หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เที่ยวเชียงใหม่ แว้นมอเตอไซต์ 4วัน 3ดอย อ่างขาง – อินทนนท์ - ดอยสุเทพ
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
จังหวัดเชียงใหม่
Backpack
Fuji X-T10
สวัสดีนักอ่านนักเที่ยวทุกคนครับ เพิ่งจะผ่านช่วงปีใหม่ 2016 มาหมาดๆ ผมก็อยากจะออกเดินทางอีกแล้ว และผมเพิ่งจะตัดสินใจลาออกจากงานที่เดิม เลยทำให้ผมมีเวลาว่างมากพอที่จะไปเที่ยวที่ไหนสักที่
ถ้าพูดถึงจังหวัดที่น่าเที่ยวของเมืองไทย เชียงใหม่ต้องติดอันดับต้นๆของใครหลายคนแน่ๆ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายน่าสนใจเต็มไปหมด ผมเองก็อยากไปมานานแล้วเพราะยังไม่เคยไปเชียงใหม่เลยสักครั้ง พอตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปที่ไหนก็เก็บกระเป๋า เตรียมกล้อง ไปกันแบบ โนแพลน โนจอง กันเลย ค่อยไปคิดเอาระหว่างทาง วางแพลนไว้ 4วันครับ
ทริปนี้เราไปเก็บภาพต่างๆ โดยใช้กล้อง Fuji X-T10 (เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆเลย) พร้อมกับเลนส์ 18-55 … ถือเป็นทริปเจิมกล้องใหม่กันเลยก็ว่าได้ครับ
ก่อนวันเดินทางเราไปจองตั๋วรถโดยสารไปเชียงใหม่ ของบริษัทนครชัยแอร์ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต ราคา (Gold Class ) 538 บาท/ที่นั่ง (สามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่
http://www.nca.co.th
)
ออกเดินทาง : สู่เชียงใหม่
เราได้ตั๋วรอบ 3ทุ่มครับ คำนวณเวลาแล้วน่าจะถึงเชียงใหม่ตอนเช้าพอดี…พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลย
อยู่บนรถของนครชัยแอร์มีของกินให้เพียบ
รถออกจากหมอชิต 20.55น. ตรงเป๊ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชม. ระหว่างทางเป็นไงไม่ต้องพูดถึงครับ หลับตลอดทางตามเคย เก็บแรงไว้ใช้ตอนเช้าครับ
วันแรก : ถึงเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง
เราถึงบริษัทนครชัยแอร์ที่เชียงใหม่ (อยู่ติดกันกับสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่) เวลาประมาณ 6โมงเช้า ฟ้ายังมืดอยู่เลย เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ให้เรียบร้อย…เตรียมตัวเข้าสู่โหมดเที่ยว
เสร็จธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว อย่างแรกที่ต้องทำคือ หาร้านเช่ามอเตอไซต์ ซึ่งจะเป็นพาหนะหลักในการเดินทางของเรา… จากที่หาข้อมูลผ่านอากู๋ เราก็เจอเว็บของร้าน “ Bikky Chiangmai ” ร้านอยู่แถวๆอาเขต เลยเซเว่นไปหน่อยเดียว
ที่ร้านมีรถหลายรุ่น หลายราคาให้เลือกเช่า แถมถ้าลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บของร้านล่วงหน้า ทางร้านมีส่วนลดให้ด้วย ตามนี้เลยครับ
http://www.bikkychiangmai.com
วันที่เราไปนี่คนเยอะมากครับ กว่าจะทำเรื่องเสร็จก็เกือบสายเลย แล้วเราก็ได้ Grand Filano สีขาวคันนี้ ค่าเช่าวันล่ะ 300 บาทเป็นเพื่อนเดินทางของเราในครั้งนี้ครับ
