เรื่องอาจจะยาวไปซักหน่อย แต่ก็ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ;v;
ตัวเขาเป็นผู้หญิงที่นิสัยคล้ายผู้ชาย (แต่ไม่ใช่ทอม) เพราะตอนเด็กๆเขาชอบอยู่กลุ่มผู้ชาย (เลยไม่ติดนิสัยไม่ชอบใส่กระโปรง และแต่งหน้า =w='') โลกส่วนตัวเขาค่อนข้างสูงจนบางทีแม่เขายังเข้าหาเขาไม่ได้เลย แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาเป็๋นคนที่นิสัยดีมากๆ เป็นกันเอง ขี้เกรงใจ บางทีก็ขี้อายนิดๆ ห่ามๆหน่อยๆ ชอบเล่นเกมฮาร์ดคอ แถมบ้าอนิเมะเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตัวละครที่เขาชอบ จะรักราวกับคนรักจริงๆเลยล่ะครับ =w='' (แถมเป็นสาว Y อีกต่างหาก =o=b) แต่วัยเด็กเขาก็เคยโดนเพื่อนๆทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนมาบ้างเหมือนกันเช่นเดียวกับผม ด้วยเหตุนี้ผมเลยรู้สึกดีที่เรามีอะไรคล้ายๆกัน
ต่อจากนี้ผมจะสรุปเล่าเป็นเหตุการณ์ไปนะครับ
เหตุการณ์ที่ 1
เรื่องมันเริ่มต้นตั้งแต่ผมเลิกกับแฟนคนแรกตอน ปี 1 หลังจากแฟนกับเพื่อนๆของเขาก็พาลไม่ชอบหน้าผมอย่างแรง แต่คุณ A (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าของผมก็ยังมาทักทายกับผมตามปกติ ผิดกับคนอื่นๆที่ไม่อยากจะมองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งตอนมีงานกลุ่ม ผมกับเค้าก็ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ซึ่งเป็นที่มาทำให้ A กับแฟนเก่าของผมมีปัญหากันเล็กน้อย เนื่องจากแฟนเก่าไม่อยากให้เค้ามายุ่งกับผม แต่ตอนที่เค้าเดินอยู่กับผมเขาก็พูดบ่นกับผมว่า "เราจะคบกับใครมันก็เรื่องของเรานะ"
เหตุการณ์ที่ 2
มีครั้งหนึ่งที่ผมมีปัญหากับเพื่อนแล้วเครียดมาก จึงเดินออกจากห้องมานั่งอยู่คนเดียวข้างล่างเพื่อสงบอารมณ์ ซักพักคุณ A ก็ลงมาหาผมแล้วถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผมประทับใจในตัวเขามาก (แต่ตอนนั้นผมมีแฟนใหม่แล้ว เลยไม่อยากคิดเกินเลย ซึ่งเขาก็รู้นะครับ)
เหตุการณ์ที่ 3
ตอนผมอยู่ปี 3 ตอนนั้นมีงานกลุ่ม ซึงเพื่อนส่วนใหญ่ไม่อยากเลือกผมเข้ากลุ่ม (เพราะนิสัยแย่ๆของผมเองล่ะครับ =w='') แต่เค้าก็ยังมาเข้ากลุ่มกับผม เลยยิ่งทำให้ผมประทับใจมากขึ้นไปอีก แถมตอนปลายๆเทอม มีการเล่นบั๊ดดี้กัน เขาก็เป็นบั๊ดดี้ของผมอีกต่างหาก!!
