ตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดขออภัยค่ะ 
รูปใหญ่หน่อยนะคะ กะขนาดไม่ถูก...
พอดีเพื่อนจากเยอรมันมาฮันนีมูนที่ไทยค่ะ เราก็พาเที่ยวเมืองตามปกติ พาไปเรียนมวยไทยด้วย
เมื่อวานนี้ตอนแรกเรากะจะไปอยุธยาแต่เกิดเปลี่ยนแผน ตกลงว่าจะไปนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาแทน
เราย้ายมาอยู่กรุงเทพก็หลายปีแล้ว ยังไม่เค้ยยยย...จะนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ เพื่อนมารอบนี้เป็นโอกาสอันดี ที่จะไปประเดิมครั้งแรก!!
เริ่มต้นก็เปิดกูเกิ้ลหาบริษัททัวร์แม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ กับพยายามจะหาอ่านรีวิวจากพันทิป แต่ก็เจอรีวิวแค่ทานข้าวบนเรือตอนกลางคืน เราเนี่ยอยากพาไปนั่งเรือตอนบ่ายมากกว่า ไปล่องเรือกลางคืน ฝรั่งคงจะไม่ได้ดูวิวแน่นอน จริงๆเราว่าตอนกลางคืนมันก็คงสวยไปอีกแบบแหละค่ะ แต่เที่ยวครั้งแรก เราก็คิดว่ากลางวันจะดีกว่า
พแหารีวิวไม่เจอก็ได้แต่เสี่ยงดวงเอาแล้วค่ะ หลังจากเลือกอยู่นานเราก็สรุปไปกับทัวร์ Line Thai Travel ค่ะ ทัวร์นั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดต่างๆ ละก็นั่งเรือชมวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านคลองบางกอกน้อย โดยทัวร์นี้มีทุกวันค่ะ เรือออกจากท่า 14.30 น. โปรแกรมจะไม่แวะจอดให้เดินชมสถานที่เลย คือนั่งเรือดูอย่างเดียว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็เสร็จค่ะ กลับถึงท่าตอน 16.30 น.
โชคดีมากเราไปตอนกรุงเทพอากาศเย็นสบาย ( ความหนาวที่จากเราไปแล้ว~ ) ตลอดทริปนี่อากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ
ราคาตกอยู่ที่คนละ 650 บาทค่ะ ( ก็โอเคนะ เราเจอที่อื่น 1000+ สำหรับทัวร์แบบนี้ ) พอติดต่อจองที่เราก็จะต้องโอนเงินก่อนเที่ยงของวันนั้น เพื่อคอนเฟิร์มที่นั่งค่ะ เราเห็นมีคนมาลงเรือแบบ เดินมาติดต่อที่ท่าเลย รู้สึกจะโดนคิดเงินเพิ่มนะคะ เราไม่แน่ใจเหมือนกัน เพื่อความชัวร์ ใครที่จะำปโทรจองก่อนดีกว่า โทรเช้าของวันที่จะไปก็ทันค่ะ
ขึ้นเรือที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ มาจอดรถที่อาคารริเวอร์ซิตี้ได้เลยค่ะ จากนั้นพอเข้าไปในตึกจะเจอโต๊ะมีป้ายเรือแว่นฟ้าอยู่ ไปเช็คอินตรงนั้นก็จะได้สติ๊กเกอร์มาแปะกันปนไปกับเรือลำอื่น เพราะขึ้นเรือเวลาติดๆกันเลยค่ะ
พนักงานอธิบายดี พูดจาดี ใช้ได้เลยค่ะ นี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่เราเลือกทัวร์นี้ค่ะ บางที่ตอนแรกที่เราโทรไปสอบถาม เขาไม่อธิบายอะไรเลย เหมือนขี้เกียจคุยค่ะ
เราเอากล้องไปด้วยกะจะเก็บรูปสวยๆ แต่พอหยิบมากดถ่ายรูปเรือเท่านั้นล่ะ........
.......
