คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ตอบเป็นแนวให้ แล้ว กัน
ความผิดฐานฉ้อโกงนั้น หลัก ๆ คือ ต้องหลอกลวงให้ได้มาซึ่งทรัพย์ แต่กรณีนี้ มีฎีกา ออกมาว่าการหลอกให้ไปส่ง นั้น ไม่ใช่การได้มาซึ่งทรัพย์สิน ขึงไม่ใฃ่ ความผิดฐานฉ้อโกง พงส. จึงไม่มีอำนาจ จับกุมหรือตั้ง ข้อหาในทางอาญา
แต่บางคน ก็ตีความไปว่า การให้บริการนั้น ก็เพื่อได้ทรัพย์สิน อย่างหนึ่ง เมื่อ หลอกให้บริการแล้วไม่จ่ายทรัพย์สิน(เงินทอง)ให้ ผู้หลอกย่อมจะได้
ทรัพย์สิน(เงินทอง)ที่หลอกให้ไปส่ง นั่น ก็คือค่าแท๊กซี่
ดังนั้น เมื่อยังไม่ มีฎีกากลับ จึงต้อง ยึด ฎีกาเดิมไว้ คือ ไม่มีความผิดฐาน ฉ้อโกง แต่ผิด ตาม พ.ร.บ.จราจร เรื่อง ต้องชำระค่าแท๊กซี่ มีค่าปรับ และ
อาจจะต้องไปเรียกร้อง ค่าแท๊กซี่ ในทางแพ่ง ต่อไป
ความผิดฐานฉ้อโกงนั้น หลัก ๆ คือ ต้องหลอกลวงให้ได้มาซึ่งทรัพย์ แต่กรณีนี้ มีฎีกา ออกมาว่าการหลอกให้ไปส่ง นั้น ไม่ใช่การได้มาซึ่งทรัพย์สิน ขึงไม่ใฃ่ ความผิดฐานฉ้อโกง พงส. จึงไม่มีอำนาจ จับกุมหรือตั้ง ข้อหาในทางอาญา
แต่บางคน ก็ตีความไปว่า การให้บริการนั้น ก็เพื่อได้ทรัพย์สิน อย่างหนึ่ง เมื่อ หลอกให้บริการแล้วไม่จ่ายทรัพย์สิน(เงินทอง)ให้ ผู้หลอกย่อมจะได้
ทรัพย์สิน(เงินทอง)ที่หลอกให้ไปส่ง นั่น ก็คือค่าแท๊กซี่
ดังนั้น เมื่อยังไม่ มีฎีกากลับ จึงต้อง ยึด ฎีกาเดิมไว้ คือ ไม่มีความผิดฐาน ฉ้อโกง แต่ผิด ตาม พ.ร.บ.จราจร เรื่อง ต้องชำระค่าแท๊กซี่ มีค่าปรับ และ
อาจจะต้องไปเรียกร้อง ค่าแท๊กซี่ ในทางแพ่ง ต่อไป
แสดงความคิดเห็น
ไม่จ่ายค่าtaxi ไม่ผิดกฏหมายเหรอครับ
มีคนเรียกเหมาไปสักที่ ซึ่งผมก็จำไม่ได้ ว่าไปที่ไหน แต่เป็นราคา ทั้งหมด2500 บาท
ซึ่งพอไปถึงแล้วลูกค้าไม่มีเงิน จ่าย คนขับเลยพาไปหาตำรวจ แล้วตำรวจหาข้อหาจับคนนั่ง ไม่ได้
สุดท้ายได้แต่ลงบันทึกประจำวันแล้วปล่อยไป
ถ้าเรื่องเป็นเรื่องจริง โชเฟอร์ก็ตายดิครับ มีแต่คนขึ้นรถ พอไปถึงแล้วกลับมาพูดว่า ไม่มีเงินจ่าย
เปลืองก๊าซ เปลืองเวลาไปฟรีนะสิครับ แถมตำรวจเอาเรื่องไม่ได้ด้วย