้งานทั่วไป เช่นไปตลาด หรือ ซื้อของ 7-11 สามารถห้อยของได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่แขวนถุงที่มีขนาดยาวเกินไปเพราะจะชน
กับหม้อน้ำแถวๆด้านหน้ารถที่มีความร้อน ต้องระวังเป็นพิเศษ ครับ
ส่วนการล็อคเก็บหมวกกันน็อค กับสายล็อค ต้องใช้ล็อคกับบาร์ด้านหน้ารถ เนื่องจากด้านหลัง ที่จับเป็นแบบแยกซ้ายขวา ไม่สามารถใช้ล็อคได้
การเข้าศูนย์บริการ 1 พันกิโลเมตรแรก
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องของ Yamaha 2 กระป๋อง แหวนรอง และเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง หมดเงินไปประมาณ 6 ร้อยกว่าบาท
เรื่องปัญหาลูกปืนครัชแตกง่าย
ในการใช้งานเบื้องต้นนี้ ยังไม่พบปัญหาการใช้งาน แต่ได้มีการสอบถามไปกับศูนย์บริการ ในการเช็ค 1พันกม.แรก ทางศูนย์บริการแจ้งว่า หากยังไม่พบอาการ ก็ยังไม่เปลี่ยนให้ ( งง ? จะต้องให้เรียกรถมาลากก่อนถึงจะเปลี่ยน ? ) ตอนนี้ก็ยังลุ้นๆกับปัญหานี้เหมือนกัน ทาง Yamaha ก็ยังคงเงียบๆ
สรุป
Yamah MT-03 เป็นรถแนว Naked ที่มีการตอบสนองการใช้งาน ในเมือง และขับขี่ออกนอกเมืองได้ค่อนข้างดี มีอัตราเร่งที่โดดเด่น
น้ำหนักค่อนข้างเบา (เมื่อเทียบกับคลาสเดียวกัน) ท่านั่งขับขี่ สบาย ส่วนเรื่องรูปลักษณ์ คงต้องให้ไปดูตัวจริงก่อนตัดสินใจ ( อย่าเพิ่งตัดสินใจจากรูปที่เห็น ) ขับขี่ไปจอดอาจโดนทักว่าเป็น M-Slaz ต้องทำใจหน่อย ( เคยเจอทักเป็น R3 เล่นเอาอึ้งไปเลย )
หากผู้ใช้งานต้องการบรรทุกของ ควรมีการติดกล่องเพิ่ม เนื่องจากการออกแบบตัวรถ ไม่เอื้ออำนวยกับการบรรทุกของ แม้แต่กล่องใต้เบาะ ก็แทบใส่อะไรไม่ได้เลย ถังน้ำมันก็ใช้งานร่วมกับกระเป๋าแม่เหล็กไม่ได้อีก การติดกล่องท้ายรถ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
เรื่องปัญหา ลูกปืนครัชแตกง่าย แม้โดยส่วนตัวจะยังไม่พบปัญหานี้ แต่คนในคลับเจอปัญหากันเพียบ เหมือนจะยังไม่ได้รับการชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหา จาก Yamaha อย่างเป็นทางการ จึงอยากให้ผู้สนใจ ติดตามข่าวสารให้ดีๆก่อนพิจารณาซื้อครับ
อื่นๆ สำหรับท่านที่อยากใช้รถแบบนี้ ในการใช้งานชีวิตประจำวัน ควรฝึกเรื่องการขับขี่ ทรงตัว ฝึกเข็นไว้ด้วยครับ โดยเฉพาะ เรื่องขาถึงพื้น ผมเองก็มองว่ามันจำเป็นนะ อย่างน้อย ถึงซัก 1 ข้างก็ยังดี จะได้ใช้ในกรณี ขับขี่ รถติด หรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น การเข็นรถเข้าออก เวลาไปตลาด ซื้อของในชุมชน หรือ บนทางเปียกชื้น
ปล. อยากให้ 4 ดาว แต่ศูนย์บริการ Yamaha ไม่เคลียร์เรื่อง ลูกปืนครัชแตกง่าย ซะที ขอหักไปครึ่งดาวแล้วกัน
[CR] Review Yamaha MT-03 1000 กม. แรก ภาคใช้งานในชีวิตประจำวัน
ตามประสบการณ์ใช้งานจริง 1,000 กม. แรก มาแบ่งปันประสบการณ์ ให้กับผู้สนใจ และเป็นแนวทางให้พิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อครับ