NO MEMORY CARD
จบข่าวค่ะ! เมื่อคืนเอาเมมไปโหลดรูปลงคอมละคงเสียบค่าไว้อย่างนั้น ฮือ ทริปนี้ทั้งทริปเราเลยต้องพึ่งกล้องโทรศัพท์ของเรา ดังนั้นภาพไม่ชัดหรืออะไรก็ขอโทษด้วยนะคะ
ว้นนี้คนไม่เยอะมาก เลยจับจองที่นั่งกันสบายๆไปเลย
เรือออกช้าไปหน่อยค่ะเพราะรอผู้โดยสารที่มาเลท แต่ก็โอเคค่ะ อากาศดี ทุกอย่างดี อย่าหงุดหงิดให้เสียอารมณ์เล้ยยย
เราแล่นขึ้นเหนือค่ะ ระทึกบ้างตอนถึงช่วงคึกคัก คนนั้นข้ามฝาก คนนั้นสวนทางมา อีกคนก็ตีคู่ยังกะจะแข่งเรือเร็ว
พี่ไกด์เป็นชายวัยกลางคน(อาจจะเลยไปนิด) สปีคอิงลิชตลอดทริปค่ะ เพราะทั้งเรือมีแต่ฝรั่ง มีแค่เราที่เป็นคนไทย เราว่าเราเก่งอังกฤษพอตัวนะคะ แต่เราฟังลุงแกไม่ค่อยเข้าใจค่ะ สำเนียงลุงล้ำเลิศมากค่าาาา
แต่คุณลุงน่ารักค่ะ อธิบายตลอดเวลา ชวนดูนุ่นดูนี่
บอกตรงๆเลยค่ะ กรุงเทพเป็นเมืองที่มีสเน่ห์มากค่ะ เรานั่งเรือดูวิวนี่เรายังตกหลุมรักกรุงเทพซ้ำแล้วซ้ำอีก ผ่านตึกอาคารสมัยก่อนสลับกับตึกสมัยใหม่ เห็นความเปลี่ยนแปลงโดยรอบเลยค่ะ
ผ่านหลายวัดเลยค่ะ แต่แบบเราไม่ค่อยตั้งใจเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไทยเท่าไหร่ ความรู้เรื่องความสำคัญของแต่ละวัดเป็นศูนย์ค่ะ!
ล่องเรือมาจนถึงศิริราช ก็เลี้ยวเข้าคลองบางกอกน้อยค่ะ
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
ผ่านแวบเดียว มองแทบไม่เห็นอะไรเลย
ล่องเรือไปเรื่อยๆก็เริ่มเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำค่ะ มีบ้านสวยๆทรงไทยหลายหลังม๊ากกกก ฝรั่งนี่ฮือฮาถ่ายรูปกันเต็ม
ปล. เราเองก็ถ่ายด้วย ถ้าเจ้าของบ้านมาเห็นแล้วไม่โอเค ส่งข้อความมาบอกให้ลบได้เลยนะคะ
ระหว่างทางมีแม่ค้าน้ำพายเรือเล็กขายของค่ะ เรือก็จอดให้เราซื้อของกัน เพื่อนเรานี่รักแฟนต้าน้ำแดงมากค่ะ ที่เยอรมันหาซื้อยากมาก ต้องซื้อตามร้านAsia Market ซึ่งแฟนต้ากระป๋องนึงอยู่ที่ 1.20€ !