เหตุการณ์ที่ 4
ตอนปี 4 มีงานจับคู่ และเขาก็โทรมาขอเข้ากลุ่มกับผม ซึ่งผมกับเค้าก็ทำงานร่วมกันได้ดี แต่ก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่ผมเครียดมากๆ เขาก็จะมาถามผม แต่พอผมไม่บอกเค้า เค้าก็จะทำสีหน้าเครียดมาก แล้วบอกว่า "ถ้าไม่บอกแบบนี้เราไม่สบายใจนะ"
เหตุการณ์ที่ 5
หลังจากเรียนจบแล้ว ผมกับเค้าก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันกับกลุ่มเพื่อนของเขา ซึ่งแถวนั้นเป็นเขตที่ผมไม่คุ้นเคยเลย ตอนกลับเขาก็ยืนเป็นเพื่อนผมเพื่อรอรถ จนพักใหญ่ๆเขาก็ขอตัวกลับก่อน หลังจากนั้นไม่นานพอผมหารถขึ้นได้ แล้วซักพักนึงเขาก็โทรมาถามว่า "โทรมาเช็ค ขึ้นรถรึยัง" ตอนนั้นผมยิ้มออกมาเลยล่ะครับ ^^ เพราะไม่มีใครทำแบบนี้กับผมมาก่อน (แม้แต่กับแฟนผมซึ่งเลิกกันไปแล้วตั้งแต่ปี 4 ซึ่งเขาก็รู้เรื่องนี้ด้วยครับ)
เหตุการณ์ที่ 6 (ปัจจุบัน)
หลังจากนั้นผมกะเค้าก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงาน ได้คุยกันอย่างมากก็แค่ในแชทเฟส (ส่วนตัวเขาไม่ค่อยเล่นนะครับ ขนาดในไทม์ไลน์เฟสนี่แทบไม่มีโพสของเขาเลยครับ หายากมากๆ) บางทีผมก็ทักไป หลายวันถึงจะมาเห็นแล้วตอบกลับ (บางทีก็ไม่ตอบ แต่น้อยมากๆ) แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมกับเค้าคุยกันนานมากๆ บางทีก็ 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไป ส่วนเรื่องที่คุยก็มีเรื่องตลก เรื่องในอดีตของผมและเขา อนิเมะ แล้วก็เรื่องทั่วๆไป จนกระทั่งมีอยู่หนนึงผมได้พูดกับเขาประมาณว่า "ถ้าถามเราว่าอยากจะจีบ A มั๊ย บอกตรงๆเลยว่าอยากนะ" ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบกลับประมาณว่า "เราออกจะเพ้อนะ" "จะดีเร้อออ" ประมานนี้ครับ หลังจากนั้นเราก็ยังคุยกันปกติดี ไม่มีทีท่าจะห่างเหิน หรือรังเกียจอะไรผมเลย และหลายๆครั้งผมก็มักส่งข้อความไปหาเขาว่า "กลับบ้านดีๆนะ" หรือ "นอนหลับฝันดี" ในทุกๆครั้งที่โอกาส หรือบางทีผมก็บอกเขาว่า "เราเป็นห่วงนะ" เวลาที่เขาไม่สบายใจ หรือกลับหอดึกๆ
หลังจากนั้นผมกะเค้าก็มีโอกาสไปเที่ยวงานหนังสือด้วยกัน (กับพี่สาวของเขา) ประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งตอนจะแยกย้ายกันกลับเขาก็มักจะพูดว่า "ไว้โอกาสหน้าค่อยหาเวลามาเจอกันอีกนะ" ในตอนนั้นผมก็เริ่มรู้สึกมีหวังขึ้นมาแล้ว แต่พอนานๆไปผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรผมเลย ออกจะเฉยๆด้วยซ้ำ ในตอนนั้นผมรู้สึกสับสนมากๆ เพราะผมอ่านใจเขาไม่ออกเลย แต่ผมก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจ แล้วคุยกะเค้าตามปกติ อีกทั้งยังพยายามเอาใจเขาด้วยการทำโมเดลตั้งโต๊ะจากตัวละครในอนิเมะที่เขาชอบให้ หรือปั้นตัวละคร 3D (ในคอม) เป็นรูปล้อเลียนตัวเขาให้ในวันปีใหม่ หรือแม้กระทั่งทำหนังสือคู่มือ 20 กว่าหน้าให้ เพราะเขาอยากใช้โปรแกรมๆหนึ่ง เป็นต้น