ก่อนอื่น ขอแจ้งให้ทราบดังนี้
****
1.การทดสอบนี้ เป็นการทดสอบการใช้รถ ในชีวิตประจำวัน ( ซึ่งตัวเอง ใช้รถคันนี้ ประมาณ 90 % ทั้งไปทำงาน เที่ยว กินข้าว ไปตลาด ฯลฯ เนื่องจากเป็นยานพาหนะ ติดตัวเพียงคันเดียว อีก 10 % ใช้รถคนอื่นหรือรถยนต์ )
2. การขับขี่ ที่รีวิว ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 100 กม./ชั่วโมง ( เนื่องจากอยู่ในช่วงรันอิน )
3. ถนนหนทางที่ใช้งาน เป็นทางลาดยางซะเป็นส่วนมาก และใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก (การจราจรหนาแน่นปานกลาง ไม่แน่มากเท่ากทม. ออกนอกเมืองบ้างเป็นบางครั้ง (การจราจรเบาบาง)
4.การทดสอบใช้งานไม่ได้อิงผลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ใช้ความรู้สึกส่วนตัว กับ การอ่านค่าบางอย่างที่ สามารถดูบนหน้าจอของรถได้ ไม่ถือเป็นผลการทดสอบที่นำไปใช้อ้างอิงได้
***
รีวิว
รูปลักษณ์ภายนอกและท่านั่งขับขี่
Yamaha MT-03 ตัวนี้ เป็นรถทรง Naked 321 CC สองสูบ มีรูปทรงไม่สูงมาก คนสูงประมาณ 160 กลางๆ อย่างผม สามารถนั่งขี่ได้ โดยเมื่อรถตั้งตรงแล้ว สามารถที่จะวางเท้าทั้งสองข้างลงบนพื้นได้เต็ม น้ำหนักค่อนข้างเบา เมื่อเทียบกับคู่แข่ง อย่าง Kawasaki Z300
ด้านรูปลักษณ์ภายนอก ต้องบอกว่า รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ "ถ่ายรูปไม่ขึ้น" ถ้าดูจากรูปและแคตตาล็อก ไม่ค่อยสวยอย่างแรง
ส่วนตัวจริงนั้นจะดู สวยกว่า บึกบึน และใหญ่ กว่าในรูป พอสมควร ส่วนจุดด้อยของรุ่นนี้ ในสายตาก็คงจะเป็น ส่วนหน้าและบริเวณไฟหน้า
ซึ่ง ไม่ค่อยโดนใจเท่าไร โดยรวมแล้ว Yamaha MT-03 ตัวจริง "สวยกว่า" ในรูป ครับ ใครสนใจ ลองไปดูตัวจริงก่อนตัดสินใจ
ส่วนท่านั่งขับขี่ ระหว่างขับขี่ นั้น ผู้ขับขี่จะหลังเกือบตรง ขี่ระยะทางไกลๆ จะไม่ค่อยปวดหลังเท่าไรนัก นั่งค่อนข้างสบาย เบาะใหญ่พอสมควร จับแฮนด์แล้ว แขนไม่ตึงมาก (เทียบคันเดิมเป็น CBR 150 คาร์บู เทียบแล้ว ตัว CBR จะเมื่อยหลังกว่า)
สำหรับคนซ้อน
ด้วยเบาะคนซ้อน สไตล์รถแบบนี้ จะค่อนข้างสูง คนซ้อนจำเป็นจะต้องขึ้นซ้อนโดยเกาะไหล่ คนขี่ ขึ้นไป ตามสไตล์การขึ้นซ้อนรถที่มีรูปทรงใหญ่กว่ารถทั่วไปเล็กน้อย เบาะคนซ้อนตรงกลางจะเป็นสันนูนขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้การนั่งซ้อน จำเป็นต้องนั่งควบเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ครับ
ส่วนเรื่องความนั่งสบายบนเบาะคนซ้อน สอบถามคนซ้อน ที่เคยซ้อน CBR 150 คาร์บู บอกว่า " MT-03 นั่งสบายกว่า แต่ขึ้นยากไปหน่อย"
การขับขี่
เนื่องจากอยู่ในช่วงรันอิน จึงขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ส่วนใหญ่ นั้นขับขี่บนถนนในเมืองเป็นหลัก