พอมาถึงไทยออกจากสนามบินอย่างแรกที่ทำคือแวะเซเว่นซื้อแฟนต้าสีแดง กินวันละไม่รู้กี่กระป๋อง
มาล่องเรือ ระหว่างทางพอเจอแม่ค้าขายก็รีบซื้อใหญ่
ถัดมาอีกนิดก็เป็นวัด ( เราจำชื่อไม่ได้ ขอโทษด้วยค่ะ ) เขาก็จอดแวะอีกครั้งแล้วก็ขายขนมปังแถว ให้เราซื้อกันเพื่อให้อาหารปลาค่ะ แถวละ 20 บาท
จากนั้นก็ล่องเรือต่อตามคลองบางกอกน้อย ซักพักก็วนเรือกลับทางเดิม ไปแวะจอดที่ท่าเรือใกล้ทางออกสู่เจ้าพระยา เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นเรือ เอี๊ยมจุ้น ค่ะ
คนเยอะขึ้นเพราะรวมเรือกับอีกลำนึง
ขึ้นเรือมามีสาวๆใส่ชุดไทยยืนต้อนรับ แจกผ้าเย็นให้แขก บนเรือก็มีอาหารว่าง ( หรือควรจะบอกว่า เป็นผลไม้ว่าง ซะมากกว่า เพราะหาอาหารว่างไม่เจอเลย เจอแค่ผลไม้ ) คุณลุงก็เดินแจกจานกับทุกคนเลยค่ะ
เราแนะนำให้ไปนั่งหัวเรือค่ะ ลมเย็น เห็นวิว อาจจะเหมือนเล่นเซิร์ฟนิดหน่อย โยกขึ้นลง แต่บรรยากาศดีมากค่ะ
ระหว่างแล่นกลับท่า สาวๆชุดไทยก็จะเดินแจกเครื่องดื่ม มีทั้งน้ำผลไม้ ไหมไทย และ วอดก้า ค่ะ
เรานี่แค่นั่งเรือก็เมาพอได้แล้ว วอดก้ามาอีกกลัวจะมีปัญหา 😂
กลับถึงท่ากันโดยสวัสดิภาพ ฝรั่งแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ค่ะ ภูมิใจในความสวยงามของเมืองเรามากๆค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนี้ยังเรายังนั่งเรือกันไม่พอใจ เรากลับขึ้นรถตรงไปนั่งเรือต่อที่บางขุนเทียนค่ะ ทะเลกรุงเทพ ( ไม่ใช่สวนสยามนะ )
เราไปทานอาหารเย็นที่ Bangkok Seaview ค่ะ
ขับรถจากท่าเรือไปประมาณ 40 นาทีค่ะ รถติดบ้างประปราย ตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่มลงต่ำ ตอนขับไปก็กลัวไม่ทันพระอาทิตย์ตกมากกกก
พอไปถึงที่จอดรถก็รอเรือมารับค่ะ จะต้องนั่งเรือไปตามคลองน้ำกร่อยประมาณครึ่งชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนคนนั่ง ถ้าคนนั่งเยอะ คนเรือซิ่งไม่ได้ ก็อาจจะนานกว่าครึ่งชั่วโมง โชคดีรอบเรามีแต่พวกเรา 6 คนค่ะ คนเรือนี่ขับซิ่งเชียว 20 นาทีก็ถึงร้านอาหารค่ะ
ช่วงที่เรารอเรือมารับที่ท่า เราก็ดูเมนูแล้วสั่งอาหารไว้เลย พนักงานต้อนรับก็จะโทรไปสั่งอาหารไว้ให้กับที่ร้าน พอเรานั่งเรือถึงปุ๊ปอาหารก็เสิร์ฟทันที
บรรยากาศตอนนั่งเรือค่ะ ทันพระอาทิตย์ตกพอดี สวยม๊ากกกกกกก
คนเรือก็ใจดีพาเราอ้อมออกทะเลไปถ่ายรูปด้วย แล้วค่อยวนมาส่งที่ท่าเรือร้านอาหาร พอถึงมีน้องหมาวิ่งมาต้อนรับด้วย
แบ่งกันยืน เสาละตัว เป็นระเบียบกันมากเลย
เราว่าเรานี่ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าฝรั่งอีกค่ะ กรี๊ดกร๊าดกันตลอดทาง
ขึ้นท่าเรือที่ร้านอาหารปุ๊ปก็ตรงไปหาโต๊ะนั่งเลย มีให้เลือกแบบนั่งพื้นกับนั่งโต๊ะ เราสงสารฝรั่ง สูงยาว นั่งพื้นคงไม่สะดวกนัก ก็เลยไปนั่งโซนโต๊ะปกติค่ะ
วิวสวย พนักงานบริการดี อาหารก็ใช้ได้เลยค่ะ
เราหิวจัดมาก ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารชัดๆเลย
ที่สั่งมาทานมี
ปูไข่ ( ไข่ทะลักมาก )
กระเพราทะเล
ข้าวผัด ( ให้ฝรั่งกิน ฝรั่งคนนึงทานยากค่ะ มาไทยนี่กินแต่ข้าวผัด อย่างอื่นไม่ยอมกินเลย 55555 )
หอยแมลงภู่อบ
ปลากระพงทอดน้ำปลา
กุ้งสามรส
อร่อยทุกอย่างค่ะ ซัดกันเรียบไม่เหลือแม้แต่เศษ 😋
กินเสร็จพอดีถึงรอบเรือพากลับฝั่งค่ะ ตอน 19.20 น.
