บันทึกเสือภูเขาขึ้นดอยสุเทพครั้งแรก

ไม่โหดอย่างที่คิด แต่ถ้าไม่เตรียมซ้อมมาเลย อาจไม่รอด

ผมเป็นมือใหม่ปั่นจักรยานมาประมาณ ๓ เดือน มีโอกาสปั่นสม่ำเสมอระยะทางรวมประมาณพันกว่ากิโลเมตร ดอยสุเทพเป็นเป้าหมายแรก ๆ ที่อยากจะลอง เมื่อครั้งย้ายบ้านมาอยู่แม่ริมใหม่ ๆ ได้ขับรถตระเวณเที่ยวตามดอยต่าง ๆ ระหว่างทางเจอนักปั่นจักรยานและทึ่งพวกเขาเสมอ มาวันนี้กลายเป็นพวกหลงไหลจักรยานและได้ทำตามสิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ใช่สิ พวกเราต่างหาก

ผมทรงตัวบนจักรยานได้ไม่ดี ปล่อยมือเดียวเอี้ยวมองหลังไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงปล่อยสองมือ และไม่ต้องพูดถึงการเอื้อมหยิบขวดน้ำมาดื่มขณะปั่น ผมทำไม่ได้ การยืนโยกก็ทำไม่เป็น การขึ้นอานโดยเท้าซ้ายเหยียบบันไดไสรถแล้วขึ้นคล่อมชะลอตัวลงบนอานแบบเด็กนักเรียนป.๔ แถวบ้านทำกัน ผมก็ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือขึ้นคล่อมคานบนก่อน เหยียบบันไดขวาแล้วยกตัวขึ้นอานแบบธรรมดา ดังนั้นเวลาต้องหยุดรถบนเนิน ผมจะมีปัญหาขึ้นอานไม่ได้เสมอ ผมจึงไม่ค่อยอยากจะหยุดกลางเนิน และเส้นทางดอยสุเทพก็เหมือนว่าแทบจะไม่มีทางราบให้หยุดได้มากนัก มันไต่ขึ้น แล้วก็ไต่ขึ้น แล้วก็ไต่ขึ้น บอกตามตรง ไม่สนุก

ทางละแวกบ้านผม มีเนินที่ท้าทายอยู่ ๒ เนิน คือเส้นทางแม่ริม - สะเมิง ช่วงเลยทางเข้าน้ำตกแม่สาระยะทางประมาณ ๗๐๐ เมตร ทางไต่ชันพอสมควรและเป็นโค้งมาก ข้อเสียคือถนนสายนี้รถราวิ่งกันค่อนข้างมาก ปั่นไปดมควันเสียรถใหญ่ไปด้วย อีกเส้นทางคือทางสายรองแยกจากแม่ริม - สะเมิง ไปน้ำตกตาดหมอก จะมีเนินชันยาว ๆ ประมาณ ๘๐๐ เมตร เรียกว่าเนินต้นโชค เส้นนี้ทางชันกว่า ยาวกว่า แต่ดีตรงที่เป็นทางไต่ขึ้นตรง ๆ มีโค้งตอนท้ายนิดหน่อย และดีตรงที่รถราผ่านทางเส้นนี้น้อยกว่ามาก

ผมตั้งใจว่า จะใช้เนินทั้งสองนี้เป็นเส้นทางซ้อม ครั้งแรกไปเนินต้นโชคก่อนเลยเพราะคิดว่าน่าจะโหดน้อยกว่าเนินน้ำตกแม่สา (แต่ผมเข้าใจผิด) ตั้งใจจะปั่นไปให้ถึงน้ำตกตาดหมอก แต่ผมปั่นขึ้นเนินสู้กับแรงโน้มถ่วงไปได้ราว ๕๐๐ เมตรก็หมดกระสุน จอดหอบเป็นหมาหอบแดด หัวใจเต้นแรงจนแทบกระดอน เหนื่อยจนจิบน้ำไม่ลง พักอยู่นานจนพอเรียกแรงกลับมาได้ก็พยายามไปต่อ พ้นเนินไปได้ก็พาตัวเองคะยั้นคะยอไปต่อจนถึงสกุณทรารีสอร์ทก็ยอมแพ้ กลับมาเช็คแผนที่พบว่าอีกแค่แปดร้อยเมตรก็ถึงน้ำตกแล้ว ดันถอยเสียก่อน

หลังจากนั้นผมก็พยายามใหม่ อ่านกระทู้ทัวริ่งหลายกระทู้และพบว่า ต้องรู้จักออมแรง อย่าเบ่ง อย่าฝืนสู้กับแรงดึงดูดของโลกตรง ๆ กลับไปลองเนินต้นโชคอีกครั้ง นอนเต็มอิ่ม ทานมื้อเช้าให้เรียบร้อย ออกกำลังยืดเส้นสายอย่างดี จัดแจงเติมลมยางให้แข็งขึ้นเพื่อลดแรงเสียดทานของล้อ คือกะว่าวันนี้ต้องผ่านมันให้ได้น่ะแหละ ระหว่างทางก่อนจะถึงเนินมีนักปั่น ๔ ท่านแซงผมลิ่ว ๆ ตะโกนทักทายให้ตามไปด้วย แต่ผมไม่ตาม กลัวจะเสียแรงกับการไล่ตามไปเปล่า ๆ ผมค่อย ๆ ปั่นไปเรื่อย ๆ จนถึงเนินที่ว่า พอเลี้ยวโค้งแรก ก็พบว่าเพื่อนนักปั่นท่านหนึ่งกำลังหมดแรงอยู่กลางเนินห่างไปราว ๒๐๐ เมตร ผมไต่เกียร์ ๑-๑ ผ่านเขาไป พูดให้กำลังใจไปว่า สู้ ๆ ครับ พ้น ๕๐๐ เมตรแรกก็พบเพื่อนนักปั่นอีก ๓ ท่านหยุดรอเพื่อนที่มาด้วยกัน พยักหน้าทักทายแล้วได้ยินเขาชวนให้หยุดพัก แต่ผมไม่กล้าหยุดตรงนั้น ได้แต่ส่งยิ้มให้แล้วไปต่อ ผมผ่านเนินต้นโชคไปได้ด้วยดี และไปหยุดพักที่สกุณทรารีสอร์ท รออยู่นานก็ไม่พบว่า กลุ่ม ๔ คนนั้นจะตามมา จึงไต่ขึ้นต่อจนถึงน้ำตกตาดหมอกได้เป็นครั้งแรก สภาพหมดแรงตามที่เห็น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่