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีอัตราเร่งค่อนข้างดี ค่อนข้างพุ่ง โดยเฉพาะ รอบ 5 พันขึ้นไป จะพุ่งเป็นพิเศษ ( ไม่ได้ลองที่รอบสูงเกิน 7500 )
ส่วนไฟหน้ารถ การขับขี่ในเวลากลางคืน ค่อนข้างสว่าง ตัวรถเวลานั่งขับขี่ค่อนข้างจะสูงกว่ารถทรงสปอร์ต ทำให้การขับขี่ในเวลากลางคืน ในทางที่เป็นจุดขึ้นเนิน ลงเนิน ไม่ค่อยถูกไฟสูงหน้ารถ ส่องตรงๆ มาที่ตา มากนัก
ความสูงของแฮนด์รถ จะสูงกว่ารถแนวครอบครัว เช่น เวฟ อยู่เล็กน้อย และกว้างกว่านิดนึง การขับขี่ในลักษณะ "มุด" ทำได้ใกล้เคียงกับรถครอบครัวทั่วไป แต่ยังไม่มุดเก่งเท่า CBR 150 ตัวคาร์บู ส่วนการขับขี่ในลักษณะ เลี้ยวผ่านหน้ารถยนต์ ในช่องแคบๆ ซ้าย ขวา กรณีรถติด ต้องยอมรับว่า ด้วยขนาดรถที่กว้างและยาวกว่ารถเล็กๆ อาจทำได้ไม่คล่องมากนัก แต่ก็เชื่อว่า คล่องกว่ารถพิกัด 300 CC บางตัว ที่มีขนาดบอดี้ใหญ่กว่า เช่น TNT300
ถือได้ว่า MT-03 เป็นรถที่ขับขี่บนท้องถนนในเมือง ที่มีการจราจรติดขัด และต้องขับขี่ผ่านช่องแคบ ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการขับขี่ถนนโล่งๆ ไกลๆ ด้วยท่านั่งที่ไม่ก้มมาก ทำให้นั่งขับขี่ไกลๆ ได้ดีพอสมควร แต่คงไม่สบายเท่ากับรถแนวทั่วริ่ง โดยเฉพาะ ที่ความเร็วสูง จะถูกลมโต้มาก
การขับขี่บนสภาพพื้นผิวที่เปียก
เนื่องจากช่วงหนึ่งสภาพอากาศบ้านเรา มีฝนตกเกือบทั้งวัน จึงได้ทดลองขี่บนถนนที่เปียกน้ำ ซึ่งเพื่อนๆ ในคลับ ได้บอกว่า รถรุ่นนี้ ที่มียางติดรถ คือยาง
มิชาลิน ไพลอต สตรีท เป็นยางที่ค่อนข้างลื่น แต่โดยส่วนตัวแล้ว ทดสอบขับขี่บนถนนที่เปียกน้ำ และเข้าโค้งเล็กๆ ด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กม./ชม. ยังสามารถควบคุมการขับขี่ การเลี้ยว ได้ตามปกติ ไม่รู้สึกว่าลื่นเกินไป ครับ
การสิ้นเปลืองน้ำมัน ทดลองกับตัวเอง โดยดูจากมาตรวัดบนหน้าจอ ของรถ ได้ประมาณ 26-27 กม./ลิตร โดยได้ทดสอบ เติม น้ำมัน 91 (E10) กับ E20
ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมาก ( สมาชิกในคลับ บอกว่า เติม 95 จะมีอัตราเร่งดีกว่าเดิม )
การใช้งานทั่วไป/อื่นๆ
เนื่องด้วยการออกแบบถังน้ำมัน เป็นวัสดุ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับกระเป๋าติดถังน้ำมัน ที่ใช้หลักการของแม่เหล็กดูดติดเอาไว้
ใครมีกระเป๋าแม่เหล็กติดถังน้ำมัน เอามาใช้กับถังน้ำมัน รถรุ่นนี้ ไม่ได้เลยครับ
ส่วนช่องเก็บของท้ายรถ มีขนาดเล็กมาก (เล็กยิ่งกว่า CBR 150 คาร์บู) ไม่สามารถใส่ได้แม้กระทั่ง สายล็อคเก็บหมวกกันน็อค จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเก็บ "เสื้อกันฝน" สำหรับท่านที่ขับขี่หน้าฝน คงต้องหากระเป๋าเป้ มาใส่ต่างหาก หรือไม่ก็ ติดกล่องท้าย เข้าไปเลย
การเปิด-ปิด ฝาท้าย ต้องทำความคุ้นเคยซักระยะ เพราะต้องใช้หลักการสไลด์ เข้าออก และยกขึ้น ค่อนข้างยากเหมือนกัน