ขานั่งกลับนี่มืดตื้บ!
ลมหนาวมาก บรรยากาศน่ากลัวมากกกก มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากละอองน้ำที่โดนแสงจากหลอดไฟ 1 ดวงใต้หัวเรือ
แฟนเรานี่ก็แบบพยายามขู่ให้กลัวเหลือเกิ้นนน แต่นั่งเฉยๆก็เสียววาบแล้ว จะมาขู่เพิ่มทำไมมมม
แต่เพราะความมืดนี่แหละ ท้องฟ้าเห็นดาวชัดมากๆค่ะ
แต่ถ่ายรูปมาไม่เห็นอะไรเลย เสียดายยย
กลับบ้านมาอิ่มอกอิ่มใจกับความงามที่ได้เจอวันนี้มากๆค่ะ
บอกเลย ฉันรักประเทศไทย ❤️
ปล. ส่วนตัว ฝากบลอคเราค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนมากเราก็เขียนเรื่องนู้นเรื่องนี้ทั่วไป ทำอาหาร เที่ยว แต่งหน้า เป็น lifestyle blog ค่ะ ว่างๆไปแวะดูกันได้น้าาา
http://zeichu.wordpress.com
[CR] [ review ] พาฝรั่งนั่งเรือเที่ยว | นั่งเรือล่องแม่นำ้เจ้าพระยา + อาหารเย็นชมพระอาทิตย์ตกที่บางขุนเทียน
รูปใหญ่หน่อยนะคะ กะขนาดไม่ถูก...
พอดีเพื่อนจากเยอรมันมาฮันนีมูนที่ไทยค่ะ เราก็พาเที่ยวเมืองตามปกติ พาไปเรียนมวยไทยด้วย
เมื่อวานนี้ตอนแรกเรากะจะไปอยุธยาแต่เกิดเปลี่ยนแผน ตกลงว่าจะไปนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาแทน
เราย้ายมาอยู่กรุงเทพก็หลายปีแล้ว ยังไม่เค้ยยยย...จะนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ เพื่อนมารอบนี้เป็นโอกาสอันดี ที่จะไปประเดิมครั้งแรก!!
เริ่มต้นก็เปิดกูเกิ้ลหาบริษัททัวร์แม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ กับพยายามจะหาอ่านรีวิวจากพันทิป แต่ก็เจอรีวิวแค่ทานข้าวบนเรือตอนกลางคืน เราเนี่ยอยากพาไปนั่งเรือตอนบ่ายมากกว่า ไปล่องเรือกลางคืน ฝรั่งคงจะไม่ได้ดูวิวแน่นอน จริงๆเราว่าตอนกลางคืนมันก็คงสวยไปอีกแบบแหละค่ะ แต่เที่ยวครั้งแรก เราก็คิดว่ากลางวันจะดีกว่า
พแหารีวิวไม่เจอก็ได้แต่เสี่ยงดวงเอาแล้วค่ะ หลังจากเลือกอยู่นานเราก็สรุปไปกับทัวร์ Line Thai Travel ค่ะ ทัวร์นั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดต่างๆ ละก็นั่งเรือชมวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านคลองบางกอกน้อย โดยทัวร์นี้มีทุกวันค่ะ เรือออกจากท่า 14.30 น. โปรแกรมจะไม่แวะจอดให้เดินชมสถานที่เลย คือนั่งเรือดูอย่างเดียว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็เสร็จค่ะ กลับถึงท่าตอน 16.30 น.