เอาล่ะ ออกเดินทางสู่จุดหมายแรกกัน ที่แรกที่ผมอยากไปนั่นคือ ดอยอ่างขางครับ คุยกับพี่ที่ร้านเช้ามอไซต์ พี่แกบอกว่าไกลไปมั้ย แต่ผมไม่หวั่นอยู่แล้ว…พอเปิด GPS ดูเท่านั้นแหละ แม่เจ้า 157 km … เอาวะ ตั้งใจไว้แล้วก็ต้องไป
เราออกเดินทางจากเชียงใหม่ ประมาณ 8.30 น. ไปตามป้ายบอกทางและเปิด GPS ไปตามเส้นทางเชียงใหม่ – ฝาง ขับไปแวะไป เติมน้ำมันไปรอบนึง ขับไกลเริ่มจะเหนื่อย ขับเรื่อยๆเริ่มท้อ ขับเร็วก็ไม่ได้ มันหนาววว … เห้ย!!อีกไกลป่ะเนี่ยะ ยิ่งขับไปไกลเส้นทางก็ยิ่งโลนลี่ขันเรื่อยๆเลย
ขับมาจนเที่ยงก็ยังไม่ถึงครับ ภูมิอากาศที่นี่ขับมอไซต์ตอนบ่ายงไม่รู้สึกอุ่นเลย ยิ่งขับมาไกลเส้นทางยิ่งโหดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแคบ ทั้งชัน นี่มันเส้นทางทดสอบฝีมือการขับขี่ชัดๆ!! ขอแนะนำสำหรับใครจะขับมอไซต์หรือแม้แต่รถยนต์มาเส้นทางนี้ ควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูงนะครับ และควรมาตอนเช้าหรือกลางวันจะดีกว่า เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียตอนบ่ายหรือเย็นจะหาความช่วยเหลือค่อนข้างยาก เพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แม้แต่ขีดเดียว
ขับมานานเริ่มเมื่อยมากขึ้นเรื่อยๆครับ หลังจากนั้นเราแวะจุดพักรถเป็นว่าเล่นเลย แบบว่าอยากพัก เห็นวิวสวยเป็นต้องจอดถ่ายรูป ใจเย็นกันเกินไปรึเปล่านะเรา
ระหว่างทางมีดอกพญาเสือโคร่งบานอยู่เป็นระยะ ยังบานไม่เยอะเท่าไรแต่ก็สวยดีครับ
ขับตามทางมาเรื่อยๆ เริ่มจะมีหวังว่าคงถึงในเร็วๆนี้เมื่อเราเห็นจุดกางเต็นท์ เลยเข้าไปถามพี่ชายที่จุดกางเต็นท์นั้น พี่เค้าบอกว่าไปอีกนิดเดียว ผมนี่ยิ้มเลย ตรงนี่มีบริการเต้นและเครื่องนอนให้เช่าด้วยนะครับ แต่เราไม่ได้นอนนี้นะ ยังเสียดายอยู่เลย ถ้านอนตรงนี้กลางคืนคงได้ดูดาวสวยๆแน่ๆ
ขับต่อมาอีกนิดเดียว ถึงแล้วครับ ”สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” จุดหมายของเรา
ดูนาฬิกา เวลาตอนนั้นก็เกือบจะบ่ายสามแล้ว หาที่พักกันก่อนดีกว่า …เราได้ที่พักเป็นที่ “ บ้านจี๊ดจ๊าด อ่างขาง ” ห้องที่เราพักเป็นห้องสำหรับ 2 คน ราคา 1000บาท/คืน พร้อมอาหารเช้าครับ
เก็บของเข้าที่พักแล้ว ล้างหน้าล้างตา นั่งพักกันหน่อย แต่วันนี้ของเรายังไม่จบ …มาเที่ยวทั้งทีจะนั่งเฉยๆให้เสียเวลาทำไมเล่า เที่ยวต่อสิครับ ปะ! สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ก่อนเข้าชมสถานีเกษตร ต้องเสียค่าบำรุงสถานี คนล่ะ 50 บาท หากนำรถเข้าต้องเสียค่ารถอีกคันละ 50 บาท งั้นเราเดินดีกว่าเนอะ
ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 8.00น. – 18.00น. จ่ายค่าบำรุงสถานีเรียบร้อยเราจะได้บัตรพร้อมแผ่นพับแนะนำสถานีพร้อมแผนที่ภายในสถานีแห่งนี้ครับ