ล่าสุดมีอยู่คืนนึงผมนึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ จู่ๆผมก็บอกกับเขาว่า "เราขออนุญาติจีบ A ได้อย่างเป็นทางการรึเปล่าครับ" (เพราะผมคิดว่าคราวที่แล้วที่บอกไปเขาจะคิดว่าผมพูดเล่น) เขาก็บอกผมประมานว่า "อย่าเลย เราโลกส่วนตัวสูงมากก ขนาดแม่ของเราบางทียังมายุ่งไม่ได้เลย" ผมเองก็อธิบายให้เขาฟังว่า คำว่าจีบในความหมายของผมก็คือการ ดูใจ กันไปก่อน ถึงจะใช้เวลานานก็ไม่เป็นไร ค่อยๆดูกันไป เค้าก็ตอบกับมาประมาณว่า "เค้าไม่อยากให้ใครข้ามเขตเข้ามาอ่า เดี๋ยวความรู้สึกจะเปลี่ยนไป" และเขายังรู้สึกเครียดและกลัวหน่อยๆด้วย ด้วยเหตุนี้ผมเลยรู้สึกผิดและถอยออกมา จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไป 6 วันกว่าๆแล้วครับ นั่งลุ้นว่าเขาจะมีตอบกลับมาบ้างรึเปล่า 555+ (แต่ไม่นานนี้เขาเพิ่งมากดไลค์เพจของผมที่ผมชวนเขาไป (ซึ่งตามปกติแล้วเขาไม่เคยไปกดไลค์เพจอะไรเลยเพราะเขาไม่ค่อยเล่นอยู่แล้ว)) ในวินาทีนี้ผมบอกตามตรงเลยว่า ทำตัวไม่ถูกเลยครับ TvT ไม่แน่ใจจะควรจะรอเวลาซักพัก แล้วค่อยคุยกะเค้าต่อ หลังจากนั้นก็ค่อยๆทำให้เขามีรู้สึกที่ดีไปทีละเล็กทีละน้อยถึงจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม หรือผมควรจะถอยแบบถาวรแล้วตัดใจจากเขาดีครับ......................
แต่ถ้าให้พูดจากใจจริง ผมรักผู้หญิงคนนี้มากๆครับ เพราะในเวลาที่ผมไม่เหลือใคร ก็มีเค้าที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ (นอกจากพ่อแม่ผมนะครับ ^^) ที่ผมมีวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขานี่แหละครับ ถึงเมื่อก่อนผมจะนิสัยไม่ดียังไง แต่ตอนนี้ผมกำลังพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น และสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อเขาจริงๆครับ //ถึงจะยาวไปหน่อย แต่ก็ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ^^ ขอคำชี้แนะด้วยนะครับผม
อยากปรึกษาความรัก กับสาวโลกส่วนตัวสูงหน่อยครับผม
ตัวเขาเป็นผู้หญิงที่นิสัยคล้ายผู้ชาย (แต่ไม่ใช่ทอม) เพราะตอนเด็กๆเขาชอบอยู่กลุ่มผู้ชาย (เลยไม่ติดนิสัยไม่ชอบใส่กระโปรง และแต่งหน้า =w='') โลกส่วนตัวเขาค่อนข้างสูงจนบางทีแม่เขายังเข้าหาเขาไม่ได้เลย แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาเป็๋นคนที่นิสัยดีมากๆ เป็นกันเอง ขี้เกรงใจ บางทีก็ขี้อายนิดๆ ห่ามๆหน่อยๆ ชอบเล่นเกมฮาร์ดคอ แถมบ้าอนิเมะเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตัวละครที่เขาชอบ จะรักราวกับคนรักจริงๆเลยล่ะครับ =w='' (แถมเป็นสาว Y อีกต่างหาก =o=b) แต่วัยเด็กเขาก็เคยโดนเพื่อนๆทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนมาบ้างเหมือนกันเช่นเดียวกับผม ด้วยเหตุนี้ผมเลยรู้สึกดีที่เรามีอะไรคล้ายๆกัน
ต่อจากนี้ผมจะสรุปเล่าเป็นเหตุการณ์ไปนะครับ
เหตุการณ์ที่ 1