ราคาตกอยู่ที่คนละ 650 บาทค่ะ ( ก็โอเคนะ เราเจอที่อื่น 1000+ สำหรับทัวร์แบบนี้ ) พอติดต่อจองที่เราก็จะต้องโอนเงินก่อนเที่ยงของวันนั้น เพื่อคอนเฟิร์มที่นั่งค่ะ เราเห็นมีคนมาลงเรือแบบ เดินมาติดต่อที่ท่าเลย รู้สึกจะโดนคิดเงินเพิ่มนะคะ เราไม่แน่ใจเหมือนกัน เพื่อความชัวร์ ใครที่จะำปโทรจองก่อนดีกว่า โทรเช้าของวันที่จะไปก็ทันค่ะ
ขึ้นเรือที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ มาจอดรถที่อาคารริเวอร์ซิตี้ได้เลยค่ะ จากนั้นพอเข้าไปในตึกจะเจอโต๊ะมีป้ายเรือแว่นฟ้าอยู่ ไปเช็คอินตรงนั้นก็จะได้สติ๊กเกอร์มาแปะกันปนไปกับเรือลำอื่น เพราะขึ้นเรือเวลาติดๆกันเลยค่ะ
พนักงานอธิบายดี พูดจาดี ใช้ได้เลยค่ะ นี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่เราเลือกทัวร์นี้ค่ะ บางที่ตอนแรกที่เราโทรไปสอบถาม เขาไม่อธิบายอะไรเลย เหมือนขี้เกียจคุยค่ะ
เราเอากล้องไปด้วยกะจะเก็บรูปสวยๆ แต่พอหยิบมากดถ่ายรูปเรือเท่านั้นล่ะ........
.......
NO MEMORY CARD
จบข่าวค่ะ! เมื่อคืนเอาเมมไปโหลดรูปลงคอมละคงเสียบค่าไว้อย่างนั้น ฮือ ทริปนี้ทั้งทริปเราเลยต้องพึ่งกล้องโทรศัพท์ของเรา ดังนั้นภาพไม่ชัดหรืออะไรก็ขอโทษด้วยนะคะ
ว้นนี้คนไม่เยอะมาก เลยจับจองที่นั่งกันสบายๆไปเลย
เรือออกช้าไปหน่อยค่ะเพราะรอผู้โดยสารที่มาเลท แต่ก็โอเคค่ะ อากาศดี ทุกอย่างดี อย่าหงุดหงิดให้เสียอารมณ์เล้ยยย
เราแล่นขึ้นเหนือค่ะ ระทึกบ้างตอนถึงช่วงคึกคัก คนนั้นข้ามฝาก คนนั้นสวนทางมา อีกคนก็ตีคู่ยังกะจะแข่งเรือเร็ว
พี่ไกด์เป็นชายวัยกลางคน(อาจจะเลยไปนิด) สปีคอิงลิชตลอดทริปค่ะ เพราะทั้งเรือมีแต่ฝรั่ง มีแค่เราที่เป็นคนไทย เราว่าเราเก่งอังกฤษพอตัวนะคะ แต่เราฟังลุงแกไม่ค่อยเข้าใจค่ะ สำเนียงลุงล้ำเลิศมากค่าาาา
แต่คุณลุงน่ารักค่ะ อธิบายตลอดเวลา ชวนดูนุ่นดูนี่
บอกตรงๆเลยค่ะ กรุงเทพเป็นเมืองที่มีสเน่ห์มากค่ะ เรานั่งเรือดูวิวนี่เรายังตกหลุมรักกรุงเทพซ้ำแล้วซ้ำอีก ผ่านตึกอาคารสมัยก่อนสลับกับตึกสมัยใหม่ เห็นความเปลี่ยนแปลงโดยรอบเลยค่ะ
ผ่านหลายวัดเลยค่ะ แต่แบบเราไม่ค่อยตั้งใจเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไทยเท่าไหร่ ความรู้เรื่องความสำคัญของแต่ละวัดเป็นศูนย์ค่ะ!