สถานีเกษตรหลวงอ่างขางแห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ชาวบ้านแถบนี้แทนการปลูกฝิ่น ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จากเว็บไซต์ของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
http://www.angkhangstation.com/
เดินเข้ามาภายในสถานีเกษตร ทางเดินด้านหน้าปลูกต้นซากุระที่กำลังออกดอกอย่างสวยงามไว้ต้อนรับผู้ที่มาเที่ยว บรรยากาศนี่นึกว่าอยู่ญี่ปุ่น (ถามว่าเคยไปญี่ปุ่นมั้ย…ไม่ครับ ฮ่าๆ)
หลังจากนั้น โลกแห่งการถ่ายภาพของผมก็กลายเป็นสีชมพูไปชั่วขณะ
ออกจากโลกสีชมพูแป๊บนึง เรามาฝั่งตรงข้ามมีสวนกุหลาบอยู่ครับ เข้าไปดูสักหน่อย
ในนี้มีแต่กุหลาบครับ...ก็แปลงกุหลาบนิ
เดินออกมาทางด้านหลังเราเจอกับแปลงไม้ดอกสวยๆ กว้างๆ มีไม้ดอกหลายชนิด ได้เห็นมีวิวสวยๆของสถานีเกษตรอ่างขางนี้ด้วย
ทุ่งคาโมมายสวยๆ ณ แปลงไม้ดอก
ก่อนเดินออกจากแปลงไม้ดอก ขอถ่ายรูปวิวกว้างเอาไว้หน่อย
กลับเข้าสู่เส้นทางตามแผนที่ เราเดินตามทางมาก็มีดอกบ๊วยบานอยู่ริมทางด้วย
เดินลัดเลาะเข้ามาที่สวนบอนไซ ในนี้มีต้นบอนไซแปลกๆตาเพียบ แต่เราเดินชมในนี้กันแค่แป๊บเดียวครับ
เราออกจากสวนบอนไซ กลับสู่ทางเดินอีกครั้ง ดูท่าแล้วคงต้องเดินอีกไกลเลย แต่ตลอดทางมีนู่น นี่ นั่น ให้เราได้ดูเพลินๆตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ทางเดิน ซากุระ แปลงบ๊วย ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยครับ
เดินมาอีกนิดเรามาถึงโซนที่เรียกว่า ลานกิจกรรม ซึ่งปกติแล้วเข้าเอาทำกิจกรรมต่างๆนั่นแหละครับ
ในส่วนนี้ จะมีมุมถ่ายรูปกับต้นบ๊วย มีกิจกรรมขี่ล่อ มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือเรื่องต่างๆด้วยครับ
รอบๆลานกิจกรรมมีอะไรสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะครับ ดอกบ๊วยที่กำลังบาน นาข้าวบาร์เลย์ ฯ
เดินมาต่อกันอีกนิดนึงเรามาถึงโซนของ สวน 80 ตรงนี้เป็นสวนดอกไม้หลายชนิด จัดอย่างสวยงาม
ใกล้ๆกันเป็นสวนกุหลาบอังกฤษ
สารภาพตามตรงว่าเข้ามาโซนนี้ผมไม่ได้สนใจกุหลาบเลย สิ่งที่อยู่ด้านหลังมันดึงดูดผมมากกว่า นั่นก็คือแปลงปลูกซากุระ อีกแล้ว
ออกจากสวนกุหลายอังกฤษมา เข้าสู่เส้นทางที่เป็นทางเดินกลับ ระหว่างทางนั้นบรรยากาศและทัศนียภาพยังสวยงามอย่างต่อเนื่องครับ เราก็เลยเดินชิลๆถ่ายรูปตามทางไปเรื่อยๆ
เดินต่อมาอีกเรามาถึงแปลงบ๊วย ที่หลายๆคนที่มาที่นี่ชอบมาถ่ายรูปกัน เลยขอแวะสักหน่อยเผื่อจะได้รูปสวยๆกับเค้าบ้าง
ชื่อสินค้า:
เชียงใหม่
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ตรวจทริปดอยอ่างขาง-ดอยอินทนนท์-เชียงใหม่ให้หน่อยค่ะ
เดินทางเที่ยว 3 วันค่ะ ออกเดินทางจาก กทม ไป ดอยอ่างขาง คืนวันที่ 8 ประมาณ ทุ่มนึงค่ะ น่าจะถึงเช้าประมาณ 9 โมง 09 Dec 15……ดอยอ่างขาง 09 : 00 - --- น้ำผุร้อนฝาง 11 : 30 - --- ออกจากน้ำ
Bs_nongfilm
รบกวนตรวจโปรแกรมเที่ยวอ่างขางค่ะ 3 วัน 2 คืน แบบนี้พอได้ไหม ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