โดยเฉพาะตอนที่จะเก็บหมวกใส่ใต้เบาะ ใส่ค่อนข้างจะยาก จุดแขวนหมวกจะอยู่ด้านเบาะที่ถอดออก
การห้อยถุงในการใช้งานทั่วไป เช่นไปตลาด หรือ ซื้อของ 7-11 สามารถห้อยของได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่แขวนถุงที่มีขนาดยาวเกินไปเพราะจะชน
กับหม้อน้ำแถวๆด้านหน้ารถที่มีความร้อน ต้องระวังเป็นพิเศษ ครับ
ส่วนการล็อคเก็บหมวกกันน็อค กับสายล็อค ต้องใช้ล็อคกับบาร์ด้านหน้ารถ เนื่องจากด้านหลัง ที่จับเป็นแบบแยกซ้ายขวา ไม่สามารถใช้ล็อคได้
การเข้าศูนย์บริการ 1 พันกิโลเมตรแรก
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องของ Yamaha 2 กระป๋อง แหวนรอง และเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง หมดเงินไปประมาณ 6 ร้อยกว่าบาท
เรื่องปัญหาลูกปืนครัชแตกง่าย
ในการใช้งานเบื้องต้นนี้ ยังไม่พบปัญหาการใช้งาน แต่ได้มีการสอบถามไปกับศูนย์บริการ ในการเช็ค 1พันกม.แรก ทางศูนย์บริการแจ้งว่า หากยังไม่พบอาการ ก็ยังไม่เปลี่ยนให้ ( งง ? จะต้องให้เรียกรถมาลากก่อนถึงจะเปลี่ยน ? ) ตอนนี้ก็ยังลุ้นๆกับปัญหานี้เหมือนกัน ทาง Yamaha ก็ยังคงเงียบๆ
สรุป
Yamah MT-03 เป็นรถแนว Naked ที่มีการตอบสนองการใช้งาน ในเมือง และขับขี่ออกนอกเมืองได้ค่อนข้างดี มีอัตราเร่งที่โดดเด่น
น้ำหนักค่อนข้างเบา (เมื่อเทียบกับคลาสเดียวกัน) ท่านั่งขับขี่ สบาย ส่วนเรื่องรูปลักษณ์ คงต้องให้ไปดูตัวจริงก่อนตัดสินใจ ( อย่าเพิ่งตัดสินใจจากรูปที่เห็น ) ขับขี่ไปจอดอาจโดนทักว่าเป็น M-Slaz ต้องทำใจหน่อย ( เคยเจอทักเป็น R3 เล่นเอาอึ้งไปเลย )
หากผู้ใช้งานต้องการบรรทุกของ ควรมีการติดกล่องเพิ่ม เนื่องจากการออกแบบตัวรถ ไม่เอื้ออำนวยกับการบรรทุกของ แม้แต่กล่องใต้เบาะ ก็แทบใส่อะไรไม่ได้เลย ถังน้ำมันก็ใช้งานร่วมกับกระเป๋าแม่เหล็กไม่ได้อีก การติดกล่องท้ายรถ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
เรื่องปัญหา ลูกปืนครัชแตกง่าย แม้โดยส่วนตัวจะยังไม่พบปัญหานี้ แต่คนในคลับเจอปัญหากันเพียบ เหมือนจะยังไม่ได้รับการชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหา จาก Yamaha อย่างเป็นทางการ จึงอยากให้ผู้สนใจ ติดตามข่าวสารให้ดีๆก่อนพิจารณาซื้อครับ
อื่นๆ สำหรับท่านที่อยากใช้รถแบบนี้ ในการใช้งานชีวิตประจำวัน ควรฝึกเรื่องการขับขี่ ทรงตัว ฝึกเข็นไว้ด้วยครับ โดยเฉพาะ เรื่องขาถึงพื้น ผมเองก็มองว่ามันจำเป็นนะ อย่างน้อย ถึงซัก 1 ข้างก็ยังดี จะได้ใช้ในกรณี ขับขี่ รถติด หรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น การเข็นรถเข้าออก เวลาไปตลาด ซื้อของในชุมชน หรือ บนทางเปียกชื้น
ปล. อยากให้ 4 ดาว แต่ศูนย์บริการ Yamaha ไม่เคลียร์เรื่อง ลูกปืนครัชแตกง่าย ซะที ขอหักไปครึ่งดาวแล้วกัน