ล่องเรือมาจนถึงศิริราช ก็เลี้ยวเข้าคลองบางกอกน้อยค่ะ
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
ผ่านแวบเดียว มองแทบไม่เห็นอะไรเลย
ล่องเรือไปเรื่อยๆก็เริ่มเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำค่ะ มีบ้านสวยๆทรงไทยหลายหลังม๊ากกกก ฝรั่งนี่ฮือฮาถ่ายรูปกันเต็ม
ปล. เราเองก็ถ่ายด้วย ถ้าเจ้าของบ้านมาเห็นแล้วไม่โอเค ส่งข้อความมาบอกให้ลบได้เลยนะคะ
ระหว่างทางมีแม่ค้าน้ำพายเรือเล็กขายของค่ะ เรือก็จอดให้เราซื้อของกัน เพื่อนเรานี่รักแฟนต้าน้ำแดงมากค่ะ ที่เยอรมันหาซื้อยากมาก ต้องซื้อตามร้านAsia Market ซึ่งแฟนต้ากระป๋องนึงอยู่ที่ 1.20€ !
พอมาถึงไทยออกจากสนามบินอย่างแรกที่ทำคือแวะเซเว่นซื้อแฟนต้าสีแดง กินวันละไม่รู้กี่กระป๋อง
มาล่องเรือ ระหว่างทางพอเจอแม่ค้าขายก็รีบซื้อใหญ่
ถัดมาอีกนิดก็เป็นวัด ( เราจำชื่อไม่ได้ ขอโทษด้วยค่ะ ) เขาก็จอดแวะอีกครั้งแล้วก็ขายขนมปังแถว ให้เราซื้อกันเพื่อให้อาหารปลาค่ะ แถวละ 20 บาท
จากนั้นก็ล่องเรือต่อตามคลองบางกอกน้อย ซักพักก็วนเรือกลับทางเดิม ไปแวะจอดที่ท่าเรือใกล้ทางออกสู่เจ้าพระยา เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นเรือ เอี๊ยมจุ้น ค่ะ
คนเยอะขึ้นเพราะรวมเรือกับอีกลำนึง
ขึ้นเรือมามีสาวๆใส่ชุดไทยยืนต้อนรับ แจกผ้าเย็นให้แขก บนเรือก็มีอาหารว่าง ( หรือควรจะบอกว่า เป็นผลไม้ว่าง ซะมากกว่า เพราะหาอาหารว่างไม่เจอเลย เจอแค่ผลไม้ ) คุณลุงก็เดินแจกจานกับทุกคนเลยค่ะ
เราแนะนำให้ไปนั่งหัวเรือค่ะ ลมเย็น เห็นวิว อาจจะเหมือนเล่นเซิร์ฟนิดหน่อย โยกขึ้นลง แต่บรรยากาศดีมากค่ะ
ระหว่างแล่นกลับท่า สาวๆชุดไทยก็จะเดินแจกเครื่องดื่ม มีทั้งน้ำผลไม้ ไหมไทย และ วอดก้า ค่ะ
เรานี่แค่นั่งเรือก็เมาพอได้แล้ว วอดก้ามาอีกกลัวจะมีปัญหา 😂
กลับถึงท่ากันโดยสวัสดิภาพ ฝรั่งแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ค่ะ ภูมิใจในความสวยงามของเมืองเรามากๆค่ะ
หลังจากนี้ยังเรายังนั่งเรือกันไม่พอใจ เรากลับขึ้นรถตรงไปนั่งเรือต่อที่บางขุนเทียนค่ะ ทะเลกรุงเทพ ( ไม่ใช่สวนสยามนะ )
เราไปทานอาหารเย็นที่ Bangkok Seaview ค่ะ