Trip เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 19-21 มกราคม 2560 วันแรก (19 มค) 05.30 เจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ Check-in โหลด กระเป๋า (*ซื้อ นน. ให้ไว้ แล้ว) 07.05 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ จังหวัดเชียงใหม่
NuiLakana
รบกวนขอแพลนเที่ยวเชียงราย 4 วัน 3 คืน ครับ
สวัสดีครับทุกท่าน มีแพลนไปช่วงปลายปี จองตั๋วเรียบร้อย การเดินทางประมาณนี้ พฤหัสบดี กทม. ถึงเชียงราย 10 โมง เช่ารถ สนามบิน กลับ อาทิตย์ บินกลับ บ่ายโมง ขับรถได้หมด เคยขึ้น ดอยอ่างขาง/ทับเบิก/อินทนนท์/
New_BlackCat
ภูทับเบิก , ภูชี้ฟ้า , ดอยอ่างขาง เส้นทางไหนชันสุดครับ (ใครเคยไปแนะนำหน่อยครับ)
พอดีจะไปธุระทางภาคเหนือแล้วขากลับกะแวะเที่ยวตามดอยต่างๆ ลงมา เลยอยากรู้ว่าเส้นทางไหนชันสุด แล้วทางไหนต้องระวังอะไรบ้างครับ กะไปภูชี้ฟ้าก่อน แล้วไล่ลงมาดอยอ่างขาง แล้วจบที่ภูทับเบิกครับ ประสบการณ์ขับรถ
สมาชิกหมายเลข 8722353
รบกวนเพื่อนๆแนะนำสถานที่กางเต้นท์สวยๆช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมให้หน่อยครับ
อยากได้สถานที่กางเต้นท์ที่คนไม่ค่อยเยอะและไม่พลุกพล่านแถวๆภาคเหนือครับ ที่สำคัญขอแบบเดินทางไม่ลำบากมากเพราะขาไม่ค่อยดี(เคยประสบอุบัติเหตุ) ถ้านั่งไล่เอาที่ผมเคยไปมาแล้วก็มี - ตากสินมหาราช - แม่เมย - ป
T_Tinnaphat
จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ไป ม่อนจอง ถนนขับง่ายไหมครับ
พอดีว่าจะไปม่อนจองโดยเช่ามอเตอร์ไซส์ขับไปเอง วางแผนว่าถึงเชียงใหม่แล้วขับไปหมู่บ้านมูเซ่อ อาจแวะเที่ยวระหว่างทางบ้าง พักหมู่บ้านมูเซ่อ 1 คืนแล้วขึ้นดอย แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง 1.เส้นทางขับลำบากไหม
สกุณาวายุ
ลงจากดอยอินทนนท์เข้าเมืองเชียงใหม่ มีที่เที่ยวที่ไหนแนะนำบ้างคะ
ขอคำแนะนำค่ะ เส้นทางจากดอยอินทนนท์เข้าเมือง (ไปแถวนินมาน) ระหว่างทางมีวัดหรือสถานที่ไหนแนะนำให้แวะเที่ยวบ้างคะ ที่ไม่ออกนอกเส้นทางจนเกินไปค่ะ ถ้าอยากแวะวัดพระธาตุดอยสุเทพจะออกนอกเส้นทางไปเยอะใช่ไหมค
แป้งทอด
ณ.. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง << Lazy Coup >>
Lazy Coup พาไปแอ่วเหนือม่วนใจ๋ 💖💖 ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขอบอกว่า ณ จุดๆ นี้ มีแหล่งท่องเที่ยวข้างในหลากหลายสถานที่มว๊ากกก 👏 (เรือนดอกไม้ / เรือนกุหลาบตัดดอก / สวนบอนไซอ่างขาง / โรงงานชาอ่างขาง / แปล
Lazycoup
ช่วยจัดทริปเชียงใหม่ 4วัน3คืน หน่อยคะ
ตอนแรกตั้งใจวางเพลนไว้จะไป เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน แต่คำนวนแล้วน่าจะเหนื่อย เลยคิดว่าจะเปลี่ยนเพลน เที่ยวเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ คิดว่าจะขับรถไปเอง ออกเดินทางจาก กทม. เวลา 20.00 ถึงเชียงใหม่น่าจะเช้ามึด