เรื่องมันเริ่มต้นตั้งแต่ผมเลิกกับแฟนคนแรกตอน ปี 1 หลังจากแฟนกับเพื่อนๆของเขาก็พาลไม่ชอบหน้าผมอย่างแรง แต่คุณ A (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าของผมก็ยังมาทักทายกับผมตามปกติ ผิดกับคนอื่นๆที่ไม่อยากจะมองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งตอนมีงานกลุ่ม ผมกับเค้าก็ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ซึ่งเป็นที่มาทำให้ A กับแฟนเก่าของผมมีปัญหากันเล็กน้อย เนื่องจากแฟนเก่าไม่อยากให้เค้ามายุ่งกับผม แต่ตอนที่เค้าเดินอยู่กับผมเขาก็พูดบ่นกับผมว่า "เราจะคบกับใครมันก็เรื่องของเรานะ"
เหตุการณ์ที่ 2
มีครั้งหนึ่งที่ผมมีปัญหากับเพื่อนแล้วเครียดมาก จึงเดินออกจากห้องมานั่งอยู่คนเดียวข้างล่างเพื่อสงบอารมณ์ ซักพักคุณ A ก็ลงมาหาผมแล้วถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผมประทับใจในตัวเขามาก (แต่ตอนนั้นผมมีแฟนใหม่แล้ว เลยไม่อยากคิดเกินเลย ซึ่งเขาก็รู้นะครับ)
เหตุการณ์ที่ 3
ตอนผมอยู่ปี 3 ตอนนั้นมีงานกลุ่ม ซึงเพื่อนส่วนใหญ่ไม่อยากเลือกผมเข้ากลุ่ม (เพราะนิสัยแย่ๆของผมเองล่ะครับ =w='') แต่เค้าก็ยังมาเข้ากลุ่มกับผม เลยยิ่งทำให้ผมประทับใจมากขึ้นไปอีก แถมตอนปลายๆเทอม มีการเล่นบั๊ดดี้กัน เขาก็เป็นบั๊ดดี้ของผมอีกต่างหาก!!
เหตุการณ์ที่ 4
ตอนปี 4 มีงานจับคู่ และเขาก็โทรมาขอเข้ากลุ่มกับผม ซึ่งผมกับเค้าก็ทำงานร่วมกันได้ดี แต่ก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่ผมเครียดมากๆ เขาก็จะมาถามผม แต่พอผมไม่บอกเค้า เค้าก็จะทำสีหน้าเครียดมาก แล้วบอกว่า "ถ้าไม่บอกแบบนี้เราไม่สบายใจนะ"
เหตุการณ์ที่ 5
หลังจากเรียนจบแล้ว ผมกับเค้าก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันกับกลุ่มเพื่อนของเขา ซึ่งแถวนั้นเป็นเขตที่ผมไม่คุ้นเคยเลย ตอนกลับเขาก็ยืนเป็นเพื่อนผมเพื่อรอรถ จนพักใหญ่ๆเขาก็ขอตัวกลับก่อน หลังจากนั้นไม่นานพอผมหารถขึ้นได้ แล้วซักพักนึงเขาก็โทรมาถามว่า "โทรมาเช็ค ขึ้นรถรึยัง" ตอนนั้นผมยิ้มออกมาเลยล่ะครับ ^^ เพราะไม่มีใครทำแบบนี้กับผมมาก่อน (แม้แต่กับแฟนผมซึ่งเลิกกันไปแล้วตั้งแต่ปี 4 ซึ่งเขาก็รู้เรื่องนี้ด้วยครับ)
เหตุการณ์ที่ 6 (ปัจจุบัน)
หลังจากนั้นผมกะเค้าก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงาน ได้คุยกันอย่างมากก็แค่ในแชทเฟส (ส่วนตัวเขาไม่ค่อยเล่นนะครับ ขนาดในไทม์ไลน์เฟสนี่แทบไม่มีโพสของเขาเลยครับ หายากมากๆ) บางทีผมก็ทักไป หลายวันถึงจะมาเห็นแล้วตอบกลับ (บางทีก็ไม่ตอบ แต่น้อยมากๆ) แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมกับเค้าคุยกันนานมากๆ บางทีก็ 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไป ส่วนเรื่องที่คุยก็มีเรื่องตลก เรื่องในอดีตของผมและเขา อนิเมะ แล้วก็เรื่องทั่วๆไป จนกระทั่งมีอยู่หนนึงผมได้พูดกับเขาประมาณว่า "ถ้าถามเราว่าอยากจะจีบ A มั๊ย บอกตรงๆเลยว่าอยากนะ" ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบกลับประมาณว่า "เราออกจะเพ้อนะ" "จะดีเร้อออ" ประมานนี้ครับ หลังจากนั้นเราก็ยังคุยกันปกติดี ไม่มีทีท่าจะห่างเหิน หรือรังเกียจอะไรผมเลย และหลายๆครั้งผมก็มักส่งข้อความไปหาเขาว่า "กลับบ้านดีๆนะ" หรือ "นอนหลับฝันดี" ในทุกๆครั้งที่โอกาส หรือบางทีผมก็บอกเขาว่า "เราเป็นห่วงนะ" เวลาที่เขาไม่สบายใจ หรือกลับหอดึกๆ