ขับรถจากท่าเรือไปประมาณ 40 นาทีค่ะ รถติดบ้างประปราย ตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่มลงต่ำ ตอนขับไปก็กลัวไม่ทันพระอาทิตย์ตกมากกกก
พอไปถึงที่จอดรถก็รอเรือมารับค่ะ จะต้องนั่งเรือไปตามคลองน้ำกร่อยประมาณครึ่งชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนคนนั่ง ถ้าคนนั่งเยอะ คนเรือซิ่งไม่ได้ ก็อาจจะนานกว่าครึ่งชั่วโมง โชคดีรอบเรามีแต่พวกเรา 6 คนค่ะ คนเรือนี่ขับซิ่งเชียว 20 นาทีก็ถึงร้านอาหารค่ะ
ช่วงที่เรารอเรือมารับที่ท่า เราก็ดูเมนูแล้วสั่งอาหารไว้เลย พนักงานต้อนรับก็จะโทรไปสั่งอาหารไว้ให้กับที่ร้าน พอเรานั่งเรือถึงปุ๊ปอาหารก็เสิร์ฟทันที
บรรยากาศตอนนั่งเรือค่ะ ทันพระอาทิตย์ตกพอดี สวยม๊ากกกกกกก
คนเรือก็ใจดีพาเราอ้อมออกทะเลไปถ่ายรูปด้วย แล้วค่อยวนมาส่งที่ท่าเรือร้านอาหาร พอถึงมีน้องหมาวิ่งมาต้อนรับด้วย
แบ่งกันยืน เสาละตัว เป็นระเบียบกันมากเลย
เราว่าเรานี่ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าฝรั่งอีกค่ะ กรี๊ดกร๊าดกันตลอดทาง
ขึ้นท่าเรือที่ร้านอาหารปุ๊ปก็ตรงไปหาโต๊ะนั่งเลย มีให้เลือกแบบนั่งพื้นกับนั่งโต๊ะ เราสงสารฝรั่ง สูงยาว นั่งพื้นคงไม่สะดวกนัก ก็เลยไปนั่งโซนโต๊ะปกติค่ะ
วิวสวย พนักงานบริการดี อาหารก็ใช้ได้เลยค่ะ
เราหิวจัดมาก ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารชัดๆเลย
ที่สั่งมาทานมี
ปูไข่ ( ไข่ทะลักมาก )
กระเพราทะเล
ข้าวผัด ( ให้ฝรั่งกิน ฝรั่งคนนึงทานยากค่ะ มาไทยนี่กินแต่ข้าวผัด อย่างอื่นไม่ยอมกินเลย 55555 )
หอยแมลงภู่อบ
ปลากระพงทอดน้ำปลา
กุ้งสามรส
อร่อยทุกอย่างค่ะ ซัดกันเรียบไม่เหลือแม้แต่เศษ 😋
กินเสร็จพอดีถึงรอบเรือพากลับฝั่งค่ะ ตอน 19.20 น.
ขานั่งกลับนี่มืดตื้บ!
ลมหนาวมาก บรรยากาศน่ากลัวมากกกก มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากละอองน้ำที่โดนแสงจากหลอดไฟ 1 ดวงใต้หัวเรือ
แฟนเรานี่ก็แบบพยายามขู่ให้กลัวเหลือเกิ้นนน แต่นั่งเฉยๆก็เสียววาบแล้ว จะมาขู่เพิ่มทำไมมมม
แต่เพราะความมืดนี่แหละ ท้องฟ้าเห็นดาวชัดมากๆค่ะ
แต่ถ่ายรูปมาไม่เห็นอะไรเลย เสียดายยย
กลับบ้านมาอิ่มอกอิ่มใจกับความงามที่ได้เจอวันนี้มากๆค่ะ
บอกเลย ฉันรักประเทศไทย ❤️
ปล. ส่วนตัว ฝากบลอคเราค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้