chaem jubjub
แนะนำหน่อยค่ะ จะไปเชียงใหม่ - อ่างขาง จัด/ตรวจ ทริปให้หน่อยจ้า 5 วัน 4 คืนน่ะ
จองตั๋วเสือน้อยวันที่ 25 - 29 ธค ได้ค่ะ จองไว้ 5 วัน หาข้อมูลและจัดทริปไว้คร่าวๆ แล้ว แต่ลังเลอยู่ค่ะ 25 ธค - เชียงใหม่ - อ่างขาง: ลงเครื่องที่เชียงใหม่เวลา 12.35น รับกระเป๋า และรับรถเช่า น่าจะเริ่มเด
noo_lekja
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
จังหวัดเชียงใหม่
Backpack
Fuji X-T10
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 995
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เที่ยวเชียงใหม่ แว้นมอเตอไซต์ 4วัน 3ดอย อ่างขาง – อินทนนท์ - ดอยสุเทพ
สวัสดีนักอ่านนักเที่ยวทุกคนครับ เพิ่งจะผ่านช่วงปีใหม่ 2016 มาหมาดๆ ผมก็อยากจะออกเดินทางอีกแล้ว และผมเพิ่งจะตัดสินใจลาออกจากงานที่เดิม เลยทำให้ผมมีเวลาว่างมากพอที่จะไปเที่ยวที่ไหนสักที่
ถ้าพูดถึงจังหวัดที่น่าเที่ยวของเมืองไทย เชียงใหม่ต้องติดอันดับต้นๆของใครหลายคนแน่ๆ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายน่าสนใจเต็มไปหมด ผมเองก็อยากไปมานานแล้วเพราะยังไม่เคยไปเชียงใหม่เลยสักครั้ง พอตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปที่ไหนก็เก็บกระเป๋า เตรียมกล้อง ไปกันแบบ โนแพลน โนจอง กันเลย ค่อยไปคิดเอาระหว่างทาง วางแพลนไว้ 4วันครับ
ทริปนี้เราไปเก็บภาพต่างๆ โดยใช้กล้อง Fuji X-T10 (เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆเลย) พร้อมกับเลนส์ 18-55 … ถือเป็นทริปเจิมกล้องใหม่กันเลยก็ว่าได้ครับ
ก่อนวันเดินทางเราไปจองตั๋วรถโดยสารไปเชียงใหม่ ของบริษัทนครชัยแอร์ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต ราคา (Gold Class ) 538 บาท/ที่นั่ง (สามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่ http://www.nca.co.th )
ออกเดินทาง : สู่เชียงใหม่
เราได้ตั๋วรอบ 3ทุ่มครับ คำนวณเวลาแล้วน่าจะถึงเชียงใหม่ตอนเช้าพอดี…พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลย
อยู่บนรถของนครชัยแอร์มีของกินให้เพียบ
รถออกจากหมอชิต 20.55น. ตรงเป๊ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชม. ระหว่างทางเป็นไงไม่ต้องพูดถึงครับ หลับตลอดทางตามเคย เก็บแรงไว้ใช้ตอนเช้าครับ
วันแรก : ถึงเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง
เราถึงบริษัทนครชัยแอร์ที่เชียงใหม่ (อยู่ติดกันกับสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่) เวลาประมาณ 6โมงเช้า ฟ้ายังมืดอยู่เลย เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ให้เรียบร้อย…เตรียมตัวเข้าสู่โหมดเที่ยว
เสร็จธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว อย่างแรกที่ต้องทำคือ หาร้านเช่ามอเตอไซต์ ซึ่งจะเป็นพาหนะหลักในการเดินทางของเรา… จากที่หาข้อมูลผ่านอากู๋ เราก็เจอเว็บของร้าน “ Bikky Chiangmai ” ร้านอยู่แถวๆอาเขต เลยเซเว่นไปหน่อยเดียว