หลังจากนั้นผมกะเค้าก็มีโอกาสไปเที่ยวงานหนังสือด้วยกัน (กับพี่สาวของเขา) ประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งตอนจะแยกย้ายกันกลับเขาก็มักจะพูดว่า "ไว้โอกาสหน้าค่อยหาเวลามาเจอกันอีกนะ" ในตอนนั้นผมก็เริ่มรู้สึกมีหวังขึ้นมาแล้ว แต่พอนานๆไปผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรผมเลย ออกจะเฉยๆด้วยซ้ำ ในตอนนั้นผมรู้สึกสับสนมากๆ เพราะผมอ่านใจเขาไม่ออกเลย แต่ผมก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจ แล้วคุยกะเค้าตามปกติ อีกทั้งยังพยายามเอาใจเขาด้วยการทำโมเดลตั้งโต๊ะจากตัวละครในอนิเมะที่เขาชอบให้ หรือปั้นตัวละคร 3D (ในคอม) เป็นรูปล้อเลียนตัวเขาให้ในวันปีใหม่ หรือแม้กระทั่งทำหนังสือคู่มือ 20 กว่าหน้าให้ เพราะเขาอยากใช้โปรแกรมๆหนึ่ง เป็นต้น
ล่าสุดมีอยู่คืนนึงผมนึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ จู่ๆผมก็บอกกับเขาว่า "เราขออนุญาติจีบ A ได้อย่างเป็นทางการรึเปล่าครับ" (เพราะผมคิดว่าคราวที่แล้วที่บอกไปเขาจะคิดว่าผมพูดเล่น) เขาก็บอกผมประมานว่า "อย่าเลย เราโลกส่วนตัวสูงมากก ขนาดแม่ของเราบางทียังมายุ่งไม่ได้เลย" ผมเองก็อธิบายให้เขาฟังว่า คำว่าจีบในความหมายของผมก็คือการ ดูใจ กันไปก่อน ถึงจะใช้เวลานานก็ไม่เป็นไร ค่อยๆดูกันไป เค้าก็ตอบกับมาประมาณว่า "เค้าไม่อยากให้ใครข้ามเขตเข้ามาอ่า เดี๋ยวความรู้สึกจะเปลี่ยนไป" และเขายังรู้สึกเครียดและกลัวหน่อยๆด้วย ด้วยเหตุนี้ผมเลยรู้สึกผิดและถอยออกมา จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไป 6 วันกว่าๆแล้วครับ นั่งลุ้นว่าเขาจะมีตอบกลับมาบ้างรึเปล่า 555+ (แต่ไม่นานนี้เขาเพิ่งมากดไลค์เพจของผมที่ผมชวนเขาไป (ซึ่งตามปกติแล้วเขาไม่เคยไปกดไลค์เพจอะไรเลยเพราะเขาไม่ค่อยเล่นอยู่แล้ว)) ในวินาทีนี้ผมบอกตามตรงเลยว่า ทำตัวไม่ถูกเลยครับ TvT ไม่แน่ใจจะควรจะรอเวลาซักพัก แล้วค่อยคุยกะเค้าต่อ หลังจากนั้นก็ค่อยๆทำให้เขามีรู้สึกที่ดีไปทีละเล็กทีละน้อยถึงจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม หรือผมควรจะถอยแบบถาวรแล้วตัดใจจากเขาดีครับ......................
แต่ถ้าให้พูดจากใจจริง ผมรักผู้หญิงคนนี้มากๆครับ เพราะในเวลาที่ผมไม่เหลือใคร ก็มีเค้าที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ (นอกจากพ่อแม่ผมนะครับ ^^) ที่ผมมีวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขานี่แหละครับ ถึงเมื่อก่อนผมจะนิสัยไม่ดียังไง แต่ตอนนี้ผมกำลังพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น และสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อเขาจริงๆครับ //ถึงจะยาวไปหน่อย แต่ก็ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ^^ ขอคำชี้แนะด้วยนะครับผม