ที่ร้านมีรถหลายรุ่น หลายราคาให้เลือกเช่า แถมถ้าลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บของร้านล่วงหน้า ทางร้านมีส่วนลดให้ด้วย ตามนี้เลยครับ http://www.bikkychiangmai.com
วันที่เราไปนี่คนเยอะมากครับ กว่าจะทำเรื่องเสร็จก็เกือบสายเลย แล้วเราก็ได้ Grand Filano สีขาวคันนี้ ค่าเช่าวันล่ะ 300 บาทเป็นเพื่อนเดินทางของเราในครั้งนี้ครับ
เอาล่ะ ออกเดินทางสู่จุดหมายแรกกัน ที่แรกที่ผมอยากไปนั่นคือ ดอยอ่างขางครับ คุยกับพี่ที่ร้านเช้ามอไซต์ พี่แกบอกว่าไกลไปมั้ย แต่ผมไม่หวั่นอยู่แล้ว…พอเปิด GPS ดูเท่านั้นแหละ แม่เจ้า 157 km … เอาวะ ตั้งใจไว้แล้วก็ต้องไป
เราออกเดินทางจากเชียงใหม่ ประมาณ 8.30 น. ไปตามป้ายบอกทางและเปิด GPS ไปตามเส้นทางเชียงใหม่ – ฝาง ขับไปแวะไป เติมน้ำมันไปรอบนึง ขับไกลเริ่มจะเหนื่อย ขับเรื่อยๆเริ่มท้อ ขับเร็วก็ไม่ได้ มันหนาววว … เห้ย!!อีกไกลป่ะเนี่ยะ ยิ่งขับไปไกลเส้นทางก็ยิ่งโลนลี่ขันเรื่อยๆเลย
ขับมาจนเที่ยงก็ยังไม่ถึงครับ ภูมิอากาศที่นี่ขับมอไซต์ตอนบ่ายงไม่รู้สึกอุ่นเลย ยิ่งขับมาไกลเส้นทางยิ่งโหดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแคบ ทั้งชัน นี่มันเส้นทางทดสอบฝีมือการขับขี่ชัดๆ!! ขอแนะนำสำหรับใครจะขับมอไซต์หรือแม้แต่รถยนต์มาเส้นทางนี้ ควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูงนะครับ และควรมาตอนเช้าหรือกลางวันจะดีกว่า เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียตอนบ่ายหรือเย็นจะหาความช่วยเหลือค่อนข้างยาก เพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แม้แต่ขีดเดียว
ขับมานานเริ่มเมื่อยมากขึ้นเรื่อยๆครับ หลังจากนั้นเราแวะจุดพักรถเป็นว่าเล่นเลย แบบว่าอยากพัก เห็นวิวสวยเป็นต้องจอดถ่ายรูป ใจเย็นกันเกินไปรึเปล่านะเรา
ระหว่างทางมีดอกพญาเสือโคร่งบานอยู่เป็นระยะ ยังบานไม่เยอะเท่าไรแต่ก็สวยดีครับ
ขับตามทางมาเรื่อยๆ เริ่มจะมีหวังว่าคงถึงในเร็วๆนี้เมื่อเราเห็นจุดกางเต็นท์ เลยเข้าไปถามพี่ชายที่จุดกางเต็นท์นั้น พี่เค้าบอกว่าไปอีกนิดเดียว ผมนี่ยิ้มเลย ตรงนี่มีบริการเต้นและเครื่องนอนให้เช่าด้วยนะครับ แต่เราไม่ได้นอนนี้นะ ยังเสียดายอยู่เลย ถ้านอนตรงนี้กลางคืนคงได้ดูดาวสวยๆแน่ๆ
ขับต่อมาอีกนิดเดียว ถึงแล้วครับ ”สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” จุดหมายของเรา
ดูนาฬิกา เวลาตอนนั้นก็เกือบจะบ่ายสามแล้ว หาที่พักกันก่อนดีกว่า …เราได้ที่พักเป็นที่ “ บ้านจี๊ดจ๊าด อ่างขาง ” ห้องที่เราพักเป็นห้องสำหรับ 2 คน ราคา 1000บาท/คืน พร้อมอาหารเช้าครับ
เก็บของเข้าที่พักแล้ว ล้างหน้าล้างตา นั่งพักกันหน่อย แต่วันนี้ของเรายังไม่จบ …มาเที่ยวทั้งทีจะนั่งเฉยๆให้เสียเวลาทำไมเล่า เที่ยวต่อสิครับ ปะ! สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ก่อนเข้าชมสถานีเกษตร ต้องเสียค่าบำรุงสถานี คนล่ะ 50 บาท หากนำรถเข้าต้องเสียค่ารถอีกคันละ 50 บาท งั้นเราเดินดีกว่าเนอะ
ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 8.00น. – 18.00น. จ่ายค่าบำรุงสถานีเรียบร้อยเราจะได้บัตรพร้อมแผ่นพับแนะนำสถานีพร้อมแผนที่ภายในสถานีแห่งนี้ครับ
สถานีเกษตรหลวงอ่างขางแห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ชาวบ้านแถบนี้แทนการปลูกฝิ่น ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จากเว็บไซต์ของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง http://www.angkhangstation.com/
เดินเข้ามาภายในสถานีเกษตร ทางเดินด้านหน้าปลูกต้นซากุระที่กำลังออกดอกอย่างสวยงามไว้ต้อนรับผู้ที่มาเที่ยว บรรยากาศนี่นึกว่าอยู่ญี่ปุ่น (ถามว่าเคยไปญี่ปุ่นมั้ย…ไม่ครับ ฮ่าๆ)
หลังจากนั้น โลกแห่งการถ่ายภาพของผมก็กลายเป็นสีชมพูไปชั่วขณะ
ออกจากโลกสีชมพูแป๊บนึง เรามาฝั่งตรงข้ามมีสวนกุหลาบอยู่ครับ เข้าไปดูสักหน่อย
ในนี้มีแต่กุหลาบครับ...ก็แปลงกุหลาบนิ
เดินออกมาทางด้านหลังเราเจอกับแปลงไม้ดอกสวยๆ กว้างๆ มีไม้ดอกหลายชนิด ได้เห็นมีวิวสวยๆของสถานีเกษตรอ่างขางนี้ด้วย
ทุ่งคาโมมายสวยๆ ณ แปลงไม้ดอก
ก่อนเดินออกจากแปลงไม้ดอก ขอถ่ายรูปวิวกว้างเอาไว้หน่อย
กลับเข้าสู่เส้นทางตามแผนที่ เราเดินตามทางมาก็มีดอกบ๊วยบานอยู่ริมทางด้วย
เดินลัดเลาะเข้ามาที่สวนบอนไซ ในนี้มีต้นบอนไซแปลกๆตาเพียบ แต่เราเดินชมในนี้กันแค่แป๊บเดียวครับ
เราออกจากสวนบอนไซ กลับสู่ทางเดินอีกครั้ง ดูท่าแล้วคงต้องเดินอีกไกลเลย แต่ตลอดทางมีนู่น นี่ นั่น ให้เราได้ดูเพลินๆตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ทางเดิน ซากุระ แปลงบ๊วย ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยครับ
เดินมาอีกนิดเรามาถึงโซนที่เรียกว่า ลานกิจกรรม ซึ่งปกติแล้วเข้าเอาทำกิจกรรมต่างๆนั่นแหละครับ
ในส่วนนี้ จะมีมุมถ่ายรูปกับต้นบ๊วย มีกิจกรรมขี่ล่อ มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือเรื่องต่างๆด้วยครับ
รอบๆลานกิจกรรมมีอะไรสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะครับ ดอกบ๊วยที่กำลังบาน นาข้าวบาร์เลย์ ฯ
เดินมาต่อกันอีกนิดนึงเรามาถึงโซนของ สวน 80 ตรงนี้เป็นสวนดอกไม้หลายชนิด จัดอย่างสวยงาม
ใกล้ๆกันเป็นสวนกุหลาบอังกฤษ
สารภาพตามตรงว่าเข้ามาโซนนี้ผมไม่ได้สนใจกุหลาบเลย สิ่งที่อยู่ด้านหลังมันดึงดูดผมมากกว่า นั่นก็คือแปลงปลูกซากุระ อีกแล้ว
ออกจากสวนกุหลายอังกฤษมา เข้าสู่เส้นทางที่เป็นทางเดินกลับ ระหว่างทางนั้นบรรยากาศและทัศนียภาพยังสวยงามอย่างต่อเนื่องครับ เราก็เลยเดินชิลๆถ่ายรูปตามทางไปเรื่อยๆ
เดินต่อมาอีกเรามาถึงแปลงบ๊วย ที่หลายๆคนที่มาที่นี่ชอบมาถ่ายรูปกัน เลยขอแวะสักหน่อยเผื่อจะได้รูปสวยๆกับเค้าบ้าง